ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยคงคุ้นชื่อกันดีกับ Baidu (อ่านตามเสียงภาษาจีนว่า ไป่ตู้) ซึ่งเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ซักระยะหนึ่งแล้วด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายประเภท ตัวที่คุ้นตาสุดน่าจะเป็น PC Faster โปรแกรมเร่งความเร็วสำหรับพีซี
ในภาพรวมตลาดโลก ปีนี้ Baidu ทำผลงานได้ดี กินส่วนแบ่งการตลาดการค้นหาในประเทศจีนมากถึง 72% มีผู้ค้นหามากกว่าวันละ 5,000 ล้านครั้ง และมีผู้ใช้งานต่อวันสูงถึง 500 ล้านคน แน่นอนว่าเป็นเว็บไซต์ภาษาจีนที่ใหญ่สุดในโลกไปแล้ว
ฝั่งธุรกิจ Baidu ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทรวมอยู่ที่ 53,000 ล้านเหรียญ ทำรายได้สูงขึ้นจากปีก่อนมากกว่าครึ่งหนึ่ง อยู่ที่ 3,580 ล้านเหรียญด้วยกัน
เว็บเบราว์เซอร์ Dolphin ประกาศความร่วมมือกับบริษัทด้านการค้นหาที่เป็นคู่แข่งของกูเกิลหลายรายพร้อมกัน ได้แก่
Dolphin (ซึ่งเป็นบริษัทในซานฟรานซิสโก) ให้เหตุผลว่าต้องการขยายไปยังลูกค้าในระดับนานาชาติมากขึ้น โดยเบราว์เซอร์ Dolphin รุ่นเฉพาะบางประเทศจะพรีโหลดบริการที่ได้รับความนิยมของประเทศนั้นๆ เพื่อจับลูกค้าหน้าใหม่ให้มากขึ้น
ข่าวนี้คงเป็นตัวอย่างที่ดีว่าทำไมกูเกิลถึงต้องสร้าง Chrome เพื่อการันตีว่าลูกค้าจะได้ใช้งาน Google Search นะครับ
ที่มา - Dolphin
Baidu ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินจากจีนวางขาย B-100 HD Internet TV (แปลจากกูเกิล) ซึ่งเป็น TV dongle ของตัวเอง สำหรับสตรีมข้อมูลสื่อมีเดียต่างๆ มาชมทางทีวี แต่บังเอิญการทำงานมันดันไปคล้ายกับ Chromecast ของกูเกิลซะนี่
Baidu วางขาย B-100 HD Internet TV ในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่จีน เชื่อมต่อกับทีวีผ่านผ่านพอร์ต HDMI รองรับสื่อมีเดียจาก DLNA, Airplay, Baidu’s BDPlay และ iQiyi (บริการมีเดียของ Baidu) สามารถสตรีมสื่อมีเดียผ่านสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ หรือแท็บแล็ตได้ มีราคาขายที่ 198 หยวนหรือราวๆ $32 (Chromecast ราคา $35)
Forbes จัดอันดับบริษัทที่มีนวัตกรรมสูงจากบริษัทที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์มา 7 ปีขึ้นไป, มูลค่าตลาดเกิน 10,000 ล้านดอลลาร์, และต้องมีสัดส่วนงบประมาณวิจัยและพัฒนาต่อยอดขายสูงพอที่จะได้รับพิจารณา
ในปีนี้บริษัทในเอเชียเข้าอยู่ใน 100 อันดับแรกอยู่ 20 บริษัท
สำหรับบริษัทด้านบริการคอมพิวเตอร์ ที่เราเคยได้ยินกันได้แก่
Baidu บริษัทค้นหาในจีนประกาศเข้าซื้อบริษัท NetDragon ผู้ให้บริการหน้าร้านขายแอพพลิเคชั่นรายใหญ่จากฮ่องกง ด้วยมูลค่า 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
NetDragon เป็นผู้ให้บริการเว็บ HiAPK.com และพอร์ทัลเกม 91.com รวมถึงพอร์ทัลเกมออนไลน์ใหญ่ที่สุดของจีน 17173.com นอกจากตัวเว็บแล้ว NetDragon ยังพัฒนาเกมออนไลน์ของตัวเองอีกหลายเกม และกำลังขยายฐานจากจีนออกไปยังประเทศอื่นๆ
