ในสภาวะที่เอชทีซีย่ำแย่จากผลประกอบการที่ดิ่งต่อเนื่อง 3 ไตรมาสรวด ไมโครซอฟท์ที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าซื้อโนเกียไปแล้วจะทำยังไงต่อนั้น ก็เข้ามาเสนอแผนกอบกู้วิกฤตของบริษัทครั้งใหญ่ในมาดฮีโร่ขี่ม้าขาว ด้วยการเสนอให้เอชทีซีเข้าไปใช้งาน Windows Phone แบบฟรีๆ ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ต่อเครื่องแม้แต่เครื่องเดียว เพราะแนวทางที่ไมโครซอฟท์เสนอเอชทีซีไปนั้น ก็คือการจับ Windows Phone ยัดเข้าอุปกรณ์ Android ที่มีอยู่แล้ว เพื่อเป็น "ทางเลือกเสริมกับผู้ใช้" นั่นเองครับ
วันนี้ดีแทคได้เผยว่าบริษัทได้เตรียมพร้อมที่จะดำเนินการ 4G LTE อย่างเป็นทางการแล้ว โดยในขณะนี้ได้เข้าดำเนินการปรึกษาหารือแนวทางดำเนินการกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด เพื่อที่จะนำคลื่น 1800 MHz ส่วนที่ไม่ได้ใช้งานจำนวน 24.5 MHz มาเปิดให้บริการ โดยรูปแบบธุรกิจคร่าวๆ ของบริการ 4G LTE ที่ดีแทคจะดำเนินการนั้น จะเหมือนกับฝั่งทรู คอร์ปอเรชัน (TrueMove H) ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนขายต่อบริการครับ (สั้นๆ ก็ MVNO ของ CAT ครับ)
มีรายงานจาก China Times ว่าสองบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของไต้หวันอย่าง เอเซอร์ และ เอซุส เตรียมที่จะควบกิจการกันเอง ทั้งนี้ก็เพื่อหนทางอยู่รอดของทั้งสองบริษัท ท่ามกลางสภาวะความไม่แน่ไม่นอนของโลกไอทีที่ปัจจุบันไม่ได้ผูกขาดกับ Windows และอินเทลแล้ว
โดย Johnny Shih ประธานบอร์ดของเอซุส ให้ความเห็นว่าขณะนี้พวกเขามองว่าการควบรวมกิจการ น่าจะเป็นไปได้พอสมควรแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทลงทุนและหากำไรได้ด้วยตนเอง (ต้องไม่ลืมว่านอกจากคอมพิวเตอร์ เอซุสยังขายชิ้นส่วนแบบ DIY อยู่ด้วย) แต่พอมาในช่วงสองปีนี้ ยอดขายเมนบอร์ดที่เป็นรายได้หลักของบริษัท กลับลดลงอย่างน่าใจหายแบบปีต่อปี เอซุสจึงตัดสินใจเปิดไลน์อุปกรณ์พกพาเพิ่ม เพื่อหาทางรอดให้บริษัท
วันนี้ BlackBerry ได้เผยว่า Fairfax Financial Holdings Limited หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ BlackBerry แล้ว โดยให้ราคาหุ้นละ 9 ดอลลาร์สหรัฐฯ รวมแล้วเป็นเงิน 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ
ทั้งนี้ BlackBerry เผยว่าการเข้าซื้อหุ้นเพื่อควบกิจการในครั้งนี้ ในขั้นต้นเป็นเพียงการลงนามความเข้าใจกันและรับข้อเสนอในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งรายงานก็ยังระบุอีกว่า ข้อตกลงนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 4 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งระหว่างนี้ถ้า BlackBerry สามารถคุยกับเจ้าอื่นแล้วได้ข้อเสนอที่ดีกว่า BlackBerry ก็ยังมีสิทธิ์ขายให้กับบริษัทอื่นตามปกติ แต่ถ้าไม่ Fairfax ก็จะเข้าซื้อหุ้น BlackBerry ทั้งหมดแทน
วันนี้บริษัท ทีโอที คอร์ปเรชัน จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์เรื่องการสิ้นสุดสัญญา MVNO ระหว่างทีโอที กับ บริษัท 365 คอมมูนิเคชัน จำกัด หลังจากที่เปิดให้บริการ 3G 365 มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 พร้อมๆ กับผู้ให้บริการรายอ่ืนๆ โดยทีโอทีแจ้งว่า 365 คอมมูนิเคชัน ไม่ประสงค์ที่จะต่อสัญญาขายต่อบริการ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ลูกค้าในกลุ่มของ 3G 365 กำลังจะถูกลอยแพ
