การเลือกตั้งสหรัฐฯ กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ Facebook และ Twitter ประกาศมาตรการใหม่เพิ่มเติม เตรียมติดป้ายกำกับหากมีนักการเมือง ผู้ทำแคมเปญหาเสียงคนใด ประกาศชัยชนะหลังเลือกตั้งสหรัฐฯ ก่อนที่ผลคะแนนสุดท้ายจะออกมาอย่างเป็นทางการ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีวิดีโอจากกลุ่ม American Principles Project เผยแพร่ว่า Joe Biden ผู้สมัครท้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯจากเดโมแครต สนับสนุนการแปลงเพศในเด็ก โดยใช้ฟุตเทจจากงานทาวน์ฮอลล์ของ ABC เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ซึ่งเป็นการนำคำพูดของ Biden มาบางส่วนทำให้เกิดความเข้าใจผิด จริงๆ แล้ว Biden พูดว่าเด็กข้ามเพศไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติ แต่เขาไม่ได้บอกว่าเด็กมีสิทธิ์ในการแปลงเพศ
วิดีโอดังกล่าวก็เพผยแพร่ไปแล้วยังโซเชียลมีเดียหลักทั้ง Facebook และ Twitter มีคนรับชมไปแล้วกว่า 15,000 ครั้ง และมีวิดีโอที่คล้ายกันปรากฏบน Facebook มากถึง 100,000 ครั้งโดยส่วนใหญ่อยู่ในรัฐมิชิแกนซึ่งเป็น swing state นอกจากโซเชียลมีเดียแล้ว ข้อความและลิงค์วิดีโอยังถูกส่งไปยัง SMS ทางกลุ่ม American Principles Project ยังไม่ตอบข้อซักถามว่า ข้อความถูกส่งไปยังเบอร์โทรศัพท์ต่างๆ ได้อย่างไร เก็บข้อมูลเบอร์โทรมาจากไหน
Alexandria Ocasio-Cortez หรือ AOC สส.หญิงสหรัฐฯ โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า อยากจะสตรีมเล่นเกม Among Us ใน Twitch เพื่อกระตุ้นคนไปโหวตเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จัดอย่างเป็นทางการวันที่ 3 พ.ย. นี้ โดยเธอถามว่าควรจะสตรีมเล่นกับใครดี หลังจากนั้นไม่นานก็มีสตรีมเมอร์ดังหลายรายมาตอบเสนอตัวจะร่วมเล่นสตรีมด้วย เช่น Pokimane, HasanAbi, Greg Miller, DrLupo, Neekolul, Felicia Day และ James Charles
Alexandria Ocasio-Cortez (AOC) สส. หญิงไฟแรงร่วมกับ Jesús G. Garcia สส. อีกคนจากพรรคเดโมแครตยื่นเรื่องให้ SEC ตรวจสอบ Palantir บริษัทให้บริการซอฟต์แวร์ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่เน้นลูกค้าหน่วยงานรัฐ ที่เพิ่งยื่นเอกสารเตรียม IPO
การตรวจสอบที่ AOC เรียกร้องไม่ใช่แค่เรื่องการเงิน แต่เป็นเรื่องของความโปร่งใส ธรรมาภิบาลและคอนเนคชันของบริษัท เนื่องจาก Palantir (ถูกกล่าวหาว่า) ใช้เทคโนโลยีติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล (surveillance and data analytics) ช่วยเหลือหลายหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก เช่น CIA, รัฐบาลกาตาร์หรือกระทั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งก็อาจถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการณ์ที่ละเมิดมนุษยธรรมหรือผิดกฎหมาย
