จากการที่ไมโครซอฟท์โหมโปรโมต Windows 10 อย่างหนัก ตั้งแต่ครั้งเปิดตัวจริงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดพีซีดูคึกคักขึ้นจนทำให้สองบริษัทวิจัยตลาดทั้ง IDC และ Gartner ต่างก็คาดการณ์ว่าตลาดพีซีกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2016 หลังจากยอดขายตกอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ทว่าผลกลับออกมาตรงกันข้าม เมื่อยอดขายพีซีในไตรมาสล่าสุดยิ่งทรุดหนักเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 2008 ไปเสียได้

อ้างอิงจากตัวเลขของทั้ง IDC และ Gartner ระบุว่ายอดขายพีซีประจำไตรมาสสุดท้ายของปี 2015 ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย IDC ระบุว่าลดลงจากไตรมาสก่อนถึง 10.6% ในขณะที่ Gartner ให้ตัวเลขต่ำลงที่ 8.3% อย่างไรก็ตามยอดส่งมอบของพีซีในไตรมาสดังกล่าวก็ต่ำกว่า 300 ล้านเครื่องเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีไปแล้ว

แม้ว่า Oculus จะประกาศมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะพร้อมขายแว่นตา Oculus Rift รุ่นจริงภายในครึ่งปีแรกนี้ และน่าจะมีมาโชว์ตัวในงาน CES 2016 เป็นจำนวนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการก็ยังมองว่าตลาด VR ในปี 2016 ยังจะไม่เติบโตพรวดพราดนัก ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ

ความเห็นดังกล่าวมาจาก Jason Paul ผู้จัดการทั่วไปของ NVIDIA แผนก VR และ Shield ซึ่งสัมภาษณ์โดย GamesBeat ซึ่งพูดถึงทิศทางที่น่าสนใจของวงการ VR ไว้หลายเรื่องดังนี้

ใกล้ถึงวันวางขายจริงของ Oculus Rift รุ่นแรก บริษัทแม่อย่าง Oculus ก็ออกมาเปิดโครงการ Oculus Ready PC Program ที่จัดชุดพีซีมาไว้พร้อมใช้งาน VR ได้ทันที โดยคาดว่าจะได้ใช้สเปคขั้นต่ำตามที่ประกาศมา ในราคาที่ถูกกว่า 1,000 เหรียญ ซึ่งน้อยกว่าที่คาดกันไว้เล็กน้อย

ตัวพีซีจาก Oculus Ready PC Program ออกแบบมาให้คนที่ต้องการซื้อเครื่องมาแล้วสามารถต่อ Rift เพื่อใช้งาน VR ได้ทันที ผลิตโดยแบรนด์ชั้นนำอย่าง ASUS, Alienware และ Dell คาดกันว่าจะได้สเปคแนะนำของที่ Oculus ประกาศมาคือ Core i5-4590 ขึ้นไป แรม 8GB การ์ดจอ GeForce GTX 970 หรือ Radeon 290 ซึ่งจะมีโลโก้ Oculus Ready ติดเครื่องมาด้วย

Michael Dell ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอคนปัจจุบันของ Dell ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวระหว่างงานแถลงข่าวในประเทศอินเดียว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตลาดพีซีส่วนตัวจะถูกครองโดยผู้ผลิตรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้น

Dell อ้างถึงส่วนแบ่งพีซีทั่วโลกที่ตอนนี้สามเจ้าใหญ่อย่าง Lenovo, HP และ Dell กินส่วนแบ่งในตลาดไปเกินครึ่งหนึ่งของตลาด และในอีก 5-7 ปีข้างหน้า ตัวเลขนี้จะเพิ่มมากกว่า 80% โดยเฉพาะของ Dell เองนอกจากจะแซงหน้าทั้งสองเจ้าที่เอ่ยถึงในแง่ของยอดขายโน้ตบุ๊กแล้ว ยังเติบโตต่อเนื่องสวนทางกับตลาดรวมที่ตกลง รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 10 ไตรมาสแล้ว ซึ่งถ้าหากมองว่าการคาดการณ์ของ IDC ที่ว่าตลาดพีซีจะหวนกลับมาเติบโตอีกในปี 2017 จากรอบการเปลี่ยนเครื่องใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นผลดียิ่งขึ้นไปอีกกับ Dell

