จากกรณี แอปเปิลแพ้คดีสิทธิบัตร Qualcomm ในเยอรมนี และโดนสั่งห้ามขาย iPhone 7, iPhone 8
ล่าสุดแอปเปิลเตรียมนำ iPhone 7 และ iPhone 8 กลับมาขายในเยอรมนีอีกครั้ง แต่เป็นรุ่นที่ใช้ชิปโมเด็มของ Qualcomm เพียงอย่างเดียว ไม่มีรุ่นที่ใช้ชิปโมเด็มของอินเทลที่เป็นปัญหาในคดีสิทธิบัตร
ในหน้าเว็บของ Apple Germany ตอนนี้ก็มีสินค้าของ iPhone 7 และ iPhone 8 กลับมาแสดงผลแล้ว
โฆษกของแอปเปิลระบุกับ Reuters ว่า "ไม่มีทางเลือก"
ที่มา - Reuters
ต่อจากข่าว ศาลเยอรมนีตัดสิน แอปเปิลละเมิดสิทธิบัตร Qualcomm จริง, สั่งห้ามขาย iPhone แล้ว เมื่อเดือนธันวาคม 2018
ตามกฎหมายของเยอรมนี คำสั่งศาลจะมีผลต่อเมื่อ Qualcomm วางเงินค้ำประกันเป็นพันธบัตรมูลค่า 1.34 พันล้านยูโร (ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท) ต่อศาล ซึ่ง Qualcomm ก็วางเงินนี้แล้วในวันที่ 3 มกราคม 2019
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แอปเปิลจะต้องหยุดขาย iPhone ทุกรุ่นที่ถูกตัดสินว่าละเมิดสิทธิบัตร (ได้แก่ iPhone 7 และ iPhone 8) ในประเทศเยอรมนี โดยหน้าร้าน Apple Store จะหยุดขายในทันที และศาลก็สั่งให้แอปเปิลเรียกคืน iPhone ที่ส่งให้ร้านค้าอื่นๆ กลับทั้งหมดด้วย
หลังจากที่แอปเปิลยืนยันว่าไม่มีการแถมอะแดปเตอร์ Lightning ไปเป็นพอร์ต 3.5 มิลลิเมตร สำหรับ iPhone Xs, Xs Max และ XR แบบที่เคยทำใน iPhone 7, iPhone 8 และ iPhone X ถ้ายังอยากได้ก็ต้องซื้อเพิ่มเองในราคา 390 บาท สำหรับใครที่คิดว่าอะแดปเตอร์นี้เป็นสิ่งจำเป็น มีข่าวร้ายเพิ่มเติม
เป็นไปตามรอบการออกสินค้าของแอปเปิล เมื่อมีของใหม่มา ของเก่าก็ลดราคาหรือเลิกขายไป โดยหลังการเปิดตัว iPhone Xs และ XR ในหน้าเว็บไซต์ของแอปเปิลก็ได้หยุดจำหน่าย iPhone 6s และ iPhone SE ซึ่งถือเป็นสองรุ่น iPhone ที่ราคาถูกที่สุดเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังทำให้ iPhone จอเล็กที่สุดที่แอปเปิลยังขายอยู่คือ 4.7 นิ้ว (ของ iPhone 7 และ 8 ส่วน SE จอ 4 นิ้ว)
ราคาสินค้าของ iPhone 7 และ 8 ยังมีการปรับราคาลงมาดังนี้
แอปเปิลมีประเด็น iPhone ทำงานช้าลงเมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพตั้งแต่ปลายปีก่อน ทำให้ต้องออกโปรแกรมเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่สำหรับ iPhone 6 ขึ้นไป ในราคาที่ลดลงเหลือ 1,000 บาท ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวจะสิ้นสุด 31 ธันวาคมปีนี้ คำถามก็คือหลังจากนี้ราคาจะเป็นอย่างไรต่อไป?