เว็บไซต์ The Register รายงานว่าจีนบล็อกเว็บไซต์สอนเขียนโค้ดสำหรับเด็ก Scratch โดยมีผู้ใช้งานในจีนพบว่าพวกเขาเข้าใช้งานเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สาเหตุที่บล็อกนั้นไม่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะมาจากวิดีโอที่โพสต์ในฟอรั่ม มีเนื้อหาไม่เห็นด้วยกับกฎหมายความมั่นคงใหม่ในฮ่องกง
Facebook ประกาศไม่รับโฆษณาการเมืองชิ้นใหม่ก่อนวันเลือกตั้งสหรัฐฯ 1 สัปดาห์ ป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลปลอมเกี่ยวกับการเลือกตั้งในช่วงเวลาสำคัญ
หน่วยงานโทรคมนาคมของปากีสถาน หรือ PTA เผยว่า ได้บล็อกแอปหาคู่ 5 ตัวคือ Tinder, Grindr, Tagged, Skout และ SayHi เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น และเผยแพร่เนื้อหาผิดศีลธรรม ปัจจุบันปากีสถานถือเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอินโดนีเซีย และการรักร่วมเพศยังถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
นักวิจัยจาก Citizen Lab หน่วยงานวิจัยของ University of Toronto เผยผลวิจัยใหม่ พบว่า WeChat แพลตฟอร์มโซเชียลข่าวสารที่คนจีนใช้งานกันอย่างกว้างขวาง มีการเซนเซอร์คำระหว่างสถานการแพร่ระบาด COVID-19 กว่า 2,000 คีย์เวิร์ด นับเฉพาะ เดือน ม.ค. - พ.ค. ปีนี้ ส่วนมากเป็นคำที่เกี่ยวกับโรคระบาด
จากประเด็น โดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งบริหารแบนแอปจากจีนด้วยข้อกังวลเรื่องความมั่นคงของชาตินั้น ไม่ใช่แค่ TikTok ที่โดน แต่ยังรวมถึง WeChat เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่นิยมใช้งานกันในกลุ่มคนจีนทั่วโลก ในเนื้อหาคำสั่งระบุถึงขนาดที่ว่า WeChat เปิดทางให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนติดตามพลเมืองจีนที่ได้มาเยือนสหรัฐฯ และได้สัมผัสสังคมเสรีเป็นครั้งแรกในชีวิต
ล่าสุดกลุ่มผู้ใช้งาน WeChat ในสหรัฐฯรวมกันฟ้องรัฐบาลทรัมป์ โดยยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในซานฟรานซิสโก อ้างว่าคำสั่งเป็นการละเมิดสิทธิ์เสรีภาพการพูดซึ่งถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และยังเป็นการเลือกปฏิบัติโดยมีเรื่องของเชื้อชาติเข้ามาด้วย ซึ่งล่าสุดกลุ่มพนักงานและ TikTok ก็ยื่นฟ้องไปแล้ว
ทวิตเตอร์แปะป้ายกำกับโพสต์ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ระบุว่ามีเนื้อหาชักนำให้ต่อต้านการเลือกตั้ง
ทรัมป์โพสต์ว่า พรรคเดโมแครตกำลังใช้ Mail Drop Boxes ซึ่งเป็นภัยพิบัติด้านความปลอดภัยของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คนหนึ่งคนสามารถโหวตได้หลายครั้ง และนี่เป็นการฉ้อโกงครั้งใหญ่
Kevin Mayer ซีอีโอ TikTok เขียนบล็อกพูดถึงสถานการณ์ที่ TikTok ต้องเจอในช่วงนี้
หลังจากทำเนียบขาวออกมาแนะทางออกของแอป TikTok ในสหรัฐ ว่าถ้าจะให้เปิดบริการได้ ก็ควรแยกออกมาจากบริษัทแม่ในจีนหรือ ByteDance ให้ชัดเจน
