อธิบายก่อนว่า "Places" เป็นการรวม Bookmarks กับ History เข้าด้วยกัน และเพิ่มความสามารถในการจัดเรียง, ค้นหาและอื่นๆ เข้าไป โดยเก็บข้อมูลเป็น SQLite แทนที่จะเป็น XML/RDF แบบเวอร์ชันเดิมๆ Places เป็นฟีเจอร์สำคัญใน Firefox 2.0 และออกมาให้เราได้ลองใช้กันใน Alpha 1 แล้ว

แต่เนื่องจากปัญหาในการพัฒนาและกลัวว่าจะกระทบต่อกำหนดการของ Firefox 2.0 ดังนั้น Places จึงถูกถอดออกจาก Mozilla 1.8 branch ไปซะแล้ว ขยายความว่ามันจะโผล่มาอีกครั้งใน Firefox 3.0 นู่นเลย (อ่านคำแถลงใน newsgroup)

หลังจากทุ่มกำลังในการวิจัยการแปลแบบใช้สถิติมานาน กูเกิลก็เริ่มแสดงความสำเร็จในการแปลภาษาต่างๆ และล่าสุดกูเกิลก็ประกาศความสำเร็จในการแปลภาษาอาหรับ ซึ่งนับว่ายากที่สุดภาษาหนึ่งในโลก และนับเป็นการเปิดตัวที่สวยทีเดียว เพราะการวัดคุณภาพการแปลออกมาเป็นคะแนนแล้ว พบว่าระบบการแปลของกูเกิลนำเป็นที่หนึ่งในแทบทุกหมวด โดยการเปิดงานวิจัยนี้มีพร้อมๆ กับการเปิดเว็บเดโมให้ดูกัน

อนาคตเราคงเดาได้ว่าทุกคนจะสื่อสารผ่านกัน โดยไม่มีภาษาเป็นกำแพง แต่ต้องสื่อสารกันผ่านกูเกิลที่จะแสดงคำโฆษณาให้เราตลอด จะว่าน่าทึ่งหรือน่ากลัวดี?

หลังจากที่มีการประกวดทำหนังสั้นไม่เกิน 30 วินาทีเพื่อการโฆษณา Firefox โดยรับสมัครจากบุคคลทั่วไป ทั้งหมดประมาณ 300 ชิ้น ตอนนี้ก็ได้ประกาศผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศออกมาแล้ว คือหนังโฆษณาชุด DareDevil ตามมาด้วย ที่สองคือชุด Wheee! และที่สาม Fox Fever โดยมี This is Hot และ Give me the the soap ได้รับรางวัลชม

ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Windows Live Shopping แล้ว แต่ยังไม่ซัพพอร์ต Firefox ในเวอร์ชั่นนี้ โดยผู้ที่ใช้ Firefox เข้าไปยังหน้าเพจดังกล่าวจะเห็นข้อความ

"We're sorry. Windows Live Shopping Beta does not yet support Firefox. We’re working to correct this as soon as possible."

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว Windows Live Expo ซึ่งเป็นบริการที่ให้ user ทั่วไปนำของมาซื้อขายกันอีกด้วย

ที่มา - cybernetnew, windows live shopping

แอปเปิลได้จดสิทธิบัตรคีย์บอร์ดบนจอสัมผัสที่มีรูปร่างโค้ง (รูป) ที่รูปร่างคล้ายๆ กับคีย์บอร์ดบนจอสัมผัสของไมโครซอฟท์บน UMPC (รูป)

หรือว่ามันจะมีไว้สำหรับ Apple PDA?

