Baidu ประกาศเป็นทางการแล้ว ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ ว่าบริษัทเตรียมให้บริการแชทบ็อท AI โดยมีชื่อโครงการว่า ERNIE Bot หรือชื่อภาษาจีน 文心一言 (เหวินซินอี้เหยียน) เริ่มทดสอบภายในเดือนมีนาคม และจะเปิดให้ใช้งานทั่วไปในอนาคต
ชื่อ ERNIE ย่อมาจากคำว่า Enhanced Representation through Knowledge Integration พัฒนาด้วย LLM หรือ Large Language Model ซึ่งบริษัทเคยเปิดตัวไปเมื่อ 2019 มีความสามารถรองรับความรู้ต่าง ๆ และสามารถเข้าใจภาษาในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดจนการสร้างรูปภาพขึ้นจากข้อความ
ราคาหุ้นของ Baidu ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 11 เดือน หลังประกาศโครงการแชทบ็อท ERNIE นี้
สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องระบุว่า Baidu ผู้ให้บริการเสิร์ชรายใหญ่ของจีน เตรียมเปิดตัวบริการแชตบอต AI แนวเดียวกับ ChatGPT ในเดือนมีนาคมนี้ โดยจะเริ่มต้นให้บริการเป็นแอปแยกก่อน จากนั้นจึงนำมารวมกับบริการเสิร์ชหลัก
ตามแผนงานนั้น Baidu คาดจะนำผลการค้นหาที่ออกมาจากแชตบอตนี้ แสดงผลรวมเข้ากับผลการค้นหาที่เป็นลิงก์ต่าง ๆ ในระบบเสิร์ชดั้งเดิม ซึ่งอาจทำให้เห็นแนวทางว่าผู้ให้บริการเสิร์ชจะปรับตัวอย่างไรกับแชตบอตแนว ChatGPT นี้
Baidu เป็นบริษัทที่ประกาศลงทุนด้านธุรกิจเกี่ยวกับ AI และที่เกี่ยวข้องมานาน ทั้งบริการคลาวด์ ชิป ตลอดจนรถยนต์ไร้คนขับ
บริษัท Baidu เป็นรายแรกในจีนที่ได้รับอนุญาตให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับโดยไม่ต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัย หลังจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา Baidu เพิ่งได้รับอนุญาตให้สามารถให้บริการได้กรุงปักกิ่ง โดยยังต้องมีคนขับนั่งหลังพวงมาลัยตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม บริการรถไร้คนขับของ Baidu สามารถให้บริการในพื้นที่จำกัด คือ บริเวณที่กำหนดไว้ให้ในมณฑลอู่ฮั่นและนครฉงชิ่งในช่วงกลางวันเท่านั้น ซึ่งมีพื้นที่ราว 13 ตารางกิโลเมตรอยู่ในพื้นที่พัฒนาทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของอู่ฮั่น (WHDZ) รวมถึงราว 30 ตารางกิโลเมตรในเขตหยงชวนของนครฉงชิ่ง
Baidu มีบริการแท็กซี่ไร้คนขับ Apollo Go เปิดบริการในจีนมาตั้งแต่ปลายปี 2021 ล่าสุดบริษัทเปิดตัวรถไร้คนขับรุ่นใหม่ Apollo RT6 หน้าตาล้ำสมัย มีพวงมาลัยพับเก็บได้หากเข้าโหมดไร้คนขับอย่างสมบูรณ์ (ตามกฎหมายจีนยังต้องมีคนขับนั่งอยู่หลังพวงมาลัยเสมอ)
หน้าตาของ Apollo RT6 เน้นความโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย มีหลังคาซันรูฟที่ฝังเซ็นเซอร์ไว้กับโครงสร้าง, ประตูเลื่อนด้านข้าง, ที่นั่งด้านหน้าสามารถเปลี่ยนเป็นกล่องใส่ของหรือโต๊ะทำงานได้
ฟีเจอร์อย่างอื่นของ Apollo RT6 คือกล้องรอบคัน 12 ตัว, เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิก 12 ตัว, มีเรดาร์ 1 ชุด และไลดาร์วัดแสง 8 ชุด, รองรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 4 หน่วยประมวลผลมีสมรรถนะ 1200 Tops
Baidu เปิดตัวแพลตฟอร์ม Metaverse ของตัวเองในชื่อ Xi Rang ที่แปลว่า Land of Hope โดยจะเริ่มใช้งานครั้งแรกในงานประชุมนักพัฒนาด้าน AI ของตัวเองในวันที่ 27 ธันวาคมนี้
Baidu บอกว่าแพลตฟอร์มตัวเองสามารถรองรับผู้ใช้งานได้พร้อมกันถึง 100,000 คน โดยตอนนี้แพลตฟอร์มจะยังอยู่ในขั้นแรกของการพัฒนา และต้องอาศัยชุมชนนักพัฒนาในการช่วยกันปรับปรุงและสร้างสรรค์
ขณะที่สภาพแวดล้อมของโลก Metaverse ใน Xi Rang ทาง Baidu บอกว่าจะเหมือนเราอยู่ในโลก Wonderland ที่ผู้ใช้งานจะได้เจอกับสภาพแวดล้อมและตัวละครต่างๆ เช่น พระวัดเส้าหลินหรือตัวละครแฟนตาซีจากหนัง
เป้าหมายด้านนี้ของ Baidu ณ ตอนนี้คือการสร้างเอนจินที่ช่วยประมวลผลด้าน AI และบนคลาวด์กับผลิตภัณฑ์ Metaverse อื่นๆ
Baidu ประกาศว่าโครงการรถยนต์ไร้คนขับ Apollo ได้รับการอนุมัติจากทางการจีนให้เปิดบริการแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) บนถนนในกรุงปักกิ่งแล้ว
บริการแท็กซี่ไร้คนขับนี้มีชื่อจีนว่า Luobo Kuaipao (ชื่ออังกฤษคือ Apollo Go) ตอนนี้เปิดให้บริการฟรีในเขตพัฒนาเศรษฐกิจ Beijing Economic and Technological Development Zone ขนาด 60 ตารางกิโลเมตร มีถนนความยาวกันรวม 350 กิโลเมตร ตอนนี้ในระบบมีรถให้เรียก 67 คัน
Baidu มีแผนจะขยาย Apollo Go ให้ครอบคลุม 65 เมืองในจีนภายในปี 2025 และ 100 เมืองในปี 2030
CCTV สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลจีน ประกาศความร่วมมือกับ Baidu AI Cloud แผนกด้าน AI ของ Baidu เปิดตัวล่ามภาษามือแบบ virtual ที่สร้างขึ้นจาก AI สำหรับบรรยายเนื้อหาสำหรับผู้มีปัญหาการได้ยิน
ผู้สื่อข่าวภาษามือ virtual นี้ จะเริ่มใช้งานครั้งแรก เพื่อบรรยายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในปี 2022 ที่เมืองปักกิ่ง
Baidu AI Cloud ระบุว่าเทคโนโลยีที่ใช้มีทั้งการรับรู้ข้อมูลเสียง และการแปลข้อความ ให้ออกมาเป็นภาษามือที่แม่นยำ นอกจากนี้ล่าม virtual ยังต้องแสดงสีหน้าออกมาเพื่อสื่อสารตามอารมณ์ของเนื้อหานั้นด้วย
ที่มา: Pandaily
เป็นอีกความพยายามร่วมกันของบริษัทเทคโนโลยีจีน ที่จะติดตามข้อมูลผู้ใช้งาน iPhone เพื่อทำการโฆษณาเจาะกลุ่มได้ แต่ก็ต้องล้มเหลว โดย Financial Time รายงานว่า Baidu, Tencent และ TikTok ของ ByteDance ทำงานร่วมกับบริษัทสองแห่งในปักกิ่งเพื่อพัฒนาวิธีการใหม่ในการติดตาม iPhone สำหรับทำโฆษณาที่เรียกว่า CAID สามารถติดตามผู้ใช้ได้ แม้ผู้ใช้งานจะตั้งค่าปฏิเสธไม่ให้เข้าถึง Advertising Identifier (IDFA)
ทางบริษัทจีนพยายามทดสอบระบบมาตั้งแต่เดือนมีนาคม และความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ แอปเปิลปฏิเสธการอัปเดตแอปจีนใน App Store หลายแอป ที่ตรวจพบว่ามีระบบ CAID
Baidu รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 4,638 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 794 ล้านดอลลาร์
Robin Li ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Baidu กล่าวว่า Baidu มีผลประกอบการสิ้นสุดปี 2020 ที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาพรวม ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ดิจิทัลที่มากขึ้น ในปี 2021 Baidu จะเน้นความเป็นผู้นำด้าน AI และพื้นฐานที่ดีในธุรกิจอินเทอร์เน็ต เพื่อเข้าสู่ตลาดทั้งบริการคลาวด์ รถยนต์ไร้คนขับ การขนส่งอัจฉริยะ และโอกาสอื่นจาก AI
Reuters รายงานข่าวลือว่า Baidu กำลังจะตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง โดยใช้โรงงานผลิตของบริษัทรถยนต์จีน Geely
Baidu มีโครงการรถยนต์ไร้คนขับ Apollo มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นหลัก ส่วนฮาร์ดแวร์รถยนต์ใช้วิธีร่วมมือกับบริษัทรถยนต์หลายราย เช่น Ford, Geely และ Toyota ข่าวรอบนี้คือ Baidu สนใจผลิตรถยนต์ด้วยตัวเอง โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานการผลิตของ Geely นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ Alibaba ก็ร่วมทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากับ SAIC แบรนด์รถยนต์จีนอีกราย และบริษัทเรียกรถ Didi Chuxing ก็จับมือกับบริษัทรถยนต์ BYD เช่นกัน
ต่อจากข่าวรัฐบาลอินเดียแบนแอพจีนระลอกแรก 59 ตัว และระลอกสอง 47 ตัว วันนี้อินเดียประกาศแบนแอพระลอกสาม ชุดใหญ่ 118 ตัว
ในจำนวนนี้มีแอพดังๆ อย่าง PUBG Mobile, Baidu, Alipay, VOOV, Youku, Taobao, Arena of Valor (AoV) และแอพตระกูล APUS รวมถึงแอพสายเบราว์เซอร์ ฟังเพลง แกลเลอรี และเกมจีนอีกจำนวนมาก (รายชื่อทั้งหมดอ่านได้จากที่มา)
การแบนแอพจีน 3 ระลอก มีแอพโดนแบนไปแล้ว 224 ตัว โดยใช้อำนาจตามมาตรา 69 ของกฎหมาย Information Technology Act ของอินเดีย
iQiyi (อ้ายฉีอี้) สตรีมมิ่งใหญ่เปรียบได้กับ Netflix แห่งจีน ผู้ลงทุนเบื้องหลังคือ Baidu กำลังถูกสอบสวนโดย กลต.สหรัฐฯ หรือ SEC ว่ามีการโกงเลขรายได้และจำนวนผู้ใช้งานหรือไม่
การสืบสวนมาจากสำนักวิจัย Wolfpack Research กล่าวหาว่า iQiyi เพิ่มตัวเลขรายได้ในปี 2019 จากประมาณ 8 พันล้านหยวน (1.13 พันล้านดอลลาร์) เป็น 13 พันล้านหยวน (1.98 พันล้านดอลลาร์) หรือจาก 27% เป็น 44% และยังบอกด้วยว่าบริษัทโก่งตัวเลขผู้ใช้งานและค่าใช้จ่ายด้วย
Baidu ซึ่งเป็นบริษัทจากจีนเพียงหนึ่งเดียว ประกาศยุติการเป็นสมาชิกของ Partnership on AI หรือ PAI -- องค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในการวางมาตรฐานของ AI เช่น ความเป็นส่วนตัวทางดิจิตอล, ความเหลื่อมล่ำในเชิงอัลกอริทึ่ม และ ศีลธรรมในโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทไอทีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Apple, Facebook, Google และ Microsoft