Gartner และ IDC เผยตัวเลขยอดส่งเครื่องพีซีประจำไตรมาสที่สองของปี 2015 โดยตลาดพีซียังคงชะลอตัวลงต่อเนื่อง ยอดขายตกเกือบทุกแบรนด์ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

ตัวเลขของทาง Gartner ระบุยอดเอาไว้ที่ 68.4 ล้านเครื่อง ตกลงราว 9.5% จากช่วงเดียวกันของปี 2014 โดยในตลาดโลกยังคงเป็น Lenovo ที่ครองอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่ง 19.7% จากยอดรวม 13.4 ล้านเครื่อง ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าราว 6.8% (ตกลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2013) ในขณะที่อันดับสองเป็น HP ที่ยังทิ้งระยะเท่าเดิมด้วยส่วนแบ่ง 17.4% สามอันดับที่เหลือเป็น Dell, ASUS และ Acer ตามลำดับ

Gartner เผยสถิติยอดส่งพีซีประจำไตรมาสสุดท้ายของปี 2014 พบว่ายอดโดยรวมยังคงชะลอตัว แต่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยจากปี 2013 ฟื้นตัวจากยอดตกต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนเป็นต้นมา

ภาพรวมของยอดส่งในไตรมาสสุดท้ายปี 2014 จบที่ 83.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2013 ทั้งสิ้น 1% โดยมี Lenovo เป็นผู้นำในตลาด และเพิ่มส่วนแบ่งไปอีกพอสมควรเป็น 19.4% อันดับสอง HP ที่ 18.8% ตามมาด้วย Dell, Acer และ ASUS ในอันดับ 3-5 ซึ่งเปลี่ยนตำแหน่งเล็กน้อยตรงที่ Acer แซง ASUS ขึ้นมาเป็นอันดับ 4

คอมพิวเตอร์ตระกูล x86 ขนาดเล็กที่พอจะหาซื้อได้ในตอนนี้ ตัวที่เด่นที่สุดก็คงจะเป็น Intel NUC ที่ได้เปิดตัวไปเกือบ 2 ปีก่อน ซึ่งในงาน CES ที่ผ่านมานี้ ก็ได้มีผู้ผลิตรายหนึ่งได้เปิดตัว “Tango” คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้ชิปจากฝั่ง AMD

ตัว Tango นั้นจะแบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วน PC ที่มีขนาด 125 x 80 x 13.5 มม. (กว้างกว่า iPhone 5 ซ้อนกันสองเครื่องเล็กน้อย) ซึ่งเป็นส่วนที่มีหน่วยความจำ (RAM + SSD) และ APU (CPU + GPU) พร้อมแบตเตอรี่ขนาดเล็กสำหรับจ่ายไฟสแตนบายให้เครื่อง และส่วน DockPort ขนาด 135 x 135 x 27 มม. เป็นส่วนสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ระบบไฟ และระบบระบายความร้อน

Bill Lowe เป็นหัวหน้าแผนกพัฒนาและการผลิต ฝ่ายระบบทั่วไปของไอบีเอ็มในปี 1975 ช่วงที่ไอบีเอ็มต้องการสร้างคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพื่อบุกตลาดที่ครองโดยผู้ผลิตรายที่เล็กกว่า เช่น Atari และ Commodore เขาเสนอให้ไอบีเอ็มขายเครื่อง Atari เพื่อเข้าสู่ตลาดให้เร็ว แต่ผู้บริหารระดับสูงไม่เอาด้วย ทำให้ไอบีเอ็มต้องเลือกเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วพร้อมสำหรับพัฒนา เช่น ซีพียู x86, DOS 1.0 ด้วยทีมวิศวกร 12 คน ผลที่ได้ของการพัฒนาคือไอบีเอ็มพีซีที่เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

เขาเสียชีวิตในวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วยวัย 72 ปี จากโรคหัวใจ

คอมพิวเตอร์ไอบีเอ็มทำยอดขายได้ถึง 250,000 เครื่องในปีแรก มันมีราคา 1,565 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,000 ดอลลาร์ในทุกวันนี้เมื่อปรับเงินเฟ้อ

ช่วงหลังมานี้จะเห็นว่ายอดขายฝั่งพีซีกำลังตกต่ำลงเรื่อยๆ ตรงข้ามกับแท็บเล็ตที่กำลังเติบโตต่อเนื่อง แต่ก็มีบางตลาดที่พีซียังแข็งแกร่งอยู่ หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยอดขายพีซีในปัจจุบันยังคงเหนือกว่าแท็บเล็ตอยู่มาก

อ้างอิงจากผลการสำรวจของบริษัท Deloitte ในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน พบว่านักศึกษา 82% มีพีซีส่วนตัว และ 80% มีสมาร์ทโฟน ในขณะที่มีผู้ใช้แท็บเล็ตเพียง 18% เท่านั้น

ซัมซุงชี้แจงวันนี้ว่าบริษัทได้ตัดสินใจปิดแผนกธุรกิจพีซีตั้งโต๊ะแบบดั้งเดิม เนื่องจากยอดขายที่ถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะย้ายทีมงานมาช่วยส่วนธุรกิจอย่างแท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก และออลอินวันพีซี ที่ยังมีกำไรเติบโตได้ดี

เรื่องนี้สอดคล้องกับการเปิดสินค้าของซัมซุงเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งแท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก และออลอินวันพีซี นั่นเองครับ

ที่มา: The Korea Times

IDC ออกรายงานคาดการปริมาณส่งมอบพีซีทั้งปี 2013 ไปจนถึงปี 2017 คาดว่าปีนี้ตัวเลขทั้งปีจะอยู่ที่ 193.5 ล้านเครื่อง จากปีที่แล้ว 205.3 ล้านเครื่อง ลดลง 7.8% หลังจากที่ไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงต่ำสุดในประวัติศาสตร์พีซี ด้วยยอดส่งมอบลดลง 13.9%

Bob O'Donnell รองประธานของ IDC ระบุว่าเป็นโชคร้ายที่ Windows 8 กลับเป็นตัวฉุดให้ตลาดซีพียิ่งแย่ลงจากการเปลี่ยนหน้าจอไปอย่างมาก การเพิ่มต้นทุนด้วยการใส่จอสัมผัส ขณะที่แท็บเล็ตนั้นเริ่มบุกตลาดอย่างหนัก และไมโครซอฟท์กำลังถูกบีบให้ตัดสินใจบางอย่างเพื่อฉุดตลาดพีซีกลับขึ้นมาอีกครั้ง

บริษัทวิจัย IDC เผยผลสำรวจยอดส่งมอบพีซีทั่วโลกประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2013 พบว่ามีจำนวนลดลงเหลือ 76.3 ล้านเครื่อง หรือลดลงถึง 13.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2012 โดยเป็นการลดลงแบบเทียบกับปีก่อนติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่ รวมถึงเป็นตัวเลขการลดลงที่มากที่สุด นับตั้งแต่ IDC เริ่มทำการสำรวจตลาดรวมในปี 1994

Bob O'Donnell รองประธานของ IDC บอกว่าผลที่ออกมานี้ช่วยยืนยันได้ว่า Windows 8 ไม่สามารถกระตุ้นตลาดพีซีได้ และธุรกิจพีซีก็ยังประสบปัญหาในการแข่งขันกับอุปกรณ์ที่มีราคาต่ำกว่าอย่างแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม

ข่าวใหญ่ประจำวันนี้คือบริษัทอินเทลได้ส่งจดหมายข่าวว่า Paul Otellini ซีอีโอของบริษัทที่ทำงานมาตั้งแต่ปี 2005 จะลาออกโดยมีผลในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

พร้อมกับการเตรียมการลาออกของซีอีโอ อินเทลก็เลื่อนตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสามคนขึ้นมารับตำแหน่งรองประธานบริษัทพร้อมๆ กัน ได้แก่ Renee James หัวหน้าฝ่ายธุรกิจซอฟต์แวร์, Brian Krzanich หัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการ (COO) และหัวหน้าฝ่ายการผลิตทั่วโลก, สุดท้ายคือ Stacy Smith หัวหน้าฝ่ายการเงินและกลยุทธ์บริษัท ส่วนตัว Otellini จะทำงานในช่วงส่งผ่านต่อไป และคงตำแหน่งที่ปรึกษาหลังจากออกจากตำแหน่งซีอีโอไปแล้ว

รายงานไตรมาสที่สามของตลาดพีซีฝั่ง IDC บริษัทวิจัยการตลาดอีกบริษัทออกมาให้ผลต่างกับ[การ์ตเนอร์](https://www.blognone.com/node/36950)เล็กน้อย โดยระบุว่าเอชพียังเป็นที่หนึ่งในตลาดโลกอยู่ด้วยยอดส่งมอบ 13.9 ล้านเครื่อง นำหน้าเลอโนโวที่ส่งมอบได้ 13.8 ล้านเครื่อง แต่แนวโน้มเหมือนกัน คือ ตลาดโลกโดยรวมหดตัวลง 8.6% มีเพียงสองบริษัทเท่านั้นที่เติบโตสวนทางคือเลอโนโว (+10.2%) และเอซุส (+10%) และเอชพีก็มียอดส่งมอบลดลงอย่างมาก (-16.4%)

รายงานสำรวจตลาดพีซีประจำไตรมาสที่สามของปีจากค่ายการ์ตเนอร์ออกมาแล้วในวันนี้ เรื่องสำคัญที่สุดคือเลอโนโวแซงหน้าเอชพีขึ้นเป็นผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ที่สุดของโลกได้เป็นครั้งแรก นับจากที่เอชพีครองตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2006 ที่น่าสนใจคือเลอโนโวเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่มียอดขายสูงขึ้นในบรรดาแบรนด์หลัก ส่วนแบรนด์อื่นๆ นั้นลดลงทั้งหมด

จากความนิยมในอุปกรณ์พกพาจำพวกสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตส่งผลให้ยอดส่ง DRAM เปลี่ยนมือจากพีซีที่มีสัดส่วนเหนือกว่าอุปกรณ์พกพามาตั้งแต่ยุค 1980 ต้องเปลี่ยนมือแล้ว

ข้อมูลยอดส่ง DRAM จาก IHS iSuppli ประจำไตรมาสสองของปีนี้ระบุว่ายอดส่ง DRAM ของฝั่งพีซีตกลงมาเหลือ 49% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลดลงมาจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อย (50.2%) แต่ก็มากพอที่จะทำให้ฝั่งพีซีกลายเป็นอันดับสองได้แล้ว

สำหรับตัวเลขคาดการณ์ในช่วงปลายปี 2013 ยอดส่ง DRAM สำหรับพีซีน่าจะตกไปที่ราว 42.8% เนื่องมาจากแนวโน้มผู้ผลิต DRAM สำหรับพีซีรายใหญ่อย่าง Micron, Samsung และ Hynix ที่หันไปเน้นผลิต DRAM สำหรับอุปกรณ์พกพามากกว่าแล้ว