หลังจากที่โดนมือดีตีแผ่และเปิดเผยความลับของ Xperia Z Ultra และ Xperia Z1 อย่างหมดเปลือกตลอดช่วงเดือนเมษายน-กันยายนที่ผ่านมา (ย้อนอ่านข่าวเก่าๆ ได้ใน Tag Xperia) งานนี้หัวเรือใหญ่อย่างโซนี่เลยตัดสินใจ ออกกฎเหล็กเรื่อง การเก็บความลับของอุปกรณ์ต้นแบบ ขึ้น โดยเงื่อนไขก็คือถ้าพนักงานคนใดคนหนึ่งฝ่าฝืนกฎนี้และโซนี่สามารถสาวเรื่องราวกลับมาได้ ก็จะได้รับบทลงโทษร้ายแรงโดยไม่มีการประนีประนอมครับ
เพิ่งวางขายไปได้ไม่นานเท่าไหร่ ปรากฎว่า Xperia Z1 เจอปัญหาหนักเข้าให้แล้ว หลังจากที่มีผู้ใช้บางกลุ่มรายงานว่าเมื่อทำการปลดล็อก Bootloader เพื่อใช้งานในระดับฮาร์ดแวร์ของเครื่องไปแล้วนั้น ปรากฎว่ากล้องไม่สามารถใช้งานได้เลย ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่หาย นอกจากทำการล็อก Bootloader ไปอีกครั้ง (Re-lock)
ข่าวนี้อาจสร้างความเคียดแค้นให้กับคนที่ใช้ Windows Phone 7/Windows Phone 7.5 อยู่พอสมควร เพราะล่าสุดไมโครซอฟท์ได้ออกประกาศเรื่องการปรับเปลี่ยนจุดยืนของ Skype for Mobile ใหม่ โดยที่เป็นข่าวหนักสุดก็คือการปรับจุดยืนของ Skype for Windows Phone ใหม่ที่ทำให้อายุขัยของ Windows Phone 7 สั้นลงครับ
ประกาศดังกล่าวไมโครซอฟท์ระบุว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Skype for Windows Phone 7 จะหยุดการพัฒนาเพิ่มเติมแล้ว และจะมองข้ามไปยังแพลตฟอร์มที่ดีกว่าอย่าง Windows Phone 8 แต่อย่างไรก็ตามแอพพลิเคชันที่เป็นเวอร์ชัน Windows Phone 7 นั้น ไมโครซอฟท์จะยังไม่ถอดออก โดยจะยังคงไว้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้ามาดาวน์โหลดไปใช้งานได้ตามปกติครับ
เมื่อวานนี้บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานดินเนอร์เล็กๆ เพื่อแนะนำ LG G2 อย่างเป็นทางการ ทีนี้ในสไลด์ที่ LG ได้เปิดให้ผมดู เขาอธิบายเรื่องกล้องไว้ยาวพอสมควร งานนี้ก็เลยปิ๊งไอเดียสานต่อศึกประชันกล้องระหว่างตัวเทพฝั่งแอนดรอยด์ กับตัวเทพฝั่ง Windows Phone ซะเลยครับ
หลังจากที่มีข่าวออกมาว่า โนเกียมีแผนทำสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อยู่จริง แต่ล่มไปหลังไมโครซอฟท์เข้าซื้อกิจการนั้น ล่าสุดตัวแทนของโนเกียออกมายอมรับแล้วว่าทำแอนดรอยด์จริง แต่ยังไม่ได้ล้มโครงการซะหน่อย
หลังจากที่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการของ Bravia Smart Stick ออกมาเมื่อวันก่อน ล่าสุดมีข้อมูลออกมาเพิ่มเติมแล้วครับ สรุปเป็นหัวข้อได้ดังนี้
โซนี่เผยข้อมูลของ Bravia Smart Stick หรือเจ้าอุปกรณ์ปริศนาที่หน้าตาคล้าย Chromecast ก่อนหน้านี้ออกมาแล้วครับ
