เราคงรู้จัก SoftBank ยักษ์ใหญ่ของวงการไอทีญี่ปุ่นกันดี โดยเฉพาะอภิมหากองทุน Vision Fund ที่ไปลงทุนในบริษัทไอทีมากมาย
ล่าสุด SoftBank เปิดกองทุนใหม่อีกกองชื่อว่า SoftBank Innovation Fund ที่มีขนาดเล็กกว่ากันมาก คือ 5 พันล้านดอลลาร์ แต่มีภารกิจเจาะจงกว่าคือลงทุนในตลาดละตินอเมริกาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่ SoftBank มองว่าจะเติบโตอย่างสูง
SoftBank ยังจัดโครงสร้างองค์กรใหม่เป็น SoftBank Latin America Local Hub เพื่อรวมศูนย์การปฏิบัติงานในละตินอเมริกา และช่วยสนับสนุนบริษัทที่ SoftBank ไปลงทุนเอาไว้ให้เจาะตลาดนี้ได้สะดวกขึ้นด้วย
สายการบิน AirAsia ประกาศตั้งกองทุน Venture Capital (VC) ชื่อว่า RedBeat Capital เพื่อลงทุนในสตาร์ตอัพด้านการท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ ลอจิสติกส์ และการเงิน
ก่อนหน้านี้ AirAsia มีบริษัทลงทุน RedBeat Ventures ที่คอยลงทุนกับสตาร์ตอัพสายดิจิทัลในเครืออยู่แล้ว รอบนี้เป็นการขยายพรมแดนของ RedBeat ให้ไปไกลถึงซิลิคอนวัลเลย์ด้วย
RedBeat Capital จะตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก และเป็นพันธมิตรกับ 500 Startups เพื่อเข้าถึงข้อมูลการลงทุนของสตาร์ตอัพให้กว้างขวาง
Tony Fernandes ซีอีโอของกลุ่มบริษัท AirAsia บอกว่าต้องการสร้าง travel technology ecosystem เพื่อเปลี่ยนตัวเองจากบริษัทสายการบิน เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยว (travel technology company)
Go-Jek สตาร์ทอัพแอปเรียกรถโดยสารและบริการที่เกี่ยวข้องจากอินโดนีเซีย ที่เน้นตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศว่าได้รับเงินเพิ่มทุนอีก 100 ล้านดอลลาร์ จาก Astra เครือข่ายบริษัทรายใหญ่ของอินโดนีเซีย ซึ่งก็เป็นนักลงทุนใน Go-Jek เดิมอยู่แล้ว ซึ่งเงินลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มทุนรอบซีรี่ส์ F ที่ Go-Jek ตั้งเป้าระดมทุนอีก 2,000 ล้านดอลลาร์
การลงทุนของ Astra นั้น สามารถต่อยอดในเชิงกลยุทธ์ให้กับ Go-Jek ได้ เนื่องจาก Astra มีบริษัทในเครือเกี่ยวกับข้องกับธุรกิจยานยนต์และระบบขนส่ง จึงสามารถเอื้อประโยชน์กับ Go-Jek ได้
Go-Jek เพิ่งเปิดตัวให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยใช้ชื่อแบรนด์ GET!
สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยว่ากองทุน Vision Fund ของ SoftBank กำลังเจรจาเพื่อลงทุนก้อนใหญ่ครั้งใหม่กับ Guazi.com แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสอง โดยเตรียมลงทุนสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ และทำให้มูลค่ากิจการ Guazi.com สูงถึง 8,500 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้แหล่งข่าวยังบอกว่า SoftBank เคยเจรจาขอลงทุนกับคู่แข่งของ Guazi คือ Renrenche ก่อนหน้านี้ด้วย ทั้งนี้แพลตฟอร์มรถยนต์มือสองในจีนกลายเป็นที่สนใจของผู้ลงทุนรายใหญ่ หลังยอดขายรถยนต์ใหม่ในจีนลดเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี โดย Guazi มีผู้ลงทุนปัจจุบัน อาทิ Tencent และ Sequoia Capital China ส่วน Renrenche มี Didi Chuxing เป็นผู้ลงทุน
Go-Jek แพลตฟอร์มเรียกรถจากอินโดนีเซีย ที่ตอนนี้ทำตลาดในไทยด้วยชื่อ Get ประกาศรับเงินเพิ่มทุนซีรี่ส์ F รอบแรก ซึ่งได้เงินไปราว 1 พันล้านดอลลาร์ จากแผนทั้งหมดที่ต้องการ 2 พันล้านดอลลาร์ ส่วนมูลค่ากิจการยังไม่มีการเปิดเผย แต่คาดอยู่ราว 9.5 พันล้านดอลลาร์
รายชื่อนักลงทุนในรอบนี้ก็มากันครบรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น กูเกิล, JD.com, Tencent ร่วมด้วย Mitsubishi Corporation และ Provident Capital
Go-Jek บอกว่าเงินทุนก้อนนี้จะนำมาใช้ขยายธุรกิจให้กว้างขึ้นภายในอินโดนีเซีย ที่ตอนนี้ทำทั้ง มอเตอร์ไซค์, แท็กซี่, ส่งอาหาร, รับจ่ายเงิน, รับส่งพัสดุ และยังนำเงินมาใช้ขยายกิจการในต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้มีทั้ง เวียดนาม (Go-Viet), ไทย (Get) และสิงคโปร์
Zume สตาร์ทอัพสาย FoodTech ที่เริ่มต้นด้วยการขายพิซซ่าแบบจัดส่งถึงบ้าน โดยใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการผลิตเป็นหลัก ได้รับเงินเพิ่มทุนอีก 375 ล้านดอลลาร์ จาก SoftBank ทำให้มูลค่ากิจการบริษัทพุ่งขึ้นเป็น 2,250 ล้านดอลลาร์
จุดเด่นของ Zume คือการใช้หุ่นยนต์, AI, ออโตเมชัน และครัวเคลื่อนที่ในรถบรรทุก ทำให้สามารถผลิตและอบพิซซ่าได้ในระหว่างที่รถบรรทุกกำลังเคลื่อนจัดส่งไปหาลูกค้า ซึ่งกระบวนการดังกล่าวทำโดยหุ่นยนต์ทั้งหมด จึงได้พิซซ่าที่อบร้อนใหม่จากเตาดีกว่าพิซซ่าเดลิเวอรีแบบเดิม
แผนธุรกิจของ Zume คือการพัฒนาหุ่นยนต์ทำอาหารร่วมกับ ABB เพื่อจำหน่ายให้กับธุรกิจรายอื่น นอกจากนี้ยังเตรียมขยายไปยังหุ่นยนต์ผลิตอาหารประเภทอื่นด้วย ปัจจุบันต้นทุนหุ่นยนต์อยู่ราว 25,000-35,000 ดอลลาร์ต่อตัว
บริษัทรถยนต์ Hyundai ประกาศเข้าลงทุนใน Grab เป็นเงิน 250 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยความร่วมมือนี้เป็นของทั้งรถยนต์ Hyundai และ Kia ที่ Hyundai เป็นถือหุ้นใหญ่
เบื้องต้น Grab, Hyundai และ Kia จะเริ่มต้นโครงการ EV ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สิงคโปร์เป็นแห่งแรก ภายในปี 2019 โดยเป็นการพัฒนารถยนต์ที่คุ้มค่าต้นทุน-การใช้งานมากที่สุดสำหรับบริการ Grab รวมถึงร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการพัฒนาจุดติดตั้งสถานีชาร์จไฟที่เหมาะสม
