จากที่ในระยะหลังเฟซบุ๊กได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีความคล้ายหรือไปลอกฟีเจอร์จากแอปหรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ มา ล่าสุดฟีเจอร์นัดเดทมาปรากฎเป็นเวอร์ชันทดสอบอยู่บนแอป Messenger แล้ว
Jacob Dube นักเขียนของ Motherboard เล่าให้ฟังว่าอยู่ๆ ตัวเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊กระบุว่า (ชื่อ)และคนอีก 15 คนสนใจที่จะพบคุณในสัปดาห์นี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะกดเข้าไปแล้วพบหน้าพร้อมรูปถ่ายของผู้ใช้คนหนึ่งบนเฟซบุ๊ก และคำถามว่า ต้องการจะพบกับ (ชื่อ) ในสัปดาห์นี้หรือไม่ พร้อมระบุด้วยว่าคำตอบจะเป็นความลับ ยกเว้นเพียงทั้งสองฝ่ายจะกด Yes ทั้งคู่
THOTH ZOCIAL ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เผยเทรนด์เรื่องอาหารและความงาม โดยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้โซเชียลมีเดีย เก็บข้อมูลตามเพจและโพสต์ที่เปิดสาธารณะ ในช่วงระยะเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นช่องทางให้แบรนด์นำข้อมูลไปทำการตลาดที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น
กล้า ตั้งสุวรรณ ซีอีโอ THOTH ZOCIAL ยังระบุด้วยว่า การใช้โซเชียลมีเดียของคนไทยมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และยังมีลักษณะเฉพาะตัว การทำตามแนวทาง digital marketing ตามตำราต่างประเทศอาจยังไม่เข้ากับบริบทแวดล้อมการใช้โซเชียลของคนไทย
นินเทนโดประกาศปิดบริการโซเชียล Miiverse ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 โดยเกมบน Wii U และ 3DS ที่เชื่อมต่อกับ Miiverse จะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ได้อีกต่อไป
สมาชิก Miiverse สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ที่ตัวเองโพสต์ไว้มาเก็บไว้ได้ โดยล็อกอินผ่านหน้าเว็บ Miiverse
นินเทนโดมีท่าทีไม่สนใจ Miiverse มาได้สักพักแล้ว ดังจะเห็นได้จาก Nintendo Switch ไม่มีฟีเจอร์เชื่อมต่อกับ Miiverse มาตั้งแต่แรก
ผู้ใช้ Facebook น่าจะคุ้นเคยกับฟีเจอร์ย้อนอดีตคิดถึงความหลัง On This Day กันเป็นอย่างดี วันนี้ Facebook ประกาศปรับปรุงฟีเจอร์นี้เพิ่มเติมดังนี้
Alex Stamos ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความปลอดภัย (chief security officer) ของ Facebook ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ระบุว่า Facebook ต้องไล่ปิดบัญชีผู้ใช้มากกว่าวันละ 1 ล้านบัญชี หรือบางครั้งอาจแตะหลัก 10 ล้านบัญชีด้วยซ้ำ
บัญชีที่ถูกปิดมีทั้งบัญชีสแปม บัญชีหลอกหลวง และบัญชีที่โพสต์เนื้อหาสร้างความเกลียดชัง
Stamos ยอมรับว่าการปิดบัญชีหรือแบนภาพ-ข้อความของ Facebook ยังมีข้อผิดพลาดแบบ false positive (เนื้อหาไม่ผิดกฎ แต่กลับโดนบอกว่าผิดกฎ) เพราะปริมาณข้อมูลมหาศาลทำให้ไม่สามารถสร้างกฎ (rules) ที่ตายตัวได้ แต่บริษัทก็พยายามแก้ปัญหานี้โดยจ้างพนักงานเพิ่ม บวกกับพัฒนาระบบ AI เพื่อขยายการตรวจจับให้มากที่สุด