โดยเจ้า Bravia Smart Stick ตัวนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับทีวีได้โดยผ่านพอร์ต MHL ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ไฟเลี้ยงจากทีวีหรืออแดปเตอร์ภายนอกเหมือน Chromecast เห็นขนาดเล็กแค่นี้แต่จริงๆ แล้ว ข้างในรัน Google TV ตัวเต็มพร้อมพรีโหลดแอพพลิเคชันของโซนี่เองด้วยครับ เบื้องต้นโซนี่ระบุว่ามันสามารถเชื่อมต่อกับพอร์ต MHL ของโซนี่บราเวียรุ่นปี 2013 ได้ แต่ไม่ได้บอกว่าไม่สามารถเชื่อมต่อกับทีวียี่ห้ออื่นได้ ดังนั้นน่าจะทำให้เดาได้ว่า ถ้าทีวีรุ่นที่ต้องการมีพอร์ต MHL ก็สามารถนำ Bravia Smart Stick ไปเชื่อมต่อได้เช่นกัน
เรื่องของเรื่องคือ มีรายงานจาก The New York Times ซึ่งระบุว่าก่อนไมโครซอฟท์จะตัดสินใจซื้อฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์พกพาของโนเกียนั้น ตัวทีมงานของโนเกียเองก็เคยทดสอบเอาแอนดรอยด์ไปรันบน Lumia มาแล้ว ซึ่งแผนการณ์นี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะซื้อกิจการโนเกียไป
ทั้งนี้มุมมองจาก NYT ระบุว่า การที่โนเกียทดสอบแอนดรอยด์ด้วยตัวเอง ถึงแม้จะปฏิเสธมาแล้วหลายครั้งหลายหนนั้น คงเป็นแผนการสำรองหรือ Plan B ในกรณีที่การทำ Windows Phone 8 ร่วมกับไมโครซอฟท์นั้นล้มเหลวไปอีก ดังนั้นเพื่อที่จะให้บริษัทมีรายได้เข้ามาชดเชยในส่วนที่เสียโอกาสไปนั้น การพิจารณาและทดสอบแอนดรอยด์บน Lumia จึงเริ่มขึ้น แต่ก็เริ่มไปได้ไม่นาน เพราะไมโครซอฟท์เข้าซื้อกิจการซะก่อน
หลังจากที่ผลประกอบการของบริษัทตกต่ำมาตลอด ถึงขั้นที่ Reuters เคยออกมาแฉเบื้องหลังความตกต่ำในครั้งนี้ ว่าเกิดจากสไตล์การบริหารของ Peter Chou และในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็มีข่าวลือเล็กๆ ออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นของเอชทีซีอาจจะพิจารณาปลด Peter Chou ลงจากเก้าอี้ CEO และหา CEO คนใหม่มาเปลี่ยนตัวแทน แต่ในที่สุดเอชทีซีก็ตัดสินใจยุติข่าวลือนี้เรียบร้อย
@arte3gee ได้ทวีตกำหนดการการวางจำหน่าย LG G2 ในประเทศไทย โดยอ้างว่าที่ทวีตออกไปนั้นเป็นแผนการคร่าวๆ จากตัว LG ประเทศไทยเลย ซึ่งข้อมูลที่ @arte3gee ได้ทวีตออกมาก็คือ LG G2 ในประเทศไทย จะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยราคาค่าตัวถูกเคาะอยู่ที่ 19,900 บาท และมีเพียงรุ่นเดียวคือรุ่นขนาด 32 GB ส่วนขนาด 16 GB ที่เคยอ้างไว้จากข่าวงานเปิดตัวก่อนหน้านี้ LG ประเทศไทย ตัดสินใจไม่นำเข้ามาจำหน่ายครับ
ถ้า LG ตั้งราคานี้ให้กับ G2 จริงๆ จะเป็นการตั้งราคาชน LG Optimus G Pro และ Sony Xperia Z รุ่น LTE ที่มีค่าตัวอยู่เท่ากันเลยก็คือ 19,900 บาทครับ และน่าจะทำให้ตลาดในราคาหมื่นปลายๆ ถึงสองหมื่นต้นๆ สะเทือนไปพอสมควรครับ
หลังจากที่เปิดตัว Cyber-Shot QX อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดโซนี่ได้เปิด Camera Remote API ให้นักพัฒนาทั่วไปสามารถนำไปใช้งานได้แล้วครับ
โดย Camera Remote API ที่โซนี่เปิดไปนั้น จะเป็น API ที่เกี่ยวข้องกับระบบการควบคุมกล้องถ่ายรูปในหลายๆ รุ่นของโซนี่ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานเจ้า Cyber-Shot QX หรือกล้องที่รองรับนั้น แทนกล้องหลักที่อยู่บนตัวสมาร์ทโฟนได้เลย ซึ่งรูปแบบการใช้งานก็คงเหมือนๆ กับแอพพลิเคชัน PlayMemories Camera ที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมๆ กันครับ
สำหรับอุปกรณ์ล็อตแรกที่จะสามารถใช้งาน API ตัวนี้ได้ จะมีดังนี้ครับ