การ์ตเนอร์รายงานตัวเลขส่งมอบพีซีทั่วโลกในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ยอดรวม 87.5 ล้านเครื่อง ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ในปี 2011 โดยถือเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกันที่ยอดส่งมอบพีซีชะลอการเติบโต เนื่องมาจากความไม่มั่นใจในสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงผู้บริโภคก็สนใจซื้อพีซีน้อยลงด้วย ส่วนความหวังที่จะปลุกตลาดพีซีด้วย Ultrabook นั้นยังมียอดส่งมอบที่น้อยมากเมื่อเทียบกับภาพรวม โดยการ์ตเนอร์มองว่ายอดส่งมอบ Ultrabook น่าจะเริ่มสูงขึ้นช่วงปลายปีนี้

เว็บจองที่พักและตั๋วเครื่องบินสำหรับการเดินทาง Orbitz เผยว่าจากข้อมูลการจองห้องพักในอดีตโดยแยกกลุ่มผู้ใช้งานเป็นผู้ใช้แมคกับพีซี พบว่าผู้ใช้แมคมากกว่า 40% มีแนวโน้มจะจองห้องพักในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวมากกว่าผู้ใช้พีซี และแม้เป็นการจองในโรงแรมเดียวกัน ผู้ใช้แมคก็มักเลือกพักห้องที่มีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับผู้ใช้พีซี

Next Unit of Computing (NUC) บอร์ดสำหรับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจากอินเทลที่มีขนาดเพียง 10x10 ซม. สเปคด้านในเป็น Sandy Bridge Core i3/i5 มีพอร์ตสมัยใหม่ครบครัน

ในงาน Computex ที่ไต้หวัน อินเทลได้นำเจ้า NUC นี้มาโชว์ตัวพร้อมด้วย โดยสเปคเบื้องต้นคาดว่าจะใช้บอร์ดชิปเซ็ต HM65 และอาจใช้พอร์ต USB 2.0 สามพอร์ตแทน USB 3.0 สองพอร์ตตามข่าวก่อนหน้า แรมเริ่มต้นอยู่ที่ 4GB และใช้ SSD ความจุ 40GB รุ่นนี้จะวางขายไตรมาสสามนี้ ด้วยราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ

และในไตรมาสสี่ จะมีอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ตซีรีส์ 7 พร้อมกับ USB 3.0, พอร์ต Thunderbolt และคาดว่าจะมีรุ่นราคาถูกที่ใช้ซีพียู Celeron อีกด้วย

ข่าวยอดขายที่น่าประทับใจของ Rasberry Pi คงทำให้อินเทลเริ่มคิดว่าตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเปลี่ยนไปยังคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้การใช้งานคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กนั้นแทบไม่มีโอกาสใช้ชิปอินเทล เพราะไม่มีแพลตฟอร์มรองรับยกเว้นชิปตระกูล CE ที่ขายสำหรับผู้ผลิตทีวีเป็นหลัก แต่ตอนนี้อินเทลก็เปิดตัวบอร์ดแบบใหม่ที่น่าจะขายทั่วไปแล้ว

บอร์ด Next Unit of Computing (NUC) เป็นบอร์ดที่ใช้ชิป x86 ในขนาด 10ซม. x 10ซม. จะได้ชิป Sandy Bridge Core i3/i5 พร้อมพอร์ต Thunderbolt, HDMI, และ USB 3.0 ภายในสามารถใส่แรมได้สองสล็อต

IDC ได้ออกมาเผยรายงานยอดทั้งหมดของแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และพีซี (เรียกรวมว่า Smart Connected Device) ว่าในปีนี้ทำยอดได้ถึง 916 ล้านเครื่อง เป็นมูลค่ากว่า 489,000 ล้านดอลลาร์

