Windows
Symantec รายงานมัลแวร์ตัวใหม่ Trojan.Droidpak ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (ปลอมตัวเป็น DLL) เมื่อมันแฝงตัวบนเครื่องวินโดวส์แล้ว จะดาวน์โหลดไฟล์ .apk และเครื่องมืออย่าง Android Debug Bridge (ADB) เพื่อติดตั้งไฟล์ .apk ลงในอุปกรณ์แอนดรอยด์ถ้ามีโอกาส (เสียบแอนดรอยด์เข้ากับเครื่องวินโดวส์ที่ติดมัลแวร์)
มัลแวร์ที่ติดบนเครื่องแอนดรอยด์จะปลอมตัวเป็น Google Play โดยใช้ไอคอนเดียวกัน และใช้ชื่อคล้ายๆ กันคือ "Google App Store"
Symantec แนะนำให้เลี่ยงมัลแวร์ตัวนี้โดยปิดโหมด USB debugging ถ้าไม่ใช้งาน และติดตั้งซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยของ Symantec ทั้งบนวินโดวส์และแอนดรอยด์
เว็บไซต์ Digitimes ซึ่งมีประวัติรายงานข่าวลือตรงบ้างไม่ตรงบ้าง เปิดเผยว่า Samsung Electronics ได้ตั้งเป้าการส่งมอบโน้ตบุ๊กสู่ตลาดทั่วโลกในปีนี้เพียง 7 ล้านยูนิต ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 12 ล้านยูนิต นอกจากนั้นปีหน้าบริษัทจะไม่เปิดตัวโน้ตบุ๊กรูปทรงปกติ (conventional notebook) อีกแล้ว ยกเว้น Chromebook
แหล่งข่าวระบุว่า ปีที่แล้ว Samsung Electronics ตั้งเป้าส่งมอบโน้ตบุ๊กไว้ที่ 17 ล้านยูนิต แต่กลับทำได้เพียง 12 ล้านยูนิตเท่านั้น อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวก็ไม่ได้ระบุว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทตัดสินใจยกเลิกการผลิตและเปิดตัวโน้ตบุ๊กรูปทรงปกติในปีหน้าหรือไม่
ที่มา: Digitimes
จากเดิมที่ Microsoft ประกาศหยุดการสนับสนุน Windows XP ภายในวันที่ 8 เมษายนที่จะถึงนี้ สิ่งที่น่าวิตกอย่างยิ่งสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวอยู่ คือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่สุ่มเสี่ยงว่าอาจจะโดนผู้ไม่หวังดีเจาะระบบมาขโมยเอาไปได้ และ 95% ของตู้ ATM ทั่วโลก ล้วนอยู่ในข่ายดังกล่าว
BusinessWeek อ้างว่าตู้ ATM กว่า 95% ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่ในขณะนี้ ซึ่งแน่นอนว่ากำลังตกอยู่ภายใต้อภิมวลมหาความเสี่ยงที่จะโดนโจมตีช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการเพื่อดึงเอาข้อมูลสำคัญไปจากตู้ ATM
เทรนด์ในปีนี้ของผู้ผลิตชิปทั้งอินเทล และเอเอ็มดีคงหนีไม่พ้นการนำ Android ขึ้นมารันบน Windows ซึ่งอินเทลล่วงหน้าไปก่อนแล้วด้วยแนวคิด Dual OS ส่วนเอเอ็มดีก็ตามมาติดๆ ด้วยการประกาศเป็นพันธมิตรกับ BlueStacks ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับรันแอพ Android บนเดสก์ท็อปแล้ว
การที่เอเอ็มดีเลือกใช้ BlueStacks เป็นแผนต่อเนื่องจากความตั้งใจที่จะยัดชิป ARM เข้าไปกับชิป APU รุ่นต่อไปของเอเอ็มดี ทำให้จากเดิมเมื่อรันแอพ Android ผ่าน BlueStacks แทนที่จะเป็นการ virtualize โค้ดของ ARM บนซีพียู x86 จะกลายเป็นการรันแบบ native ไปเลย และยังประหยัดพลังงานมากกว่าอีกด้วย
อุปกรณ์ที่เราน่าจะได้เห็นกันเยอะในงาน CES 2014 สัปดาห์หน้าคือ อุปกรณ์ลูกผสมโน้ตบุ๊ก-แท็บเล็ต ที่ใช้ระบบปฏิบัติการคู่ Windows/Android ในตัวเดียวกัน (ตัวอย่าง: รีวิว ASUS Transformer Book Trio)
