หลังจากก่อตั้งวิกิพีเดียมาจนเติบโตกลายเป็นสื่อที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของโลก Jimmy Wales ก็ลงจากตำแหน่งประธาร Board of Trustees ตามการประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมี Florence Nibart-Devouard ขึ้นมารับตำแหน่งแทนที่ อย่างไรก็ตาม Jimmy Wales ยังคงในตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ และยังคงทำงานร่วมกับทาง Wikimedia ต่อไป
Florence ทำงานในบอร์ดของทาง Wikimedia มาตั้งแต่ปี 2004 โดยเธอเป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด และเป็นผู้ที่สนับสนุนให้วิกิพีเดียมีหลากหลายภาษา
เมื่อวานนี้ในการประชุมของทางสหประชาชาติทางการจีนมีแถลงการที่ทำให้โลกต้องประหลาดใจ ด้วยการระบุว่าทางการจีนไม่มีการบล็อกเว็บไซต์ใดๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อทางการจีนระบุว่าการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ได้นั้นเป็นเรื่องของปัญหาด้านเทคนิค โดยที่ทางการไม่เข้ายื่นมือเข้ามาจัดการแต่อย่างใด
ไม่มีการพูดถึงกรณีของกูเกิลที่ต้องให้ประชาชนจีนทั้งหมดเข้าใช้กูเกิลผ่านทาง Google.cn โดยไม่สามารถเข้าถึง Google.com ได้แต่อย่างใด ไหนๆ แล้วขอยกคำแถลงมาให้ดูกันในช่วงสำคัญ
ปัญหาโน้ตบุ๊กสูญหายหรือถูกขโมยเริ่มเป็นเรื่องที่บริษัทต่างๆ วิตกกังวลกันมากขึ้น สมัยก่อนเป็นประเด็นที่ว่าโน้ตบุ๊กนั้นราคาแพง แต่สมัยนี้ความน่ากลัวคือข้อมูลที่มีมูลค่ามากกว่าตัวโน้ตบุ๊กเองหลายเท่าตัวนั้นถูกพาไปกับตัวโน้ตบุ๊กด้วย ทางแก้ปัญหาในทุกวันนี้ที่มีใช้กันคือการเข้ารหัสที่ตัว File System เช่น NTFS แต่กรณีเช่นนี้ถ้าผู้ใช้เผลอเอาไฟล์สำคัญไปวางไว้นอกส่วนที่เข้ารหัส ข้อมูลนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่ดี แถมการเข้ารหัสที่ระบบปฏิบัิิติการนั้นช้าอย่างไม่น่าให้อภัยกันทีเดียว
หลังการรวมตัว AMD+ATI เสร็จสิ้น สงครามที่คาดการณ์กันว่าจะเกิดขึ้นแน่ก็เริ่มเปิดฉาก เมื่อเอเอ็มดีประกาศว่าภายในสองปี เอเอ็มดีจะวางตลาดชิปรุ่นใหม่ ที่มีชื่อไม่เป็นทางการในตอนนี้ว่า Fusion โดยมันจะเป็นการรวมตัวระหว่าง CPU และ GPU เข้าด้วยกันในชิปตัวเดียว และจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2008 ถึงต้นปี 2009 ที่น่าสนใจคือเอเอ็มดีประกาศว่าชิปตระกูล Fusion นี้จะมีครบทุกสายการผลิตตั้งแต่โน้ตบุ๊กไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์
