ยักษ์ใหญ่ด้านโฆษณาและบริการค้นหาอย่างกูเกิล ล่าสุดได้เตรียมตัวที่จะเปิดตัวสารานุกรมออนไลน์ลักษณะคล้าย ๆ กับวิกิพีเดียที่เรารู้จักกันดีแล้ว!

กูเกิลได้ตั้งชื่อให้กับสารานุกรมออนไลน์ตัวนี้ว่า The "Knol" Project

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในตอนนี้ยังไม่มีมากนัก แต่ว่ากูเกิลได้ออกมาพูดคร่าว ๆ ว่ากูเกิลจะเพียงแค่โฮสและอำนวยความสะดวกในเรื่องของการเขียนและแก้ไขคอนเทนท์ แต่จะไม่ทำการดัดแปลงหรือแก้ไขคอนเทนท์แต่อย่างใด แต่ถ้าหากว่าบทความไหนมีคุณสมบัติเพียงพอที่กูเกิลเห็นชอบด้วยจะได้เป็นผลการค้นหาแรก ๆ จากการค้นหาข้อมูล (Search) ด้วยกูเกิลเซิร์ช

นอกเหนือจากนี้แล้วคาดว่าผู้ที่เข้าร่วมในการเขียนข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้มีสิทธิที่จะมีรายได้ผ่านทางโฆษณาจาก Google Ads

หลังจากได้รับการตอบรับที่มากพอสมควรในกิจกรรมครั้งที่แล้ว (ข่าวเดิม)
ทีมงาน Gmail ได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ Gmail ที่มีเรื่องราวการใช้งาน Gmail ที่แตกต่างจากการใช้งานทั่วไป ประทับใจ หรือน่าสนใจ ร่วมกันบอกเล่าผ่านวิดีโอความยาวไม่เกิน 30 วินาที แล้วส่งมาร่วมสนุกทาง youtube

ยูดี แมนเบอร์ (Udi Manber) หัวหน้าวิศวกรกูเกิลได้เขียนในบล็อก หัวข้อการแบ่งปันความรู้ ได้เปิดเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ช่วยร่วมเขียน รวมเนื้อหาหลากหลายตั้งแต่ วิทยาศาสตร์ การแพทย์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ บันเทิง ผลิตภัณฑ์ สินค้า หรือแม้แต่พวกฮาวทู โดยชื่อในโครงการคือ กูเกิลโนล (Google Knol) ซึ่งว่าไปแล้วก็จะมีลักษณะคล้าย วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน แต่โนลจะเน้นในลักษณะสำหรับ"มืออาชีพ"มากกว่า โดยความสามารถอื่นของเว็บนี้จะแตกต่างจากวิกิพีเดียอย่างเห็นได้ชัดคือ (1) เนื้อหาในแต่ละหน้าะมีผู้สร้างเพียงคนเดียว และจะให้ความสำคัญผู้เขียนบทความ โดยชื่อผู้เขียนจะแสดงไว้ในส่วนบนสุดของบทความ (2) จะอนุญาตให้มีการใส่ความเห็นที่ท้ายบทความเช่นเดียวกับเนื้อหาบล็อกหรือข่าวทั่วไป และ (3) เน

กูเกิลเปิดบริการใหม่เพื่อการสร้างกราฟอย่างง่ายๆ ให้ทุกคนเข้าใช้ได้ฟรี โดยไม่ต้องลงทะเบียนแต่อย่างใด ที่น่าสนใจคือการสร้างกราฟทั้งหมดทำเสร็จใน URL เท่านั้น (ตัวอย่าง)

โครงการนี้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานภายในกูเกิลเอง โดยเป็นการใช้เวลาร้อยละ 20 นอกเหนือจากงานปรกติที่เป็นนโยบายของกูเกิลอยู่แล้ว พร้อมกับการเปิดตัวนี้ ทางกูเกิลก็เตรียมเอกสารสอนการใช้งานไว้ให้เรียบร้อย