เว็บไซต์ The Verge อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าววงในว่าเจ้าของไอเดีย Dual OS จริงๆ แล้วไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น "อินเทล" ที่กำลังประสบปัญหายอดขายพีซีแบบดั้งเดิมหดตัว โดยแนวคิดของอินเทลคือการนำ Android มารันบน Windows ด้วยเทคนิคด้าน virtualization และไม่จำเป็นต้องบูตทีละตัว (ซัมซุงเคยใช้กับ ATIV Q แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก)
ไมโครซอฟท์ได้ยื่นจดเครื่องหมายการค้ากับทางสำนักงานด้านการจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (The U.S. Patent and Trademark Office หรือ USPTO) ในคำว่า "Mod"
โดยในรายละเอียดของเครื่องหมายการค้านี้นั้น จะใช้ในชื่อระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์, ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์, ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์เสริมสำหรับคอมพิวเตอร์, ระบบประมวลผลของอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile computing devices) และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่
เท่านั้นยังไม่พอ ไมโครซอฟท์ยังได้จดเครื่องหมายการค้าของคำว่า Microsoft Mod, Windows Mod, Office Mod และ Microsoft Office Mod ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ได้ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า "Mod" นั่นเอง
หลังจากเว็บไซต์ Supersite for Windows รายงานว่าไมโครซอฟท์อาจพิจารณานำ Start Menu กลับมาเป็นทางเลือกในบางรุ่นย่อยของ Threshold หรือแผนการอัพเกรดวินโดวส์รุ่นต่อไป เว็บไซต์ ZDNet รายงานข่าววงในว่า มีความเป็นไปได้สูงมาก (ต้นฉบับบอก highly likely) ที่ไมโครซอฟท์จะนำ Start Menu กลับมา
แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า แผนการนี้มีชื่อเรียกเป็นการภายในว่า mini-Start โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่ใช้ Windows 8.x ร่วมกับคีย์บอร์ดและเมาส์ แต่ทีมงานยังไม่ได้พิจารณาว่า Start Menu จะเป็นอย่างไร
เว็บไซต์ ZDNet มีข้อมูลเพิ่มเติมของ Threshold หรือแผนการอัพเกรดวินโดวส์รุ่นต่อไป ว่ามันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย (ต้นฉบับใช้คำว่า SKU) คือ
เว็บไซต์ ZDNet เผยข้อมูลวงในของโครงการ 'Threshold' ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมๆ ของแผนการออกระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์ 3 ตัวคือ Windows, Windows Phone และ Xbox One
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดของ Threshold ออกมามากนัก เรารู้เพียงว่าไมโครซอฟท์จะหลอมรวมให้ระบบปฏิบัติการทั้งสามมีบริการพื้นฐาน (พวก Office, Bing) ร่วมกันมากขึ้น ตามแผนการที่สตีฟ บัลเมอร์เคยประกาศไว้เรื่อง high value activities (ข่าวเก่า) และเราน่าจะได้เห็นระบบปฏิบัติการใต้แผน Threshold ทยอยเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2015 เป็นต้นไป
หลังจากไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 8.1 อย่างเป็นทางการ ทางเว็บไซต์ ZDNet นำโดยนักข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านไมโครซอฟท์ Mary Joe Foley ก็เริ่มรายงานข้อมูลของ "Windows รุ่นถัดไป" ครับ
ที่มา - ZDNet
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 8.1 เมื่อวานนี้ แม้จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงภายนอกที่ชัดเจนนัก แต่ภายในก็มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ในแง่ความปลอดภัยแล้วความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือวินโดวส์จะเข้ารหัสดิสก์เป็นค่าเริ่มต้น
การเข้ารหัสดิสก์ที่ไมโครซอฟท์เรียกว่า BitLocker เคยเป็นฟีเจอร์เฉพาะรุ่น Pro และ Enterprise เท่านั้น แต่นับจาก Windows 8.1 มันจะกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของวินโดวส์ไป โดยเครื่องที่จะใช้งานได้ต้องผูกบัญชีเข้ากับบัญชีของไมโครซอฟท์เท่านั้น กระบวนการทำงานคล้ายกับ BitLocker แต่ต่างกันที่ระบบกู้คืนข้อมูลจะไปผูกกับเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์
หลังไมโครซอฟท์ทำการบ้านรอบใหม่ให้กับ Windows 8 เพื่อปรับปรุงปัญหาหลายส่วน วันนี้ Windows 8.1 ก็เริ่มปล่อยให้อัพเดตพร้อมกันทั่วโลกแล้วผ่าน Windows Store ฟีเจอร์สำคัญๆ ที่ไมโครซอฟท์ระบุได้แก่
ใครได้รับอัพเดตแล้วเป็นยังไงกันบ้างก็มาเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ
ในงาน IDF อินเทลเพิ่งโชว์ Atom รหัส Bay Trail สำหรับแท็บเล็ตที่รันได้ทั้ง Windows และ Android ชื่อรุ่น Z3770 ในตอนนั้นได้เทียบประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ AMD A4-5000
ผลรอบก่อนอาจจะดูไม่ค่อยน่าเชื่อเพราะมาจากคนในอินเทล แต่ตอนนี้เว็บไซต์ได้แท็บเล็ตรุ่นทดสอบของอินเทลที่ใช้ชิปดังกล่าวมาแล้ว สเปคคร่าวๆ คือหน้าจอ 10" ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล แรม 2GB และรัน Windows 8.1
ผลการทดสอบฝั่ง Windows พบว่า Z3770 ทำงานได้ในระดับใกล้เคียงกับ A4-5000 ตามที่อินเทลบอกไว้แต่แรก ส่วนฝั่งจีพียูจะได้คะแนนน้อยกว่ารุ่นโน้ตบุ๊กพอสมควร แม้ว่าจะใช้ชิป Intel HD4000 เหมือนกัน (น่าจะลดสัญญาณนาฬิกาลงมา)
ไมโครซอฟท์ได้เล่นเกมถามตอบกับผู้ใช้ในเฟสบุ๊ก ถามว่าในกล่องของ Windows 95 มีฟลอปปีดิสก์อยู่กี่แผ่น หลังจากนั้นไมโครซอฟท์ได้ทำการเฉลยว่ามีจำนวนอยู่ 13 แผ่น
พร้อมกันนี้ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเรื่องการเปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด Windows 8.1 (ข่าวเก่า) ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา และทิ้งท้ายตลกว่าไม่จำเป็นต้องใช้ฟลอปปีดิสก์อีกแล้ว
ในงานประชุมภายในประจำปีของไมโครซอฟท์ (ที่สตีฟ บัลเมอร์ร้องไห้) บริษัทก็ประกาศข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างต่อพนักงาน ซึ่งแน่นอนว่าหลุดมายังสื่อต่างประเทศต่อ
ข่าวที่น่าสนใจคือไมโครซอฟท์ประกาศว่า Lumia 520 มือถือ Windows Phone 8 รุ่นล่างราคาถูก กลายเป็น "ฮาร์ดแวร์ที่รันวินโดวส์" ที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ (Lumia 520 is the best-selling Windows device in the world) แซงหน้าพีซี โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ "วินโดวส์" (นับวินโดวส์ทุกชนิด) ในอดีตแล้ว
