Apple iOS
กูเกิลประกาศว่าแอป Switch to Android แอปอำนวยความสะดวกในการย้ายข้อมูลจาก iOS ไปยัง Android ที่ออกมาเมื่อเดือนเมษายน ตอนนี้เริ่มรองรับสมาร์ทโฟน Android 12 ทั้งหมดแล้ว จากก่อนหน้านี้รองรับเฉพาะ Pixel เท่านั้น
ในการย้ายข้อมูลจาก iPhone ไปยัง Android สามารถทำได้ในแอปนี้ผ่านการส่งข้อมูลจาก Wi-Fi หรือใช้สาย Lightning to USB-C ก็ได้ รองรับการย้ายข้อมูลแอป รูปภาพ รายชื่อติดต่อ และข้อความ
กูเกิลยังเขียนข้อมูลเพิ่มเติมถึง 10 เหตุผล ที่ควรย้ายมาใช้ Android รายละเอียดดังนี้
ถึงแม้ไม่ใช่แพลตฟอร์มหลัก แต่กูเกิลก็ยังเดินหน้าเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่างให้ Chrome for iOS สำหรับคนที่ต้องการใช้เบราว์เซอร์เดียวข้ามทุกแพลตฟอร์ม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แอปเปิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 16 ซึ่งมีฟีเจอร์เด่นหลายอย่าง เช่น หน้าล็อคจอแบบใหม่ปรับแต่งได้, เครื่องมือใหม่ใน Messages หรือ Focus แบบใหม่ แต่ด้วยเวลาที่จำกัดในการนำเสนอ ยังมีอีกหลายฟีเจอร์น่าสนใจที่ไม่ถูกพูดถึงในช่วงคีย์โน้ตของงาน WWDC ซึ่งรวบรวมบางส่วนไว้ดังนี้
ในงาน WWDC22 แอปเปิลมีประกาศเล็กๆ คือการรองรับโปรโตคอล Private Access Tokens (PAT) ที่แอปเปิลร่วมพัฒนากับกูเกิล และ Cloudflare ใน iOS 16, iPadOS 16, และ macOS 13 ทำให้เว็บต่างๆ สามารถยืนยันได้ว่าผู้ใช้มาจากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ยืนยันแล้ว (ไม่ใช่ bot ที่ปลอมตัวเป็นเบราว์เซอร์) และเนื่องจาก Cloudflare รองรับ PAT อยู่แล้ว ทำให้ผู้ใช้ระบบปฎิบัติการใหม่ๆ เหล่านี้จะไม่เห็น CAPTCHA บนเว็บที่ให้บริการผ่าน Cloudflare และเลือก Managed Challenge
กูเกิลออกแอพ Google TV บน iOS ตามหลังแอพเวอร์ชัน Android ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2020 (App Store)
แอพ Google TV บนสมาร์ทโฟน เป็นการรีแบรนด์แอพ Google Play Movies & TV ของเดิมที่ใช้ซื้อ เช่า และดูหนังออนไลน์แบบเป็นเรื่องๆ ไม่ใช่แบบเหมาจ่าย (ชื่อสับสนและเปลี่ยนบ่อยตามสไตล์กูเกิล) โดยกระบวนการฝั่ง Android เริ่มย้ายไปแล้ว และแอพ Play Movies & TV ของ iOS จะถูกอัพเดตเป็นแอพ Google TV ตัวใหม่เช่นกัน
ร่างกฎหมายตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act - DMA) ของสหภาพยุโรปกำลังเข้าสู่ร่างสุดท้ายเตรียมการรับรอง โดยกฎหมายนี้เพิ่มภาระหน้าที่ให้กับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ (เรียกว่า gatekeeper) เช่น การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับกฎหมาย และการเปิดแพลตฟอร์มให้ธุรกิจอื่นสามารถใช้งานแพลตฟอร์มได้อิสระขึ้น
Exposure Notification เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเตือนว่าผู้ใช้ iPhone เครื่องนั้นมีความเสี่ยงหรือได้เข้าใกล้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ covid-19 โดย Apple ได้ใส่ฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่ iOS 13.7 ซึ่งหน่วยงานรัฐของประเทศต่าง ๆ จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้เปิดใช้ฟีเจอร์นี้ในประเทศตนเองหรือไม่