ข้อจำกัดคือห้ามใช้งานเกิน 50,000 ครั้งต่อวันครับ

กูเกิลได้ออกมาประกาศว่าต่อไปนี้ผู้ที่ใช้ไอโฟนสามารถที่จะใช้งาน Web-Application ของกูเกิลได้แล้ว โดยกูเกิลได้รวมบริการหลาย ๆ อย่าวไว้ในหน้าเดียว โดยแอพพลิเคชั่นนี้ใช้ AJAX/Web 2.0 ในการพัฒนา ซึ่งคล้าย ๆ กับ FaceBook Web App ที่ iPhone.Facebook.com นั่นเอง

สำหรับใครที่อยากเห็นหน้าตาของ Web App กูเกิลให้เข้าไปที่ www.google.com ด้วยซาฟารีบนไอโฟน (แต่ต้องไม่เซ็ต Locale เป็นประเทศไทย) หรือเข้าไปดูที่เว็บที่ีมาของข่าวได้เลยครับ

ที่มา - MacRumors

กระแส OpenID ในช่วงนี้ไม่ได้หวือหวาอะไรนัก แต่การรับ OpenID ก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Blogger ซึ่งเป็นบริการของบล็อกกูเกิลนั้นก็รับการคอมเมนต์ผ่านการยืนยันตัวบุคคลผ่านทาง OpenID แล้ว ทำให้ผู้ใช้งานบล็อกอื่นๆ เช่น LiveJournal, TypeKey หรือ WordPress.com สามารถไปคอมเมนต์ใน Blogger ได้ทันที

พร้อมกันนี้กูเกิลประกาศชัดเจนว่ากำลังเตรียมการให้บริการ OpenID จากโดเมนของ Blogger เองด้วย ทำให้ผู้ใช Blogger สามารถไปคอมเมนต์เว็บอื่นๆ ในรูปแบบเดียวกันได้ด้วย

ใน MSN คุณสามารถ สนทนา พร้อมๆ กันหลายคนได้
ซึ่งเป็นสิ่งที่ Google talk เมื่อก่อนไม่มี
ณ บัดนี้ กูเกิล ภูมิใจเสนอบริการ สนทนา เป็นกลุ่ม
ง่ายๆ เพียง ทำตามขั้นตอนดังนี้
1 เปิดการสนทนา กับใครก็ได้ใน รายชื่อของคุณ
2 เริ่มการสนทนาแล้ว เลือกที่ Options ที่ปุ่มด้านซ้ายมือของหน้าต่าง
3 เลือก Group Chat
4 เลือก รายชื่อที่คุณ ต้องการจะเรียกเข้ามาร่วมสนทนาด้วย

เท่านี้คุณกะสามารถคุยพร้อมกันหลายๆ คนได้แล้ว ณ บัดนี้

ที่มา:กูเกิล

จากความสำเร็จของ Google Summer of Code ที่ให้นักศึกษาระดับอุดมศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการโอเพนซอร์สต่างๆ คราวนี้กูเกิลได้เปิดตัวโครงการ Google Highly Open Participation (GHOP) โดยจับกลุ่มเด็กมัธยมแทน

ไอเดียก็คล้ายกับ SoC แต่ง่ายกว่า โดยกูเกิลจับมือกับโครงการโอเพนซอร์ส 10 แห่ง (เช่น Drupal, Python, Joomla, Apache) ให้นักพัฒนาของโครงการนั้นๆ เลือกปัญหาขึ้นมาให้แก้ ซึ่งมีตั้งแต่โปรแกรมมิ่งแบบง่ายๆ ไปจนถึงเขียนเอกสาร แก้ภาพหน้าจอในเอกสารเก่า หรือทำ screencast สอนการใช้งานโปรแกรม เด็กคนไหนทำได้ครบ 3 งานรับไปก่อนเลย 100 เหรียญ พร้อมเสื้อยืดและประกาศนียบัตรจากกูเกิล (ทำได้มากที่สุด 15 งาน 500 เหรียญ) พอจบโครงการแล้วมีอีกสิบรางวัลใหญ่ได้ไปเที่ยวออฟฟิศกูเกิลที่แคลิฟอร์เนียด้วย

กูเกิลรายงานว่าทางบริษัทได้ทำการเปิดเผยข้อมูลไอพีแอดเดรสของผู้ใช้งาน Blogger อย่าง "สมัครใจ" ให้กับศาลอิสราเอล

ขณะนี้มีผู้ใช้งานนิรนามใช้บล็อกในบริการ Blogger ของกูเกิลในการหมิ่นประมาทบุคคลหนึ่งในประเทศอิสราเอล หลังจากที่มีการยื่นฟ้องต่อศาลของอิสราเอล ทางศาลอิสราเอลได้ตัดสินให้กูเกิลเปิดเผยข้อมูลไอพีแอดเดรสของผู้ใช้งานนิรนามผู้นี้

สตีฟ แลงดอน โฆษกของกูเกิลได้ออกมากล่าวว่า "กูเกิลจะให้ข้อมูลของลูกค้าหรือผู้ใช้งานกูเกิลให้แก่บุคคลที่สามก็ต่อเมื่อมีการอนุญาตหรือร้องขออย่างถูกต้องตามกฏหมาย นี่เป็นการยืนยันว่าเราปกป้องสิทธิและความส่วนตัวของผู้ใช้บริการของเรา ในขณะเดียวกันนั้นก็มีความรับผิดชอบถ้าหากมีบุคคลใดใช้บริการของเราเพื่อกระทำใด ๆ อย่างผิดกฏหมาย"

กูเกิลเกาะกระแสพลังงานทดแทนที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงในช่วงหลัง ด้วยการเปิดตัวโครงการ RE<C หรือ Renewable energy is cheaper than coal. (พลังงานสะอาดถูกกว่าถ่านหิน) โครงการนี้เป็นการร่วมมือระหว่างกูเกิลเอง และบริษัทพันธมิตร ที่จะร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดที่มีกำลังผลิต 1 กิกะวัตต์และมีต้นทุนต่ำกว่าพลังงานถ่านหิน

การร่วมมือนี้ไม่ใช่ไม่ได้หยุดแค่การประกาศพันธมิตรกับบริษัทพลังงานเท่านั้น แต่ทางกูเกิลยังได้เปิดแผนกวิจัยขึ้นมาโดยตรง และกำลังรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ อยู่แล้วในตอนนี้

จากรายงานของ The Wall Street Journal คาดว่ากูเกิลเตรียมตัวเปิดบริการเก็บข้อมูลออนไลน์อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

บริการนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดข้อมูลประเภทไหนก็ได้ไปบนเซิฟเวอร์ของกูเกิลและดึงข้อมูลกลับมาจากคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต โดยบริการนี้จะเป็นบริการฟรีแต่จะมีการจำกัดพื้นที่ หากต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มจะต้องจ่ายค่าบริการ

ตอนนี้ยังไม่มีใครจากกูเกิลได้ออกมายืนยันเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับบริการนี้ออกมานานพอสมควรแล้ว โดยหลาย ๆ สื่อก็ได้ตั้งชื่อบริการนี้ว่า "Gdrive"

ปุ่ม "I'm Feeling Lucky" บนหน้าแรกของกูเกิล (ซึ่งหลายคนไม่เคยใช้เลย) อาจมีผลทำให้บริษัทขาดรายได้จากการโฆษณาถึง 110 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เนื่องจากคนที่กดปุ่มนี้จะไม่เห็นโฆษณาที่กูเกิลแสดง ตัวเลขนี้คำนวณโดยบริษัท Rapt ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านโฆษณาออนไลน์

