Sheryl Sandberg อดีตซีโอโอ Meta และ Facebook ประกาศว่าหลังจากลาออกจากตำแหน่งซีโอโอมาระยะเวลาหนึ่ง เหลือเฉพาะบทบาทหน้าที่กรรมการบอร์ดบริษัท เพื่อดูแลการส่งต่องานให้กับทีมบริหารใหม่ ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้พิสูจน์ว่า Meta มีความพร้อมสำหรับอนาคตแล้ว จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะถอยออกมาอีกก้าว
โดย Sheryl Sandberg จะลาออกจากกรรมการบอร์ดของ Meta และรับตำแหน่งที่ปรึกษาของบริษัท มีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ได้แสดงความเห็นขอบคุณในโพสต์ของ Sandberg ถึงการมีส่วนร่วมที่พาบริษัทและชุมชนเดินทางมาตลอดกว่า 14 ปี
Sheryl Sandberg ซีโอโอของ Meta ให้สัมภาษณ์กับ The Verge ถึงเหตุผลที่เธอลงจากตำแหน่ง ว่าอยากมีเวลาไปทำงานกุศลตามที่ต้องการ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิสตรีที่เธอผลักดันมานานจากกลุ่ม Lean In ที่เธอทำมานานแล้ว
Sandberg บอกว่าตอนที่มารับตำแหน่งซีโอโอ เธอคิดว่าจะทำเพียง 5 ปีเท่านั้น แต่กลับทำมานานถึง 14 ปี ซึ่งเธอพบว่างานนี้สนุกและเป็นเกียรติมาก แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เมื่อเธอมั่นใจว่าทีมบริหารของ Meta เข้มแข็งมากพอแล้ว จึงถึงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนผ่าน
Sandberg ยังบอกว่าเธอจะยังเป็นบอร์ดของ Meta ต่อไป และยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นบอร์ดไปนานแค่ไหน
Sheryl Sandberg ซีโอโอ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ประกาศลาออกจากตำแหน่ง มีผลในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ Sandberg จะยังรับตำแหน่งในบอร์ดบริหารของ Meta ต่อไป
Javier Olivan หัวหน้าฝ่ายการเติบโตของ Meta (Chief Growth Office) จะมารับตำแหน่งซีโอโอต่อ ซึ่งจากนี้จะเป็นช่วงการส่งต่องานทั้งหมดให้
Sheryl Sandberg ซีโอโอโพสต์ลงในบล็อก Instagram พูดถึงคลิปไลฟ์เหตุร้ายที่นิวซีแลนด์ที่คนร้ายไลฟ์การก่อเหตุของตัวเองลง Facebook แม้ตัวคลิปจะถูกลบแต่ก็ไม่ทันคนที่บันทึกและอัพโหลดขึ้นไปใหม่ ซึ่ง Sandberg ออกมาพูดถึงมาตรการรวมๆ ที่บริษัทจะแก้ปัญหาในอนาคต และยังบอกด้วยว่าบริษัทกำลังมองหาวิธีจำกัดบุคคลที่สามารถทำคลิปไลฟ์ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆเช่นการละเมิดมาตรฐานชุมชน
นอกจากนี้ บริษัทจะลงทุนวิจัยสร้างเครื่องมือที่ช่วยระบุวิดีโอและรูปภาพที่มีความรุนแรง จะได้แก้ไขอย่างรวดเร็วและป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเอาไปแชร์ซ้ำ
The Wall Street Journal รายงานพิเศษโดยอ้างแหล่งข่าวภายใน ว่าหลังจาก Facebook เผชิญกับปัญหา Cambridge Analytica ที่ข้อมูลผู้ใช้หลุดออกไป 50 ล้านบัญชี ท่าทีของ Mark Zuckerberg ในเชิงการบริหารองค์กรก็เปลี่ยนไปมาก