ตามแผนของ Grab นั้น ต้องการเพิ่มทุนให้ได้ 3,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2018 ซึ่งถึงตอนนี้ก็ได้รับเงินทุนไปแล้ว 2,700 ล้านดอลลาร์
Foursquare บริการแนะนำสถานที่และแอปเช็กอิน ประกาศเพิ่มทุนซีรี่ส์ F อีก 33 ล้านดอลลาร์ โดยมีกลุ่มผู้ลงทุนหลักคือ Simon Ventures, Naver Corp และ Union Square Ventures ซึ่งเป็นผู้ลงทุนเดิมอยู่แล้ว
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา Foursquare ได้ปรับรูปแบบธุรกิจไปมากพอสมควร จากเดิมเป็นโซเชียลเน้นกลุ่มผู้ใช้งานให้เช็กอินแนะนำสถานที่ ก็เปลี่ยนมาเน้นขายลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยอาศัยจุดแข็งด้านข้อมูลพิกัดสถานที่ต่าง ๆ ที่แม่นยำ โดยรายได้ส่วนนี้คิดเป็น 90% ของรายได้ทั้งหมด
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Grab เตรียมเพิ่มทุนรอบใหม่อีก 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยเบื้องต้น SoftBank จะเป็นแกนนำในการลงทุนครั้งนี้ โดยจะเพิ่มเงินไปอีก 500 ล้านดอลลาร์ ส่วนผู้ลงทุนรายอื่นยังไม่ได้ข้อสรุป
เฉพาะปี 2018 นี้ Grab เพิ่มทุนรับเงินไปอีกถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ มีมูลค่ากิจการราว 11,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการเพิ่มทุนต่อเนื่องนี้เกิดขึ้นนับตั้งแต่ Grab เข้าซื้อกิจการ Uber ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่คู่แข่งอย่าง Go-Jek จากอินโดนีเซีย ก็เตรียมรุกตลาดในภูมิภาคนี้มากขึ้น
สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีการศึกษา หรือ EdTech ยังคงเป็นหมวดที่ร้อนแรงในด้านของเงินลงทุน โดยล่าสุด Bloomberg รายงานว่ากองทุน SoftBank Vision กำลังเจรจาเพื่อขอลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ ใน Zuoyebang สตาร์ทอัพ EdTech ของจีน โดยยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาปรับมูลค่าที่เหมาะสม
Zuoyebang (แปลว่า ช่วยทำการบ้าน) ก่อตั้งในปี 2014 โดย Baidu แต่ปัจจุบันแยกออกมาเป็นบริษัทอิสระแล้ว มีกลุ่มผู้ใช้งานหลักคือนักเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาในจีน โดยโฟกัสที่แอปบนมือถือสำหรับให้นักเรียนอัพโหลดการบ้าน จากนั้นก็ค้นหาคำตอบร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีบริการไลฟ์สตรีมมิ่ง, ปรึกษาปัญหาแบบตัวต่อตัว มีจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 300 ล้านคน
จากตัวเลขผลประกอบการของ Tencent ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตในไตรมาสที่ผ่านมา ที่มีกำไรลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ก็เริ่มมีการปรับแผนการบริหารแล้ว
โดย Tencent ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรในรอบ 6 ปี มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือยุบรวมธุรกิจที่เกี่ยวกับคอนเทนต์ และขยายสู่ธุรกิจลูกค้าองค์กรให้มากขึ้น เพื่อให้โฟกัสที่ธุรกิจหลักและสามารถทำกำไรได้
นักวิเคราะห์แสดงความกังวลว่าด้วยทิศทางดังกล่าว Tencent น่าจะกำลังลดการลงทุนในสตาร์ทอัพลง เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ซึ่งตอนนี้เป็นประเด็นที่บรรดาสตาร์ทอัพแสดงความกังวลกัน