Marisa Mayer แห่งกูเกิลเคยให้ข้อมูลไว้ว่ามีผู้ใช้ของกูเกิลน้อยกว่า 1% ใช้ปุ่มนี้ และ Surgey Brin เองก็ยอมรับว่าเขาเองก็แทบไม่ได้ใช้ปุ่มนี้เลย ผู้เชี่ยวชาญด้าน usability อย่าง Jacob Nielsen วิจารณ์ไว้ว่าปุ่มนี้ไม่เหมาะกับส่วนอื่นของเว็บไซต์ สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้ และควรเอาออกไป

อย่างไรก็ตามกูเกิลยังไม่มีแผนจะนำปุ่มนี้ออกไปจากหน้าเว็บ

Larry Page เจ้าพ่ออินเทอร์เน็ตค่าตัวนับแสนล้านผู้ก่อตั้งกูเกิล กำลังเตรียมการเข้าพิธีวิวาห์แล้วในวันที่ 8 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ส่วนเจ้าสาวนั้นคือ Lucy Southworth เพื่อนสมัยเรียนปริญญาเอกที่สแตนฟอร์ดนั่นเอง โดย Southworth นั้นเรียนสาขา Biomedical Informatics

สำหรับแขกที่ได้รับเชิญนั้นมีพนักงานของกูเกิลเองจำนวนหนึ่ง และคนดังๆ เช่น Richard Brandson ผู้ก่อตั้งเครือ Virgin และ Al Gore ที่ไปร่วมงานไม่ได้เนื่องจากต้องไปรับรางวัลโนเบลที่เมือง Oslo ในช่วงเวลาเดียวกัน

ส่วนคู่หูอย่าง Sergey Brin นั้นแต่งงานไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

สำหรับข่าวนี้ สองคู่หู Blognone นั้นไม่รวยเท่า แถมไม่มีแฟนครับ.....

ขณะที่โทรศัพท์มือถือที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ยังไม่ออกวางจำหน่าย เรื่องน่ากังวลเรื่องหนึ่งคือการที่โค้ดทั้งหมดของ Android นั้นเป็นสัญญาอนุญาตแบบ Apache License ทำให้ผู้นำโค้ดเหล่านี้ไปพัฒนาต่อไม่จำเป็นต้องคืนโค้ดส่วนที่พัฒนาต่อกลับไปยังชุมชนเสมอไป ทำให้เริ่มน่ากังวลว่าผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออาจจะดัดแปลง Android จนทำงานร่วมกันไม่ได้ในที่สุด

ในเรื่องนี้ทางกูเกิลออกมาแถลงว่าบริษัทที่เข้าร่วม Open Handset Alliance (OHA) นั้นได้เซ็นสัญญาที่จะไม่ดัดแปลงให้ระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์ของตนทำงานร่วมกับโทรศัพท์เครื่องอื่นๆ ไม่ได้ไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่หากมีบริษัทที่ไม่ได้เข้าร่วม OHA แล้วนำ Android ไปดัดแปลงก็เป็นเรื่องที่ทำได้

Google เปิดให้ดาวโหลดและลองใช้งาน SDK พร้อมเครื่องมือพัฒนา debugger / emulator และ plugin สำหรับ Eclipse โดยเบื้องต้น Andriod จะสนับสนุนเทคโนโลยีดังต่อไปนี้

ถ้าใครใช้ Gmail กับ Firefox มาอาจจะเคยเห็นว่ามีแฮกเกอร์พยายามเข้าไปปรับแต่งการทำงานของ Gmail ด้วย Greasemonkey กันพอสมควร งานนี้พนักงานของกูเกิลนึกสนุกด้วยจึงเปิดโครงการ Gmail-Greasemonkey มาให้แฮกเกอร์เหล่านั้นเข้าไปปรับแต่งการทำงานของ Gmail ได้โดยไม่ต้องไล่โค้ดเองอีกต่อไป