เมื่อวานนี้บริษัท แอลจี อิเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยผู้บริหารใหม่คือคุณอนุพันธ์ ภักดีศุภฤทธิ์ ได้นำทีมจัดงานเปิดตัว LG G2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการโดยใช้ชื่องานว่า LG G2 Days Thailand งานนี้ก็คงไม่พูดมากเพราะบอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็นงานเปิดตัว LG G2 อย่างเป็นทางการ และที่สำคัญ LG ยังได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของ LG G2 ด้วย ซึ่งนั่นก็คือคุณชาคริต และคุณวุ้นเส้น วิริฒิภา แย้มนาม ที่เป็นแบรนด์แอมบาสเซเดอร์ของ LG อยู่แล้วด้วยครับ
แน่นอนว่าในงานก็มีเครื่องจริงให้ลองจับเช่นกัน ผมได้ลองจับเพียงแปปเดียวเพราะคนในงานก็เยอะมาก และเครื่องเพิ่งมาจากเกาหลีแค่ 6 เครื่อง จึงต้องเวียนๆ มือกันไปน่ะครับ เอาเป็นว่าดูรูปลักษณ์คร่าวๆ ไปก่อนก็แล้วกันครับ
หลังจากที่เอชทีซีเพิ่งแตกสีลูกหลานของ HTC One ออกมา และมีข่าวว่านอกจากสีแดงหรือ Glamour Red แล้วนั้น เอชทีซียังมีแผนสีฟ้าอยู่ด้วย และในที่สุด นั่นก็กลายมาเป็นสีใหม่ของ HTC One ในวันนี้ครับ
สีใหม่ของ HTC One และ HTC One Mini ก็คือสีฟ้า หรือชื่ออย่างเป็นทางการก็คือ Vivid Blue ซึ่งสีฟ้าของทั้งสองแตกต่างกันเพียงจุดเดียว คือ HTC One จะเล่นขอบโพลีคาร์บอเนตเป็นสีดำเหมือนสีแดง แต่ HTC One Mini จะเล่นขอบเป็นสีฟ้าอ่อน แล้วใช้ปุ่มจริงเป็นสีขาวครับ
วันนี้ Crytek ประกาศเปลี่ยนแปลงจุดยืนครั้งใหญ่ของเอนจินประจำค่าย นั่นก็คือ CryEngine ครับ ซึ่งการเปลี่ยนจุดยืนในครั้งนี้ Crytek ได้อธิบายว่า จะเป็นการลดความสับสนให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้จะได้ไม่ต้องงงว่าเกมไหนใช้ CryEngine 2 หรือ CryEngine 3 อยู่นั่นเองครับ
สำหรับจุดยืนใหม่ของ CryEngine นั้น จะใช้ชื่อ CryEngine เพียวๆ อย่างเดียว โดยไม่มีตัวเลขห้อยสอยท้าย และนอกจากนี้ CryEngine ตัวใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้นั้น ตัวเอนจินจะถูกพัฒนาต่อจาก CryEngine 3 เดิม แต่เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิม ในแง่นักพัฒนานั้น ตัว SDK จะมีลูกเล่นในการปรับโทนแสง สี และสภาพแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นครับ แน่นอนว่าเอนจินตัวใหม่นี้ สามารถใช้งานได้ทั้งบน PC และบนคอนโซลรุ่นใหม่อันได้แก่ PS4, Xbox One, Wii U ครับ
วันนี้กูเกิลประกาศปรับปรุงการเข้ารหัสวิดีโอสนทนาผ่าน Hangout จากเดิมที่ใช้ H.264 อยู่มาเป็น VP8 (ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ WebM) ซึ่งเป็นการเดินเท้าตาม Skype ที่เปลี่ยนมาใช้ VP8 มาก่อนในปี 2011
โดยทั้งนี้กูเกิลยังอธิบายเพิ่มด้วยว่า การเปลี่ยนมาใช้ VP8 นอกจากจะทำให้การสนทนาแบบวิดีโอความละเอียดสูงทำได้ราบลื่นแล้วนั้น ยังจะทำให้ผู้ใช้สามารถทำสตรีมมิ่งวีดีโอแบบสดๆ ผ่าน Hangout ได้เลยในทันที โดยไม่ต้องหาโปรแกรมหรือเว็บไซต์สำหรับสตรีมมิ่งวิดีโอเพิ่มเติมครับ