ล่าสุดจึงมีรายงานอ้างอิงจากบุคคลในวงพูดคุยบอกว่ากลุ่มนักลงทุนในสหรัฐ นำโดยกลุ่มกองทุน General Atlantic และ Sequoia Capital หารือกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ร่วมพูดคุยหาทางออกและซื้อ TikTok ออกมาให้แยกจากจีนเสียเลย
ในสหรัฐฯ มีประเด็นสำคัญเรื่องข้อมูลคนไข้ COVID-19 คือ รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้โรงพยาบาลไม่ต้องส่งข้อมูลคนไข้ให้ C.D.C หรือศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯแล้ว แต่ส่งไปให้ HHS หรือ Health and Human Services ซึ่งมีศูนย์ข้อมูลที่วอชิงตันแทน
สิ่งที่เป็นประเด็นคือความโปร่งใส เนื่องจากข้อมูลของ C.D.C นั้น นักวิจัยและนักข่าวสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยและการรายงานสถานการณ์ แต่ศูนย์ข้อมูล HHS นั้นไม่เปิดเป็น public ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกังวลว่า ข้อมูลที่ได้ไปจะถูกทำให้เป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่
The New York Times รายงานอ้างอิงคนวงในว่า เฟซบุ๊กกำลังพิจารณามาตรการแบนโฆษณาการเมืองช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่กำลังจะเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่มาตรการนี้ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยและชั่งน้ำหนักเพื่อตัดสินใจ
การพูดคุยถึงมาตรการนี้เริ่มมีตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยทางเฟซบุ๊กได้พูดคุยกับกลุ่มการเมืองและแคนดิเดตที่ลงสมัครเพื่อรับฟังฟีดแบ็คด้วย แต่เรื่องนี้กลับมาถูกให้ความสำคัญอีกครั้งหลังไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเจอมรสุมอีกรอบจากท่าทีที่นิ่งเฉยของ Mark Zuckerberg ต่อโพสต์ของทรัมป์ โดยการถกเถียงภายในอยู่ที่ประเด็นว่า การแบนโฆษณาการเมืองเป็นการปิดปากกลุ่มคนบางกลุ่ม หรือปล่อยให้โฆษณา แต่อาจเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและส่งผลต่อการออกเสียงเลือกตั้ง
หลังจาก Mark Zuckerberg ยืนยันเสียงแข็งไม่ลบโพสต์ของ Donald Trump มานานเกือบเดือน โดยอธิบายแนวทางของ Facebook ว่ามีแค่ 2 ทางคือลบ-ไม่ลบเท่านั้น ไม่มีแปะป้ายเตือนแบบ Twitter
วันนี้ Zuckerberg ประกาศนโยบายใหม่ของ Facebook ว่าจะแปะป้ายให้กับคอนเทนต์ที่มีปัญหา แต่บริษัทตั้งใจไม่ลบเพราะเป็นคอนเทนต์ที่ควรค่าแก่การเป็นข่าวให้สาธารณชนรับทราบ (newsworthy content) ถือเป็นทางการเลือกตรงกลางระหว่างการลบ-ไม่ลบ ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก
The New York Times รายงาน ผู้ใช้งาน TikTok และชาวเน็ตแฟนๆ เคป๊อบ อ้างว่าตัวเองลงทะเบียนจองตั๋วเข้าฟังโดนัลด์ ทรัมป์ พูดหาเสียงที่ Tulsa Fire Department ในโอกลาโฮมาไว้ แต่เมื่อถึงเวลางานจริงๆ ก็เทตั๋วไม่เข้าร่วมฟัง ทำให้มีคนเข้าร่วมน้อยกว่าที่ทีมหาเสียงของทรัมป์คาดหวังไว้