แต่ดูรูปร่างของคีย์บอร์ดแล้วรู้สึกว่านิ้วโป้งมือขวาคงจะแข็งแรงขึ้นอยู่ หลังจากใช้งานไปสักพัก

ที่มา - MacRumors

หลังจากมินอลต้ายอมยกธงขาวไป ในตอนนี้มามิยาก็ตามไปอีกหนึ่งรายแล้วครับ

มามิยาเป็นบริษัทที่ผลิตกล้องระดับ Medium Format (ที่ Film หรือ Censor รับภาพใหญ่กว่ากล้อง 35 มม. ทั่วๆไป) มาตั้งแต่ 1940 ซึ่งก็เข้าสู่ยุคดิจิตอลด้วย Mamiya ZD ที่เป็น Medium Format DSLR และดิจิตอลแบ๊คออกมา แต่ก็ไม่ทันการต่อกระแสดิจิตอลที่โปรหลายๆ คนเปลี่ยนไปใช้ 35 มม DSLR แทน

ตอนนี้มามิยาขายส่วนกล้องและเลนส์ทั้งหมดออกไปให้บริษัท Cosmo Digital Imaging แทนครับ

มีข่าวจาก Mailing List ของเวบ OpenSolaris ว่า แอปเปิลสนใจที่จะจับเจ้า ZFS ซึ่งเป็น File System ของ Solaris มาลงใน Mac OS X ครับ

ซึ่งใน OSNews กระแสตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว :)

ที่มา - OSNews

PQI จะออกแฟลชเมมโมรี่ที่มีความจุสูงถึง 16 GB ความกว้างคูณยาวเท่ากับบัตรเครดิต แต่หนากว่านิดหน่อยคือประมาณ 3 มิลลิเมตร ถ้านึกไม่ออกก็ประมาณบัตรเครดิตธรรมดาซ้อนกัน 2-3 แผ่น

ทาง PQI ยังไม่กำหนดราคาแต่ประมาณกันว่าน่าจะอยู่แถว ๆ $500-$2000

ลองนึกดูว่าถ้าเราสามารถเอาการ์ดหน่วยความจำขนาด 16 GB พกใส่กระเป๋าตังค์ติดตัวได้ทีละ 2-3 ใบมันจะเป็นยังไง?

เวลากระเป๋าตังค์หายสงสัยต้องประกาศว่า "ใครที่เก็บกระเป๋าตังค์ได้ ไม่ต้องเอาเงินกับเอกสารมาคืนก็ได้ขอแค่เมมโมรี่การ์ดเท่านั้น เพราะมีรูปกับไฟล์วีดีโอ... เอ้ยไม่ใช่!!! ข้อมูลที่สำคัญมากอยู่ในนั้น"

วันนี้เอเอ็มดีออกมายอมรับความผิดพลาดในการผลิตชิปสองรุ่นคือ Opteron x52 และ Opteron x54 ที่หลุดลอดกระบวนการตรวจสอบออกไป ทำให้ชิปรุ่นดังกล่าวบางตัวอาจจะทำงานได้ผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้

สาเหตุคือหน่วยคำนวณเลขทศนิยมที่เมื่อมีการคำนวณเช่นการคูณ หรือการบวกซ้ำไปมา โดยไม่มีคำสั่งอื่นใดคั่นกลางแล้ว จะทำให้ส่วนนี้เกิดความร้อนสูงจนค่าผลลัพธ์การคำนวณกลายเป็นค่าที่คาดเดาไม่ได้ไป

เรื่องทั้งหมดมันเริ่มขึ้นจากตอนที่ผมกำลังพยายามเขียนเว็บเอง ทั้งหมด

จากเดิมที่ไปโหลดธีมที่มีแจกทั่วไปในอินเทอร์เน็ต ซึ่งโดยหลักๆ แล้วผมพยายามทดสอบบนบราวเซอร์ทั้งสาม คือ Opera, IE, และ Firefox

เกือบทุกครั้ง IE ไม่สามารถเรนเดอร์เว็บอย่างที่ผมต้องการได้ ผมกลับไปพยายามอีกครั้ง ด้วยการพยายามเรียนรู้ความแตกต่างในการรองรับ CSS ระหว่างบราวเซอร์แต่ละตัว ด้วยการไปหาหนังสือ CSS Hacks & Filters ของ Joseph W. Lowery มาอ่าน ผมพบความจริงที่ว่า ถ้าผมเป็นเพียงคนทำเว็บมือสมัครเล่น แทบไม่มีทางเลยที่จะจำข้อยกเว้นและวิธีแก้ไขของ IE ได้ทั้งหมด