ถัดจากค่ายแดง ก็เป็นทีของค่ายเขียว AIS ที่ GSM 1800 จะหมดสัญญาสัมปทานพร้อมกันในวันเดียวกัน โดยกรณีของ AIS หรือดิจิตอลโฟน ได้ออกประกาศปลดพันธะทุกอย่าง ซึ่งผู้ใช้บริการจะยังคงสามารถใช้บริการได้ตามปกติจนถึง 15 กันยายน พ.ศ. 2557 ตามประกาศความคุ้มครองของกสทช. ก่อนที่จะ Switch Off เครือข่ายลงครับ
เมื่อวานนี้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือกสท. (ที่เป็นหน่วยงานย่อยใน กสทช.) ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนไปยังสำนักงาน กสทช. ในเรื่องของการที่ช่อง "แก๊งค์การ์ตูน" ของบริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ออกอากาศฉากที่ไม่เหมาะสมออกไป โดยให้ความเห็นว่าช่อง "แก๊งค์การ์ตูน" ทำผิดมาตราที่ 37 และกำลังพิจารณาบทลงโทษต่อไปครับ
ดูเหมือนว่าความหวังที่จะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในทุกประเทศทั่วโลกของซัมซุงคงต้องฝันสลายแล้ว หลังจากที่ IDC ได้สำรวจส่วนแบ่งของสมาร์ทโฟนเมื่อช่วงสิ้นไตรมาสที่สองที่ผ่านมา ผลก็คือส่วนแบ่งเฉพาะในฟินแลนด์โนเกียกลับมาอยู่อันดับที่ 1 ด้วยส่วนแบ่ง 36% ส่วนซัมซุงหล่นไปเป็นที่สองด้วยส่วนแบ่ง 34% ครับ
ทั้งนี้ก็เป็นผลมาจากการที่ผู้ให้บริการในฟินแลนด์ต่่างก็ให้แรงสนับสนุนและผลักดันให้ Nokia Lumia เข้าไปครองใจผู้ใช้งาน ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนจนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และก็อย่างที่เราทราบกันว่าจากสเปคขั้นต่ำของ Windows Phone รวมถึงกับการที่โนเกียก็ต่างออกลูกหลานสาย Lumia ในช่วงนั้นมาเยอะพอสมควร ดังนั้นจึงทำให้โนเกียสามารถกวาดส่วนแบ่งในส่วนตลาดกลางถึงล่างที่ซัมซุงยังทำได้ไม่ดีเท่าไปได้ครับ
แอปเปิลเพิ่งเปิดให้เข้าใช้งาน iWork for iCloud แบบไม่จำกัดจำนวนมาได้สองวัน ล่าสุดแอปเปิลตัดสินใจปิดการใช้งาน iWork for iCloud สำหรับบุคคลทั่วไปอีกรอบแล้ว หลังจากมีผู้เข้ามาใช้งานเยอะเกินกว่าที่ระบบจะรองรับได้
โดยผู้ที่เคยเข้าใช้งานได้ แต่หลังจากวันที่ 26 สิงหาคมกลับใช้งานไม่ได้ ระบบจะแจ้งว่าเป็นมีปัญหาเพราะมีจำนวนผู้ใช้งานเยอะเกินเหตุแทน (Overwhelming response) และจะให้กลับมาตรวจสอบทีหลัง ซึ่งแอปเปิลก็ได้สัญญาเอาไว้ว่า งานที่เก็บเอาไว้บน iCloud จะไม่หายไปไหนครับ
ส่วนวันที่จะประกาศเปิดใช้งานจริงนั้น ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอนครับ
โน้ตบุ๊คลูกครึ่ง Android/Windows 8 อย่าง Samsung ATIV Q มีแววต้องเป็นอันยกเลิกสายการผลิตลงแล้ว หลังจากที่มีรายงานว่าผลิตภัณฑ์นี้มีปัญหาในเรื่องสิทธิบัตรจนทำให้ต้องเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ในโอกาสที่เลวร้ายที่สุด อาจจะต้องยกเลิกการผลิตเลยทีเดียว
ทั้งนี้รายงานระบุว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีปัญหาในเรื่องของสิทธิบัตรที่ว่าด้วยการรันระบบปฏิบัติการพร้อมกันสองตัวในเวลาเดียวกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ทราบได้ว่าสิทธิบัตรตัวนี้คลอบคลุมถึงการรันระบบปฏิบัติการพร้อมกันสองตัวแบบที่ตัวที่หนึ่งเป็น Full Load และตัวที่สองเป็นระบบจำลองหรือ VM หรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าของสิทธิบัตรยังไม่ได้ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนครับ