Amazon เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ลำโพง Echo สามารถใช้เป็น intercom คุยกันระหว่างห้องได้ รวมถึงส่งเสียงออกลำโพงของ Echo ตัวใดตัวหนึ่งผ่านแอพ Alexa บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย
ในการใช้งานฟีเจอร์นี้ (Amazon เรียกว่า Drop-in) เราต้องตั้งชื่อของลำโพง Echo ตามชื่อห้องก่อน จากนั้นก็สามารถเรียก "Alexa, call the kitchen" เพื่อคุยกับคนในครัวได้เลย ข้อดีของมันคือเราไม่จำเป็นต้องพูดจาก Echo เพียงอย่างเดียว ต่อให้อยู่นอกบ้านก็สามารถพูดได้ผ่านแอพ Alexa นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ไม่นาน Amazon เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ลำโพง Echo และแอพ Alexa โทรหากันได้ฟรีตลอดไป
ถึงแม้ในแง่ยอดขาย Amazon Alexa จะเป็นพี่ใหญ่ในตลาดก็ตาม แต่ในแง่ของความสามารถแล้วอาจจะไม่เป็นเช่นยอดขายก็ได้
บริษัท 360i เอเจนซี่ด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในนครนิวยอร์คได้พัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมา เพื่อทดสอบความสามารถในการตอบคำถามของ Amazon Alexa และ Google Assistant บน Google Home ด้วยการยิงคำถามไปกว่า 3,000 คำถาม ปรากฎว่า Google Assistant มีแนวโน้มจะตอบคำถามได้มากกว่า Alexa ถึง 6 เท่า
360i ระบุด้วยว่า ถึงแม้ Alexa จะมีจุดเด่นด้านข้อมูลการค้นหาในแง่ของสินค้าขายปลีก แต่โดยองค์รวมแล้วยังแพ้ Google Assistant ที่มีคลังข้อมูลมหาศาล ร่วมกับ Knowledge Graph ของ Google
The Wall Street Journal รายงานว่าห้างค้าปลีกรายใหญ่ในอเมริกา Walmart ได้แจ้งบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีที่ทำธุรกิจร่วมกับ Walmart ให้เลิกใช้ AWS ของ Amazon ในการรันโปรแกรมต่างๆ เสีย และให้ไปใช้ของผู้ให้บริการรายอื่นแทน
ตัวแทนของ Walmart กล่าวว่าข้อมูลของ Walmart ส่วนใหญ่จะเก็บไว้ในศูนย์ข้อมูลของ Walmart เอง และมีบางส่วนที่ใช้คลาวด์ของคู่แข่ง Amazon อาทิเช่น Azure ของไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตามยังมีแอพของเวนเดอร์บางรายที่ทำงานอยู่บน AWS ซึ่ง Walmart มองว่าข้อมูลใดๆ ของบริษัท ไม่ควรเก็บไว้อยู่ในแพลตฟอร์มของคู่แข่ง แม้ตอนนี้จะมีอยู่ไม่มากก็ตาม
จะดีแค่ไหน ถ้าสามารถลองสวมใส่เสื้อผ้าที่มีให้เลือกเป็นล้านชิ้นจากแบรนด์ที่หลากหลายที่บ้านของคุณเองได้ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ แถมจัดส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายอีก โปรเจคล่าสุดของ Amazon ปล่อยออกมาแล้วกับ Prime Wardrobe ให้คุณสามารถเลือกเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับต่างๆ ได้ตั้งแต่ 3 ชิ้นขึ้นไป บริการจัดส่งในพื้นที่ที่ UPS สามารถเข้าถึงได้