ข้อมูลที่น่าสนใจคือในปีนี้ยอดของสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเกือบครึ่งหนึ่ง ไปอยู่ที่ 494 ล้านเครื่อง แซงพีซีที่โตขึ้นมานิดหน่อยที่ 353 ล้านเครื่องเป็นครั้งแรก โดย IDC ทำนายว่าในช่วงห้าปีต่อจากนี้ยอดขายสมาร์ทโฟนจะโตสูงขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของตลาดแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีน ที่คาดว่าจะมีค่ายโอเปอเรเตอร์ยอมขายเครื่องในราคาขาดทุนเพื่อกระตุ้นยอดขาย ทำให้ยอดในปี 2016 จะเข้าใกล้ตัวเลข 2,000 ล้านเครื่องได้

ช่วงนี้ HP ยังคงอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างองค์กรหลังเปลี่ยนซีอีโอได้ไม่นาน ซึ่งทาง AllThingsD รายงานว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจเครื่องพิมพ์อย่าง Imaging and Printing Group (IPG) ที่ขายเครื่องพิมพ์ให้กับทั้งคอนซูเมอร์ และภาคธุรกิจ จะถูกรวมเข้ากับ Personal System Group (PSG) ที่ขายคอมพิวเตอร์ ตามแผนที่เคยประกาศไว้ในรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ ที่จะลดความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ลง

เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากข้อมูลที่ทิม คุกซีอีโอแอปเปิลนำเสนอในงานเปิดตัว iPad ล่าสุดว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2011 นั้นยอดขาย iPad อยู่ที่ 15.4 ล้านเครื่อง ซึ่ง

แม้ปีที่ผ่านมาตลาดพีซีจะเจอมรสุมหลายอย่างนับแต่น้ำท่วมในไทย ไปจนถึงการบุกตลาดอย่างหนักของแท็บเล็ต แต่การ์ตเนอร์ก็ยังเชื่อว่าตลาดพีซีจะเติบโตต่อเนื่องในสองปีข้างหน้า โดยปีนี้ตลาดพีซีน่าจะเติบโต 4.4% มาอยู่ที่ 368 ล้านเครื่อง และทะลุ 400 ล้านเครื่องในปี 2013

แม้ตัวเลขจะดูสูงแต่ก่อนหน้านี้ตลาดพีซีเคยเติบโตเกิน 10% มานานหลายต่อหลายปี การเติบโตที่เลขหลักเดียวเช่นนี้แสดงแนวโน้มที่ถดถอยของตลาดพีซีอย่างชัดเจนแล้ว

Windows 8 และ Ultrabook ดูจะเป็นความหวังของโลกพีซีที่จะปรับตัวกลับมาเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอีกครั้งหลังจากถูกแบ่งส่วนแบ่งตลาดจากแท็บเล็ตมาโดยตลอด แต่พีซีก็ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับคอมพิวเตอร์เพื่องานธุรกิจ ดังนั้นมันคงไม่หายไปจากชีวิตของเราในเร็วๆ นี้

ความร้อนแรงของตลาดสมาร์ทโฟนคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับผู้อ่านส่วนใหญ่ แต่รายงานตลาดจาก Canalys อาจจะให้เราเห็นภาพว่าที่ว่าตลาดมันใหญ่นั้นมันอยู่ตรงไหนแล้ว โดยปี 2011 เป็นปีแรกที่ตลาดสมาร์ทโฟนขยายตัวแซงหน้าตลาดพีซีไปได้

Canalys รายงานว่าตลาดรวมสมาร์ทโฟนนั้นมีขนาดตลาดรวมอยู่ที่ 487.7 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้นจากปี 2010 ทั้งสิ้น 62.7% ขณะที่ตลาดพีซีนั้นมีขนาด 414 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 14.8% ที่น่าสนใจคือ Canalys เลือกจัดตลาดแท็บเล็ตเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดพีซี โดยตลาดแท็บเล็ตนั้นมีขนาด 63.2 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้นถึง 274.2% ที่ตกต่ำอย่างหนักคือเน็ตบุ๊กที่เหลือ 29.4 ล้านเครื่อง ลดลงถึง 25.3%