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิ.ย. Facebook แบนโฆษณาแคมเปญหาเสียงจากทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งหนึ่งในโฆษณาที่ถูกแบนมีการใช้สัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีแดงหัวคว่ำ ซึ่งเป็นสัญลักษณที่นาซีใช้เพื่อกำหนดและระบุความผิดของนักโทษ และยังมีเนื้อหาต่อต้านกลุ่มผู้ประท้วงจากเหตุ George Floyd ว่าเป็นม็อบอันตราย เป็น Antifa หรือกลุ่มซ้ายจัดหัวรุนแรง
โพสต์ดังกล่าวมาจากเพจ Team Trump ระบุเป็น paid post บน Facebook สนับสนุนโดย Trump and Vice President Pence ซึ่ง Facebook ให้เหตุผลในการแบนโฆษณาชุดนี้ว่า นโยบายโฆษณาห้ามไม่ให้มีการใช้สัญลักษณ์แสดงความเกลียดชัง
ในบทความเปิดตัว Voting Information Center ของ Facebook มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ได้เปิดเผยด้วยว่าจะให้ผู้ใช้งาน เลือกปิดโฆษณาการเมืองได้
โฆษณาการเมืองก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ Facebook ถูกวิจารณ์ ในขณะที่โซเชียลมีเดียเจ้าอื่นบางราย เลือกจะไม่รับโฆษณาจากนักการเมือง พรรคการเมืองใดๆ เลย (กูเกิลรับ แต่จำกัดกลุ่มเป้าหมาย) แต่ Facebook ยังรับอยู่และยังยืนยันจะไม่ลบด้วยถ้าโฆษณานั้นๆ มีข้อมูลเท็จ
ล่าสุด มาร์ค เผยแนวทางโฆษณาการเมืองเพิ่มเติมว่าจะให้สิทธิ์ผู้ใช้งานปิดโฆษณาการเมืองทั้งหมดไปเลย ด้านโฆษก Facebook เผยเพิ่มเติมว่าจะทยอยเพิ่มฟังก์ชั่นปิดโฆษณาการเมืองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เขียนบทความลง USA Today เผยฟังก์ชั่นใหม่บน Facebook เพื่อการเลือกตั้งสหรัฐฯที่กำลังจะมาถึงโดยเฉพาะ คือเปิดให้คนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งมาลงทะเบียนเลือกตั้งผ่านทาง Facebook ได้ ตั้งเป้าคนมาลงทะเบียน 4 ล้านราย และเปิดตัวตัวศูนย์ข้อมูลเพื่อการเลือกตั้งหรือ Voting Information Center โดยจะปรากฏบนโพสต์แรกของหน้าฟีดใน Facebook และ Instagram ตั้งเป้าว่าจะมีคนสหรัฐฯ 160 ล้านรายเห็นข้อมูลนี้
โดยใน Voting Information Center มีการรวมข้อมูลเลือกตั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง รวมข้อมูลวิธีการและช่วงเวลาเลือกตั้งในรูปแบบต่างๆ ทั้งเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์, เลือกตั้งล่วงหน้าที่กินระยะเวลาตั้งแต่เดือน ก.ค. - พ.ย. รวมถึงระบบแจ้งเตือนนับถอยหลังสู่วันเลือกตั้งในรูปแบบต่างๆ
ทวิตเตอร์เผยได้ลบบัญชีผู้ใช้งานกว่า 170,000 บัญชีที่เกี่ยวข้องหรือมีพฤติกรรมเผยแพร่ข้อมูลปลอม, โฆษณาชวนเชื่อสนับสนุนรัฐบาลจีน โดยทวีตข้อความในภาษาจีน ที่มีเนื้อหาสนับสนุนและเป็นประโยชน์ต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมถึงแพร่เรื่องเล่าชวนเชื่อต่อต้านม็อบฮ่องกง
Joe Biden ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ออกมาเปิดแคมเปญเรียกร้อง Facebook ให้แก้ปัญหาข่าวปลอม และบังคับใช้นโยบายเซ็นเซอร์โพสต์อย่างเท่าเทียม ให้ครอบคลุมถึงประธานาธิบดี Donald Trump ที่เป็นคู่แข่งด้วย หลังจาก ยืนยันไม่ลบโพสต์ของ Donald Trump ที่สร้างความขัดแย้ง