อาจจะเป็นการประกาศสงครามกันอีกครั้ง เมื่อออราเคิลเปิดตัวโครงการ Unbreakable Linux โดยเตรียมการให้การซัพพอร์ตกับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) แทนเรดแฮท หรืออาจจะพูดอีกอย่างว่า ออราเคิลเอา RHEL มาขายเอง
ออราเคิลระบุว่าโครงการนี้มีผลดีต่อลูกค้า เนื่องจากทางเรดแฮทนั้นให้การซัพพอร์ตเพียงเวอร์ชั่นล่าสุดเท่านั้น ทำให้กลายเป็นการบีบลูกค้าให้ต้องอัพเกรดโดยไม่จำเป็น ทางออราเคิลจึงให้การซัพพอร์ตโดยรับประกันว่าการซัพพอร์ตนั้นจะต่อเนื่องกว่าทางเรดแฮท โดยทั้งนั้นผู้ใช้ Unbreakable Linux นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของเรดแฮทแต่อย่างใด
ออราเคิลระบุว่าซอร์สที่ทางออราเคิลใช้นั้นจะได้รับอัพเดตตามซอร์สของเรดแฮทเป็นระยะ พร้อมกับการเพิ่มโค้ดของทางออราเคิลเอง
พอดีวันนี้มีข่าวเกี่ยวกับการจับผิดบ้านในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากตำรวจได้ให้ข้อมูลของไอพีที่แจกภาพอนาจารเด็กแก่ทางไอเอสพี เพื่อขอข้อมูลของผู้ใช้ไอพีนั้นในเวลาที่ระบุ ความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อทางไอเอสพีส่งข้อมูลใ้ห้กับตำรวจผิดพลาดจนทำให้มีการบุกค้นบ้านผิดหลัง
ประเด็นอย่างนี้เป็นเรื่องน่ากังวลอยู่ไม่น้อย เมื่อไอพีที่เคยเป็นเพียงข้อมูลทางเทคนิคเพื่อให้การส่งข้อมูลเกิดขึ้นได้ กำลังจะกลายเป็นการระบุตัวบุคคลทางกฏหมาย แต่ทางไอเอสพีนั้นเป็นเพียงบริษัทเอกชนที่ดำเนินการค้า เราจะสามารถเชื่อถือข้อมูลของทางไอเอสพีได้เพียงไร และการใช้ข้อมูลเช่นนี้ควรมีผลในทางกฏหมายแค่ไหน
ใน Blognone ผู้อ่านทั้งหมดเป็นผู้ใช้ไอพีแน่นอน ผมจึงขอถามทุกท่านว่่ามีความเห็นต่อประเด็นเช่นนี้กันอย่างไรบ้างครับ
หลายๆ คนที่ไม่อยากใช้วินโดวส์เถื่อน แต่ก็ไม่อยากจ่ายแพง ทางเลือกหนึ่งคือการซื้อเครื่องที่แถมวินโดวส์มาด้วยในตัว แต่พอวิสต้าใกล้ออกเข้าทุกขณะ หลายๆ คนคงเลือกที่จะรอให้วิสต้าออกมาก่อน แล้วค่อยซื้อเครื่องใหม่กัน กระแสนี้เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนไมโครซอฟท์ต้องออกมากระตุ้นตลาดด้วยโครงการ Vista Express Upgrade ให้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ซื้อเครื่องที่รองรับวิสต้าอยู่แล้ว สามารถอัพเกรดไปเป็นวิสต้าได้ฟรี
แม้ทางไมโครซอฟท์จะไม่คิดเงินสำหรับการอัพเกรดนี้ แต่ผู้ผลิตก็อาจจะคิดค่าบริการในการส่งแผ่นซีดีและค่าบริการอื่นๆ ซึ่งก็ยังถูกกว่าการซื้อวิสต้ามาลงเองมากแล้ว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Jimmy Wales ได้เข้ามาถามชุมชนวิกิพีเดียใจเมลลิ่งลิส ว่าชาววิกิพีเดียจะเสนอให้วิกิพีเดียซื้ออะไรจากโลกธุรกิจมาเพื่อแจกฟรีกันบ้าง หากมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้มาซื้อสิ่งนั้นเพื่อแจกให้กับโลกฟรีๆ
ที่น่าสนใจคือเขาระบุว่าเขากำลังคุยกับ คนที่อาจจะทำให้เรื่องนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ ทำให้ตอนนี้ทั้งใน วิกิพีเดียและ Slashdot ก็คุยกันอย่างออกรสว่าจะซื้ออะไรมาแจกกันดี แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวว่าคนที่อาจจะบริจาคเงินจำนวนนี้จะเป็นใคร
หลังจากเราพูดถึงเรื่องของการทดสอบ ACID2 กันมาพักใหญ่ๆ สำหรับ CSS2 ที่บราวเซอร์จำนวนมากเริ่มจะผ่านการทดสอบกันไปแล้ว (ยกเว้น You know who....) ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงการทดสอบการรองรับ CSS3 กันแล้ว โดยทางเว็บ CSS3.info ได้ออกชุดทดสอบจำนวน 578 กรณีเพื่อทดสอบความเข้ากันได้กับ CSS3 เฉพาะในส่วนของ Selector ซึ่งจะซับซ้อนขึ้นมาก
ผลการทดสอบคือ Konqueror นั้นทำได้ดีที่สุด โดยยังมีส่วนที่รองรับไม่สมบูรณ์เพียง 6 หมวดจาก 43 หมวด ส่วนที่สองคือ Fiefox 1.5 ที่ตามมาห่างๆ ด้วยมีหมวดที่ไม่รองรับอยู่ 7 หมวด และหมวดที่มีบั๊กอีก 10 หมวด
สำหรับคนที่รอใช้ Ubuntu ตัวต่อไปคือ 6.10 นั้นคงเหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นที่ต้องรอ แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาเข้ามา Mark Shuttleworth ก็ประกาศแผนการสำหรับเวอร์ชั่นต่อไปทันที กับ Ubuntu 7.04 ที่มีชื่อว่า The Feisty Fawn โดยเขาระบุว่าในเวอร์ชั่นต่อไปนี้ การพัฒนาจะเน้นหนักไปที่ด้านมัลติมีเดีย และเอฟเฟคในเดสก์ทอป ซึ่งรายละเอียดจะมีการตกลงกันอีกครั้งในงาน Ubuntu Developer Submit ที่สำนักงานของกูเกิลในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้
หลังจากประกาศตั้งแต่เดือนที่แล้วว่า Xbox 360 นั้นจะรองรับ HD-DVD ผ่านอุปกรณ์เสริม มาในวันนี้ไมโครซอฟท์ก็เริ่มปลอยรายละเอียดออกมาแล้ว โดยรายละเอียดทั่วไปก็เช่น การเชื่อมต่อกับ Xbox จะผ่านสาย USB และราคาจะอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ Xbox + HD-DVD เป็นทางเลือกในการชมภาพยนต์จากแผ่น HD-DVD ที่คุ้มที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้
ไม่รู้มั่วรึเปล่า แต่บริษัท Terra Soft Solution ก็ออกมาประกาศว่าทางบริษัทได้เตรียมพอร์ต Yellow Dog Linux (YDL) 5.0 ที่แปลงมาจากรุ่น PowerPC ให้สามารถติดตั้งลงเครื่อง PS3 ได้เป็นผลสำเร็จแล้ว นั่นหมายถึงว่าเราสามารถซื้อเครื่อง PS3 แล้วไปโหลด YDL นี้มาลงใช้งานกันได้ทันที!!!!
Terra Soft นั้นเป็นบริษัทที่จำหน่าย YDL สำหรับชิป Power มาก่อนเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ดังนั้นการที่บริษัทอ้างว่าสามารถทำให้ YDL ใช้งานบน PS3 ซึ่งใช้ชิป Power จึงดูไม่ใช่เรื่องเกินจริงไป
ถ้ามันลงได้จริงๆ ใช้ OpenOffice กับ Firefox ลงรุ่นภาษาไทยได้ ผมซื้อมาใช้จริงๆ นะ
ที่มา - Terra Soft Solution
อย่างที่เคยเขียนในบลอคของผมไปแล้วว่าการเขียนบทความและการนำบทความขึ้นหน้าแรกจะมีการปรับปรุงในเร็วๆ นี้ ตอนนี้การปรับปรุงนั้นก็เสร็จแล้ว โดยในตอนนี้ผู้เขียนเดิมสามารถเลือกเขียนบทความทั้งหมดเป็น blog entry ได้ทันที และบทความของท่านจะขึ้นหน้าแรกโดยไม่ต้องการการอนุมัติแต่อย่างใด
ส่วนผู้เขียนที่เป็นสมาชิกปรกติ บทความที่ท่านเขียนจะถูกใส่ไว้ในหน้า Blog ด้านบน ในส่วนนี้สมาชิกที่มีสิทธิในการเขียนข่าวขึ้นหน้าแรกสามารถเข้าไปอ่าน และเมื่อเข้าไปในส่วนของหน้าบทความแล้ว ให้กด promote เพื่อนำบทความขึ้นหน้าแรก โดยท่านต้องกำหนด Category ให้กับบทความนั้นๆ ไปพร้อมกัน
หลังจากโดนบริษัทซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยทั้งหลายบ่นกระจาย เรื่องของการป้องกันการเข้าถึงเคอร์เนลของผู้ผลิตซอฟต์แวร์อื่นนอกจากไมโครซอฟท์เอง วันนี้ไมโครซอฟท์ก็ยอมที่จะเปิดให้ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงเคอร์เนล ซึ่งทำให้ผู้ใช้อย่างเราๆ ท่านๆ สามารถเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยจากผู้ผลิตหลายเจ้าในตลาดได้ แทนที่จะถูกบังคับให้ใช้ OneCare ของไมโครซอฟต์อย่างเดียว
ทางด้านไซแมนเทคซึ่งแสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นระบุว่าทางบริษัทยินดีกับการประกาศครั้งนี้ แต่ยังไม่ได้รับรายละเอียดทางเทคนิคแต่อย่างใด
การประกาศครั้งนี้เดาได้ไม่ยากว่าเกิดจากการกดดันในด้านกฏหมายของสหภาพยุโรป และเกาหลีที่เอาผิดกับไมโครซอฟต์ในเรื่องของการผูกขาดอย่างหนัก ทำให้ไมโครซอฟต์ยอมเปิดกว้างมากขึ้น
เมื่อสองปีก่อนสมัยก่อตั้ง Blognone ใหม่ๆ ผมจำได้ว่าแหล่งข่าวที่ถูกอ้างอิงถึงมากๆ คือ C|Net ที่นับว่าเป็นเว็บข่าวทีแข่งแกร่งที่สุดในยุคนั้นแล้ว
แต่ในวันนี้เว็บบลอคขนาดเล็กที่กระจายตัวไปทั่วอินเทอร์เน็ต และ Social Network เช่น Digg กำลังทำให้ C|Net หมดอำนาจจากอินเทอร์เน็ตไปทีละน้อย จนการวัคจำนวนการเข้าชมครั้งล่าสุดให้ผลที่น่าตกใจ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเข้าชม C|Net เพียง 616 ล้านครั้งเท่านั้น เทียบกับ 1.37 พันล้านครั้งในช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
การลดลงนี้แสดงความน่าวิตกในอนาคตของบริษัทแห่งนี้ แม้จะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดมา
แต่เมืองไทยนี่ยังไม่ค่อยเห็นเว็บใหญ่ๆ หายไปจากตลาด เพราะโดนเว็บอื่นกลืน ยกเว้นที่ทีมงานเลิกทำกันไปเอง
แม้ว่าจะตอบคำถามนักข่าวว่า "เป็นไปตามความต้องการของตลาด" อยู่ตลอดเวลา แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าไมโครซอฟต์ได้เตรียมการรองรับไฟล์ OpenDocument ผ่านทางปลั๊กอินมานานแล้ว โดยการจ้างบริษัทในฝรั่งเศสที่ชื่อว่า Clever Age ให้สร้างปลั๊กอินดังกล่าว
ในตอนนี้ก็มีการยืนยันแล้วว่าปลั๊กอินชุดนี้ซึ่งรองรับ Office XP, Office 2003 และ Office 2007 จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ที่จะถึงนี้ โดยการเปิดตัวนี้จะมีเพียงการแปลงไฟล์ Word กับ ODT เท่านั้น ส่วนไฟล์ Excel นั้นคงต้องรอกันไปถึงปีหน้า
หลังจากบล็อกวิกิพีเดียมานานหลายเดือนเนื่องจากทางวิกิพีเดียปฎิเสธที่จะบล็อกเนื้อหาตามคำขอร้องของทางการจีน เมื่อวานนี้ทางการจีนก็ปล่อยให้ประชาชนเข้าถึงวิกิพีเดียได้แล้วในที่สุด
แม้บางหน้าที่มีเนื้อหาล่อแหลมต่อประชาชนจีนจะยังคงถูกบล็อก เช่น หน้าที่เกี่ยวกับการประท้วงที่จตุรัสเทียนอันเหมิน แต่ก็นับเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ทางการจีนจะไม่ทำการบล็อกทั้งเว็บเช่นเดิมที่จีนเคยทำมา
เป็นที่น่าสงสัยว่าทางการจีนจะทนต่อเนื้อหาที่ล่อแหลมในวิกิพีเดียไปได้อีกนานเพียงใด เนื่องจากเว็บที่เสรีมากๆ อย่างวิกิพีเดียนั้นผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาทางที่การจีนไม่ชอบใจขึ้นมาได้ไม่จบไม่สิ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วจีนคงตระหนักได้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์แบบ
วันนี้มีหลายเรื่อง เลยขอรวบๆ มาไว้เป็นข่าวเดียวเลย เริ่มจากอินเทลเริ่มส่งมอบชิปควอร์ดคอร์ชุดแรกให้กับผู้ผลิตพีซีแล้ว เชื่อกันว่าในช่วงนี้เป็นช่วงของการทดสอบระบบก่อนที่จะมีการวางจำหน่ายชิปตัวนี้ในช่วง กลางเดือนหน้า ส่วนชิปที่ส่งมอบได้เป็นตัวแรกนี้คือ Core 2 Extreme QX6700 หรือที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ในชื่อ Kentsfield ทำงานที่สัญญาณนาฬิกา 2.67 กิกะเฮิร์ต และกินไฟ 110 วัตต์ เทียบกับ Core 2 Duo E6700 ที่กินไฟ 65 วัตต์
ที่มา - TGDaily
เรื่องหนึ่งที่เรารู้กันมาโดยตลอดคือโครงการคอมพิวเตอร์ OLPC นั้นจะมีความสามารถในการสร้างเครือข่ายแบบ Ad-Hoc ที่ไม่ต้องการศูนย์กลางเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการสร้างเน็ตเวิร์คในโรงเรียนได้
แต่ช่วงหลังมานี้ความสามารถนี้อาจจะกำลังทำให้เกิดปัญหากับโครงการอยู่ ด้วยชิปที่ใช้งานคือ Marvell 88W388 ที่มีความสามารถในการสร้างเครือข่ายที่ทางโครงการวางแผนไว้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการคำนวณจากซีพียูโดยแม้แต่น้อย
ปัญหาคือบริษัท Marvell นั้นไม่ยอมอนุญาตให้มีการแจกจ่ายไฟล์ที่จำเป็นสำหรับระบบปฏิบัติการที่ต้องการทำงานกับชิปตัวนี้ได้อย่างเสรี ทำให้คนดังในวงการโอเพนซอร์สอย่าง Theo de Raadt และ Richard Stallman ออกมาต่อต้านเรื่องนี้อย่างชัดเจน
เหตุการณ์วันนี้แสดงความจำเป็นของการอัพเกรดบล็อกอีกครั้ง จากการรายงานข่าวเดียวกัีนถึงสามครั้ง และมีรายงานครั้งแรกก่อนรายงานที่ได้ขึ้นหน้าแรกกว่าสามชั่วโมง
ผมได้คาดคิดไว้ก่อนแล้วว่าจะมีปัญหานี้เกิดขึ้น และกำลังวางแผนการแก้ไข โดยการให้สมาชิกที่มีสิทธิเขียนข่าวอยู่แล้ว สามารถย้ายเอกสารขึ้นหน้าแรกได้อย่างอิสระ พร้อมกันการใส่ Category ให้กับข่าวนั้นๆ แต่ข่าวในวันนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการอัพเกรดที่วางแผนไว้นี้
หลังจากโดนกลุ่มแฮกเกอร์มือดีที่ใช้ชื่อว่า TheSpecialist ประกาศความสำเร็จในการแฮก Xbox 360 ให้เล่นแผ่นไรต์ได้ไปก่ิอนหน้านี้ ด้วยการแฮกเฟิร์มแวร์บนไดร์ฟออปติคอล ผู้ที่ซื้อ Xbox 360 รุ่นใหม่ๆ จะพบว่าบนบอร์ดไดร์ฟดีวีดีนั้นถูกทากาวสีดำไว้บนตัวเฟิร์มแวร์เรียบร้อยแล้ว
แม้ความพยายามนี้จะมีเพื่อป้องกันการแฮกในอนาคต แต่เชื่อได้ว่าวิธีการง่ายๆ อย่างนี้ไม่น่าจะทำให้เหล่าแฮกเกอร์ที่จ้องหาทางอยู่้หมดหวังแต่อย่างใด
เมื่อการแข่งขันกำลังรุนแรงและตลาดแสดงศักยภาพอย่างเห็นได้ชัด ตลาดวีดีโอออนไลน์ก็เริ่มแผ่รัศมีของเม็ดเงินจำนวนมหาศาล มาให้เราได้เห็นกันเรื่อยๆ ล่าสุดเริ่มมีข่าวลือถึงการที่กูเกิลเข้าเจรจาซื้อ YouTube ด้วยมูลค่าถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ทาง YouTube ปฎิเสธที่จะไม่ให้ความเห็นใดๆ ต่อข่าวลือ
โครงการ Defective by Design ประกาศให้เมื่อวานที่ผ่านมาเป็นวันต่อต้าน DRM สากล ด้วยการหาแนวร่วมให้กระจายความรู้ว่าการใช้ DRM นั้นมีข้อเสียอย่างไรบ้าง โดยผู้ที่เข้าร่วมจะใส่ชุดกันเชื้อโรคเพื่อเผยแพร่ความรู้นี้ไปทั่วโลก
โครงการ Defective by Design นี้ก่อตั้งโดย Free Software Foundation ที่รู้กันว่าริชาร์ด สตอลแมนนั้นเกลียด DRM อย่างมาก ถึงกับใส่ส่วนที่ทำให้ GPLv3 ไม่เข้ากับการใช้ DRM อย่างเต็มรูปแบบ
เรื่องแปลกๆ เรื่องหนึ่งคือคำขวัญของโครงการนี้ เป็นคำพูดของ Peter Lee ผู้บริหารดิสนีย์ ที่ระบุว่า
"If consumers even know there's a DRM, what it is, and how it works, we've already failed" - Peter Lee.
ทุกวันนี้หลายๆ คนอาจจะริปดีวีดีไว้ดูในเครื่องกันเป็นเรื่องปรกติ ทั้งที่แผ่นดีวีดีนั้นมีมาตรฐานการเข้ารหัสที่ค่อนข้างแน่นหนา เรื่องนี้สำเร็จได้เพราะชาวนอร์เวย์ที่ชื่อว่า Jon Lech Johnasen หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า DVD Jon ในเวลานั้นเขาถูกฟ้องจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างหนัก แต่สุดท้ายก็หลุดจากข้อกล่าวหานั้นมาได้
ในตอนนี้ DVD Jon ก็กลับมาอีกครั้ง ด้วยการแกะมาตรฐาน FairPlay ของแอปเปิล แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้แกะมาตรฐานนี้เพื่อที่จะถอดระบบป้องกันการทำสำเนานี้แต่อย่างใด แต่เป็นการแกะมาตรฐานเพื่อขายให้บริษัทที่ต้องการขายบริษัทที่ต้องการให้เพลง หรือภาพยนตร์ของตนสามารถใช้งานบนไอพ็อดได้โดยไม่ต้องผ่านทางแอปเปิลอีกต่อไป