Adobe ซื้อกิจการ Livefyre เจ้าของซอฟต์แวร์ค้นหาคนที่พูดถึงแบรนด์ในโซเชียล เพื่อนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ไปขยายผลต่อ

เดิมที Livefyre ทำระบบคอมเมนต์สำหรับบล็อก (ลักษณะเดียวกับ Disqus) แต่ภายหลังก็ปรับตัวมาทำระบบ social engagement แทน นอกจากนี้บริษัทยังเป็นเจ้าของบริการ Storify ที่เก็บข้อความในโซเชียลมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวด้วย (หลายคนอาจเคยใช้เก็บข้อความ Twitter ที่ทวีตต่อๆ กัน)

ฝั่งของ Adobe มีบริการ Marketing Cloud สำหรับงานด้านการตลาดออนไลน์อยู่แล้ว และจะนำเทคโนโลยีของ Livefyre ไปใช้กับ Adobe Experience Manager ของตัวเองต่อไป

หลายๆ คนอาจจะรู้จักกระแสของการกินคลีน ซึ่งก็คือการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและผ่านกระบวนการ (process) ให้น้อยที่สุด ซึ่งถ้าหากปฏิบัติจนมากเกินไป อาจทำให้มีอาการทางจิตที่เรียกว่า orthorexia ซึ่งก็คือการควบคุมการกินอาหารมากเกินไปจนมีผลต่อสุขภาพ (malnutrition) ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในสังคมตะวันตก โดยนักวิชาการและจิตแพทย์บางส่วน ระบุว่าสื่อสังคมออนไลน์ (social media) มีผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้

Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึมของ News Feed (อีกแล้ว) โดยนำปัจจัยเรื่อง "เวลา" ที่เราใช้อ่านโพสต์ (Time Spent Viewing) มาร่วมพิจารณาจัดอันดับด้วย

การนับเวลาจะนับหลังจากที่เราคลิกโพสต์แล้วโหลดจนเสร็จ แล้วอ่านบทความในเบราว์เซอร์ของ Facebook หรืออ่านผ่าน Instant Article แต่ก็จะวัดระยะเวลาอย่างเหมาะสม ไม่ให้น้ำหนักกับบทความขนาดยาวที่ต้องใช้เวลาอ่านนานเป็นพิเศษมากเกินไป

นอกจากนี้ Facebook ยังปรับอัลกอริทึม News Feed ไม่ให้แสดงโพสต์จากแหล่งเดียวกันซ้ำๆ มากจนเกินไป อัลกอริทึมใหม่จะเริ่มปรับใช้งานกับทุกเพจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ที่มา - Facebook

เว็บไซต์ข่าว The Verge รายงานข่าวที่เป็นการคาดการณ์ว่าในอนาคต Facebook อาจจะเตรียมเปิดให้ผู้ใช้สามารถหาเงินได้จากโพสต์ของตัวเองบน Facebook หลังจากที่พบแบบสำรวจผู้ใช้งาน ซึ่งในตอนหนึ่งมีการถามว่าผู้ใช้คิดเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับการหาเงินจากโพสต์ต่างๆ ของ Facebook

ในตัวเลือกจากแบบสอบถาม (ดูได้จากที่มา) มีทั้งระบุว่าเป็นเงินค่าทิป (ในกรณีนักแสดง), เนื้อหาที่สนับสนุนจากแบรนด์สินค้าหรือผู้สนับสนุน, การบริจาค, ปุ่มเพื่อให้ทำกิจกรรมแบบอื่น หรือเลือกที่จะแบ่งปันค่าโฆษณาจากโพสต์บน Facebook ซึ่งในปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้เปิดให้เจ้าของโปรไฟล์ต่างๆ สามารถหาเงินได้จากโพสต์บน Facebook

ช่วงที่ผ่านมา แอพเดททั้งเฉพาะทางและไม่เฉพาะทางหลายตัว (เช่น Tinder) ได้รับความนิยมอยู่บ้าง ล่าสุดเว็บไซต์ Tech In Asia รายงานว่ามีกลุ่มนักลงทุนจากสิงคโปร์กลุ่มหนึ่ง เปิดตัวแอพ Ivory ซึ่งเป็นแอพเดทที่ตอบโจทย์บรรดาเหล่าอีลิทหรือชนชั้นนำในสังคม เข้ามาให้บริการที่สิงคโปร์แล้ว

คนที่ติดตามข่าวสารด้าน VR อาจสงสัยว่า Facebook ซื้อ Oculus ไปทำไม ที่ผ่านมา Facebook มักพูดว่า VR คืออนาคตของการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้คน (ซึ่งก็ยังไม่ค่อยเห็นภาพมากนัก)