จากข่าวใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ Amazon ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ ประกาศซื้อกิจการร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ต Whole Foods ด้วยมูลค่าถึง 13,700 ล้านดอลลาร์ เท่ากับเป็นการประกาศเข้าสู่โลกค้าปลีกแบบออฟไลน์ของ Amazon อีกก้าวหนึ่ง ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีคือราคาหุ้นค้าปลีกในอเมริกาพากันร่วงเมื่อข่าวนี้ออกมา
แต่เรื่องนี้อาจทำให้สตาร์ทอัพรับฝากซื้อของชำอย่าง Instacart มีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีกเช่นกัน
Amazon ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีคอมเมิร์ซ ประกาศซื้อกิจการ Whole Foods Market ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เน้นขายอาหารออร์แกนิก ด้วยมูลค่า 13.7 พันล้านดอลลาร์
Whole Food Markets ก่อตั้งในปี 1978 ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ปัจจุบันมีสาขา 460 แห่งในสหรัฐ แคนาดา สหราชอาณาจักร มีพนักงานประมาณ 87,000 คน และมียอดขายต่อปี 16 พันล้านดอลลาร์
Jeff Bezos ซีอีโอของ Amazon บอกว่าคนจำนวนมากรัก Whole Foods และเขาตั้งใจให้จุดเด่นนี้คงอยู่ต่อไป ส่วน John Mackey ซีอีโอของ Whole Foods จะยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปดังเดิม
Bloomberg รายงานว่า Slack ได้รับการติดต่อเจรจาขอซื้อกิจการจาก Amazon.com โดยข้อเสนอเบื้องต้น Amazon ให้มูลค่ากิจการของ Slack ที่ 9 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวบอกว่าการเจรจาเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
Slack เพิ่มทุนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2016 โดยในตอนนั้นมูลค่ากิจการอยู่ที่ 3.8 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานเป็นประจำวันทุกวัน 5 ล้านคน โดยเป็นผู้ใช้ที่เสียเงินถึง 1.5 ล้านคน
การแข่งขันของแอพแชตในองค์กรมีมากขึ้น หลังจากไมโครซอฟท์เปิดตัว Teams เมื่อปลายปีที่แล้ว
ที่มา: Bloomberg
Amazon Drive บริการ Cloud Drive สำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ ประกาศเปลี่ยนเงื่อนไขให้บริการ โดยยกเลิกตัวเลือกใช้พื้นที่ได้ไม่จำกัดราคาปีละ 59.99 ดอลลาร์ออกไป และเปลี่ยนมาคิดราคาตามปริมาณความจุที่เลือก มีผลทันที
ราคาใหม่นั้นแบ่งเป็น 100GB ราคา 11.99 ดอลลาร์ต่อปี, 1TB ราคา 59.99 ดอลลาร์ต่อปี และซื้อเพิ่มได้ถึง 30TB ในราคา 1TB ละ 59.99 ดอลลาร์เช่นกัน
อเมซอนลดราคาค่าสมาชิกแบบ Prime สำหรับลูกค้าที่มีฐานะยากจนถึงระดับที่ต้องพึ่งสวัสดิการรัฐ โดยดูจากผู้ถือบัตร electronic benefit transfer (EBT) จากโครงการความช่วยเหลือต่างๆ ของรัฐ