ที่มา - 91.com (PDF), Reuters
แอพพลิเคชั่นบัญชี BitCoin บนแอนดรอยด์จำนวนมากเจอปัญหาบั๊กตัวสร้างตัวเลขสุ่ม ทำให้บัญชีที่สร้างจากแอพพลิเคชั่นเหล่านี้อยู่ในความเสี่ยงทั้งหมด โดยผู้ผลิตรายหลักได้แก้ปัญหาแล้ว โดยแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ได้แก่
อินเทลประกาศความร่วมมือกับ Baidu ตั้งศูนย์นวัตกรรมด้านอุปกรณ์พกพาในประเทศจีน โดยที่ศูนย์นี้จะเน้นการพัฒนาบนฮาร์ดแวร์ของอินเทล (พีซี แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน) เพื่อเจาะตลาดจีนโดยมี Baidu ช่วยสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์ค้นหาและแผนที่
ความพยายามผลักดันอุปกรณ์พกพา x86 ของอินเทลในประเทศจีนนั้นชัดเจนมาก ที่ผ่านมาเราเห็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนออกสมาร์ทโฟน Atom กันไม่น้อย เช่น Lenovo K900 และ ZTE Geek
เป็นข่าวลือมาได้ซักพักว่ายักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินจากจีน Baidu กำลังซุ่มทำอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ได้มาแข่งกับ Google Glass ซึ่งวันนี้ทาง Baidu ก็ออกมายืนยันแล้วว่ากำลังทำอยู่จริง
โค้ดเนมของอุปกรณ์ชิ้นนี้ถูกเรียกกันภายในว่า "Baidu Eye" ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับ Google Glass มาก ทั้งการควบคุมด้วยเสียง สามารถประมวลผลและจดจำภาพถ่าย ใบหน้าได้ รวมถึงมีจอ LCD ในตัว (ตรงนี้น่าจะต่างกับ Google Glass)
ตอนนี้ Baidu Eye ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นมากๆ แต่ก็พอมีภาพของตัวต้นแบบออกมาให้เห็นบ้างแล้ว เป้าหมายของตอนนี้ของ Baidu คือการจับมือกับ Qualcomm เพื่อทำให้ Baidu Eye สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง รวมถึงสร้างแพลตฟอร์มเพื่อให้นักพัฒนามาทำแอพลงในอนาคต
ข่าวนี้เป็นการชี้แจงโดยตรงจากทาง Baidu มายัง Blognone เรื่องกระทู้ "เตือนอย่าใช้ Baidu PC Faster เพราะมันมั่ว" โดยทาง Baidu ระบุว่าบริการนี้มีคนใช้น้อยจึงแนะนำให้ปิดบริการนี้ไป แต่อย่างไรก็ดีในเวอร์ชั่นล่าสุดได้มีตัวเลือกให้ผู้ใช้เลือกปิดบริการนี้ด้วยตัวเองแล้ว
ข้อมูลเพื่อทราบ: PC Faster เป็นโปรแกรมที่ทาง Baidu ลงโฆษณาแบบ Advertorial กับ Blognone ช่วงปลายปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี จดหมายชี้แจงนี้ผมลงเป็นข่าวเพื่อให้โอกาสทางบริษัทชี้แจง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ
ยักษ์ออนไลน์จีน Baidu เริ่มบุกตลาดนอกจีน โดยเริ่มต้นจากเบราว์เซอร์มือถือ Baidu Mobile ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
Baidu เซ็นสัญญากับ Orange โอเปอเรเตอร์สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งประกอบธุรกิจมือถือในประเทศแถบแอฟริกา-ตะวันออกกลางหลายแห่ง แถม Baidu Mobile ไปกับมือถือ Android ที่ Orange วางขายในภูมิภาคนี้ (เริ่มจากอียิปต์เป็นประเทศแรก)