ในงาน F8 2016 บริษัทโชว์ต้นแบบ Social VR เดโมการใช้งานแว่น VR เพื่อพูดคุยกันเสมือนว่าอยู่ด้วยกันในสภาพแวดล้อมจำลอง คู่สนทนาจะเห็นใบหน้า (อวตาร) และมือของกันและกัน พร้อมทั้งเล่นเกม ตีปิงปอง ถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกันในบรรยากาศจำลอง ซึ่งจะเป็นที่ไหนก็ได้ในโลกนี้

ดูวิดีโอเดโมน่าจะเห็นภาพง่ายที่สุดครับ

ที่มา - Facebook Newsroom

ในงาน Facebook F8 เมื่อคืนนี้ มีข่าวน่าสนใจหลายอย่าง สิ่งที่จับต้องได้ใกล้ตัวมากๆ คือ Facebook ขยายปุ่ม Save Links ออกมานอกระบบของตัวเอง ให้เว็บไซต์อื่นๆ สามารถฝังปุ่ม Save to Facebook เพื่อบันทึกบทความเข้าไปอ่านในระบบของ Facebook ได้แล้ว

รูปแบบการใช้งานปุ่ม Save to Facebook เหมือนกับปุ่ม Like/Share ที่เราคุ้นเคยกันดี เพียงแต่กดแล้ว URL นั้นจะถูกบันทึกเข้ารายการ Saved Links ในบัญชี Facebook ของผู้ใช้แทน (พูดง่ายๆ คือออกมาแข่งกับ Pocket) รูปแบบการใช้งานดูได้จากวิดีโอท้ายข่าวครับ

นักพัฒนาท่านใดสนใจก็เข้าไปดูได้ที่ Save to Facebook

เราเพิ่งเห็นข่าว ผู้คนแชร์เรื่องราวผ่าน Facebook น้อยลง แต่ดูเหมือนว่า Facebook เองก็รับทราบปัญหานี้ และพยายามหาวิธีชักชวนให้คนแชร์กันมากขึ้น

ในการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ Facebook Live เมื่อไม่กี่วันมานี้ Mark Zuckerberg ลงทุนมาถ่ายวิดีโอ live ด้วยตัวเอง และในคลิป เขาก็โชว์แอพ Facebook เวอร์ชันใหม่ที่หน้าตาต่างไปจากปัจจุบัน ตอนที่เราแตะช่อง What's on your mind? ด้านบนสุดของแอพเพื่อโพสต์เนื้อหา จะเห็นเมนูสำหรับแชร์เนื้อหาประเภทใหม่ๆ เช่น Slideshow, Live Video, GIF, Music เพิ่มเข้ามาด้วย

ช่องทางทำเงินของเพจต่างๆ บนเฟซบุ๊กคงเป็นการที่แบรนด์ต่างๆ มาจ้างให้เขียนบทความ, ภาพ, หรือวิดีโอลงบนเพจตัวเอง โดยก่อนหน้านี้การทำเช่นนี้จริงๆ แล้วผิดข้อตกลงการใช้งานเฟซบุ๊กแทบทั้งหมดเพราะเฟซบุ๊กระบุว่าต้องขออนุญาตเป็นกรณีไปเท่านั้น

แต่ตอนนี้เฟซบุ๊กเปิดช่องทางการลงเนื้อหาเพื่อโฆษณาอย่างเป็นทางการ เรียกว่า Branded Content โดยจะมีปุ่มใส่แบรนด์เป็นรูปจับมือกันบน Page composer บนเดสก์ทอปและ iOS (แอนดรอยด์รอต่อไปอีกไม่กี่เดือน) และเมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ก็สามารถแท็กแบรนด์กลับไปตรงๆ ได้

เว็บไซต์ข่าวไอที The Verge รายงานข่าวโดยอ้างรายงานของ The Information อีกทีหนึ่งว่า ปัจจุบัน ผู้ใช้ Facebook แชร์เรื่องราวและอัพเดตโปรไฟล์ตัวเองน้อยลงกว่าเดิมในรอบหนึ่งปี (ตั้งแต่กลางปี 2014 จนถึงกลางปี 2015)