ล่าสุดประเทศไทยได้เปิดให้ใช้ฟีเจอร์นี้แล้ว โดยทุกท่านสามารถกดเข้าไปเปิดใช้ได้ที่ Settings -> Esposure Notifications -> Turn On Exposure Notifications แล้วกดเลือกหาประเทศไทย จากนั้นจะขึ้นข้อตกลงของกระทรวงสาธารณสุขให้กดยอมรับ เป็นอันเสร็จสิ้น
Opera ประกาศว่า Crypto Browser เบราว์เซอร์เวอร์ชันเฉพาะ ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ลงทุนในคริปโต เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วบน iOS สำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad จากที่ก่อนหน้านี้มีบน Windows, Mac และ Android
Crypto Browser มาพร้อมกับระบบวอลเลตที่ติดมากับเบราว์เวอร์ รองรับบล็อกเชน Ethereum, Polygon และ Celo ซึ่งจะมีเพิ่มเติมในอนาคต
นอกจากนี้เบราว์เซอร์ยังมีเซกชัน Crypto Corner รวมข้อมูลข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับการลงทุนในคริปโต ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงเนื้อหา web3 NFT และแอป decentralized ที่รองรับได้ด้วย ซึ่ง Opera บอกว่าออกแบบมาให้ง่ายเหมือนการใช้งาน Web2
ก่อนหน้านี้ YouTube ได้ทดสอบฟีเจอร์การดูวิดีโอแบบซ้อนจอขณะใช้งานอื่นอยู่ หรือ Picture-in-Picture (PiP) โดยฟีเจอร์นี้มีใน Android นานแล้ว แต่สำหรับผู้ใช้ iOS เป็นของใหม่ที่ทดสอบกับลูกค้าพรีเมียมก่อน
ล่าสุด YouTube บอกว่าระยะเวลาการทดสอบฟีเจอร์ดังกล่าวของ iOS สิ้นสุดแล้ว ตอนนี้จะไม่สามารถใช้งาน PiP ได้ แต่จะกลับมาใช้งานได้หรือไม่และกำหนดผู้ใช้งานกลุ่มไหนให้รออัพเดตอีกครั้ง
ปัจจุบันฟีเจอร์ PiP สำหรับ iOS จะมีให้ใช้งานเฉพาะแอป YouTube TV (ไม่มีในไทย)
ที่มา: The Verge
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 15.4 และ iPadOS 15.4 ตามที่ประกาศก่อนหน้านี้ มีฟีเจอร์เด่นคือ สามารถปลดล็อก Face ID ได้แม้ใส่มาสก์อยู่ โดยไม่ได้ต้องมี Apple Watch อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะ iPhone 12 ขึ้นไปเท่านั้น
ส่วนของใหม่อื่นใน iOS 15.4 ได้แก่ อีโมจิใหม่ 37 รายการ, Siri บอกวัน-เวลาได้แบบออฟไลน์ (iPhone XS, XR, 11 ขึ้นไป), Siri เพิ่มตัวเลือกเสียงใหม่ และอื่น ๆ
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 15.3.1, iPadOS 15.3.1 และ macOS Monterey 12.2.1 วันนี้ ซึ่งเป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยและบั๊ก
สำหรับผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General และเลือก Software Update ส่วน macOS อัพเดตได้ใน System Preferences
ช่องโหว่ความปลอดภัยที่มีการแก้ไขเป็นส่วนของ WebKit หมายเลข CVE-2022-22620
ใน iOS 15.3.1 และ iPadOS 15.3.1 ยังระบุว่ามีการแก้ไขบั๊กแสดงผลอักษรเบรลล์ ส่วน macOS Monterey 12.2.1 ได้แก้ไขบั๊กเวลาเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
แอปเปิลยังออกอัพเดต watchOS 8.4.2 ด้วย แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าแก้ไขปัญหาใด