หลังนินเทนโดเผยชื่อจริงของ Revolution ว่าชื่อ "Wii" (อ่านเหตุผลได้ในข่าวเก่า) ก็เกิดปฏิกิริยาจากนักเล่นเกมจำนวนมาก ทั้งสนับสนุนและคิดว่าชื่อนี้ห่วย

จากข่าว Google SketchUp คิดว่ามีคนชอบกันมาก แนะนำให้อ่านรีวิวของ PC Magazine ครับ

ป.ล. เนื่องจากผมไม่มีวินโดวส์ ยังไม่ได้ลองและไม่มีความเห็น ถ้าใครสนใจจะเขียนรีวิวฉบับภาษาไทยบ้าง ก็ลุยได้เลย

ที่มา - PC Magazine

จริงๆ ข่าวนี้มันแทบไม่มีอะไรเลย แต่แฟนแอปเปิลแถวนี้เยอะเลยมาลงกันให้อ่านเล่นๆ

จ็อบส์และคณะผู้บริหารได้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้ซักถาม คำถามยอดฮิตก็คือต่อไปแอปเปิลจะออกอะไร คำตอบของพี่แกก็สั้นๆ "I can’t tell you."

แต่ประโยคถัดมาก็แอบโฆษณาผ่านสื่อซะเลย "The new products in the pipeline are the best I’ve ever seen in my life" (เวอร์ซะ) ลองเดากันดูนะครับ

เนื้อหาอื่นๆ ในข่าวมีเรื่องโครงการรีไซเคิลคอมที่แอปเปิลโดนวิจารณ์ว่าไม่จริงจังเท่า Dell หรือ HP อีกเรื่องคือจ็อบส์ยืนยันว่าจะไม่เข้าไปยุ่งกับการบริหารในดิสนีย์

Goodmail เป็นบริการที่อนุญาตให้บริษัทต่างๆ (ที่จ่ายค่าธรรมเนียม) สามารถส่งอีเมลล์เข้าไปใน inbox ของ user ทั่วไปโดยไม่ถูกกลั่นกรองผ่าน filter ของผู้ให้ีิบริการอีเมลล์คู่สัญญา (เรียกง่ายๆ ว่า สแปมแบบคนมีเงิน) ซึ่งปัจจุบันเท่าที่ได้ข่าวก็มี AOL และ Yahoo ที่อยู่ในระหว่างการตกลงสัญญากัน (ไม่แน่ใจว่าตกลงไปแล้วหรือยังนะครับ)

แต่หลังจากที่ Goodmail ติดต่อไปยัง Google เพื่อใช้บริการนี้กับ Gmail ด้วย ก็ได้รับคำปฏิเสธไป โดยคุณโรดิเกซ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Google Corporate Communications ได้กล่าวไว้อย่างน่าประทับใจว่า

นิตยสาร New Scientist ได้รายงานว่าจะมีโปรแกรมตัวใหม่ ชื่อว่า VoiceCode ออกมาเพื่อช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถเขียนโปรแกรมได้ โดยผ่านทางเสียงพูด (speech recognition) โดยโปรแกรมตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยโปรแกรมเมอร์ที่มีปัญหา "บาดเจ็บเนื่องจากการกดทับซ้ำๆ" ซึ่งจะเกิดขึ้นกับคนที่อยู่กับคอมพิวเตอร์และใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์นาน ๆ จนทำให้กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อและระบบประสาทที่แขนและหลังล้าได้ โดยคาดการณ์กันว่ามีโปรแกรมเมอร์ในสหรัฐมากถึง 22% หรือประมาณ 100,000 คนที่มีอาการแบบนี้

ต่อไปจาก "เขียนโปรแกรมจนมือหงิก" น่าจะเป็น "เขียนโปรแกรมจนปากเปียกปากแฉะ" แทน

สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมบน KDE คงดีใจกันถ้วนหน้า เมื่อ KDE ปล่อย โปรเจค Phonon ซึ่งเป็น Library และ API สำหรับทำงานด้านมัลติมีเดียโดยเฉพาะ ซึ่งผู้เขียนไม่ต้องไปยุ่งกับการติดต่อฮาร์ดแวร์ หรือติดต่อในระดับๆลึกเลย