The Verge ระบุว่าในรายงานของ The Information ชี้ให้เห็นว่า ผู้ใช้กำลังมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะยอดการแชร์เนื้อหาบน Facebook นั้นต่ำลงกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวในชีวิตประจำวันของตัวเอง (เช่น status update) ซึ่งลดลงไปร้อยละ 21 ในกรอบปีที่ระบุไว้ และในรอบปีนี้ (น่าจะหมายถึงกลางปีที่แล้วจนถึงตอนนี้) ยอดการแชร์ข้อมูลลักษณะนี้ตกลงไปร้อยละ 15 ซึ่งทำให้เวลาแสดงผลข้อมูลใน News feed ของผู้ใช้ จึงไม่มีข้อมูลจากผู้ใช้ปรากฏมากเท่ากับข้อมูลจากศิลปินหรือทีมกีฬาที่ชื่นชอบ

หลายคนอาจจะทราบว่าปัญหาหนึ่งที่พบกันทั่วโลกคือเรื่องของการแสดงความเห็นทางการเมืองบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งในหลายประเทศทำได้อย่างเสรี แต่ในหลายๆ ประเทศ (รวมถึงบางประเทศแถบนี้) ก็ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เพราะมีการควบคุมและตรวจตรา (surveillance) จากรัฐ คำถามคือ การควบคุมเหล่านี้มีผลเช่นไรในทางปฏิบัติ? งานวิจัยชิ้นล่าสุดจากมหาวิทยาลัยเวย์นสเตต สหรัฐอเมริกา เผยว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเลือกที่จะไม่แสดงความเห็นออกมา หากรัฐบาลมีกลไกในการควบคุมหรือตรวจตราอินเทอร์เน็ต

นินเทนโดเปิดตัว Miitomo แอพตัวแรกบนสมาร์ทโฟนไปแล้ว แต่ยังจำกัดเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ล่าสุดนินเทนโดออกมาประกาศแล้วว่าจะเปิดให้ลูกค้าในสหรัฐและประเทศอื่นๆ (ไม่ระบุชื่อประเทศ) ดาวน์โหลด Miitomo ในวันพรุ่งนี้ (31 มี.ค.)

Miitomo เป็นแอพสำหรับสร้างคาแรกเตอร์ Mii ในระบบของนินเทนโด (ถ้าใครมีอยู่แล้ว สามารถอิมพอร์ต Mii จาก Wii U หรือ 3DS มาเล่นได้เลยผ่าน QR Code) รูปแบบการเล่นจะเป็นกิจกรรมโซเชียลระหว่างเพื่อน Mii ด้วยกัน

นินเทนโดบอกว่า Miitomo มียอดดาวน์โหลดในญี่ปุ่นเกิน 1 ล้านครั้งใน 3 วันแรก และขึ้นเป็นแอพฟรีอันดับหนึ่งทั้งบน App Store และ Play Store ในญี่ปุ่นด้วย

จากการที่ Instagram ออกมาประกาศเตรียมใช้ Timeline แบบใหม่ ที่ไม่แสดงโพสต์ตามลำดับเวลา เหมือนกับใน Facebook และล่าสุดคือ Twitter ก็ปรากฏว่าชาว Instagram ต่างพร้อมใจกันตอบโต้เรื่องนี้ โดยโพสต์เพื่อบอกให้ผู้ติดตามกดตั้งค่าแจ้งเตือนเมื่อมีโพสต์ใหม่จากเขา

เหตุผลนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะหลายคนกลัวว่าโพสต์ของพวกเขาจะถูกเห็นน้อยลง แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในเพจบน Facebook

อย่างไรก็ตาม Instagram ได้ชี้แจงต่อกระแสดังกล่าวผ่าน Twitter ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ยังไม่เริ่มขึ้น พร้อมสัญญาว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อใดจะประกาศทันที นอกจากนี้โฆษกของ Instagram ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า โพสต์ของแต่ละคนจะไม่หายไปจาก Timeline ผู้ติดตาม เพียงมีการสลับจัดเรียงใหม่เท่านั้น โดยดูจากปัจจัยการกด Like หรือแสดงความเห็นของแต่ละคน ไม่ได้เน้นไปที่ความนิยมในโพสต์นั้นๆ

นินเทนโดเปิดตัวเกมมือถือเกมแรกของบริษัท นั่นคือเกม Miitomo ตามที่เคยประกาศไว้

Miitomo อาจไม่ใช่เกมเต็มรูปแบบ (นินเทนโดก็เรียกว่า "แอพ") แต่เป็นการนำคาแรกเตอร์ Mii มาเล่นกันในระหว่างเพื่อนๆ สามารถให้ Mii ของเราไปเยี่ยมบ้านเพื่อนได้ และเล่นมินิเกมระหว่างกันได้

ผู้เล่นสามารถสร้าง Mii ของตัวเองได้จากกล้องสมาร์ทโฟน และแต่งตัว Mii ได้ตามใจชอบ แอพสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี โดยหารายได้จากการขายไอเทมในแอพ (IAP)