ในจดหมายของ Biden บอกว่าหลังจากเหตุการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 โดยหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย ทาง Facebook ก็สัญญาว่าจะแก้ปัญหา แต่เวลาผ่านมา 4 ปี ปัญหาแบบเดิมๆ ก็ยังเกิดขึ้นเหมือนเดิม แพลตฟอร์ม Facebook เต็มไปด้วยข่าวปลอม และ Facebook ก็ยอมให้ Donald Trump โพสต์อะไรก็ได้ แถมบริษัทยังมีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการรับเงินค่าโฆษณาของนักการเมือง
จากประเด็น พนักงาน Facebook ไม่พอใจผู้บริหาร ที่ไม่จัดการโพสต์สนับสนุนความรุนแรงของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุด The New York Times รายงานว่ามีการประชุมวิดีโอคอลภายในองค์กร Facebook พนักงานกว่าพันรายโหวตไม่เห็นด้วยกับท่าที Facebook ที่มีต่อโพสต์ทรัมป์ พนักงานเตรียมประท้วงหยุดงานแบบ virtual walkout และมีพนักงานอาวุโสบางรายจะลาออก ถ้ามาร์ค ซักเคอร์เบิร์กไม่ทบทวนมาตรการเสียใหม่
Reddit เว็บบอร์ดชื่อดังของอเมริกา ปรับกฏใหม่สำหรับโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยเฉพาะ จากเดิมที่เว็บรับลงโฆษณาเฉพาะข้อมูลที่เป็นความจริง และมีกฏเกี่ยวกับโฆษณาทางการเมืองเบื้องต้นอยู่แล้ว โดยกฎใหม่คือ Reddit จะไม่รับลงโฆษณาจากผู้ซื้อโฆษณาหรือผู้ลงสมัครรับตำแหน่งทางการเมืองที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา รับโฆษณาในระดับประเทศของสหรัฐเท่านั้น (...only allow political ads at the federal level.) และทีมงาน Reddit จะทำการคัดกรองทั้งรูปภาพและข้อความของโฆษณาทางการเมืองแต่ละชิ้นด้วยตนเอง
วันนี้เกม Animal Crossing ภาค New Horizons ที่กำลังเป็นที่นิยมถูกเก็บไปจากร้านขายเกม และถูกลบไปจากสโตร์ออนไลน์ รวมทั้งรายการที่มีผู้ลงขายบน Taobao เว็บไซต์ลงขายของในประเทศจีนจนหมดเกลี้ยง สร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับชาวเน็ตในประเทศจีนอย่างมาก ซึ่งไม่ได้โกรธรัฐบาลเพราะเก็บเกม แต่ไปโกรธชาวฮ่องกงและไต้หวัน เช่น โจชัว หว่อง ที่ใช้พื้นที่ในเกมเป็นอีกช่องทางในการแสดงออกทางการเมืองและประท้วงต่อต้านอำนาจของรัฐบาลจีน
ก่อนหน้านี้ Twitter ออกกฎระบุทำเครื่องหมายบนวิดีโอที่มีเนื้อหาเป็น manipulated media หรือสื่อที่ถูกดัดแปลงและdeepfake ยกเว้นคลิปที่ทำเพื่อล้อเลียนเชิง parody
ล่าสุด Twitter เริ่มดำเนินการแล้วโดยคลิปแรกที่โดนคือคลิป Joe Biden ผู้สมัครท้าชิงประธานาธิบดีจากเดโมแครต พูดสนับสนุนให้ทรัมป์ลงเลือกตั้งอีกรอบซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเป็นการตัดบางคำพูดของ Biden ออกจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด
คลิปดังกล่าวเริ่มเผยแพร่โดยบัญชีของ Dan Scavino หัวหน้าด้านการสื่อสารผ่าโซเชียลมีเดียของทำเนียบขาว และโดนัลด์ ทรัมป์ก็รีทวิตด้วย โดยวิดีโอดังกล่าวยังคงอยู่บนแพลตฟอร์ม แต่ถูกระบุใต้คลิปว่าเป็น manipulated media