ธนาคารกสิกรไทย ประกาศตั้งบริษัทลูก บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KASIKORN VISION COMPANY LIMITED) หรือเรียกย่อว่า เควิชั่น (KVision) ทำหน้าที่เป็นบริษัทลงทุน (Investment Holding Company) นอกประเทศไทย
KVision มีงบลงทุนตั้งต้น 245 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8 พันล้านบาท (ทุนจดทะเบียน 5 พันล้านบาท) มีขอบเขตการลงทุนทั่วโลก แต่ในระยะแรกจะโฟกัส 4 ประเทศคือ จีน ที่มีบริษัท FinTech เป็นจำนวนมาก, อินโดนีเซีย-เวียดนาม ที่มีอัตราการเติบโตของสตาร์ตอัพสูงเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน และอิสราเอล ที่เป็นแหล่งกำเนิดของเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีความพร้อมเรื่องบุคคลากรสูง
มีรายงานว่า Slack แอปสำหรับคุยงานตลอดจนทวงงาน เตรียมรับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุน อาทิ General Atlantic และ Dragoneer ซึ่งทำให้มูลค่ากิจการ Slack เพิ่มขึ้นเป็น 7 พันล้านดอลลาร์
Slack รับเงินทุนรอบก่อนหน้านี้ในปีที่แล้ว 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนำโดย SoftBank และมีมูลค่ากิจการตอนนั้น 5.1 พันล้านดอลลาร์
เงินทุนรอบใหม่ 400 ล้านดอลลาร์นี้ น่าจะทำให้ Slack มีทุนในหน้าตักเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ของแอปติดต่อคุยงานในองค์กร ที่ตอนนี้ไมโครซอฟท์กำลังรุกเข้ามาอย่างหนักด้วย Teams ตลอดจนแข่งขันกับบรรดาแอปแชททั้งหลายที่ถือเป็นคู่แข่งทางอ้อมด้วย
มีรายงานว่า Didi Chuxing แอปแท็กซี่รายใหญ่ของจีน มีแผนจะแยกธุรกิจในเครือออกมา โดยเป็นส่วนบริการด้านรถยนต์ (เช่ารถ, ซ่อมบำรุง, ดีลส่วนลดกับสถานีน้ำมัน ฯลฯ) ซึ่งบริษัทจัดตั้งใหม่นี้จะได้รับเงินทุนต่างหาก ราว 1-1.5 พันล้านดอลลาร์ จากกลุ่มทุนซึ่งรวมถึง SoftBank ที่เป็นผู้ลงทุนรายสำคัญใน Didi อยู่แล้ว
คาดว่าสาเหตุที่ Didi ต้องแยกธุรกิจนี้ เนื่องจากบริษัทมีแผนไอพีโอเข้าตลาดหุ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งกลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีการลงทุนสินทรัพย์ค่อนข้างมาก อาจทำให้ผลประกอบการรวม Didi ขาดความน่าสนใจ
Didi Chuxing มีมูลค่ากิจการหลังการเพิ่มทุนรอบล่าสุดราว 56,000 ล้านดอลลาร์ จึงคาดว่าจะเป็นไอพีโอหุ้นเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงมากอีกรายหากไอพีโอเข้าตลาดหุ้น
จากข่าวดีลใหญ่เมื่อคืนนี้ที่ Walmart เข้าซื้อหุ้น 77% ใน Flipkart อีคอมเมิร์ซรายใหญ่อินเดีย ก็มีผู้ถือหุ้นเดิมหลายรายที่ขายหุ้นให้กับ Walmart รับทรัพย์กันไป มีรายละเอียดดังนี้ (Tencent กับไมโครซอฟท์ยังเลือกถือหุ้นต่อ)
The Wall Street Journal รายงานว่า Grab กำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจาเพื่อรับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่อีก 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทุนรอบที่ 8 และทำให้กิจการอาจมีมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามการเจรจายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ตัวเลขจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ปัจจุบัน Grab ซึ่งได้ซื้อกิจการ Uber ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไป มีการดำเนินงานอยู่ใน 8 ประเทศ และมีมูลค่ากิจการล่าสุดราว 9 พันล้านดอลลาร์ หลังควบรวมกับ Uber โดยนอกจากธุรกิจรถแท็กซี่แล้ว Grab ยังมีอีกสองขาธุรกิจคือ Mobile Payment และบริการส่งอาหารในบางประเทศ