สำนักข่าว ANSA ของอิตาลีรายงานว่า พระสันตะปาปาฟรานซิส กำลังจะสมัครอินสตาแกรมของตัวเองในวันที่ 19 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยใช้ชื่อว่า Franciscus

ครั้งหนึ่งโป๊ปฟรานซิสเคยกล่าวยกย่องสรรเสริญโลกอินเทอร์เน็ตว่า เป็นพื้นที่สร้างให้สังคมเปิดกว้างและคุณภาพดีขึ้น นอกจากนี้ โป๊ปยังเคยพบปะพูดคุยกับ Kevin Systrom CEO ของอินสตาแกรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยนกันเรื่อง “พลังของภาพ” Power of Images ด้วย

เราเห็นข่าว Twitter เพิ่มวิธีการแสดงผล Timeline แบบไม่เรียงตามลำดับเวลา กันไปแล้ว วันนี้ฝั่ง Instagram ประกาศทำแบบเดียวกันบ้างแล้ว

Instagram บอกว่าเฉลี่ยแล้วเราพลาดเนื้อหา 70% ที่ควรจะเห็นผ่าน Timeline โดยเฉพาะโพสต์จากคนสนิทหรือคนที่เราสนใจ ดังนั้น Instagram จะเริ่มนำอัลกอริทึมมาช่วยคัดเลือกโพสต์ที่เราควรจะมองเห็นให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะอิงจากความสนใจ (interest) และความสัมพันธ์ (relationship) ของเรากับคนโพสต์

ช่วงนี้ Facebook ประกาศตัวดันฟีเจอร์ Live เต็มที่ ทั้งปรับอัลกอริทึมเพื่อให้โพสต์ที่มี Live เด่นชัดขึ้น และพยายามแจ้งเตือนเราผ่าน notification ว่าบุคคลหรือเพจที่เราติดตามกำลัง Live อยู่

ประเด็นเรื่องการแจ้งเตือน Live ย่อมสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน และล่าสุด Facebook ออกมายอมรับแล้วว่ากำลังจะเปิดตัวเลือกให้ผู้ใช้ปิดการแจ้งเตือน Live ทั้งหมดได้ ตัวเลือกนี้จะเริ่มเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้

Oculus ประกาศอัพเกรดซอฟต์แวร์ครั้งใหญ่ให้แว่น Samsung Gear VR ความสามารถที่เพิ่มเข้ามาได้แก่

เวลาเปิดอ่าน Facebook ในหลายครั้งเรามักจะเจอกับเพื่อนเราที่ชอบนำเอาเรื่องราวของตนเองมาแชร์ได้มากมายไม่เว้นในแต่ละวัน ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นการขี้อวดจนมากเกินไป แต่จากรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ Daily Mail ของอังกฤษ นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งระบุว่า เป็นเพราะสมองสั่งการให้เราทำเช่นนั้นมากกว่า

ผ่านพ้นไปแล้วกับการประกาศผลรางวัลสำหรับคนทำภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี The Academy Awards ครั้งที่ 88 หรือที่เรารู้จักกันในนาม "รางวัลออสการ์ (The Oscars)"

สิ่งที่ได้รับความสนใจในปีนี้คงหนีไม่พ้นผู้พลาดรางวัล Oscars ตลอดกาล อย่าง Leonardo DiCaprio ที่คนทั้งโลกร่วมลุ้นให้เค้าได้ออสการ์กลับบ้านสักครั้ง เนื่องจากตลอดชีวิตการเป็นนักแสดง รวมถึงเป็นคนทำงานเบื้องหลัง เค้าได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย และสามารถชนะได้แทบทุกรางวัล ยกเว้นเพียงรางวัล Oscars การเข้าชิงรางวัลในครั้งนี้จึงเป็นอีกครั้งของ Leonardo ที่คนทั่วโลกจับตามอง โดยเข้าชิงสาขา "นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Actor in a Leading Role)" จากภาพยนตร์เรื่อง Revenant และในที่สุดก็สามารถคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จ

แกรนท์ โทมัส นักท่องเที่ยวและบล็อกเกอร์รายหนึ่ง ได้รับแจ้งจากสายการบิน American Airlines ว่าเที่ยวบินขากลับที่เขาจองไว้ถูกเลื่อนให้บินเร็วขึ้น 3 ชั่วโมง ซึ่งตอนนั้นเขายังอยู่ระหว่างการประชุมที่ชิคาโก