ส่วนผู้ใช้ก็ได้รับผลประโยชน์ใน การปรับแต่งเรื่องเสียง/ภาพ หรือ ฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับมัลติมีเดียได้ง่ายขึ้นมาก

สำหรับนักพัฒนาน่าจะคล้ายๆกับ DirectDraw และ DirectSound มั้ง

ที่มา - OSNews

หลังจากเปิดตัวคอนโซลรุ่นต่อไปเป็นเจ้าแรก (ขายก่อนแฮงค์ก่อน...) ยอดผลประกอบการไตรมาสการเงินที่สามของไมโครซอฟท์ก็พุ่งขึ้นไป 13% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ นอกจาก XBox360 แล้ว ไมโครซอฟท์ยังระบุว่าความต้องการเซิร์ฟเวอร์ในตระกูลวินโดวส์ยังสูงขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมกับการเติบโตของเซิร์ฟเวอร์ SQL อีกด้วย

ไม่รู้ว่าการแสดงป๊อปอัพบนเครื่องผิดลิขสิทธิจะช่วยให้ยอดขาย WinXP ดีขึ้นตามมาด้วยรึเปล่า

ที่มา - TG Daily

Paul Otellini ซีอีโอของ Intel ได้ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่าที่ส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือต่ำกว่า 80% นั้นเกิดจากผลิตภัณฑ์ของตัวเอง สู้ทางคู่แข่ง (ไม่ได้ระบุชื่อแต่คุณก็รู้ว่าใคร)

AMD ใช้ Opteron เป็นเรือธง และผูกมิตรในตลาดเซิร์ฟเวอร์เป็นอย่างดี รวมถึงผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ไม่อยากให้เกิดการผูกขาดมากเกินไป จึงพยายามใช้ AMD ด้วยในช่วงหลังๆ นี้

กลยุทธใหม่ของ Intel คือขายแพลตฟอร์ม (เช่น Centrino, Viiv หรือ vPro) แทนซีพียูเดี่ยวๆ และช่วงกลางปีก็เตรียมยิงอาวุธชุดใหญ่อีกรอบ คือ Woodcrest (Server - มิถุนา), Conroe (Desktop - กรกฎา) และ Merom (Mobile - สิงหา)

Apache เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 70% ที่สองคือ IIS อยู่ที่ 20% แต่ตัวเลขนี้นับเฉพาะ HTTP เท่านั้นไม่รวม HTTPS

ผลสำรวจล่าสุดของ Netcraft ในตลาด HTTPS ประจำเดือนเมษา Apache ได้แซง IIS ก้าวเป็นอันดับหนึ่งแทนแล้ว (44.0% เทียบกับ 43.8%) และดูจากแนวโน้มก็พุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ

สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ Apache ลุยตลาด SSL ได้ไม่ดีนัก เนื่องจากกฎหมายของสหรัฐที่ห้ามส่งออกวิธีการเข้า-ถอดรหัสมากกว่า 56 บิต ทำให้โมดูล SSL ใน Apache 1 ต้องแยกออกมาและพัฒนาโดยทีมจากประเทศอื่น แต่ทุกวันนี้กฎหมายนั้นถูกแก้ไข ทำให้ Apache 2 รวม mod_ssl มาได้ในตัวเลย

เว็บไซท์ทางการของ Revolution ได้ประกาศชื่อใหม่ ซึ่งคาดว่าคงเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเครื่องเล่นกมตัวใหม่ของ Nintendo โดยใช้ชื่อว่า Wii (อ่านว่าวี (We)) ซึ่งชื่อนี้มีหลายความหมายมาก เช่นหมายถึง We หรือเครื่องเล่นเกมที่ทุก ๆ คนสามารถเล่นได้ (อย่าเกิน 5000 บาทละกัน) หรือว่า ii ในชื่อ Wii ก็หมายถึงรูปร่างตัวควบคุมเกมที่ออกแบบมาใหม่

สงสัย iPod จะขายดีเกิน ทำให้แอปเปิลต้องจ้างพนักงานเพิ่มเยอะ และผลที่ตามมาคือออฟฟิศไม่มีที่นั่ง