Baidu ให้สัมภาษณ์ว่าผลิตภัณฑ์ของตัวเองประสบความสำเร็จในประเทศจีน และหวังจะนำประสบการณ์นี้ขยายผลไปยังประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ต่อไป โดยคราวนี้ Baidu แปลภาษาในเบราว์เซอร์ของตัวเองเป็นภาษาอังกฤษและอารบิกด้วย (เวอร์ชันภาษาฝรั่งเศสกำลังตามมา)
Lenovo เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ A586 ในประเทศจีน สเปกเครื่องไม่หวือหวาคือหน้าจอ 4.5" 480x854, ซีพียู 1.2GHz ดูอัลคอร์
จุดเด่นของมันกลับเป็นเทคโนโลยี Voice Unlock หรือจดจำเสียงเฉพาะตัวของผู้ใช้เพื่อปลดล็อคเครื่อง โดยเทคโนโลยีนี้พัฒนาโดย Institute for Infocomm Research (I2R) ของประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับศูนย์วิจัยของ Baidu แล้ว Lenovo ซื้อสิทธิบัตรมาใช้งานอีกทอดหนึ่ง
I2R เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Speaker Verification และมี Lenovo A586 เป็นผลิตภัณฑ์ในตลาดตัวแรกที่นำไปใช้งาน ตัวโทรศัพท์วางขายในประเทศจีนเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ที่มา - Android Authority
Baidu ร่วมกับ Qualcomm ประกาศความร่วมมือให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ Android ที่ติดตั้งหน่วยประมวลผล Snapdragon ของ Qualcomm
ผู้ใช้งานจะได้รับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 15GB เป็นระยะเวลา 1 ปี และหากเปิดใช้บริการบนอุปกรณ์เฉพาะรุ่นซึ่งกำหนดโดย Baidu ก็จะได้พื้นที่เพิ่มอีก 15GB ใช้งานได้นานเท่าอายุของอุปกรณ์
Baidu กล่าวว่าบริการดังกล่าวถูกปรับแต่งมาโดยอิงข้อมูลการออกแบบหน่วยประมวลผลของ Qualcomm โดยเฉพาะรุ่น Snapdragon MSM8x25 และ Snapdragon 8x25Q ซึ่งได้รับความนิยมจากบรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในจีนหลายราย อาทิเช่น Huawei G330D/G330C, Lenovo S686, Coolpad 7266 เป็นต้น
หลายคนน่าจะรู้จักกับ Baidu ในแง่ของความเป็นยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินของจีน แต่ความจริงแล้ว Baidu ยังมีบริการอื่นๆ ในเครืออีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Baidu PC Faster ซอฟต์แวร์ครบวงจรเพื่อปกป้อง และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอมพิวเตอร์ที่ทำมาเพื่อบุกตลาดประเทศไทยโดยเฉพาะ
Baidu เล็งเห็นว่า PC Faster สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ด้วยเครื่องมือที่ครบครันทั้งการป้องกันการโจมตีเครื่องผ่านโทรจัน ไวรัส และมัลแวร์ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพตัวเครื่องไปพร้อมๆ กัน ด้วยการใช้งานที่ง่ายเพียงคลิกเดียว รับประกันความนิยมด้วยยอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้ง ภายในเวลาไม่ถึงสี่เดือน ตั้งแต่เปิดตัว PC Faster รุ่นแรกไป