ผู้ที่เข้าข่ายจะสามารถสมัครบริการ Prime ได้ในราคาเพียง 5.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 71.88 ดอลลาร์ต่อปี เทียบกับลูกค้าปกติที่จ่าย 99 ดอลลาร์ต่อปี หรือหากแบ่งจ่ายรายเดือนจะราคาถึง 10.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยลูกค้าที่สมัครบริการนี้จะได้รับสิทธิ์เช่นเดียวกับลูกค้า Prime ทุกประการ ทั้งบริการส่งสินค้าฟรีและบริการ Prime Video
สัปดาห์ที่ผ่านมา Blognone มีโอกาสได้เข้าร่วมงาน AWS Summit 2017 งานประชุมประจำปีในภูมิภาค ซึ่งจัดในกรุงเทพเป็นครั้งแรก มีทั้งช่วงคีย์โน้ตโดย Adrian Cockcroft รองประธานฝ่ายกลยุทธ์สถาปัตยกรรมคลาวด์และช่วงสัมภาษณ์ Nick Walton ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของ AWS
Amazon เปิดให้ผู้ใช้ยื่นคืนเงิน (refund) สำหรับการซื้อภายในแอพ (in-app purchase) ที่ไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของแอคเคาท์ อย่างการที่ลูกกดซื้อของโดยพ่อแม่ไม่รู้เรื่องและยินยอมแล้ว โดยปัญหานี้เกิดขึ้นจากการที่ Amazon ไม่ได้ให้ผู้ใช้กรอกรหัสผ่านก่อนการซื้อภายในแอพ
อย่างไรก็ตาม Amazon ยินดีจะพิจารณาคืนเงินการซื้อขายที่เกิดขึ้นเฉพาะระหว่างเดือนพฤษจิกายน 2011 จนถึงพฤษภาคม 2016 ที่เข้าข่ายเท่านั้นและคาดว่าน่าจะเป็นเงินสูงถึงราว 70 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยการยื่นขอคืนเงินจะหมดเขตในวันที่ 28 พฤษภาคม 2018
ราคาหุ้นของ Amazon ทำสถิติใหม่ระหว่างวันสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อหุ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่บริษัทเข้าตลาดหุ้นในปี 1997 หรือ 20 ปีที่แล้ว และราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 996.70 ดอลลาร์
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Amazon กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างรวดเร็ว นอกจากการพิสูจน์ว่าอีคอมเมิร์ซเป็นกระแสหลักของธุรกิจค้าปลีกแล้ว คือธุรกิจให้บริการคลาวด์ ซึ่งทำให้ Amazon มีกำไรสุทธิเป็นบวกถึง 8 ไตรมาสติดต่อกัน จากที่ผ่านมา Amazon เป็นบริษัทซึ่งนำกระแสเงินสดทั้งหมดไปลงทุนต่อ จนทำให้ขาดทุนหรือมีกำไรเพียงเล็กน้อยมาโดยตลอด
ปัจจุบัน Amazon เป็นบริษัทในตลาดหุ้นที่มีมูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 4 รองจาก Apple, Alphabet (Google) และ Microsoft ตามลำดับ
Amazon เปิดร้านขายหนังสือแบบมีหน้าร้านถาวรชื่อ Amazon Books ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งก็ถูกวิจารณ์ถึงขนาดว่าไม่รู้จะมีไปทำไม โดยในงานฉลองเปิดร้านสาขาที่ 7 ที่นิวยอร์ก Recode ได้สัมภาษณ์ผู้บริหารถึงแนวทางในอนาคตของร้านหนังสือนี้
โดย Jennifer Cast ผู้บริหาร Amazon Books ยืนยันว่าหัวใจของร้านนี้ก็คือการขายหนังสือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Amazon.com ทำตั้งแต่แรก และจากการดำเนินงานมานานกว่า 20 ปี Amazon มีข้อมูลสะสมที่ทำให้รู้ว่าลูกค้าซื้ออะไร ซื้ออย่างไร อ่านอย่างไร อ่านทำไม เมื่อมาเปิดเป็นร้านหนังสือจึงสามารถสร้างความแตกต่างได้ โดยลูกค้าสามารถค้นหาหนังสือที่ต้องการได้ ทั้งในวิธีการดั้งเดิม และวิธีการใหม่ที่ Amazon ใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูล
เมื่อสอบถามว่าร้าน Amazon Books นี้อาจใช้เป็นสถานที่ต่อยอด โดยขายอุปกรณ์ของ Amazon หรือเปิดรับสมาชิกแบบ Prime (ซึ่งก็มีขายและให้บริการ) Jennifer ยืนยันว่าไม่ใช่เป้าหมายหลักของร้านนี้
ที่มา: Recode
Amazon เริ่มเปิดให้บริการสถานที่รับสินค้า AmazonFresh Pickup สาขาแรกใน Seattle เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ Amazon สั่งสินค้าประเภทของอุปโภคบริโภคในช่องทางของ Amazon และมารับระหว่างทางกลับบ้านได้ทันที
AmazonFresh Pickup นี้จะให้บริการเฉพาะสมาชิก Amazon Prime เท่านั้น โดยสามารถมารับสินค้าได้เร็วที่สุดคือ 15 นาทีหลังจากสั่งไปแล้ว และเมื่อเข้ามารับสินค้า เพียงนำรถเข้ามาจอดก็จะมีพนักงานนำสินค้ามาส่งให้ถึงรถของลูกค้า และลูกค้าก็สามารถขับรถออกไปได้ทันที
ที่มา - TechCrunch
Amazon เปิดศึกแข่งกับ Etsy เพิ่มพื้นที่ขายของแฮนด์เมดสำหรับงานแต่งงาน ในขณะที่ Etsy เจอความกดดันเรื่องยอดซื้อขายลดลง
Amazon มีแพลตฟอร์มของแฮนด์เมดหรือ Handmade at Amazon มาตั้งแต่ปี 2015 โดยล่าสุดเพิ่มการค้นหาเฉพาะเจาะจงมาที่ของแฮนด์เมดสำหรับงานแต่งงานโดยเฉพาะ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะอุตสาหกรรมการจัดงานแต่งมีมูลค่าสูงมาก ทาง Amazon เองก็ปรับปรุงระบบให้สามารถติดตามสินค้า มีนโยบายคืนสินค้าภายใน 180 วัน และมีร้านขายของบนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นด้วย
James Gosling บิดาแห่งภาษา Java เคยทำงานกับกูเกิลเป็นระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นย้ายไปทำงานกับบริษัทหุ่นยนต์ใต้น้ำ Liquid Robotics
ล่าสุดเขาประกาศใน Faecbook ของตัวเองว่าย้ายไปอยู่กับ Amazon Web Services แล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกว่าอยู่ในตำแหน่งอะไร ทาง AWS ยืนยันข่าวว่า Gosling มาจริง แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยว่าทำงานตำแหน่งไหนเช่นกัน
LinkedIn เผยอันดับ 50 บริษัทในสหรัฐที่น่าทำงานด้วยที่สุดประจำปีที่แล้ว นำมาโดย Alphabet, Amazon, Facebook, Salesforce และ Uber ใน 5 อันดับแรก
ส่วนอันดับ 6-10 ได้แก่ Tesla, Apple, Time Warner (บริษัทแม่ Warner Bros, HBO), Walt Disney และ Comcast NBC Universal
ขณะที่บริษัทไอทีอื่นๆ อย่าง Airbnb อยู่อันดับ 11, Netflix อันดับ 12, Dell อันดับ 14, ทวิตเตอร์อันดับ 17, VISA อันดับ 19, Adobe อันดับ 24, Oracle อันดับ 26, Cisco อันดับ 28, Verizon อันดับ 29, Fitbit อันดับ 32, Yelp อันดับ 35, Lyft อันดับ 38, Pandora อันดับ 40, Dropbox อันดับ 42, Gartner อันดับ 43, Box อันดับ 47 และ Square อันดับ 49
อันดับหนังสือขายดีช่วยกระตุ้นยอดขายให้ร้านหนังสือ แบบเดียวกับร้านขายซีดีเพลง แต่ฟีเจอร์ล่าสุดของเจ้าพ่ออีบุ๊กอย่างอเมซอนก็เปิดตัว Amazon Charts จัดอันดับหนังสือที่อ่านมากที่สุด และที่ขายดีที่สุด
ฝั่งธุรกิจขายเพลงอาจจะเห็นการจัดอันดับแบบเดียวกันมาก่อนแล้ว เพราะบริการสตรีมเพลงนั้นมักไม่ต้องการการซื้อล่วงหน้าก่อนฟังจริง ขณะที่ฝั่งอีบุ๊กต้องซื้อก่อนจึงเปิดอ่าน ทำให้มีอันดับแยกกันระหว่างอันดับการซื้อ ซึ่งอาจจะซื้อไปดองไว้ก่อน หรือยังอ่านเล่มก่อนหน้าไม่จบ
การจัดอันดับทั้งสองอันต่างกันพอสมควร เช่นหมวด non-fiction อันดับที่อ่านมากที่สุดคือ "The Subtle Art of Not Giving a F*ck" ขณะที่อันดับขายดีอันดับหนึ่งคือ "Astrophysics for People in a Hurry"
Amazon ได้ประกาศอัพเดตแท็บเล็ตตระกูล Fire ทั้ง Fire 7, Fire HD 8 ดังนี้
Fire HD 8 เพิ่มรุ่นสำหรับเด็กหรือ Kids Edition เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมบุตรหลายได้ด้วยบริการ FreeTime Unlimited ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 2.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยผู้ปกครองสามารถจำกัดการเข้าถึงของลูกได้ทุกหมวดหมู่ ตั้งแต่เกม, หนังสือ ไปจนถึงวิดีโอและเว็บไซต์ รวมถึงสามารถดูพฤติกรรมของลูกได้ด้วย
ราคาของ Fire HD อยู่ที่ 129.99 ดอลลาร์ มีให้เลือกสีเหลือง, ชมพู และฟ้า พร้อมบริการ FreeTime Unlimited เป็นเวลา 1 ปี, การันตี worry free คือ Amazon จะมอบอุปกรณ์ให้ใหม่ถ้าพบความเสียหายโดยไม่มีคำถามอื่นใดเพิ่มเติม เป็นเวลา 2 ปี
Amazon เตรียมนำฟีเจอร์การแจ้งเตือนมาลง Alexa คือให้อุปกรณ์ที่รัน Alexa ไม่ว่าจะเป็น Echo ของ Amazon เองหรืออุปกรณ์จากนักพัฒนารายอื่น รับการแจ้งเตือนจาก skill ของ Alexa ได้
Alexa ไม่ได้เป็นการประกาศการแจ้งเตือนออกมาทันทีเมื่อได้รับการแจ้งเตือนมา แต่จะมาเป็นเสียงเตือน (เหมือนโทรศัพท์มือถือ) กับเปลี่ยนสีของแสงวงแหวนเป็นเขียว (ส่วนอุปกรณ์ที่ไม่มีไฟสี อาจใช้วิธีแสดงไฟแจ้งเตือนในรูปแบบอื่นแทน) เพื่อเป็นการแจ้งเตือนผู้ใช้ก่อน เมื่อผู้ใช้ต้องการทราบรายละเอียดให้เรียกถาม Alexa ก็จะอ่านรายละเอียดการแจ้งเตือนให้ฟัง
โฆษณาตามติดเราไปทุกที่ในแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ช่วยในบ้านอย่าง Amazon Alexa บริษัท third party ของ Amazon หรือ Voicelabs ที่เข้ามาดูแลเรื่องข้อความโฆษณาได้แทรกข้อความเสียงโฆษณาจากแบรนด์ต่างๆ ที่เข้าร่วมลงใน Amazon Alexa เวลาเริ่มต้นที่ 6 ไปจนถึง 15 วินาที ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อของจากโฆษณานั้นได้ผ่าน Alexa เลย
Adam Marchick ซีอีโอ Voicelabs เคยให้สัมภาษณ์ว่าทางบริษัทจะทำตามนโยบายโฆษณาของ Amazon ทุกประการ ทำโฆษณาให้สั้นและกระชับ โดยตัวโฆษณาจะอยู่ตอนเริ่มต้นและปิดท้ายการสนทนาระหว่างผู้ใช้กับ Alexa
