เอไอเอสรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2558 มีรายได้รวม 39,784 ล้านบาท ลดลง 1.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% สาเหตุหลักจากต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ลดลงเพราะสัญญากับทีโอทีสิ้นสุดลง ขณะที่การขายโทรศัพท์มือถือมีอัตรากำไรขั้นต้นเหลือ -0.8% เนื่องจากมีการขายเครื่องที่กำไรสูงในไตรมาสที่ผ่านมาอย่าง iPhone 6s และ AIS 4G Lava
HTC ประกาศผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปี 2015 แม้จะยังขาดทุนต่อเนื่อง แต่ก็อาการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อย โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 25.7 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน แต่ยังขาดทุนจากการดำเนินงานอีก 4.1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันในไตรมาสล่าสุด
สำหรับภาพรวมของปีนี้ HTC ยอมรับว่าสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของบริษัททำผลงานไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ตลอดทั้งปี ตรงข้ามกับรุ่นกลางในซีรีส์ HTC Desire และ One A9 ที่มีการตอบรับค่อนข้างดี แต่ก็ยังไม่ช่วยให้ยอดขายรวมดีขึ้นนัก และในปี 2016 นี้ HTC จะเน้นทำสมาร์ทโฟนรุ่นกลางมากขึ้นควบคู่ไปกับรุ่นเรือธงเพื่อพลิกฟื้นวิกฤติของแผนกอุปกรณ์พกพาให้กลับมาทำกำไรต่อไป
GoPro รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 จากที่เคยออกมาให้ตัวเลขเบื้องต้นเมื่อเดือนที่แล้วซึ่งไม่ค่อยดีนัก มียอดขาย 437 ล้านดอลลาร์ ลดลง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยขายกล้องไปได้ประมาณ 2 ล้านเครื่อง
ซีอีโอ Nicholas Woodman ยอมรับว่ายอดขายในครึ่งปีหลังแผ่วลง แต่ยืนยันว่าบริษัทยังมีอนาคตที่สดใส โดยกล้องรุ่นใหม่ Hero 5 ที่จะออกมานั้น จะเป็น GoPro รุ่นที่ใช้งานได้สะดวกง่ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา และจะแก้ปัญหาความยุ่งยากที่ผู้ใช้งานหลายคนประสบได้ นอกจากนี้ GoPro จะยกเลิกการขายกล้องรุ่น Hero, Hero+ และ Hero+ LCD ในเดือนเมษายนนี้ด้วย
ดีแทครายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 มีรายได้รวม 23,249 ล้านบาท ลดลง 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/58 มีสาเหตุจากฐานจำนวนผู้ใช้ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะมีการบังคับลงทะเบียนซิม และมีกำไรสุทธิ 998 ล้านบาท ลดลง 47% จากค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดที่เพิ่มขึ้น
จำนวนผู้ใช้ดีแทคล่าสุดอยู่ที่ 25.25 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ 4 แสนเลขหมาย โดยเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งในระบบรายเดือนและระบบเติมเงิน ทั้งนี้ลูกค้า 90% ได้ลงทะเบียนซิมบนโครงข่าย 2100 MHz แล้ว และเป็นผู้ใช้สมาร์ทโฟน 61% ส่วนที่ผู้ใช้งาน 4G บนคลื่น 1800 MHz มีอยู่ 2.3 ล้านเลขหมาย
เลอโนโวรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2016 ของปีการเงินบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2015) รายได้รวม 12,913 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19%
Yuanqing Yang ซีอีโอเลอโนโวระบุว่า ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจในโลก, ปัญหาค่าเงิน และตลาดพีซีที่ยังคงหดตัว แต่เลอโนโวก็ยังรักษาระดับกำไรให้เพิ่มขึ้นได้ รวมทั้งมีส่วนแบ่งการตลาดของพีซีเพิ่มขึ้นมาเป็น 21.6% นอกจากนี้ธุรกิจโทรศัพท์มือถือก็เริ่มมีกำไรเป็นครั้งแรกแล้วหลังจากซื้อกิจการ Motorola มา
LINE รายงานผลการดำเนินงานของปี 2015 มีรายได้ 1.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับรายได้ของปี 2014 โดย LINE จำแนกช่องทางของรายได้ ว่ามาจากคอนเทนต์ 41% (เกมทั้งหลาย, Line Play, Line Music, Line Camera, Line TV และ Line Live) มาจากการสื่อสาร 24% (สติกเกอร์, Line Call) มาจากการโฆษณา 30% และอื่นๆ 5% โดยรายได้และยอดขายนั้นเติบโตได้ทั้งในญี่ปุ่น และต่างประเทศ 3 ตลาดสำคัญคือไต้หวัน, ไทย และอินโดนีเซีย
สำหรับตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAU) อยู่ที่ 215 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18.7% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 181 ล้านคน ซึ่งเป็นอัตราที่น้อยกว่ารายได้ที่ LINE ทำได้