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศลงทุนในบริษัท 1QBit ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านควอนตัมคอมพิวเตอร์จากแคนาดา โดยผ่านบริษัทลูก Digital Ventures (DV) ที่ทำหน้าที่ลงทุนในสตาร์ตอัพทั่วโลก ส่วนมูลค่าการลงทุนไม่ได้เปิดเผย
1QBit ก่อตั้งในปี 2012 โดยมุ่งเป้าเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และอัลกอริทึมสำหรับประมวลผลเพื่อแก้ปัญหายากๆ ด้วยฮาร์ดแวร์ทั้งที่เป็นควอนตัมและไม่ใช่ควอนตัม แนวทางของบริษัทคือไม่ทำฮาร์ดแวร์เอง (hardware-agnostic) และใช้วิธีพาร์ทเนอร์กับบริษัทต่างๆ แทน (ที่ระบุชื่อบนเว็บของ 1QBit คือ Fujitsu และ IBM) ก่อนหน้านี้บริษัทเคยได้รับเงินลงทุนจาก Fujitsu, Accenture, Allianz และ Royal Bank of Scotland
Travis Kalanick ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Uber ประกาศตั้งกองทุน Venture Capital ชื่อว่า 10100 (อ่านว่า Ten-One-Hundred) ซึ่งเขาจะเป็นผู้ดูแลการลงทุนเองโดยตรง
Kalanick บอกว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เขามองหาว่าอะไรจะเป็นสิ่งถัดไปที่น่าสนใจ โดยกองทุน 10100 นี้จะเน้นลงทุนในทั้งโครงการที่เน้นทำกำไรและโครงการที่ไม่แสวงหากำไร
ธีมหลักการลงทุนจะเน้นไปที่โครงการซึ่งสร้างงานจำนวนมาก ในหมวดอสังหาริมทรัพย์, ค้าปลีก และนวัตกรรมใหม่ในจีนและอินเดีย ส่วนโครงการที่ไม่แสวงหากำไรจะโฟกัสไปที่หมวดการศึกษา และการสร้างเมืองแห่งอนาคต
มีรายงานว่า กูเกิล, กองทุนเทมาเส็ก ของสิงคโปร์ และ Meituan-Dianping แพลตฟอร์มออนไลน์รายใหญ่ของจีน เตรียมประกาศร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพแอพเรียกแท็กซี่ Go-Jek ของอินโดนีเซีย ในการเพิ่มทุนรอบล่าสุด ซึ่งผู้ร่วมลงทุนเดิมบางรายก็จะเพิ่มทุนด้วย โดยมูลค่ารวมจะอยู่ราว 1,200 ล้านดอลลาร์
เรื่องนี้มีความน่าสนใจตรงที่แหล่งข่าวนั้นยืนยันว่า กูเกิล เป็นผู้ลงทุนใน Go-Jek เองโดยตรง ไม่ได้ทำผ่านหน่วยงาน Google Ventures แบบที่ไปลงทุนในสตาร์ทอัพตัวอื่น ซึ่งน้อยครั้งมากที่กูเกิลลงทุนตรงแบบนี้ ซึ่งเชื่อว่า Go-Jek จะได้ประโยชน์หลายอย่างจากการร่วมมือกับกูเกิลครั้งนี้
The Wall Street Journal รายงานว่า กองทุน Founders Fund ของ Peter Thiel อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal, นักลงทุนคนแรกๆ ของ Facebook และเป็นผู้เขียนหนังสือ Zero to One ได้เปิดเผยพอร์ตการลงทุนในปีที่ผ่านมา โดยระบุว่าได้ซื้อ Bitcoin เอาไว้ที่ต้นทุน 15-20 ล้านดอลลาร์ และมูลค่าในตอนนี้อยู่ที่หลายร้อยล้านดอลลาร์
จากข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคา Bitcoin ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงทันที โดยราคาปรับตัวเพิ่มมากกว่า 10% จนสูงกว่า 15,000 ดอลลาร์
Thiel เคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว บอกว่าผู้คนยังประเมินมูลค่า Bitcoin ต่ำเกินไป
Didi Chuxing แอพให้บริการแท็กซี่รายใหญ่ของจีน ประกาศเพิ่มทุนรอบล่าสุดอีก 4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปพัฒนา AI, ขยายธุรกิจออกต่างประเทศ และเข้าสู่หมวดธุรกิจใหม่ ซึ่งรวมทั้งรถยนต์ที่ใช้พลังงานรูปแบบใหม่
ในแถลงการณ์ครั้งนี้ Didi ไม่ได้บอกว่าใครผู้ร่วมลงทุนบ้าง แต่บอกเพียงมีกองทุนทั้งจากจีนและต่างประเทศที่เข้าร่วม
Didi เพิ่มทุนครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนถึง 5,500 ล้านดอลลาร์ โดยประเมินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้กิจการมีมูลค่าราว 56,000 ล้านดอลลาร์ จากการเพิ่มทุนรวมทั้งหมดแล้วกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีนักลงทุนดังอาทิ Alibaba, Tencent และแอปเปิล
หลังจากมีข่าวและมีข้อขัดแย้งกันมาหลายเดือน ล่าสุดมีรายงานว่าบอร์ดบริหาร Uber ได้มีมติรับเงินลงทุนจาก SoftBank ซึ่งอาจมีมูลค่ารวมสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ โดยโฆษกของ Uber ยืนยันข่าวนี้แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติม
Tony Fadell ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Nest ลาออกจาก Alphabet ไปเมื่อต้นปี 2016 (เบื้องหลังปัญหาใน Nest)
วันนี้ Fadell เปิดตัวบริษัทใหม่ Future Shape เป็นบริษัทลงทุน Venture Capital และให้คำปรึกษากับสตาร์ตอัพ เน้นไปที่สตาร์ตอัพสาย deep tech หรือเทคโนโลยีเชิงลึก โดยระบุว่าสนใจด้านการเกษตร อาหาร การคมนาคม อุปกรณ์การแพทย์และยา หุ่นยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ การเงิน และสินค้าคอนซูเมอร์ ขอบเขตการลงทุนไม่จำกัดแค่ซิลิคอนวัลเลย์ แต่เน้นทั้งในสหรัฐและยุโรป
Slack แอพคุยงานที่หลายคนใช้ ประกาศรับเงินลงทุนรอบล่าสุดอีก 250 ล้านดอลลาร์ นำโดยกองทุน Vision Fund ของ SoftBank และนักลงทุนรายอื่น ทำให้มีมูลค่ากิจการเพิ่มเป็น 5.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนรอบล่าสุดในปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 3.8 พันล้านดอลลาร์
Slack บอกว่าจะนำเงินที่ได้ครั้งนี้มาใช้ในการดำเนินงานทั่วไป ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ใดเป็นพิเศษ ทั้งนี้ Slack ยังบอกว่าบริษัทมีรายได้จากองค์กรที่สมัครใช้งานแล้วกว่า 200 ล้านดอลลาร์
ที่มา: Bloomberg
Tokopedia เว็บอีคอมเมิร์ซของอินโดนีเซียประกาศรับเงินลงทุนเพิ่ม 1,100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 36,000 ล้านบาท จากนักลงทุนนำโดยกลุ่ม Alibaba ซึ่ง Tokopedia ระบุว่า Alibaba ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นด้วยแต่ไม่ใช่หุ้นส่วนใหญ่
Tokopedia ก่อตั้งในปี 2009 เคยได้รับเงินลงทุนจาก SoftBank ในปี 2014 ราว 100 ล้านดอลลาร์ และเป็น Marketplace รายใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย มีร้านค้าหลายล้านอยู่บนแพลตฟอร์ม
William Tanuwijaya ซีอีโอ Tokopedia กล่าวว่าความร่วมมือกับ Alibaba จะช่วยขยายสเกลและเพิ่มคุณภาพการบริการสำหรับลูกค้า รวมทั้งเปิดโอกาสใหม่ให้กับร้านค้าใน Tokopedia ด้วย