แอปเปิลชี้แจงประเด็นที่ผู้ใช้ iOS 14 พบว่าตอนนี้ไม่มีตัวเลือกให้อัพเดตเฉพาะแพตช์ความปลอดภัย เพื่อเป็น iOS 14 ต่อ แต่มีเฉพาะตัวเลือกให้อัพเดตไปเป็น iOS 15 จากที่ก่อนหน้านี้แอปเปิลบอกว่าในการอัพเดต iOS 15 จะมีตัวเลือกให้อยู่กับ iOS 14 ต่อ บอกว่าแนวทางการออกอัพเดตดังกล่าว จะมีแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีตลอดไป
โดยแอปเปิลอ้างถึงเอกสารสนับสนุน ซึ่งปรับปรุงข้อมูลครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ตุลาคม 2021 (23 กันยายน สำหรับภาษาอังกฤษ) ระบุไว้ว่าการได้อัพเดตเฉพาะความปลอดภัยนั้น จะเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง (for a period of time)
ก่อนหน้านี้เมื่อแอปเปิลเปิดตัว iOS 15 ได้พูดถึงทางเลือกว่าผู้ใช้งาน iOS 14 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันก่อนหน้า สามารถเลือกได้ว่าจะอัพเดตเฉพาะแพตช์ความปลอดภัย โดยไม่ต้องอัพเดตเป็น iOS 15 ก็ได้ ในหน้าคุณสมบัติของ iOS 15 เองก็ระบุไว้ดังนี้
แอปเปิลรายงานตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้งาน iOS 15 เทียบกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชันก่อนหน้าเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ iOS 15 เปิดให้อัพเดตทั่วไปตั้งแต่เดือนกันยายน
โดย iOS 15 มีผู้ใช้งาน 72% ของผู้ใช้ iPhone รุ่นที่ไม่เกิน 4 ปีทั้งหมด ส่วน iOS 14 มี 26% ถ้าหากเทียบกับผู้ใช้ iPhone ทั้งหมดที่ยังแอคทีฟ ตัวเลข iOS จะเป็น 63%
ส่วน iPadOS 15 มีผู้ใช้งาน 57% ของผู้ใช้ iPad รุ่นที่ไม่เกิน 4 ปี และ iPadOS 14 มี 39% ตัวเลขนี้น้อยลงไปอีกหากเทียบกับ iPad ทั้งหมดที่ยังแอคทีฟ โดย iPadOS 15 คิดเป็น 49% ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ iPad ทั้งหมด
แอปเปิลออกอัพเดตย่อย iOS 15.2.1 และ iPadOS 15.2.1 วันนี้ ซึ่งเป็นอัพเดตถัดจาก iOS 15.2 ที่ออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว
ผู้ใช้งาน iPhone, iPad สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่ามีการแก้ไขปัญหาแอป Message อาจไม่โหลดรูปภาพที่ส่งโดยใช้ลิงก์ iCloud และแก้ปัญหาบั๊กแอป 3rd Party อาจไม่ตอบสนองบน CarPlay
ที่มา: MacRumors
มัลแวร์ Pegasus ของ NSO Group มีความซับซ้อนสูง และสามารถทะลุระบบป้องกันของบริษัทต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพจนบริษัทไอทีจำนวนมากรวมถึงแอปเปิลฟ้อง วันนี้ทาง Project Zero ของกูเกิลก็ออกมาวิเคราะห์ความเก่งกาจของกระบวนการเจาะเข้าไปวางมัลแวร์ในโทรศัพท์
Project Zero พบว่ากระบวนการแฮกโทรศัพท์แบบไม่ต้องคลิกใดๆ (zero click) ของ NSO Group อาศัยการส่งไฟล์ภาพนามสกุลไฟล์เป็น GIF ที่ iMessage จะพยายามแสดงภาพทันที แต่เนื้อไฟล์ภายในที่จริงแล้วเป็น PDF ที่ตัว iMessage จะรู้เมื่ออ่านเนื้อไฟล์ และพยายามเรนเดอร์ภาพอยู่ดีด้วย CoreGraphics PDF