โดยแอปเปิลอัพเดตข้อมูลในหน้าสนับสนุน (เฉพาะอเมริกา) ระบุว่าสำหรับ iPhone ที่หมดระยะประกันแล้ว ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่จากปัจจุบันที่ลดเหลือ 29 ดอลลาร์ จะปรับขึ้นมาเป็น 49 ดอลลาร์ มีผลตั้งแต่ปีหน้า ยกเว้น iPhone X ปรับขึ้นมาเป็น 69 ดอลลาร์ ซึ่งจะเท่ากับราคาของ iPhone Xs, iPhone Xs Max และ iPhone XR
มีรายงานว่าเอกสารภายในสำหรับศูนย์ซ่อมของแอปเปิล (AASP) แอปเปิลได้ยอมรับว่าพบปัญหาบางส่วนจากลูกค้า โดยเมื่อใช้งานโทรศัพท์ ปุ่ม Speaker จะขึ้นเป็นสีเทาและไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งรวมทั้งเวลาใช้ FaceTime ด้วย
เอกสารนี้ระบุแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น เช่น ปิดบลูทูธทั้งหมดก่อน แต่หากไม่หายก็มีขั้นตอนต่างๆ ซึ่งหากได้ข้อสรุปว่าเป็นปัญหาจริง ก็ให้เสนอซ่อมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ถึงแม้เครื่องจะหมดระยะประกัน โดยปัญหาดังกล่าวพบใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่อัพเดตเป็น iOS 11.3 ซึ่งมีส่วนน้อยเท่านั้น
ใครที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวและเจอปัญหานี้ ลองติดต่อศูนย์ AASP ดูได้
ที่มา: MacRumors
แอปเปิลประกาศโครงการซ่อม iPhone 7 หลังจากมีรายงานว่า iPhone 7 บางส่วนพบปัญหาการเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ขึ้น No Service แม้บริเวณนั้นจะมีสัญญาณตามปกติก็ตาม
โดยแอปเปิลบอกว่าสาเหตุมาจากชิ้นส่วนภายในบนบอร์ดทำงานบกพร่อง ซึ่งกระทบกับ iPhone 7 ที่ผลิตในช่วงเดือนกันยายน 2016 ถึงกุมภาพันธ์ 2018 เป็นจำนวนน้อย และพบเฉพาะเครื่องที่จำหน่ายใน จีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, มาเก๊า และอเมริกา
แอปเปิลย้ำว่าปัญหานี้พบเฉพาะ iPhone 7 เท่านั้น และแอปเปิลจะทำการซ่อมแซมให้ฟรี โดยมีการตรวจสอบก่อนว่าเครื่องมีปัญหานี้หรือไม่
ที่มา: แอปเปิล
แอปเปิลออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจง ประเด็น iPhone รุ่นเก่าที่ทำงานช้าลงกรณีแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ซึ่งหลายคนไม่พอใจ และผู้ใช้บางส่วนเริ่มฟ้องร้อง มีรายละเอียดดังนี้
แอปเปิลยอมรับว่าการสื่อสารออกไปของแอปเปิล ทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกไม่ดี แอปเปิลขอโทษลูกค้าเรื่องนี้ โดยบอกว่ายังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องในเรื่องดังกล่าวอยู่มาก ซึ่งชี้แจงทีละประเด็นคือ
บริษัทวิจัยตลาด Canalys รายงานตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก ระบุว่า iPhone 7 เป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดขายสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 ปี 2017 ที่ผ่านมา ราว 13.0 ล้านเครื่อง ตามมาด้วย iPhone 6s ที่ 7.9 ล้านเครื่อง ส่วนอันดับ 3-4-5 ได้แก่ ซัมซุง Galaxy J2 Prime, Oppo A57 และ Oppo R11 ตามลำดับ
แอปเปิลเริ่มขาย iPhone 8 และ 8 Plus เมื่อเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาส 3 ทำให้ระยะเวลาสั้นไป จนยอดขายไม่ติดอันดับเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นที่ขายตลอดทั้งไตรมาส โดย iPhone 8 ขายได้ 5.4 ล้านเครื่อง และ iPhone 8 Plus ขายได้ 6.3 ล้านเครื่อง
หัวข้อหนึ่งที่สามารถถกเถียงกันได้ยาวนานก็คือ กล้องของสมาร์ทโฟน iPhone หรือ Android ถ่ายรูปได้สวยกว่ากัน ล่าสุดมีความคิดเห็นจากอดีตผู้บริหารกูเกิลอย่าง Vic Gundotra ซึ่งกลายเป็นว่าเขาสนับสนุน iPhone เสียอย่างนั้น
Vic Gundotra ซึ่งเคยเป็นอดีตหัวหน้าทีม Google+ โพสต์ Facebook บอกว่าเขาออกไปทานข้าวนอกบ้าน และใช้ iPhone 7 ถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait ซึ่งรูปที่ได้นั้นยอดเยี่ยมมาก แม้อยู่ในร้านอาหาร และถ่ายภาพแบบไม่ใช้แฟลช พร้อมกล่าวชมแอปเปิล
มีผู้แสดงความคิดเห็นว่าสมาร์ทโฟน Android เรือธงรุ่นล่าสุดนั้นทำได้ดีกว่าเสียอีก คราวนี้ Vic ก็เลยตอบอธิบายยาวมากดังนี้
ในยุคที่ใครๆ ก็ถ่ายรูปด้วยกล้องจากสมาร์ทโฟนกันเป็นหลัก การแข่งขันกันชูฟีเจอร์ของกล้องเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ล่าสุด Apple ได้เปิดตัว “How to shoot on iPhone 7” ไมโครไซต์สอนเทคนิคการถ่ายภาพด้วย iPhone เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถบันทึกภาพสวยกันได้ง่ายยิ่งขึ้น
Nikkei อ้างแหล่งข้อมูลจากแวดวงซัพพลายเออร์ฮาร์ดแวร์ ประเมินว่าแอปเปิลปรับลดยอดผลิต iPhone 7 ในไตรมาสแรกของปี 2017 ลง 10%
ภาพรวมของ iPhone 7 ยังถือว่ามียอดขายไม่เลว แต่เมื่อสภาพตลาดสมาร์ทโฟนปี 2016 มียอดขายไม่เติบโตขึ้นจากปี 2015 ส่งผลให้แม้แต่แอปเปิลก็มีปัญหาไม่สามารถเพิ่มจำนวนยอดขาย iPhone 7 ได้เช่นกัน
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2016 ก็เคยมีข่าวว่าแอปเปิลปรับลดกำลังผลิต iPhone 6s ลง 20% เนื่องจากมีสินค้าในสต๊อกคงค้างมาก
Kantar Worldpanel ComTech เผยส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนแยกตามระบบปฏิบัติการ ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2016 ผลคือ iOS ชิงส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้นในหลายภูมิภาค อันเป็นผลมาจากการวางขาย iPhone 7 นั่นเอง
ในตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกา iOS เติบโตมากจาก 33.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน มาเป็น 40.5% ในปีนี้ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดของ iOS ในรอบสองปีเลยก็ว่าได้ ช่วงสามเดือนที่เก็บสถิตินี้ iPhone 7 มีส่วนแบ่งยอดขายสมาร์ทโฟน 10.6% (อันดับหนึ่ง) ส่วน iPhone 7 Plus มีส่วนแบ่ง 5.3% (อันดับสี่) ส่วน Google Pixel ก็ทำผลงานได้ดี แม้มีเวลาขายเพียง 11 วัน (20-31 ต.ค.) ก็ยังมีส่วนแบ่งถึง 0.5%
เรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของ Google Pixel ในการบุกตลาดโลก ล่าสุดในอินเดียมียอดขนส่งสินค้าแล้ว 33,000 เครื่อง ครองส่วนแบ่งการตลาดมือถือพรีเมี่ยมในอินเดีย 10% ถือเป็นอันดับสามรองจาก iPhone 7 และ Galaxy S7
อันดับหนึ่งในอินเดียคือแอปเปิลจากการขาย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีส่วนแบ่งการตลาด 66% รองลงมาคือ Samsung Galaxy S7 มีส่วนแบ่ง 23% อันดับสามคือ Google Pixel มีส่วนแบ่ง 10%
นักวิเคราะห์ในสำนักวิจัยการตลาด Counterpoint Research พูดถึง Google Pixel ว่า ด้วยแพคเกจเรียบหรูและดูสดใส รวมถึงตัวฟีเจอร์ต่างๆ น่าจะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของแอปเปิลและซัมซุงได้
มีข่าวหัวสีจากต่างประเทศที่กำลังเป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์จีน ทั้ง Tian Ya Yi Du และ Weibo ว่า มีสุภาพสตรีรายหนึ่งโน้มน้าวใจให้แฟนทั้ง 20 คนของนางซื้อ iPhone 7 ให้ จากนั้นก็นำเครื่องทั้งหมดไปขายที่ร้านรีไซเคิลโทรศัพท์ Hui Shou Bao เป็นเงินกว่า 115,010 หยวน เพื่อนำไปซื้อบ้านย่านชานเมือง ซึ่งในอีกมิติวงการอสังหาริมทรัพย์ของจีนก็มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น
หลายเสียงบนอินเทอร์เน็ตต่างวิพากษ์ออกไปหลายแนวถึงข่าวนี้ บางก็บอกว่าเป็นข่าวกุจากร้านรับซื้อ บ้างก็วิพากษ์วิถีการครองรักของสุภาพสตรีรายนี้ บ้างก็อยากได้วิธีมีแฟนแบบนาง ซึ่ง BBC ยืนยันว่าร้านรับซื้อโทรศัพท์ 20 เครื่องนี้จริงในราคาเครื่องละ 5,750 หยวน (ประมาณ 29,800 บาท) และสุภาพสตรีรายนี้ก็ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อ
หลังทดสอบ iOS 10.1 Beta มาได้สักระยะ วันนี้แอปเปิลเปิดให้ดาวน์โหลด iOS 10.1 รุ่นสมบูรณ์แล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ iOS 10.1 คือโหมด Portrait ของ iPhone 7 Plus ที่ถ่ายภาพหลังเบลอแบบติด bokeh ได้ โดยเป็นการประมวลผลที่ฝั่งซอฟต์แวร์
ที่มา - Gizmodo
ดูเหมือนความแตกต่างระหว่าง iPhone 7 รุ่นความจุเล็กสุดอย่าง 32GB จะไม่ได้มีแค่ความจุเสียแล้ว เมื่อ YouTuber ที่ใช้ชื่อว่า Unbox Therapy ทดสอบความเร็วในการอ่านและเขียนของ iPhone 7 ระหว่างความจุ 32GB และ 256GB พบว่ารุ่นเล็กมีความเร็วในการอ่านและเขียนช้ากว่าราว 8 เท่า
แอพ PerformanceTest Mobile ที่ถูกนำมาทดสอบแสดงผลว่า ความเร็วในการอ่านของรุ่นความจุ 32GB อยู่ที่ 686MB/s ขณะที่ความจุ 256GB อยู่ที่ 856MB/s ส่วนที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือความเร็วในการเขียน โดยรุ่น 32GB อยู่ที่ 42MB/s ส่วน 256GB สูงถึง 341MB/s
Apple เปลี่ยนปุ่มโฮมแบบใหม่บน iPhone 7 ที่รับรู้แรงกดโดยไม่ต้องออกแรงกดผ่านสิ่งที่ Apple เรียกว่า Taptic Engine
ล่าสุดมีผู้ใช้ฟอรั่มเว็บไซต์ MacRumors ชื่อว่า iwayne โพสต์ภาพ iPhone 7 ของเขาที่มีข้อความบนหน้าจอแจ้งว่าปุ่มโฮมมีปัญหา แต่ยังสามารถใช้งานผ่านปุ่มโฮมบนจอได้
เปิดตัวกันเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ iPhone 7 สมาร์ทโฟนสุดล้ำแห่งยุคที่หลายคนตั้งตารอ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่เรียบหรู มาพร้อม 2 สีใหม่คือ สี Black (ดำด้าน), Jet Black (ดำเงา) หรือจะเป็น Feature ใหม่อย่างตัวเครื่องกันน้ำ มีปุ่มโฮมแบบใหม่ หน้าจอ Retina HD แบบใหม่ มีลำโพงสเตอริโอเป็นครั้งแรก หรือจะเป็น iPhone 7 Plus ที่มาพร้อมกล้องหลังคู่ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้หลายคนอยากเป็นเจ้าของ iPhone 7 อย่างแน่นอน
แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ทั้งที เราลองมาดู 7 สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ iPhone 7 ก่อนที่ทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไทยจะเริ่มเปิดให้จองกันในวันที่ 14 ตุลาคมนี้เลยดีกว่า
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ได้วันกำหนดขายในไทยแล้วเป็นวันที่ 21 ตุลาคมนี้ หลังจากประเทศกลุ่มแรกเพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้น
ผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง dtac, True และ AIS ประกาศวันแสดงความสนใจตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 11 ตุลาคมนี้ และสั่งจองเครื่องได้จริงตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
จะบอกว่าคราวนี้แอปเปิลลอกซัมซุงก็คงไม่ได้ เมื่อผู้ใช้ reddit ที่ชื่อว่า kroopthesnoop ได้โพสต์ภาพของ iPhone 7 Plus ที่เพื่อนร่วมงานเขาเพิ่งได้รับมา ปรากฎว่าอยู่ในสภาพที่เละและไหม้เกรียม จากการระเบิดคากล่องระหว่างการขนส่งโดยบริษัท UPS
ซึ่งหลังจากโพสต์ภาพดังกล่าว ทีมงานแอปเปิลได้ติดต่อเจ้าของโพสต์เพื่อขอข้อมูลการติดต่อถึงเจ้าของเครื่อง พร้อมแจ้งว่าจะประสานกับ AT&T เพื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้แล้ว
สีใหม่ใน iPhone 7 อย่าง Jet Black ดูเหมือนจะได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ทว่าผู้ที่สั่งจองสีนี้ อาจจะได้รับสินค้าช้ากว่าผู้ที่สั่งจองสีอื่น เนื่องจากผู้ผลิต iPhone ให้แอปเปิลไม่สามารถผลิตสี Jet Black ได้ทันตามกำหนด
Ming-Chi Kuo นักวิจัยจาก KGI Securities ซึ่งมีชื่อเสียงจากการออกมาให้ข้อมูลที่ค่อนข้างแม่นยำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แอปเปิล เผยว่า iPhone 7 สี Jet Black มีอัตราการผลิตอยู่ที่ราว 60-70% เท่านั้น เนื่องจากที่เหลือไม่ผ่านมาตรฐานของแอปเปิล ซึ่งก็สืบเนื่องจากขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยากอย่างการทำอโนไดซ์ (Anodization) และการขัดเงา
บริษัทแห่งหนึ่งในจีนออกนโยบายไล่พนักงานที่ซื้อ iPhone7 และ iPhone7 Plus ออก สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียจีนอย่างมากว่าทำเกินเหตุ ล่าสุดบริษัทดังกล่าวกำลังพิจารณานโยบายบริษัทตัวเองใหม่
สำหรับประกาศที่ออกมาเมื่อวันที่ 18 กันยานที่ผ่านมา ระบุว่า บริษัทของเราห้ามพนักงานทุกคนใช้หรือซื้อ iPhone7 และ iPhone 7 Plus ใครก็ตามที่พบละเมิดกฎที่จะถูกบังคับให้ลาออกทันที และเรียกร้องให้พนักงานหยุดซื้อสินค้าของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น สืบเนื่องจาก 18 กันยายน เป็นวันครบรอบ 85 ปีที่ญี่ปุ่นบุกจีนในปี 1931
หลัง iPhone 7 วางขาย เราก็เห็นการนำกล้องของ iPhone 7 ไปเปรียบเทียบกับมือถือรุ่นอื่นๆ กันตามธรรมเนียม ก่อนหน้านี้ Business Insider เทียบกล้อง iPhone 7 กับ Galaxy S7 กันไปแล้ว คราวนี้มาดูฝั่ง Windows Mobile กันบ้าง
ผู้อ่านเว็บไซต์ MSPoweruser รายหนึ่งชื่อ Viktor ลองถ่ายภาพเปรียบเทียบ iPhone 7 กับ Lumia 950 ผลการถ่ายภาพในช่วงกลางวันที่สภาพแสงดี ให้ภาพที่คุณภาพใกล้เคียงกัน แต่ Lumia 950 จะเก็บรายละเอียดของภาพดีกว่าเล็กน้อย (ต้องซูมแล้ว crop จึงเห็น)
Business Insider เปรียบเทียบกล้องของ iPhone 7/7 Plus เทียบกับกล้องของ Galaxy S7 ที่ออกมาได้ครึ่งปีแล้ว และพบว่ากล้องของ S7 ยังเหนือกว่า
ทีมงานของ Business Insider บอกว่าผลการทดสอบนี้ออกมาน่าผิดหวัง เพราะแอปเปิลมีประวัติที่ดีมาตลอดในเรื่องกล้อง จนกระทั่งถูก Galaxy S7 โค่นลงเมื่อต้นปี ทางทีมงานคิดว่าแอปเปิลจะสามารถโต้กลับมาได้ แต่แอปเปิลกลับทำไม่สำเร็จ แม้ว่ากล้องเลนส์คู่ของ iPhone 7 Plus มีคุณสมบัติบางอย่างที่เหนือกว่า Galaxy S7 อย่างเช่นความสามารถในการซูมภาพ
ประเด็นที่ Business Insider มองว่า iPhone 7 ด้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญคือระบบออโต้โฟกัสที่ S7 ทำได้เร็วกว่า โฟกัสแม่นยำกว่า, การรองรับ dynamic range ที่ S7 ดีกว่า และการถ่ายภาพตอนกลางคืนที่ S7 แตกต่างอย่างชัดเจน (ภาพเปรียบเทียบทั้งหมดดูได้ตามลิงก์ที่มา)
ที่มา - Business Insider