โดยครั้งนี้ Baidu ให้เหตุผลว่า เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเป็นสมาชิกสูงเกินไป แต่จากรายงานของ Wired คาดการณ์ว่า น่าจะเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
Baidu รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2019 รายได้รวม 4,149 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 911 ล้านดอลลาร์
Robin Li ซีอีโอ Baidu กล่าวว่าปี 2019 ที่ผ่านมา Baidu ได้เสริมความแข็งแกร่งในระบบนิเวศของมือถือมากขึ้น มีจำนวนผู้ใช้งานแบบ DAUs เพิ่มเป็น 195 ล้านคน จำนวนการเสิร์ชแบบ In-App ก็เพิ่มขึ้นถึง 30% ขณะที่ธุรกิจใหม่ AI ยังมีทิศทางที่ดี ทั้งการเป็นผู้นำในตลาดอุปกรณ์อัจฉริยะ, การขนส่ง และลูกค้าองค์กร
ตัวเลขอื่นที่น่าสนใจ แพลตฟอร์มวิดีโอ iQIYI มีจำนวนผู้สมัครใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 106.9 ล้านบัญชี, DuerOS แพลตฟอร์มผู้ช่วยอัจฉริยะ มีจำนวนคำสั่งเพิ่มเป็นกว่า 5 พันล้านครั้งต่อเดือน
ซัมซุงประกาศความร่วมมือกับ Baidu ผลิตชิป Baidu KUNLUN สำหรับการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ด้วยเทคนิคการแพ็กเกจชิปแบบ I-Cube ของซัมซุงทำให้เชื่อมต่อหน่วยประมวลผลเข้ากับความจำได้ประสิทธิภาพสูง
ชิป KUNLUN สามารถคำนวณได้ 260 TOPS (ไม่ระบุประเภทคำสั่งอาจจะเป็น integer 8 บิต) และสามารถส่งข้อมูลจากหน่วยความจำได้สูงถึง 512 กิกะไบต์ต่อวินาที กินพลังงานสูงสุด 150 วัตต์ โดยประสิทธิภาพการรันโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (inference) ที่ชื่อว่า Ernie ซึ่งเป็นโมเดลประมวลผลภาษาสูงกว่าการใช้ชิปกราฟิกสามเท่าตัว
Baidu รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2019 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 3,929 ล้านดอลลาร์ แต่ขาดทุนสุทธิ 892 ล้านดอลลาร์
ในช่วงที่ผ่านมา Baidu พยายามสร้างรายได้จากธุรกิจอื่นนอกจากธุรกิจดั้งเดิมคือเสิร์ช ทำให้ค่าใช้จ่ายบริษัทเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็เริ่มสะท้อนผลลัพธ์ โดยบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง iQIYI มีผู้สมัครใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 105.8 ล้านบัญชี คิดเป็นรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจหลักด้านการตลาดออนไลน์ (เสิร์ช-ข่าว) ลดลง 9% ส่วนจำนวนผู้ใช้งานแอป Baidu ผ่านมือถือเพิ่มเป็น 189 ล้านบัญชี
ที่มา: Reuters
ปีนี้นับเป็นช่วงเวลาที่โลกกำลังเข้าสู่สงครามสตรีมมิ่งรอบใหม่ หลังจาก Netflix สามารถสร้างฐานผู้ใช้ได้นับร้อยล้านราย ผู้เล่นรายใหญ่ทั้ง Disney+, Apple TV+, HBO Max, Peacock ต่างเตรียมจะเปิดบริการในเร็วๆ นี้ และยังมีบริการสตรีมมิ่งรายเดิมที่พยายามตีตื้น Netflix ขึ้นมาอย่าง Hulu, Amazon Prime Video, YouTube Original ซึ่งแต่ละเจ้าก็พยายามลงทุนทำซีรีส์ด้วยทุนสูงเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน ผู้บริโภคโดยเฉพาะฝั่งสหรัฐฯ จะมีทางเลือกจำนวนมาก และกำลังจะเข้าสู่สภาวะเลือกไม่ถูกเพราะมีให้เลือกดูเต็มไปหมด (แต่เวลาชีวิตมีเท่าเดิม)
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Baidu บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของจีน เตรียมขายหุ้น Ctrip.com เว็บบริการด้านการเดินทางออนไลน์ของจีน ที่ถือครองอยู่ราว 1 ใน 3 โดยคาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นรอบนี้ราว 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งใช้วิธีการขายด้วยการออกหุ้นแบบ ADS (American depositary share)
Baidu เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน Ctrip โดยปัจจุบันมีหุ้นราว 19% ซึ่งได้มาจากการแลกหุ้นกับ Ctrip จากดีลขายกิจการ Qunar ซึ่งเป็นเว็บบริการด้านการเดินทางออนไลน์คู่แข่ง
Baidu ประกาศลงทุนใน Neusoft บริษัทพัฒนา AI ด้านอุตสาหกรรมสำหรับเมืองอัจฉริยะ, สาธารณสุขและโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา เป็นเงินกว่า 1.44 พันล้านหยวนหรือราว 7.2 พันล้านบาท
การลงทุนครั้งเป็นการขยายความร่วมมือระหว่าง Baidu และ Neusoft หลังจากที่ Baidu เคยลงทุนมาก่อนแล้วช่วงเดือนมีนาคม 22.5 ล้านหยวนหรือราว 112.5 ล้านบาทในธุรกิจด้านสาธารณสุขของ Neusoft และการลงนามพัฒนาแอป AI ด้านสาธารณสุขและสมาร์ทซิตี้ร่วมกันในเดือนพฤษภาคม
ที่มา - SCMP
เป็นที่รู้จักกันว่าในตลาดลำโพงอัจฉริยะ Amazon Echo เป็นเบอร์ 1 ในตลาดมาตลอด ตามมาด้วย Google Home ทว่าล่าสุดบัลลังก์ Google ถูกสั่นคลอนด้วย Baidu จากจีนแล้ว เมื่อรายงานไตรมาสที่ผ่านมาจาก Canalys เผยว่า Baidu มียอดส่งมอบ 4.5 ล้านชิ้น ส่วนแบ่งตลาด 17.3% เติบโตจากปีที่แล้ว 3,700%
เบอร์ 1 อย่าง Amazon Echo มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 25.4% เติบโต 61.1% สวนทางกับเบอร์ 3 อย่าง Google ที่ส่วนแบ่งเหลือ 16.7% เติบโตลดลง -19.8% ส่วนอีก 2 อันดับที่เหลือในท็อป 5 เป็นแบรนด์จีนคือ Alibaba ส่วนแบ่ง 15.8% โต 38.8% และ Xiaomi 10.8% โต 37.5%
Baidu รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 มีรายได้รวม 3,835 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 351 ล้านดอลลาร์ ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ขาดทุน
Robin Li ซีอีโอ Baidu กล่าวว่าตัวเลขผู้ใช้งานแอป Baidu ยังคงเติบโตสูงมีจำนวน DAUs (ผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน) เพิ่มขึ้น 27% เป็น 188 ล้านคน เสิร์ชในแอปเพิ่มขึ้น 20% และมี MAUs ผู้ใช้มินิโปรแกรมเพิ่มเป็น 270 ล้านคน ส่วนธุรกิจด้าน AI จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ DuerOS ซึ่งรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพิ่มเป็น 400 ล้านชิ้น จำนวนคำสั่งค้นหาด้วยเสียงต่อเดือนเพิ่มเป็น 3,600 ล้านคำสั่ง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า หลังการรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีจีนในไตรมาสที่ผ่านมาครบทุกบริษัทใหญ่แล้ว มีประเด็นน่าสนใจคือมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นล่าสุดของ Baidu ได้หลุดจาก 5 อันดับแรกของบริษัทเทคโนโลยีจีน โดยมี NetEase บริษัทเกมรายใหญ่เบอร์สองของจีนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 แทน
ที่ผ่านมาเราอาจคุ้นการเรียกตัวย่อรวม 3 บริษัทไอทีใหญ่ของจีนคือ BAT ย่อมาจาก Baidu, Alibaba และ Tencent สะท้อนความใหญ่ของทั้ง 3 บริษัท อย่างไรก็ตาม Baidu ถูกแซงในแง่มูลค่ากิจการจนหลุด Top 3 ก่อนหน้านี้ จากทั้ง JD.com อีคอมเมิร์ซเบอร์สองในจีน และ Meituan ผู้ให้บริการ O2O และส่งอาหารรายใหญ่ของจีน
Bloomberg รายงานว่า Bytedance บริษัทแม่ของแอปอย่าง TikTok เตรียมจะทำเสิร์ชเอนจินของตัวเองในจีน ซึ่งจะชนกับ Baidu ที่ครองธุรกิจนี้อยู่ในประเทศ
อย่างไรก็ตามเสิร์ชเอนจินของ Bytedance ไม่ได้จะเป็นแอปแยกออกมาต่างหากแบบ Google หรือ Baidu แต่จะเป็นฟังก์ชันเสิร์ชที่ฝังอยู่ในแอปต่างๆ บนแพลตฟอร์มของ Bytedance อย่าง Douyin ที่เป็น TikTok เวอร์ชันจีนและแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง ซึ่ง Bytedance ก็น่าจะมีรายได้จากค่าโฆษณาทางนี้เพิ่ม
ที่มา - Bloomberg
Baidu ประกาศความร่วมมือกับ Toyota และ Zhejiang Geely Holding Group บริษัทรถยนต์จีนที่ถือหุ้นใหญ่ใน Volvo Group ในการพัฒนารถไร้คนขับร่วมกันบนแพลตฟอร์ม Apollo ของ Baidu
ในส่วนของ Toyota จะรถบัส e-Paletteมาทดสอบกับ Apollo Minibus แพลตฟอร์มรถบัสไร้คนขับ และจะการหาทางนำเทคโนโลยีไร้คนขับมาใช้งานจริงเพิ่มเติมต่อไป ขณะที่ Geely เบื้องต้นจะร่วมมือในแง่การนำ AI มาใช้งานประเภท Intelligent Connectivity หรือ Smart Mobility
ที่มา - ITNews
ที่งาน Baidu Create AI ที่ปักกิ่งวันนี้ ขณะที่ Robin Li ซีอีโอของบริษัทกำลังกล่าวเปิดงาน ก็มีชายผู้ร่วมงานปีนขึ้นเวทีแล้วใช้น้ำดื่มราดหัวของเขาแล้วเดินลงไป
ยังไม่มีข้อมูลว่าชายผู้นี้มีแรงจูงใจอะไร แต่เขาน่าจะเป็นผู้ร่วมงานถูกต้องเพราะมีบัตรเข้างานห้อยคออยู่ ขณะที่ทางไป่ตู้ระบุว่าอยู่ระหว่างการสอบสวน
ตัว Li เองแสดงอาการตกใจเล็กน้อย และพูดตามหลังผู้บุกรุกว่า "คุณมีปัญหาอะไร" และหลังจากนั้นก็กลับมาบรรยายต่อ โดยระบุกับผู้ฟังว่า การพัฒนา AI มีปัญหาตลอดเส้นทางแต่มันจะเปลี่ยนชีวิตทุกคนแน่นอน
ที่มา - RT