ตามปกติแล้ว โทมัสต้องแก้ปัญหาด้วยการโทรศัพท์หา call center ของสายการบิน ต้องเสียเวลาต่อสายภายใน และรอฟังเพลงจากระบบโทรศัพท์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาแก้ปัญหาด้วย “ทวิตเตอร์”

ช่วงวันสองวันนี้ ผู้ใช้ Facebook น่าจะได้ใช้งานปุ่มไลค์แบบใหม่หรือที่เรียกว่า Reactions กันบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจสงสัยว่า "อารมณ์ความรู้สึก" ที่ Facebook มีให้เลือกทั้งหมด 6 แบบ (like, love, haha, wow, sad, angry) ถูกคัดเลือกมาอย่างไร

Wired มีบทสัมภาษณ์ Julie Zhuo หัวหน้าทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นคนรับผิดชอบ Reactions เธอเล่าว่า Mark Zuckerberg เป็นคนผลักดันเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาบอกว่าผู้ใช้อยากได้อะไรที่มากกว่าปุ่มไลค์มานานแล้ว และที่ผ่านมาผู้ใช้เลือกใช้การโพสต์สติ๊กเกอร์หรือข้อความสั้นๆ ในคอมเมนต์เพื่อแสดงอารมณ์ความรู้สึกแทน แต่ในยุคอุปกรณ์พกพา การพิมพ์ข้อความผ่านมือถือนั้นยากลำบากขึ้น Facebook จึงต้องหาทางเลือกที่ง่ายกว่านั้น ซึ่งทางออกชัดเจนว่าใช้ emoji นั่นเอง

YouTube ซื้อกิจการ BandPage สตาร์ตอัพที่ช่วยให้วงดนตรี/นักดนตรีสร้างฐานแฟนๆ ผ่านเครือข่ายสังคมสารพัดชนิด และบริการเพลงสตรีมมิ่งเกือบทุกค่าย เช่น Spotify, Shazam, Rhapsody, SoundCloud, Vevo

นักดนตรีสามารถใช้ BandPage ช่วยบริหารจัดการเรื่องกิจกรรม การขายของที่ระลึก โดยมีระบบหลังบ้านช่วยให้จัดการเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ BandPage ยังมีโซลูชันช่วยสร้างเว็บไซต์ของวง หรือถ้ามีเว็บอยู่แล้วจะสร้าง widget อัพเดตข้อมูลของ BandPage ไปแปะไว้แทนก็ได้เช่นกัน

ปัจจุบัน BandPage มีนักร้องดังๆ อย่าง Beyonce, Alicia Keys, Justin Timberlake, Kings of Leon, Maroon 5, Rihanna เป็นลูกค้าอยู่แล้ว ทางบริษัทบอกว่าการไปควบรวมกับ YouTube จะช่วยให้การกระจายข้อมูลกว้างไกลมากขึ้น

Mark Zuckerberg ปรากฏตัวครั้งแรกหลังลาพักเลี้ยงดูบตร และให้สัมภาษณ์ในโอกาส Facebook ครบรอบ 12 ปีว่าบริษัทตั้งเป้าหมายในปี 2030 ว่าต้องมีผู้ใช้งานแตะหลัก 5 พันล้านคนให้ได้ (ตอนนี้มี 1.5 พันล้าน)

Facebook ยังเผยสถิติที่น่าสนใจ อย่างหลักการ degree of separation หรือระยะห่างระหว่างเพื่อน ค่าเฉลี่ยเริ่มลดลงจาก 3.74 คนในปี 2011 ลงมาเหลือ 3.57 แล้ว (แปลว่าคนเป็นเพื่อนกันมากขึ้น โอกาสที่จะไม่รู้จักกันมีลดลง)

วิสัยทัศน์เรื่อง "การทำงานในอนาคต" ของไมโครซอฟท์คือ "ต้องเป็นโซเชียลในที่ทำงาน" ผลคือไมโครซอฟท์ซื้อเครือข่ายสังคมสำหรับองค์กร Yammer ในปี 2012 จากนั้นก็ผนวก Yammer เป็นส่วนหนึ่งของชุด Office ที่องค์กรสามารถเลือกใช้งานได้

คราวนี้ไมโครซอฟท์ขยับไปอีกขั้น โดยเปิดให้ผู้ใช้ Office 365 ทุกราย สามารถใช้ Yammer ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอแอดมินขององค์กรเปิดสิทธิให้ ไมโครซอฟท์บอกว่านโยบายนี้ช่วยให้ Yammer กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Office 365 อย่างเต็มตัว หลังจากก่อนหน้านี้ย้ายระบบ Yammer มารันในศูนย์ข้อมูลของไมโครซอฟท์ และต่อเชื่อมกับ Azure Active Directory แล้ว