ไมโครซอฟท์ไม่ได้ให้ตัวเลขว่าตกลงแล้ว Lumia 520 ขายได้เท่าไรครับ
ในงานระดมทุนเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Bill Gates พูดถึงการออกแบบระบบปฏิบัติการวินโดวส์ให้ผู้ใช้ต้องกด Control-Alt-Delete นั้นเพื่อป้องกันไม่ให้แอพอื่นสามารถจำลองหน้าจอล็อกอินขึ้นมาเพื่อหลอกเอาข้อมูลล็อกอินจากผู้ใช้ แต่เขาก็ยอมรับว่าการบังคับให้ผู้ใช้กดคีย์ลัดข้างต้นเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง Gates กล่าวว่าที่จริงบริษัทสามารถออกแบบให้ผู้ใช้กดเพียงปุ่มเดียวได้ แต่คนที่ออกแบบคีย์บอร์ดมาตรฐานไอบีเอ็มไม่ยอมให้ปุ่มนั้นตามที่ไมโครซอฟท์ต้องการ
WZOR ผู้ที่ปล่อยข่าวจากไมโครซอฟท์และซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ก่อนการเปิดตัวมาอย่างยาวนาน เปิดเผยแผนการระบบปฏิบัติการรุ่นถัดไปจากไมโครซอฟท์ ที่มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า Windows 9 และ Windows 10
WZOR กล่าวว่า Windows 9 จะเหมือนกับระบบปฏิบัติการบนเดสก์ท็อปในปัจจุบัน โดยไมโครซอฟท์มีแผนจะนำส่วนติดต่อผู้ใช้แบบ Aero กลับมาอีกครั้ง แต่จะไม่ใช่แบบที่เราเคยพบเห็น และเราจะได้เห็น Windows 9 ในอีกหนึ่งปีนับจากนี้ ส่วน Windows 10 จะเป็นระบบปฏิบัติการบนกลุ่มเมฆ (cloud OS) อย่างสมบูรณ์
นอกจากนั้น WZOR อ้างว่าไมโครซอฟท์มีแผนรวม Windows Phone กับ Windows RT แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมไปกว่านี้
WZOR ทิ้งท้ายว่า จะมีรายละเอียดของแผนการข้างต้นในเดือนกันยายนเป็นต้นไป
โปรแกรมแผนที่ประเทศไทยที่ครบทุกฟังก์ชั่นในแผ่นเดียว ด้วยตำแหน่งสถานที่ที่มากกว่า 270,000 จุด ทั่วประเทศ จากทีมงานที่ลงสำรวจพื้นที่จริง ทำให้คุณทราบตำแหน่งที่แน่นอนและแม่นยำกว่า นอกจากนี้ฟังก์ชั่นหลักต่าง ๆ ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้คล่องและรวดเร็วกว่าเดิม
Google ปรับปรุงบริการ Cloud Print ให้รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows ได้แล้ว
Cloud Print เป็นบริการที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่ออยู่แก่ผู้ใช้งานคนอื่นๆ บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งในทางกลับกัน ทำให้ผู้ใช้ที่อยู่นอกสำนักงานสามารถสั่งพิมพ์งานต่างๆ ผ่านเครื่องพิมพ์ที่อยู่ไกลออกไปได้ ซึ่งเดิมที Google เปิดบริการนี้ให้ใช้งานได้เฉพาะทางเบราว์เซอร์ Chrome บนระบบปฏิบัติการ Chrome OS เท่านั้น
ล่าสุด Google ได้ปรับปรุง Cloud Print ให้สามารถใช้งานบน Windows ได้แล้วเช่นเดียวกันทั้ง Windows XP, Windows Vista และ Windows 7 โดยจะต้องใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ Chrome
หลังจากการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ไม่น่าประทับใจมากนัก รวมไปถึงการต้องลงบัญชีหนี้สูญกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กรณีที่ไม่สามารถขายแท็บเล็ต Surface RT ได้ หุ้นไมโครซอฟท์ได้ตกลงกว่า 12.2% จากราคาสุดท้ายเมื่อวานที่ 35.44 ดอลลาร์ต่อหุ้น มาอยู่ที่ 31.10 ในวันนี้