ยักษ์ใหญ่ของวงการเสิร์ชเอนจินเมืองจีนอย่าง Baidu (อ่านว่าไป่-ตู้) เคยเปิดตัวโปรแกรมที่ทำมาเพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะอย่าง PC Faster ไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มาวันนี้ Baidu ได้ออกอัพเดตรุ่นใหม่เวอร์ชัน 2.0 มาแล้ว
เวอร์ชัน 2.0 ของ PC Faster ได้รวมโปรแกรม Anti-Virus เข้ามาด้วย ซึ่งทาง Baidu เคลมว่าตัว Anti-Virus ปลอดภัยกว่าด้วยฐานข้อมูลไวรัสทั้งทั่วโลก และเฉพาะเจาะจงไวรัสในประเทศไทย รวมถึงฟีเจอร์ USB Guard ช่วยการป้องกันไวรัสที่มาจาก USB ได้แน่นอน
ฟีเจอร์ก่อนหน้าของ PC Faster ก็ถูกทำให้ใช้งานได้ดีขึ้นดังนี้
เว็บจีนยักษ์ใหญ่ Baidu เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์พกพาของตัวเองในชื่อ Baidu Mobile Browser ใช้งานได้บน Android 2.2+, Windows Phone 7 และ Symbian
หน้าตาของมันคงไม่ต่างอะไรกับเบราว์เซอร์บนมือถือตัวอื่นๆ นัก แต่ในแง่ฟีเจอร์ก็จัดเต็ม
ก่อนหน้านี้เคยมีภาพหลุดของมือถือจาก Baidu ที่จะใช้ระบบปฏฺิบัติการชื่อว่า "Baidu Cloud" ออกมา แต่ยังไม่มีรายละเอียดออกมามากนัก แต่ตอนนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติมออกมาแล้วครับ
Baidu Cloud แต่เดิมคือระบบปฏิบัติการที่ Baidu ทำขึ้นมาโดยใช้ฐานของแอนดรอยด์ และผูกเข้ากับบริการของตัวเอง แต่รายละเอียดที่เพิ่มขึ้นมานั้นบอกว่า Baidu Cloud จะทำได้มากกว่านั้น อย่างแรกเลยคือสามารถลงทับแอนดรอยด์ที่ใช้อยู่ได้เลย (ในเบื้องต้นจะรองรับแค่ Nexus S และจะมีรุ่นที่ใช้ ICS ตามมาในอนาคต) เพื่อหวังกินตลาดแอนดรอยด์ในจีนที่มีสัดส่วนสูงถึง 68.4%
สื่อจีน Sina Tech รายงานข่าวโดยอ้างข้อมูลจากผู้บริหารของ Baidu ว่าตอนนี้บริษัทกำลังทดสอบระบบค้นหาของตัวเองบน iOS ของแอปเปิลอยู่ โดยจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ (คาดว่าน่าจะเป็นเวทีงาน WWDC)
ข่าวนี้ถือว่าสมเหตุสมผลทั้งสองฝ่าย เพราะ Baidu มีส่วนแบ่งตลาดค้นหาจีนถึง 83.6% การขยายตลาดมายังอุปกรณ์พกพาจึงเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ส่วนฝ่ายแอปเปิลเองก็พยายามลดความพึ่งพิงกูเกิลมากขึ้นเรื่อยๆ และถ้าจับมือกับ Baidu ก็ช่วยให้เจาะตลาดประเทศจีนได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ แอปเปิลเคยจับมือกับ Baidu บ้างแล้ว โดยใส่บริการจากจีนหลายตัวเข้ามาใน Mac OS X Mountain Lion
Baidu ยักษ์ใหญ่วงการค้นหาของจีนที่ประกาศว่าปีนี้จะลุยตลาดมือถือเต็มตัว โดยมี Dell เป็นพันธมิตรไปแล้ว และคาดว่าจะมี ZTE เข้าร่วมอีกราย ก่อนหน้านี้เคยโชว์ Baidu Yi ระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนที่ใช้ฐานมาจากแอนดรอยด์ไปแล้ว
ตอนนี้มีภาพของสมาร์ทโฟนจาก Baidu ที่ใช้ระบบปฏิบัติการตัวใหม่ชื่อว่า Baidu Cloud ที่พัฒนามาจาก Baidu Yi ออกมาแล้ว (ที่มาบอกหน้าตาคล้าย Nokia Lumia) ซึ่งน่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับประกาศพันธมิตรเพิ่มเร็วๆ นี้