ในโอกาสเดียวกับที่ Amazon เปิดตัว Echo Show ลำโพงพร้อมหน้าจอสัมผัส บริษัทก็อัพเกรดความสามารถให้กับลำโพง Echo รุ่นก่อนๆ รวมถึงแอพผู้ช่วยส่วนตัว Alexa บนสมาร์ทโฟนด้วย
ฟีเจอร์ใหม่เรียกว่า Alexa Calling มันคือการใช้ Echo หรือแอพ Alexa โทรออก-รับสายได้เหมือนกับโทรศัพท์เลย แถมยังรองรับการส่ง SMS ได้ด้วย ทั้งหมดคือฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของ Alexa Calling คือคู่สนทนาของเราต้องติดตั้งแอพ Alexa หรือมีผลิตภัณฑ์ตระกูล Echo ด้วยเช่นกัน เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้ว เราสามารถสั่ง "Alexa, call Dad" หรือ "Alexa Message Mom" ได้ทันที หรือถ้ามีคนโทรมาหาเราผ่าน Alexa เราก็สามารถรับสายด้วยการพูดว่า "Alexa, answer"
eMarketer บริษัทวิจัยตลาดคาดการณ์การใช้งานลำโพงอัจฉริยะที่สั่งงานด้วยเสียงในปีนี้ จะมีชาวอเมริกันใช้งานราว 35.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 128.9% โดย Amazon Echo จะครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดถึง 70.6% จากยอดผู้ใช้งานทั้งหมด
ส่วน Google Home ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 23.8% ที่เหลือ 5.6% เป็นของเจ้าอื่นๆ รวมกัน อาทิ Lenovo, Harman Kardon, Mattel โดย eMarketer คาดว่าปีต่อไป ส่วนแบ่งของ Amazon Echo จะลดลงและไปเพิ่มให้กับ Google Home แทน แต่ก็ยังเป็นผู้นำตลาดอยู่เช่นเดิม
ทั้งนี้ eMarketer จัดหมวดหมู่ลำโพงอัจฉริยะแยกต่างหากจากกลุ่ม Virtual Assistance ซึ่ง eMarketer คาดว่าจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้น 23.1% ในปีนี้
Amazon ได้เปิดตัว Echo Show อุปกรณ์ในตระกูล Echo ใหม่ พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว และระบบผู้ช่วยเหลือส่วนตัว Alexa
Echo Show มีไมโครโฟนทั้งหมด 8 ตัว มีเทคโนโลยี beam-forming และการตัดเสียงรบกวนเหมือนกับ Echo ตัวอื่น ๆ จึงสามารถฟังเสียงของผู้ใช้ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของห้อง และยังมีกล้องอยู่ด้านบนตัวเครื่อง ลำโพงอยู่ด้านล่างเครื่อง และจุดเด่นของอุปกรณ์นี้คือหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 7 นิ้ว ตัวเครื่องสามารถใช้โทรคุยด้วยเสียงหรือวิดีโอกับผู้ใช้คนอื่นที่มี Echo Show ด้วยกัน หรือผ่านแอพ Echo, Alexa ก็ได้ เพียงสั่ง Alexa ให้โทรออกเท่านั้น
เว็บไซต์ Recode รายงานว่า ตอนนี้ Amazon และ Apple ใกล้บรรลุข้อตกลงการนำแอพวิดีโอของ Amazon มาลงแพลตฟอร์ม Apple TV แล้ว โดยคาดว่าน่าจะเริ่มเห็นแอพวิดีโอนี้ในไตรมาสที่สามของปี
การเพิ่มช่องทางเลือกนี้ จะช่วยให้สมาชิก Amazon Prime Video สามารถดูวิดีโอได้ผ่าน Apple TV อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันผู้ใช้สามารถดูได้ผ่านอุปกรณ์ iOS และสามารถสตรีมขึ้นไปยัง Apple TV ผ่าน AirPlay ได้เท่านั้น