เรารู้จักกับการใช้ #Hashtag มานานพอสมควร แต่อาจไม่ทราบว่า Hashtag ได้มีอายุครบ 10 ปีแล้วในวันนี้ ซึ่ง Hashtag ได้กลายเป็นวิธีเปิดหัวข้อสำหรับสนทนา ที่นิยมใช้กันในสังคมออนไลน์ทั่วไป โดยมีจุดเริ่มต้นที่ Twitter
การใช้ Hashtag ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม 2007 โดย Chris Messina เป็นคนแรกที่ทวีตแบบติดหัวข้อ Hashtag สำหรับการสนทนา ซึ่งก็คือคำว่า #barcamp
ปัจจุบัน Hashtag ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ร่วมสมัย มีการใช้เพื่อแทนการสื่อสารหัวข้อต่างๆ เป็นปกติ ในสังคมออนไลน์อื่นอย่าง Facebook และ Twitter ก็นำ hashtag มาใช้เช่นกัน กระทั่งในสื่ออื่นที่ไม่ใช่ออนไลน์ก็ยังพบเห็นได้
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Facebook ประกาศหลักไมล์สำคัญว่ามีจำนวนผู้ใช้งานถึง 2 พันล้านคน แบบเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) แล้วในวันนี้
นอกจากนี้ Facebook ยังเผยสถิติใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น มีกดคน Love เฉลี่ยวันละ 175 ล้านคน, กด Like เฉลี่ยวันละ 800 ล้านคน และมากกว่า 1 พันล้านใช้งาน Groups อย่างน้อยเดือนละครั้ง
Facebook ยังฉลองตัวเลขผู้ใช้งาน 2 พันล้านคน โดยจัดทำวิดีโอบน News Feed ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ที่ facebook.com/goodaddsup
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ YouTube เพิ่งประกาศตัวเลข 1.5 พันล้านคน
ปัจจุบันนี้เวลาคนเราไม่รู้จะทำอะไรฆ่าเวลา ก็มักหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดูโน่นนี่นั่น และสิ่งที่นิยมทำก็คือเปิดดู Social Network ทั้งหลาย ซึ่งมีเรื่องราวทั้งวุ่นวายและสับสนเพราะเป็นเรื่องผู้คนมากมาย จะดีกว่าไหมหากมีแอพที่ให้ความรู้สึกว่าเรากำลังใช้ Social Network แต่จริงๆ ไม่ต้องปฏิสัมพันธ์กับใครเลย แอพนี้ชื่อว่า Binky
นับจากที่มีการทำสัญญาร่วมกันของโซเชียลมีเดียในการจัดการกับ Hate Speech ออกจากแพลตฟอร์ม ล่าสุด EU เผยสถิติว่าโซเชียลมีเดียจัดการ Hate Speech ในภาพรวมได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ Facebook ที่สามารถนำ Hate Speech ออกจากแพลตฟอร์มได้ 58% ภายใน 24 ชั่วโมง ดีขึ้นจากเดิมในเดือนธันวาคมที่ทำได้ 50%
Twitter ทำได้ 39% ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าดีขึ้นมากเช่นกัน จากเดิมที่เคยทำได้ 23.5% และครั้งนั้น EU ก็เตือนว่ายังทำได้ไม่ดีพอ
ในทางตรงกันข้าม YouTube กลับทำผลงานได้ช้าลง ทำได้ 42.6% ผิดจากการวัดผลครั้งก่อนหน้าที่ทำได้ถึง 60.8% แต่โดยรวมทุกแพลตฟอร์มมีการจัดการดีขึ้น คิดเป็นตัวเลข 59.2% จากเดิมวัดได้ 28.2%
เรามักได้ยินคำอธิบายจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ถึงสาเหตุที่เครือข่ายสังคมอื่นอย่าง Twitter หรือ Snapchat เป็นที่นิยมของวัยรุ่น นั่นคือพวกเขา หนีพ่อแม่จาก Facebook ซึ่งจะเห็นว่า Facebook รับรู้ถึงปัญหาและหาทางแก้ไขมาตลอด ล่าสุด Facebook อาจออกแอพใหม่มาให้วัยรุ่นใช้กัน (อีกแล้ว!)