รายงานระบุว่าการประชุมผู้บริหารระดับสูงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Zuckerberg กล่าวในที่ประชุมว่าบริษัทแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นช้าเกินไป และสั่งให้ผู้บริหารระดับสูงในห้องทำงานให้รวดเร็วมากกว่านี้ในท่าทีที่ดุดัน อย่างไรก็ตามการเรียกร้องนี้ก็ทำให้ที่ประชุมสับสน เนื่องจากปัญหา Facebook หลายอย่างที่เกิดขึ้น ก็มาจากการทำงานที่รวดเร็วสไตล์ Mark Zuckerberg นั่นเอง
SVMK บริษัทแม่ของ SurveyMonkey บริการทำโพลล์สำรวจความคิดเห็นออนไลน์ที่หลายคนคุ้นเคย ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งเพื่อนำหุ้นไอพีโอเข้าตลาดหุ้นแล้ว โดยต้องการเพิ่มทุนราว 100 ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่ได้ระบุจำนวนหุ้นที่จะเสนอขาย จึงประเมินมูลค่ากิจการไม่ได้
SurveyMonkey อาจไม่ใช่บริษัทไอทีมาแรงดาวรุ่งที่ไอพีโอเพื่อเข้าตลาดหุ้นแบบที่เห็นกันหลายบริษัท เพราะ SurveyMonkey ก่อตั้งเมื่อปี 1999 บริษัทมีอายุ 19 ปี และการเติบโตก็ไม่หวือหวานัก โดยปีที่ผ่านมามีรายได้ 218.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.5% และขาดทุนสุทธิ 24 ล้านดอลลาร์
Sheryl Sandberg ซีโอโอ Facebook ขึ้นเวทีให้สัมภาษณ์ในงาน Code Conference โดยมีช่วงหนึ่งเป็นคำถามเรื่องที่ Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล เคยบอกว่าข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ และแอปเปิลจะไม่ทำธุรกิจโดยนำลูกค้าเป็นสินค้าแบบนี้ ซึ่งเป็นการโจมตี Facebook โดยตรง
Sandberg บอกว่าทั้งเธอเองและ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Facebook ไม่แปลกใจที่ Tim Cook จะพูดแบบนั้น เพราะแอปเปิลขายสินค้า และทำธุรกิจในแบบของแอปเปิล มันก็ทำให้แอปเปิลเชื่อในแนวทางเช่นนั้น แต่ Facebook เป็นธุรกิจที่พึ่งพาโฆษณา เพราะต้องการให้สินค้า (Facebook) เข้าถึงคนได้ทั่วโลก เชื่อมต่อคนได้ทั้งโลก รูปแบบธุรกิจจึงต้องเป็นเช่นนี้ เธอจึงไม่เห็นด้วยกับ Tim Cook
Sheryl Sandberg ซีโอโอ Facebook ออกมาให้สัมภาษณ์ MSNBC ต่อประเด็นร้อนแรงระหว่าง Facebook และบริษัทวิจัยข้อมูลทำแคมเปญหาเสียงการเมือง Cambridge Analytica เธอบอกว่า "เราเปิดกว้างสำหรับการควบคุม เราทำงานร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติทั่วโลก"
Sandberg ให้คำมั่นสัญญาว่า "เรารู้ว่านี่เป็นเรื่องของความไว้วางใจของผู้ใช้ และเรารู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับบริษัท และเราจะทำทุกอย่างที่เราทำได้เพื่อแก้ไขมัน" เธอบอกด้วยว่า Facebook มีคนใช้เป็นพันล้านคนทั่วโลก นั่นหมายความว่า จะต้องมีคนที่พยายามใช้มันในทางที่ผิด สิ่งที่เราต้องทำคือ โต้กลับให้เร็วที่สุดที่จะแก้ปัญหา และเปิดเผยปัญหา
Sandberg ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวหลังจาก Mark Zuckerberg เพียงวันเดียว เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า Facebook ออกมาพูดถึงกรณี Cambridge Analytica ช้าเกินไป ถ้าย้อนเวลากลับไปยังสัปดาห์ก่อนหน้าได้ ก็อยากจะออกมาเปิดเผยให้เร็วกว่านี้
จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้ Facebook หลุด 50 ล้านบัญชี ซึ่งสร้างผลกระทบความเชื่อมั่นอยู่มาก ผ่านไปหลายวันในที่สุดซีอีโอ Mark Zuckerberg ก็ออกมาชี้แจงปัญหาดังกล่าวผ่านโพสต์บน Facebook แล้ว
Zuckerberg เปิดด้วยประโยคที่ว่า ความรับผิดชอบของ Facebook คือการปกป้องข้อมูลของทุกคน และหากเราทำไม่ได้ เราก็ไม่สมควรอยู่เพื่อให้บริการต่อ มาตรการที่ออกมาของ Facebook ในวันนี้เป็นสิ่งที่เคยทำมาก่อนหน้าแล้ว แต่มีความผิดพลาด ยังทำได้ไม่ดีพอ และมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกมาก
ในงานประชุมนักลงทุน Morgan Stanley จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก Sheryl Sandberg ซีโอโอ Facebook ได้พูดถึงประเด็นข่าวปลอมที่เป็นหนามยอกอก Facebook มาโดยตลอด
เธอบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดข่าวปลอมทุกข่าวบนแพลตฟอร์ม 100% แต่ Facebook กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลต่างๆ มาจากบัญชีที่มีตัวตนจริง
Sandberg ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ข่าวปลอมคงอยู่ได้เพราะมีแรงผลักดันทางการเงิน มากกว่าจะเป็นแรงผลักดันทางการเมือง คนสร้างข่าวปลอมจะเขียนหัวข่าวที่ดูน่าคลิกเพื่อจะได้ทำเงินโฆษณา ซึ่ง Facebook จึงต้องทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าผู้กระทำจะไม่ได้เงินตรงนี้ไป
นอกจากประเด็นข่าวปลอม Sandberg ยังพูดถึงกระแส #MeToo ด้วย เธอบอกว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่จะลุกขึ้นเพื่อเรียกร้องความเสมอภาคในสถานที่ทำงาน เธอยังพบว่าผู้ชายรู้สึกกังวลเมื่อต้องอยู่กับผู้หญิงตามลำพัง ซึ่งเป็นผลจากการเรียกร้องสิทธิผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ
ข่าวนี้ช่วยยืนยันภาพที่ซ้อนทับกันมากขึ้นของแพลตฟอร์มออนไลน์ และบริษัทสื่อ โดยดิสนีย์ได้ออกรายงานว่าในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีที่จะถึงนี้ กรรมการบอร์ดปัจจุบัน 2 คนจะได้ถอนตัวนั่นคือ Sheryl Sandberg ซีโอโอ Facebook และ Jack Dorsey ซีอีโอ Twitter ซึ่ง Sandberg มีตำแหน่งบอร์ดตั้งแต่ปี 2010 ส่วน Dorsey อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ปี 2013
ดิสนีย์ให้เหตุผลว่าเนื่องจากภาพรวมของธุรกิจและอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้ตำแหน่งหลักของทั้ง Sandberg และ Dorsey มีผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งหลีกเลี่ยงได้ยากมากขึ้น ทั้งคู่จึงถอนตัวจากการเป็นบอร์ดในปีนี้
Lee Hsien Loong นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์โพสต์ผ่าน Facebook ว่าได้พบปะพูดคุยกับ Sheryl Sandberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการแห่ง Facebook ซึ่งเดินทางมาเยือนสิงคโปร์ โดยประเด็นพูดคุยคือความร่วมมือกันแก้ปัญหาข่าวปลอม Lee Hsien Loong ระบุว่าเขารู้สึกยินดีกับการพบกันครั้งนี้มาก
Sheryl Sandberg ซีโอโอของ Facebook ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Desert Island Disks ของ BBC เกี่ยวกับความพยายามของเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจในการวิพากษ์วิจารณ์ระบบการเข้ารหัสแอพแชทว่าเป็นอุปสรรคในการสืบสวนคดีร้ายแรง โดยเฉพาะการก่อการร้าย
Sandberg โต้ความคิดดังกล่าวว่า การลดความแข็งแรงของการเข้ารหัสไม่ช่วยให้รัฐบาลสอบสวนคดีก่อการร้ายเร็วขึ้น เพราะข้อมูลที่รัฐบาลได้ไปจะน้อยกว่าที่ควรจะได้
จากการลาออกของ Travis Kalanick ซีอีโอ Uber สื่อก็เริ่มคาดกันต่อว่าบอร์ดบริหารจะเลือกใครมาทำหน้าที่นี้ต่อจากเขา ซึ่งเป็นภารกิจที่ไม่ง่ายนัก Uber เป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ากิจการสูงถึง 69,000 ล้านดอลลาร์ มีธุรกิจดำเนินงานอยู่ทั่วโลก และช่วงที่ผ่านมามีปัญหาเกิดขึ้นหลายอย่างที่ต้องแก้ไข
ก่อนหน้านี้ Kalanick ได้ประกาศหาซีโอโอมาร่วมงาน ซึ่งบอร์ดก็ได้รายชื่อมาหลายคน เมื่อเขาประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ ก็เป็นไปได้ว่าตัวเลือกที่เดิมจะมาเป็นซีโอโอ น่าจะได้รับข้อเสนอมาเป็นซีอีโอเลย ซึ่งรายชื่อเด่นที่แหล่งข่าวเปิดเผยข้อมูลมามีดังนี้
Sheryl Sandberg ซีโอโอ Facebook ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยว่า Facebook Lite แอพของ Facebook ที่ออกแบบมาเพื่อเจาะตลาดประเทศที่อินเทอร์เน็ตคุณภาพยังไม่ดีนัก ตอนนี้มีผู้ใช้งานแล้วถึง 200 ล้านคน ซึ่งเป็นการเติบโตที่น่าสนใจ เพราะเมื่อปีที่แล้วมีอยู่ราว 100 ล้านคน
Facebook Lite ตอนนี้ยังรองรับการใช้งานสำหรับผู้ประกอบการที่มีเพจร้านค้า โดย Sheryl Sandberg ยกตัวอย่างร้านค้าหลายแห่งที่บริหารเพจผ่าน Facebook Lite และได้ผลตอบรับที่ดีด้วย
ที่มา: Sheryl Sandberg และ TechCrunch
Sheryl Sandberg ซีโอโอของ Facebook โพสต์วิดีโอในโอกาส Facebook เปิดสำนักงานในประเทศไทย โดยมีตัวแทนผู้ใช้งานในประเทศไทยจากหน่วยงานต่างๆ ปรากฏตัวในวิดีโอด้วย เช่น เอเยนซี่ MindShare, Publicis, dtac, Lazada รวมถึงผู้ประกอบการรายเล็กอย่าง JQ Seafood, Maple Story, 425 Degree และหน่วยงานภาคประชาสังคม Mercy Center
Sheryl ระบุว่าตอนนี้มีคนไทยใช้ Facebook จำนวน 34 ล้านคน และมีอัตราการโพสต์เยอะกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึง 3 เท่า
วงการไอทีเสียผู้มีความสามารถไปอีกคน หลัง David Goldberg ซีอีโอของ SurveyMonkey และสามีของ Sheryl Sandberg ซีโอโอหญิงของ Facebook (เบอร์สองรองจาก Zuckerberg) เสียชีวิตกระทันหันด้วยวัย 47 ปี (ทางครอบครัวไม่ได้ระบุสาเหตุของการเสียชีวิต)
David Goldberg เคยเปิดบริษัทด้านดนตรีชื่อ LAUNCH Media และขายให้ Yahoo! ในปี 2001 หลังจากนั้นเขาได้เป็นซีอีโอของบริษัททำโพลออนไลน์ SurveyMonkey ในปี 2009
จุดที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นพิเศษคือเขาเป็นสามีของ Sheryl Sandberg ซึ่งเป็นผู้บริหารหญิงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลกไอที การที่สามีภรรยาคู่นี้เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไอทีทั้งคู่ จึงมีบทบาทและได้รับความสนใจจากวงการไม่น้อย