นักพัฒนาที่สนใจสามารถเรียกใช้งานโมดูล gmonkey ได้ทันที โดยต้องเรียกผ่านโมดูล unsafeWindow.gmonkey ส่วน API ที่ให้มานั้นมีตั้งแต่การปรับเปลี่ยนเมนูจนถึงการแก้ไขหน้าจอเมลต่างๆ

หลังการเปิดตัว Google Earth ให้เราบินไปบินมาหน้าจอคอมกันงอมแงมมาแล้ว กูเกิลก็ขยายบริการ Google Maps สู่ปั๊มน้ำมันแล้ว ด้วยความร่วมมือกับบริษัท Gilbarco Veeder-Root ผู้ผลิตหัวจ่ายน้ำมัน โดยหัวจ่ายนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อนำแผนที่จาก Google Maps มาแสดงที่หน้าจอได้ พร้อมความสามารถในการพิมพ์แผนที่ให้ผู้ที่หลงทางสามารถไปต่อได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม

งานนี้ไม่มีโฆษณาในแบบเดิมๆ แต่บริษัทที่ต้องการให้ร้านของตัวเองเด่นๆ บนแผนที่ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกันไป

ปั๊มรุ่นใหม่นี้จะเริ่มต้นให้บริการต้นเดือนธันวาคมนี้ โดยการผลิตล็อตแรกจะอยู่ที่ 3,500 ชุด และมีแผนจะเพิ่มตามคำสั่งซื้อไปเรื่อยๆ

หลังจากข่าวลือเรื่อง Gphone ออกมาตลอดในช่วงเดือนที่ผ่านมา สุดท้ายกูเกิลประกาศออกมาแล้ววันนี้ว่า จะไม่ทำโทรศัพท์ แต่จะทำ โอเพนแพลตฟอร์ม ในชื่อ แอนดรอยด์ (Android) ซึ่งใช้ ลินุกซ์ และ จาวา เป็นหลัก โดยความร่วมมือกันนี้รวมตัวกันในชื่อ Open Handset Alliance นี่จะเป็นการรวมตัวของบริษัทชั้นนำ 34 บริษัททั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นการวมตัวขนาดมหึมาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่า Google, HTC, Intel, Motorola, Qualcomm, T-Mobile (ทีโมเบิล), NTT DoCoMo, Sprint, Telefónica, NVIDIA และอื่น ๆ

อีกซักพักไม่เกินวันคงมีบล็อกเกี่ยวกับ Android ออกมาให้อ่านอีกตลอด

เป็นที่ทราบกันดีว่า สังเวียน Social Networking ของโลกกำลังร้อนระอุ จากการโต้ตอบกันระหว่างสองยักษ์ คือ Google ยักษ์ใหญ่โลกออนไลน์ กับ Facebook ผู้นำหมายเลขสองของตลาด Social Networking

วันนี้เพิ่งสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปใน Gmail

• เมนู New label ย้ายจากด้านล่าง มาอยู่ด้านบน
  อันนี้ชอบมากครับ รอมานานแล้ว

• โหลดเร็วขึ้นกว่าเดิม

• สร้างตัวกรอง (Filters) สำหรับจัดการอัตโนมัติ ได้แก่
  ไม่ต้องเข้ากล่องจดหมาย (เข้าไปเก็บทันที), บันทึกว่าอ่านแล้ว, ทำเครื่องหมายดาวหน้าจดหมาย, ใส่ลาเบลอัตโนมัติ, ส่งต่อไปยังอีเมลล์อื่น หรือจะตั้งให้ลบทันที

• กราฟฟิคขณะโหลดข้อมูลแบบใหม่

• Contact list แบบใหม่ ใช้ง่ายกว่าเดิมมาก

• ใส่รูปใน Contact list ได้ และสามารถดึงเอารูปจาก Picasa ได้โดยตรง

• ส่ง Event ไปกับจดหมายได้

Jim Breyer หนึ่งในผู้ลงทุนและหนึ่งในกรรมการบริหารของ Facebook นั้นได้ออกมาพูดเป็นนัยเมื่อออกไปพูดคุยกับ Peter Kafka หนึ่งใน Editor ของ Silicon Alley Insider ในงานค็อกเทลว่า Facebook นั้นไม่ได้มีปรัชญาที่จะอยู่ตรงข้ามกับสิ่งที่กูเกิลกำลังทำในตอนนี้

Breyer ยังได้บอกอีกว่าแผนธุรกิจของ Facebook นั้นไม่ได้หมายถึงว่า Facebook จะต้องปิดตัวเองออกจากโลกภายนอกแต่อย่างใด เนื่องจากว่าบริษัทนั้นรู้ดีว่าผู้ใช้ต่างก็ต้องการที่จะโพสข้อมูลและคอนเนคชั่นในกลุ่มเพื่อนฝูงไม่ว่าพวกเขาจะใช้ Facebook หรือ Online Social Network อื่น ๆ ก็ตาม และเขาคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นได้ในปีหน้า

หลังจากข่าวที่แล้วที่กูเกิลได้เตรียมตัวเปิดตัว API ที่จะลิงค์ Online Social Network ของ Hi5, Orkut, LinkedIn, Friendster, Ning, Salesforce, Flixster, Engage, Plaxo, Oracle, Imeem, Viadeo, iLike, RockYou และ Slide

ล่าสุดเว็บรุ่นพี่ใหญ่อย่าง MySpace ของ News Corp ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ด้วย ถึงแม้ว่า MySpace จะไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแต่กูเกิลก็มั่นใจว่า MySpace จะเป็นแรงผลักดันที่ใหญ่ที่สุดของการรวมทีมกันในครั้งนี้อย่างแน่นอน

หลังจากมูลค่าหุ้นแตะ 600 เหรียญสหรัฐไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ผ่านไปได้ 20 กว่าวัน มูลค่าหุ้นของกูเกิลก็ขยับตัวแตะ 700 เหรียญสหรัฐทำสถิติใหม่ในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้มูลค่ารวมของกูเกิลสูงเป็นอันดับที่ 5 ของอเมริกา แซงหน้าบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Procter & Gamble, Bank of America และ Citigroup ไปได้ แต่ก็ยังมีมูลค่ารวมตามหลังไมโครซอฟท์อยู่ 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

การเพิ่มขึ้นของมูลค่าหุ้นครั้งนี้ คาดว่าคงเป็นผลจากข่าวลือเรื่อง gPhone ทำให้มูลค่าหุ้นตอนนี้เป็น 8 เท่าของมูลค่าหุ้นเมื่อตอนเข้าตลาดเมื่อปี 2004 (84 เหรียญสหรัฐ)

อ่าน ข่าว Google ได้เตรียมจะเปิดตัว Open Social API ซี่งเป็นการเปิด API เพื่อลิงค์กัน ระหว่าง Social Networking ยักษ์ใหญ่ของโลก คือ Hi5.com (คนไทยรู้จักกันดี) , Orkut (ของ Google เอง), LinkedIn (สำหรับหางาน หรือหาธุรกิจ) , Friendster, Ning (ของอดีคผู้ก่อตั้ง Netscape) , Salesforce.com (Online Service เก็บเงินที่ประสบความสำเร็จที่สุดตัวหนึ่ง) ,Flixster, iLike, RockYou และสุดท้าย คือ Slide (ที่มักเห็นอยู่บน Hi5.com ประจำ)

ข่าวนี้ต้องย้ำให้ชัดอีกรอบว่าทั้งหมดเป็นข่าวลือ ยังไม่ใช่การประกาศอย่างเป็นทางการของกูเกิลนะครับ