แอปเปิลจึงมีแผนจะขยับขยายจากบ้านเดิม (เลขที่ 1 ถนน Infinite Loop เมือง Cupertino) ไปสร้างออฟฟิศแห่งที่สองใน Cupertino นั่นล่ะ ทั้งนี้ออฟฟิศใหม่จะมีขนาด 50 เอเคอร์ และมีที่ให้พนักงานเพิ่มอีก 3,500 คนภายในช่วงเวลา 4 ปี นักวิเคราะห์หลายคนพอรู้ข่าวนี้เข้า ก็เลยตีราคาให้ว่าถ้าแอปเปิลต้องการซื้อที่ขนาดนั้นใน Cupertino คงต้องจ่ายประมาณ 500 ล้านเหรียญเฉพาะค่าที่ ไม่แน่ใจว่าคิดเรื่องการโก่งราคา (เพราะคนซื้อเป็นแอปเปิล) ไว้ด้วยรึเปล่า

สมัย PS2 ออกใหม่ๆ มีจุดขายสองอย่างคือมันเป็นเครื่องเล่น DVD ราคาถูก (มาก) และเอาเกมเก่าของ PS1 มาเล่นได้แถมภาพสวยขึ้นนิดๆ คราวนั้นโซนี่ใช้วิธีฝังชิปของ PS1 ลงไปใน PS2 เลย

เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน เอ้ย วิธีการก็เปลี่ยน คราวนี้โซนี่ตัดสินใจใช้ซอฟต์แวร์เป็นอีมูเลเตอร์แทน เนื่องจาก Cell ทรงพลังอยู่แล้วเรื่องประสิทธิภาพคงไม่ใช่ประเด็น ปัญหาอยู่ที่ระบบของทั้ง PS3 และ PS2 ถือว่าเป็นระบบที่ซับซ้อน (ผู้พัฒนาเกมบ่นตรึม) การทำอีมูเลเตอร์ขึ้นมาคงไม่ง่ายนัก แต่ยังไงลูกค้าย่อมคาดหวังว่ามันจะเล่นได้ 100% ทุกเกมอยู่ดี จริงมั้ยครับ

หลังจากหมดช่วงควันหลง Blognone Tech Day ก็กลับสู่ช่วงสัมภาษณ์อีกรอบดีกว่านะ

เหยื่อรายถัดไปที่โดนผมกล่อมมาได้คือคุณภัทระ เกียรติเสวี หรือคุณ ott ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง linux.thai.net พอไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นก็ได้เปิดเว็บดิคชันนารี Longdo มาอีกที่ พอกลับมาแล้วก็มาเปิดบริษัท Metamedia สนใจก็เข้าไปอ่านกันเองนะครับ เว็บส่วนตัวที่พอหาได้ก็ อันนี้

เช่นเคยตามธรรมเนียม เชิญถามได้เลยครับผม

ผมรู้จักกับโปรแกรม SketchUp เมื่อประมาณปีที่แล้วด้วยเว็บบล็อกของคุณ iannnnn ในฐานะโปรแกรมวาดภาพสามมิติที่ง่ายมากๆ โปรแกรมหนึ่ง ปัญหาคือมันแพงมาก ด้วยราคาค่าตัวถึง 400 กว่าดอลลาร์ ทำให้แทบหมดสิทธิใช้ของจริง

เรื่องมันเริ่มจากการที่พนักงานคนหนึ่งของทาง EA (Electronic Arts) ที่ใช้ชื่อว่า ea_spouse ออกมาเขียนแฉถึงการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมของทาง EA ที่บีบให้พนักงานต้องทำงานเกินเวลาโดยไม่ได้ค่าจ้างแต่อย่างใด

บทความดังกล่าวมีผลให้เกิดข้อพิพาทย์ทางกฏหมายขึ้นมาถึงหกคดี เรียกร้องให้ทาง EA ออกมาชดใชค่าทำงานล่วงเวลาดังกล่าวทั้งหมด เมื่อเวลาผ่านไป 15 เดือน ทางพนักงานจึงสามารถตกลงกับทาง EA ได้ด้วยค่าชดเชย 14.9 ล้านดอลลาร์ ให้กับพนักงานทั้งหมดที่ทำงานให้กับ EA ในช่วงปี 2001 ถึง 2006 นี้