โดยข้อมูลจากเว็บ The Information เผยว่าในโค้ดของแอพ Facebook นั้น มีการเขียนคอมเมนต์หลายตอนพูดถึงแอพชื่อว่า Talk รายละเอียดบอกว่า Talk เป็นแอพที่ผู้ใช้ควบคุมผู้ติดต่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ, ลูกๆ จะคุยกับพ่อแม่ผ่านแอพ Messenger ตามปกติแต่คุยกับเพื่อนผ่านแอพนี้ และบอกว่าแอพนี้เน้นกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น
หลังเฟซบุ๊กพยายามรับมือกับประเด็นข่าวปลอมมาโดยตลอด ล่าสุดเฟซบุ๊กประกาศปรับดีไซน์และเปลี่ยนที่แสดงผลหน้า Trending Page ให้ง่ายสำหรับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็คาดว่าเพื่อให้ผู้ใช้ได้เสพข้อมูลที่กำลังเป็นประเด็นของจริงและกรองข่าวปลอมได้ง่ายขึ้น
ดีไซน์ใหม่ของ Trending Page มาแบบ full-screen บนหน้าจอสมาร์ทโฟน โดยตัวโพสต์จะถูกจัดเรียงแนวนอนและปัดออกด้านข้างเพื่อเปลี่ยนโพสต์ (carousel) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ผู้ใช้ iPhone ในสหรัฐจะได้เห็นก่อนขยายไปยังแอนดรอยด์และเดสก์ท็อปต่อไป
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมออกประกาศจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดทำศูนย์ข้อมูล Big Data และวิเคราะห์อาชญากรรมเทคโนโลยี เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน สังคม และความมั่นคงของชาติ เป็นโครงการรวมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของระบบจัดเก็บข้อมูลจากเครือข่ายสังคมออนไลน์
โครงการนี้มีหลายระบบทำพร้อมกัน เช่น ระบบฐานข้อมูลคดี, ระบบป้องกันการโจมตี, และแม้แต่ห้องประชุม (มีไมโครโฟนด้วย) แต่ส่วนสำคัญคงเป็น ระบบจัดเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจาก Social Network เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และความมั่นคงของชาติ ระบบนี้มีมูลค่า 28.4 ล้านบาท จากโครงการทั้งหมด 128.5 ล้านบาท
Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึม News Feed อีกรอบ โดยจะลดอันดับลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพต่ำ (low-quality content) พาดหัวชวนให้เข้าใจผิด (misleading) ข่าวหัวสี (sensational) เนื้อหาเชิงสแปม รวมถึงมีโฆษณาไม่เหมาะสมหรือติดมัลแวร์
นโยบายใหม่ของ Facebook ยังมีผลกับการลงโฆษณาแบบ boost post ด้วย ถ้าหากระบบของ Facebook มองว่าเนื้อหาเหล่านี้เข้าข่ายคุณภาพต่ำ ก็อาจป้องกันไม่ให้โพสต์แบบโฆษณาได้
Facebook บอกว่าใช้ระบบ AI วิเคราะห์ลิงก์หลายแสนลิงก์เพื่อหารูปแบบของเนื้อหาคุณภาพต่ำ และจะส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ดีขึ้นในภาพรวม
ที่มา - Facebook
หัวใจสำคัญของสังคมออนไลน์อย่าง Twitter คือการแสดงไทม์ไลน์แบบเรียงลำดับเวลา จนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา Twitter ตัดสินใจเพิ่มการแสดงไทม์ไลน์แบบใหม่ที่ไม่เรียงตามลำดับเวลาเรียกว่า algorithmic timeline เข้าไป
แน่นอนว่าในช่วงแรกๆ ผู้ใช้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แม้ไม่บังคับใช้ก็ตาม แต่ล่าสุดทีมงานของ Twitter เองบอกว่าการแสดงผลด้วยวิธีนี้กลับได้ผลดีต่อผู้ใช้
So.cl เครือข่ายสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นโครงการทดลอง Microsoft Research ในส่วนของ FUSE Labs เพื่อเน้นการค้นพบสิ่งที่น่าสนใจ ซึ่งจะเน้นให้บริการกับนักศึกษา มีฟีเจอร์อย่างเช่นการค้นหารูปภาพ, แชร์ผลการค้นหาจาก Bing ฯลฯ
ตอนนี้ Microsoft ก็ได้ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ซึ่งรวมระยะเวลาให้บริการแล้วก็ประมาณ 6 ปี โดย Microsoft Research ก็ได้กล่าวขอบคุณผู้ใช้ So.cl ทุกคนที่ได้เข้ามาร่วมกันแบ่งปันความคิด, แรงบันดาลใจ และอื่น ๆ ด้วยกันมาตลอด
หลังจากเปิดตัวบริการซื้อเกมไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุด Twitch เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ตามมาติดๆ กับ Pulse พื้นที่พูดคุยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างสตรีมเมอร์และคนดู
การใช้งานจะใกล้เคียงกับระบบ News Feed ของ Facebook คือ ระบบจะรวบรวมแสดงคอนเทนต์ต่างๆ ที่สตรีมเมอร์ทำการโพสต์ลง Channel Feed ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือ วิดีโอ ลงบน Pulse ซึ่งอยู่ในหน้าแรกของ Twitch ให้กับเพื่อนและ Follower ได้เห็น
Pulse เริ่มให้บริการแล้ววันนี้ซึ่งผู้ใช้งานที่มีล็อกอินของ Twitch บางส่วนจะเห็น Pulse ปรากฏที่หน้าแรกของตัวเอง
MeetMe บริการเครือข่ายสังคมที่เน้นผู้ใช้งานบนมือถือ ซึ่งมีผู้ใช้งานหลักอยู่ในอเมริกา ประกาศเข้าซื้อกิจการ If(we) ด้วยมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากจะไม่คุ้นชื่อทั้งสองบริษัทที่กล่าวมาก็ไม่แปลก แต่หากบอกว่า If(we) เป็นเจ้าของเว็บเครือข่ายสังคมซึ่งเคยเป็นที่นิยมมากในไทยอย่าง Hi5 ก็คงคุ้นมากขึ้น
Hi5 ขายเว็บให้กับอีกเว็บเครือข่ายสังคม Tagged เมื่อปี 2011 และต่อมาได้ตั้งบริษัทใหม่ชื่อ If(we) แล้วให้ทั้งสองเว็บมาอยู่ในเครือ
If(we) ระบุว่ามีผู้ใช้งานทั้งสองเว็บรวมกัน 5.4 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งเมื่อรวมกิจการกับ MeetMe จะทำให้ทั้งสามเว็บมีผู้ใช้รวมกันราว 10.6 ล้านคนต่อเดือน
ที่มา: TechCrunch
เรียกว่าอายุยังไม่ทันครบปีก็มีอันต้องลาจากแล้ว Google Spaces แอพแชทแบบกลุ่มของกูเกิล ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2016 ต้องปิดตัวไปแล้ว
ในอีกไม่ช้า Google Spaces จะเข้าโหมดอ่านข้อมูลได้อย่างเดียว (read-only) และจะปิดตัวอย่างถาวรในวันที่ 17 เมษายน 2017
กูเกิลบอกว่า Spaces เป็นการทดลองการแชร์ข้อมูลในกลุ่มขนาดเล็ก และบริษัทก็เรียนรู้ข้อมูลหลายอย่างเพื่อนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ต่อได้
Mark Zuckerberg ประกาศวิสัยทัศน์ระยะยาวของ Facebook ว่าหลังจากเชื่อมต่อชุมชนขนาดเล็กได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการสร้างสังคมในระดับโลก (เขาใช้คำว่า global community) และจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่งเสริมเสรีภาพ-สันติภาพ แก้ปัญหาความยากจน พัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ รวมถึงแก้ปัญหาการก่อการร้าย การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รับมือกับโรคระบาด
วิสัยทัศน์ของ Mark Zuckerberg แบ่งออกเป็น 5 ข้อ ดังนี้
Lego ไม่ได้เป็นเพียงของเล่นตัวต่อกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังกลายเป็นภาพยนตร์ วิดีโอเกมหรือแม้แต่หนังลือ และล่าสุดกระโดดเข้าสู่การเป็นสื่อโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กแล้วด้วย Lego Life ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของเด็กๆ
Lego Life เป็นโซเชียลมีเดียที่มีความคล้ายคลึงกับ Instagram ในธีมของ Lego และเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ได้อัพโหลดภาพอะไรก็ได้ตามความคิดสร้างสรรค์ ยกเว้นภาพเซลฟี่ที่มีหน้าของตัวเองจะถูกปฏิเสธ เนื่องจาก Lego Life ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความนิรนามของเด็กๆ ที่ใช้งาน
ช่วงนี้ Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึม News Feed ค่อนข้างบ่อย รอบนี้ปรับ 2 เรื่องคือเรื่องข่าวปลอม และการใช้ข้อมูลเรียลไทม์มาพิจารณามากขึ้น
ประเด็นแรกในเรื่องข่าวปลอม Facebook เพิ่มปัจจัยตัวใหม่ที่ช่วยวิเคราะห์ว่าโพสต์นั้นเป็นข่าวปลอมหรือสแปม รูปแบบการทำงานคือ Facebook ศึกษาโพสต์ข่าวปลอมจากเพจคุณภาพต่ำ แล้วสร้างโมเดลขึ้นมาเทรนให้แยกแยะโพสต์ลักษณะเดียวกันจากเพจอื่นๆ (เช่น ถ้าโพสต์ถูกกด hide จากผู้ใช้บ่อย ก็มีแนวโน้มสูงว่าเป็นโพสต์ข่าวปลอม) ในทางกลับกัน ถ้าโพสต์ของเรามีแนวโน้มว่าจะเป็นของจริง ก็มีโอกาสถูกแสดงผลเพิ่มขึ้น
ยังไม่พบจุดลงตัวสักทีสำหรับฟีเจอร์ของ Twitter ที่ช่วยให้เราติดตามข่าวสารทั่วโลก ล่าสุด Twitter ประกาศเปลี่ยนชื่อแท็บใหม่อีกแล้ว จากเดิม Moments มาเป็น Explore (ลักษณะเดียวกับใน Instagram)
แท็บ Explore จะรวมเอา trend, Moments, search และ live video มารวมกันให้ผู้ใช้กดติดตามสถานการณ์ปัจจุบันได้ง่ายขึ้น ในแง่ฟีเจอร์ไม่มีอะไรถูกตัดออกไป แค่เปลี่ยนหน้าตาและชื่อเรียกเท่านั้น
แท็บ Explore ถูกเพิ่มเข้ามาแล้วใน Twitter for iOS และบน Android จะตามมาในเร็วๆ นี้
ที่มา - Twitter Blog
Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึม News Feed อีกครั้ง คราวนี้เป็นการปรับเพื่อคัดเลือกวิดีโอขึ้นมาแสดงให้ผู้ใช้เห็น โดยอัลกอริทึมใหม่จะให้ความสำคัญกับ "วิดีโอขนาดยาวที่ดูจบ" มากขึ้น ส่งผลให้วิดีโอที่มีความยาวมาก มีโอกาสถูกแสดงบน News Feed มากขึ้น และวิดีโอขนาดสั้นจะถูกลดความสำคัญลง
ทั้งนี้ Facebook ไม่ได้อธิบายชัดเจนว่าวิดีโอแบบไหนที่เรียกว่าสั้นหรือยาว โดยใช้คำว่า longer video และ shorter video เท่านั้น
มาถึงตอนนี้ ผู้ใช้ Instagram คงคุ้นเคยกับฟีเจอร์ Stories ที่ลอยอยู่บริเวณด้านบนสุดของแอพกันแล้ว (แรงบันดาลใจจาก Snapchat) แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่จบแค่นั้น เพราะฟีเจอร์นี้กำลังจะเดินทางมาสู่แอพ Facebook ตัวหลักด้วย
หน้าตาของ Stories บน Facebook แทบจะเหมือนกับ Instagram ทุกประการ คือเป็นไอคอนวงกลมลอยอยู่ด้านบนสุดของแอพ และเป็นโพสต์แบบชั่วคราวที่จะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง
ตอนนี้ Facebook ทดสอบฟีเจอร์นี้กับผู้ใช้ในประเทศไอร์แลนด์ และจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในอนาคต
Facebook ให้เหตุผลว่าวิธีการแชร์เนื้อหาของผู้คนเปลี่ยนไปจากเดิม เน้นการแชร์ภาพและวิดีโอมากขึ้น บริษัทจึงต้องการให้การแชร์ง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ในช่วงที่ผ่านมา แอพแชร์วิดีโอ Beme ได้สร้างกระแสความสนใจได้ด้วยแนวคิดแปลกใหม่ และการโปรโมทโดยผู้ก่อตั้ง Youtuber ชื่อดัง Casey Neistat
หลังจากแอพได้เปิดตัวไปช่วงกลางปี ช่วงหลังกระแสก็หายไปจนกระทั่ง The Wall Street Journal รายงานว่า CNN ซื้อแอปพลิเคชัน Beme ในราคาประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