Alphabet ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2015 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประกาศในฐานะบริษัท Alphabet (ก่อนหน้านี้ประกาศในฐานะกูเกิล) ตัวเลขของไตรมาส 4 ถือว่าเยอะเป็นประวัติการณ์ของบริษัทด้วย
กำไรจากการดำเนินงาน 5.3 พันล้านดอลลาร์ (อัตรากำไร 25%) ถ้าคิดกำไรทั้งหมด (net income) อยู่ที่ 4.9 พันล้านดอลลาร์
การเผยผลประกอบการครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ Alphabet แยกตัวเลขของกิจการอื่นๆ ที่ไม่ใช่กูเกิลให้เห็นกันชัดๆ (บริษัทเรียกธุรกิจใหม่ว่า Other Bets) โดยรวมเป็นตัวเลขตลอดปี 2015
กูเกิล: รายได้ 74.5 พันล้านดอลลาร์ กำไร 23.4 พันล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว)
โซนี่เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2015 (ตรงกับไตรมาส 4/2015) ออกมาดีกว่าที่คาด รายได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว 2.58 ล้านล้านเยน แต่กำไรเพิ่มขึ้น 33% เป็น 1.2 แสนล้านเยน
ธุรกิจที่สร้างกำไรให้โซนี่เป็นกอบเป็นกำในไตรมาสนี้คือ "ภาพยนตร์" ที่นำโดย James Bond ภาคล่าสุด Spectre (รายได้จากภาพยนตร์โต 27%), "เพลง" ที่มีดาวเด่น Adele (รายได้จากเพลงโต 8.2%) และ "เกม" (รายได้โต 10.5%)
Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4/2015 สิ้นสุดเดือนธันวาคม มีรายได้รวม 5,333 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็นรายได้ผ่านแพลตฟอร์มมือถือถึง 2,894 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 192% ในส่วนนี้ โดยมีกำไรสุทธิ 2,525 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25%
ตัวเลขผู้ซื้อสินค้าผ่าน Alibaba อย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปีอยู่ที่ 407 ล้านคน ขณะที่ผู้ใช้งานผ่านมือถือเป็นประจำทุกเดือนอยู่ที่ 393 ล้านคน
Amazon รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4/2015 มีรายได้ 35,747 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2014 และตัดปัจจัยความผันผวนค่าเงิน รายได้จะเพิ่มขึ้นถึง 26% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 482 ล้านดอลลาร์ สูงที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท
AWS ยังคงเป็นธุรกิจที่ต้องจับตาดูสำหรับ Amazon โดยรายได้เติบโตถึง 69% ในไตรมาสที่ผ่านมา และมีกำไรขั้นต้น 687 ล้านดอลลาร์ (อัตรากำไร 29%) ขณะที่กำไรขั้นต้นของอีคอมเมิร์ซอยู่ที่ 1,063 ล้านดอลลาร์ ถ้าหาก AWS ยังเติบโตและรักษาความสามารถในการทำกำไรได้แบบนี้ ก็อาจเป็นส่วนธุรกิจที่ทำเงินให้ Amazon ได้มากกว่าอีคอมเมิร์ซเสียอีก
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2016 (ตุลาคม-ธันวาคม 2015) รายได้รวม 25,693 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 6,275 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8%
กลุ่มธุรกิจ Productivity and Business Processes (Office) และ More Personal Computing (Windows) ต่างมีรายได้ลดลงเล็กน้อย ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Intelligent Cloud มีรายได้เพิ่มขึ้น 5% โดยเฉพาะ Azure ที่ไมโครซอฟท์บอกว่ารายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นถึง 140% และหากตัดปัจจัยความผันผวนของค่าเงินจะเติบโตถึง 200% เลย
ซีอีโอ Satya Nadella กล่าวในรายงานโดยพูดถึงความสำเร็จของกลุ่ม Microsoft Cloud ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคธุรกิจ ขณะที่ Windows 10 ก็มีการใช้งานแล้วมากกว่า 200 ล้านอุปกรณ์
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 มีรายได้รวม 5,841 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,265 ล้านดอลลาร์ ที่น่าสนใจคือ Facebook มีรายได้จากโฆษณาซึ่งเป็นรายได้หลักอยู่แล้วผ่านแพลตฟอร์มบนมือถือ คิดเป็น 80% ของรายได้โฆษณาทั้งหมด
ในส่วนตัวเลขผู้ใช้งาน Facebook แบบเป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) มี 1,591 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน และเป็นผู้ใช้งานผ่านมือถือเพียงอย่างเดียวถึง 823 ล้านคน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ Facebook ทั้งหมดแล้ว
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปีการเงินบริษัท 2016 (ตุลาคม-ธันวาคม 2015) มีรายได้รวม 75,872 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 18,361 เพิ่มขึ้น 2% เช่นกัน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40.1%
บริษัทที่ชาว Blognone เอาใจช่วยกันมากที่สุดคงหนีไม่พ้น AMD ที่ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (4/2015) เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้น เพราะการขาดทุนเริ่มลดลง
ตัวเลขของไตรมาส 4/2015 พบว่ารายได้ของบริษัทลดลง 23% จากปีก่อน (958 ล้านดอลลาร์) แต่ขาดทุนลดลงมาก จากเดิมในไตรมาส 4/2014 ขาดทุน 364 ล้านดอลลาร์ ก็ลดลงมาเหลือ 102 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด
อย่างไรก็ตาม ถ้ารวมตัวเลขตลอดทั้งปี 2015 สถานการณ์ก็ยังดูไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะรายได้รวม 3.99 พันล้านดอลลาร์ (ลดลง 28% จากปี 2014) ส่วนการขาดทุนทั้งปีคือ 660 ล้านดอลลาร์ เยอะขึ้นกว่าปี 2014 ที่ขาดทุน 403 ล้านดอลลาร์
Netflix รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,823.33 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 43.18 ล้านดอลลาร์
เมื่อไตรมาสที่ 3 จำนวนลูกค้าในตลาดอเมริกาเพิ่มขึ้นไม่มากจนดูเหมือนตลาดอิ่มตัว แต่ไตรมาสที่ผ่านมาเฉพาะอเมริกา Netflix มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 1.56 ล้านราย เป็นการเติบโตอีกครั้ง ส่วนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นมา 4.35 ล้านราย รวมแล้วตอนนี้มีสมาชิก 74.76 ล้านรายทั่วโลก ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมสมาชิกใหม่จากการประกาศขยายตลาดอีก 130 ประเทศเมื่อต้นเดือน
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 รายได้ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 22,059 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 4,463 ล้านดอลลาร์ ลดลง 18.6%
แม้รายได้รวมยังคงลดลง แต่ไอบีเอ็มระบุว่ากลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทคาดหวังไว้ เช่น บริการกลุ่มเมฆ หรือ Big Data Analytics ภาพรวมยังเติบโต และคิดเป็นรายได้ถึง 35% ของรายได้รวมแล้ว แต่ยังโตไม่มากพอที่จะหักล้างกับธุรกิจเดิม ทำให้ตัวเลขรวมออกมาลดลงนั่นเอง
ที่มา: Tech Trader Daily
อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 มีรายได้ 14,914 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 3,613 ล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจ Data Center ยังคงมีการเติบโต แต่ด้วยอัตราที่ลดลง เฉพาะส่วนนี้มีรายได้ 4,300 ล้านดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์มองว่าองค์กรเริ่มชะลอการสั่งซื้อเซิร์ฟเวอร์ใหม่ เพื่อเตรียมย้ายการทำงานไปอยู่บนคลาวด์แทน
สำหรับส่วนธุรกิจพีซีรายได้ลดลงไปเล็กน้อย อยู่ที่ 8,760 ล้านดอลลาร์ ซึ่งดีกว่าตัวเลขยอดขายพีซีที่ Gartner รายงาน
ที่มา: Reuters
TSMC รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 กำไรสุทธิ 9,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 16.2% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่รายได้รวม 26,606 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่ารายได้ในไตรมาสที่สี่จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและปีก่อนหน้า แต่โดยรวมทั้งปีก็ยังเกินกว่าคาดการณ์
รายได้ฝั่งอุปกรณ์สื่อสารเช่นโทรศัพท์มือถือ และสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมยังคงเติบโต ขณะที่สินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้ตามบ้านกลับลดลง ในแง่เทคโนโลยีชิปเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น 16 นาโนเมตร และ 20 นาโนเมตร ทำรายได้ถึง 24% ในไตรมาสที่สี่
ซัมซุงเผยผลประกอบการเบื้องต้นของไตรมาส 4/2015 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 53 ล้านล้านวอน และกำไรประมาณ 6.1 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2014 เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังออกมาน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์การเงินคาดการณ์ไว้อยู่บ้าง
ช่วงสองปีที่ผ่านมา ซัมซุงมีอัตราการเติบโตของผลประกอบการแย่กว่าช่วงก่อนหน้า อันเป็นเหตุมาจากการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่รุนแรง ทั้งจากแอปเปิลและผู้ผลิตจากประเทศจีน
ซีอีโอ B.K. Yoon ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่งาน CES ระบุว่าซัมซุงอยู่ระหว่างการปรับตัว และเรียนรู้บทเรียนของบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์ให้มากขึ้น ทั้งการซื้อกิจการเสริมทัพ และการให้ผู้บริหารไปเรียนรู้งานในสหรัฐนานกว่าเดิม เพื่อหาไอเดียใหม่ๆ เข้ามาสู่บริษัท
ปี 2015 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ดีของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนหลายราย (Meizu เติบโต 350%) ล่าสุด Huawei ออกมาเผยผลประกอบการตลอดทั้งปี 2015 มีรายรับที่ 3.9 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2014
ปัจจุบัน Huawei เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนอันดับหนึ่ง แซงหน้า Xiaomi ไปแล้ว ส่วนตลาดยุโรปก็ไปได้ดีด้วยแบรนด์ลูก Honor ที่เน้นมือถือราคาไม่แพง ตลอดทั้งปี 2015 บริษัทขายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 100 ล้านเครื่อง
ที่มา - 9to5google
ปีนี้ถือเป็น "ขาลง" ของ Toshiba อย่างแท้จริง หลังจากเมื่อกลางปีนี้ คณะผู้บริหารต้องลาออกเพราะปัญหาแต่งบัญชี บริษัทออกมาประเมินว่าปีงบประมาณนี้จะขาดทุนถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์ และประกาศแผนฟื้นฟู (Toshiba Revitalization Action Plan) ปรับโครงสร้างธุรกิจ และปลดพนักงานออกจำนวนมาก
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือธุรกิจ Lifestyle Products and Services ที่ประกอบด้วยธุรกิจพีซี ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้า จะต้องปลดพนักงานออก 6,800 คนหรือ 30% ของพนักงานทั้งหมด มีผลภายในไตรมาสแรกของปี 2016
Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2015 (กันยายน-พฤศจิกายน) โดยตัวเลขผู้สมัครใช้ Creative Cloud ในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมาอีก 833,000 ราย มีจำนวนลูกค้ารวมอยู่ 6.16 ล้านราย เกินเป้าหมายที่ Adobe คาดไว้ที่ 6 ล้านรายเรียบร้อยแล้ว
รายได้รวมประจำไตรมาสก็ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,306.4 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 222.7 ล้านดอลลาร์
ที่มา: VentureBeat
มอซิลล่ามูลนิธิผู้ดูแลการพัฒนาไฟร์ฟอกซ์ประกาศผลประกอบการปี 2014 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2014 รายได้รวมทั้งปี 329.5 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 15 ล้านดอลลาร์
ปีที่ผ่านมอซิลล่าพยายามกระจายรายได้จากเดิมที่พึ่งพากูเกิลเป็นหลักออกเป็นผู้ให้บริการรายอื่นๆ เช่น Yahoo!, Baidu, และ Yandex
กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2558 รายได้รวม 29,119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสดก่อนตัดค่าเสื่อม (EBITDA) 5,184 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% และมีกำไรสุทธิ 1,088 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ขาดทุน จากปัจจัยสำคัญที่ไม่ต้องบันทึกค่าเสื่อมของโครงข่ายทรูมูฟเดิมแล้ว
ผลการดำเนินงานแยกตามส่วนธุรกิจของทรู เป็นดังนี้
เอไอเอสรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 รายได้รวม 36,768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,616 ล้านบาท ลดลง 3.8% โดยปัจจัยหลักมาจากการออกแคมเปญชดเชยค่าเครื่องมือถือ เพื่อให้ลูกค้ามาใช้งาน 3G บนใบอนุญาต 2.1GHz จนขาดทุนส่วนนี้ 11%
ตัวเลขผู้ใช้งานของเอไอเอสลดลง 2.25 ล้านเลขหมาย มีจำนวนรวม 37.81 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวกับดีแทค คือมาจากผู้ใช้มือถือแบบเติมเงินไม่มาลงทะเบียนซิม โดยเอไอเอสระบุว่าได้รับผลกระทบส่วนนี้ 1.7 ล้านเลขหมาย ส่วนผู้ใช้แบบรายเดือนนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้น 143,300 เลขหมาย และคงเหลือลูกค้าบน 900MHz 1.9 ล้านเลขหมาย