หากนับเป็นมูลค่าในตลาด ไมโครซอฟท์มีมูลค่าลดลงภายในวันเดียว 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 294 พันล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 258 พันล้านดอลลาร์
หลังจากที่ทางกูเกิลปล่อยให้คนที่ใช้ Chrome Dev Channel ทดสอบ Chrome App Launcher ไปแล้ว ล่าสุด กูเกิลก็ได้ฤกษ์ปล่อย Chrome App Launcher ตัวจริงให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานกันแล้ว โดยโปรแกรมนี้ออกแบบให้ทำงานได้ดีบน Windows 7 และ Windows 8 (เนื่องจากมี super bar อยู่แล้ว)
สำหรับผู้ใช้ Windows สามารถดาวน์โหลด Chrome App Launcher ได้แล้วบน Chrome Web Store ครับ ส่วนคนใช้ Mac นั้นยังไม่มีวี่แววว่ามันจะมาหรือไม่
ที่มา: Engadget
ถ้ายังจำกันได้ สมัยเปิดตัว Windows Phone แรกๆ แอพ Photos สำหรับดูภาพสามารถเชื่อมต่อกับบริการเก็บภาพอื่นๆ อย่าง Facebook และ Flickr ได้ ภายหลังฟีเจอร์นี้ก็ถูกยกมาไว้ใน Windows 8
แต่จากการเปิดตัว Windows 8.1 ออกมา ผู้ใช้ที่อัพเกรดไปแล้วพบว่ามีการทอนฟีเจอร์จากแอพ Photos ลง โดยในรุ่นปัจจุบันนี้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Facebook, Flickr หรือแม้แต่บริการของไมโครซอฟท์เองอย่าง SkyDrive ก็ตาม
รายงานจาก กลต. ของสหรัฐฯ (SEC) เผยข้อตกลงระหว่าง Steven Sinofsky อดีตพนักงานของไมโครซอฟท์ โดยเขาจะได้รับหุ้นจำนวน 418,361 หุ้น มูลค่า 14.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 435 ล้านบาท ถือว่าเป็นรางวัลตาม "ข้อตกลงเกษียณ" สำหรับพนักงานที่ทำงานให้กับไมโครซอฟท์เป็นเวลา 15 ปี และเกษียณที่อายุ 55 ปีหรือมากกว่า
ข้อตกลงนี้ ยังระบุอีกว่า Sinofsky จะไม่สามารถไปทำงานกับบริษัทคู่แข่งของไมโครซอฟท์ และไม่สามารถบอกลูกค้าให้เลือกใช้สินค้าของคู่แข่งได้ จนกว่าจะถึงสิ้นปี 2013 โดยข้อตกลงนี้ถือว่าเป็นข้อตกลง Non-competing ที่บริษัทไอทีหลายรายมีเป็นปรกติอยู่แล้ว
ไมโครซอฟท์ได้บอกมาตลอดว่า Windows จะรันบนหน้าจอสามแบบ นั่นก็คือบนคอมพิวเตอร์ผ่าน Windows 8, บนมือถือผ่าน Windows Phone 8 และ Xbox One อย่างไรก็ตาม นักพัฒนายังไม่เข้าใจว่าไมโครซอฟท์หมายความว่า Xbox One จะรัน Windows เต็มตัวหรือไม่ และสามารถนำโค้ดจาก Windows 8 บนพีซีมาใช้โดยตรงได้จริงหรือ หรือว่า Windows เป็นเพียงแค่ "แบรนด์" ที่ใช้เรียกระบบปฏิบัติการบน Xbox One เท่านั้น
หลังจากที่ไมโครซอฟท์เปิดจอง Kinect for Windows รุ่นนักพัฒนาไป ก็มีคำถามว่าแล้ว Kinect สำหรับ Xbox One นั้นจะใช้กับ PC ได้หรือไม่ ไมโครซอฟท์ได้ยืนยันกับ Ars Technica ว่า Kinect สำหรับ Xbox One มากับการเชื่อมต่อแบบพิเศษและไม่สามารถที่จะต่อเข้ากับ PC เพื่อใช้งานบน Windows ได้ และไมโครซอฟท์เองก็ไม่มีแผนจะทำอุปกรณ์แปลงการเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานดังกล่าวอีกด้วย
ไมโครซอฟท์กล่าวอีกว่า Kinect บน Xbox One กับบน Windows นั้นมีความสามารถใกล้เคียงกัน พัฒนาอยู่บนรากฐานเดียวกัน และมีคุณลักษณะคล้าย ๆ กัน แต่ไม่ได้เหมือนกันทุกประการ และไม่ได้ออกแบบมาให้สามารถใช้งานแทนกันได้