โอกาสมาก็ต้องรีบคว้าไว้สำหรับ Liu Dong หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Jocelin เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของเว็บเสิร์ชยักษ์ใหญ่ในประเทศจีนอย่าง Baidu ซึ่งเธอได้เปิดตัวซิงเกิ้ลเพลงแรกที่สามารถฟังและดาวน์โหลดฟรีผ่านระบบ Baidu Ting ของเว็บ Baidu นั่นเอง (จำกัดเฉพาะในจีน) โดนซิงเกิ้ลแรกของ Jocelin มีชื่อว่า Angry Birds เป็นเพลงรักแนวอคูสติกและไม่เกี่ยวกับเกมนกโมโหแต่อย่างใด
Baidu แชมป์วงการค้นหาของจีน (ส่วนแบ่งตลาด 76.1% ส่วนกูเกิลส่วนแบ่ง 19.8%) ประกาศลุยตลาดมือถืออย่างจริงจังในปีนี้
Robin Li ซีอีโอของบริษัทพูดในงานแถลงผลประกอบการว่า มือถือเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการกระจายผลิตภัณฑ์ของ Baidu และในอนาคตอันใกล้ มือถือจะมีส่วนแบ่งในทราฟฟิกของ Baidu มากขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา Baidu ยังไม่จริงจังนักในการหารายได้จากมือถือ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทตั้งใจจะทำในปีนี้
จากข่าวก่อนหน้านี้เรื่อง Baidu Yi ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ภาคเมืองจีน ที่ได้
ระบบปฏิบัติการ Baidu Yi เปิดตัวมาได้ไม่ทันไร ก็มีข่าวว่าได้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ใหญ่อย่าง Dell มาเป็นพาร์ทเนอร์แล้ว
เมื่อปีที่แล้วเคยมีข่าว Baidu เล็งจะทำระบบปฏิบัติการบนมือถือบ้าง หนึ่งปีผ่านไป มันมาแล้วครับ
Baidu เว็บยักษ์ใหญ่ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดค้นหาประมาณ 75% ของประเทศจีน ออกเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเองชื่อ Baidu Browser
Baidu Browser ยังมีสถานะเบต้าอยู่ ผมหาข้อมูลไม่เจอว่าใช้เอนจินแสดงผลอะไร แต่มันยังไม่รองรับ HTML5 เหมือนเบราว์เซอร์รายใหญ่อื่นๆ แต่สิ่งที่ Baidu กลับเน้นคือ "เว็บแอพ" ของบริการออนไลน์ต่างๆ ในประเทศจีน ซึ่งตอนนี้มีเว็บแอพกว่า 30,000 ตัวแล้ว (ภาพของ Baidu Browser)
แนวทางของ Baidu Browser ค่อนข้างชัดเจนว่าจะเดินตาม Chrome ของกูเกิล และเราอาจเห็นระบบปฏิบัติการแบบเดียวกับ Chrome OS ตามมา
Baidu ผู้นำแห่งเว็บค้นหาภาษาจีน ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ Bing (ตามข่าวลือก่อนหน้านี้) โดย Baidu จะนำผลการค้นหาในภาษาอังกฤษจาก Bing มาใส่ในเว็บของตัวเอง
ผลจากข้อตกลงนี้ทำให้ Baidu ได้ผลการค้นหาข้อมูลภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น ส่วน Bing จะได้ส่วนแบ่งตลาดค้นหาโลกเพิ่มขึ้น (จีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 450 ล้านคน) แถมทั้งสองรายยังเป็นคู่แข่งร่วมของกูเกิล ที่มีปัญหาในการเจาะตลาดประเทศจีนเนื่องจากกฎระเบียบของรัฐบาลจีน
ที่มา - Reuters