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 14.8.1 และ iPadOS 14.8.1 ซึ่งออกมาหนึ่งวันหลังจากแอปเปิลออกอัพเดตเวอร์ชันล่าสุด iOS 15.1 และ iPadOS 15.1
iOS 14.8.1 เป็นอัพเดตที่ออกมาเป็นทางเลือก สำหรับคนที่ยังใช้ iOS 14 แล้วยังไม่ได้อัพเดตเป็น iOS 15 รวมทั้งไม่ต้องการอัพเดตตอนนี้ โดยเลือก iOS 14.8.1 เพื่ออัพเดตแก้ไขเฉพาะช่องโหว่ความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งแอปเปิลได้ประกาศแนวทางดังกล่าวไปก่อนหน้านี้
ในอัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่าแก้ไขปัญหาความปลอดภัย และบั๊กหลายรายการ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับระบบเสียง, ColorSync, CoreGraphics, Voice Control, WebKit ฯลฯ
Denis Tokarev นักวิจัยความปลอดภัยเปิดเผยช่องโหว่ช่อง 3 รายการของ iOS กระทบถึง iOS 15.0 ทำให้แอปในเครื่องสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเขาส่งรายงานไปยังแอปเปิลในช่วง 10 มีนาคม ถึง 29 เมษายนที่ผ่านมา แต่แอปเปิลกลับไม่แพตช์ช่องโหว่เหล่านี้
แอปเปิลตอบกลับ Tokarev ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา และเขายื่นคำขาดว่าจะเปิดเผยช่องโหว่ในวันที่ 13 กันยายน (เขาเปิดเผยซอร์สโค้ดในวันที่ 24 กันยายน) หลังจากช่องโหว่ถูกเปิดเผยแล้วทางแอปเปิลจึงติดต่อกลับ พร้อมกับขออภัยที่ตอบล่าช้าและระบุว่ากำลังสอบสวนช่องโหว่นี้อยู่
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 12.5.5 สำหรับ iPhone และ iPad รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS เวอร์ชันล่าสุด iOS 15 ได้
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ที่ Settings > General > Software Update
แอปเปิลระบุว่าอัพเดตนี้เป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย ทั้ง CoreGraphics, WebKit และ XNU ซึ่งมีรายงานการโจมตีแล้ว จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที
อุปกรณ์รุ่นเก่าที่สามารถอัพเดต iOS 12.5.5 นี้ได้ ได้แก่ iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3 และ iPod touch (6th Gen)
แอปเปิลยังออกอัพเดตความปลอดภัยเดียวกันนี้ 2021-006 สำหรับ macOS Catalina ด้วย
เมื่อวานนี้แอปเปิลปล่อยอัพเดตฉุกเฉิน iOS 14.8, watchOS 7.6.2, และ macOS 11.6 เพื่ออุดช่องโหว่หลายชุดของการโจมตี ForcedEntry ที่ Citizen Lab ระบุว่าเป็นช่องโหว่ที่ NSO Group ใช้วางมัลแวร์ Pegasus เพื่อติดตามเหยื่อ ตอนนี้ทาง Trend Micro ก็ออกมาวิเคราะห์มัลแวร์ตัวนี้
ช่องโหว่ตัวนี้อาศัยบั๊กในตัวถอดรหัสการบีบอัดภาพ JBIG2 ที่ฝังอยู่ใน PDF อีกทีหนึ่ง โดยฟังก์ชั่น JBIG2Stream::readTextRegionSeg
ในเฟรมเวิร์ค CoreGraphics ที่มีบั๊ก Integer Overflow จากการประกาศตัวแปรเป็นชนิด unsigned int ทำให้โค้ดจองหน่วยความจำน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และกลายเป็นช่องโหว่ Heap Overflow ในที่สุด แอปเปิลแก้ช่องโหว่นี้โดยเพิ่มการตรวจสอบค่าเพิ่มเติม
ทวิตเตอร์ทดสอบการแสดงรูปภาพ วิดีโอ และ GIF แบบเต็มชิดขอบจอมือถือ จากเดิมที่เว้นระยะไว้ที่ฝั่งซ้ายมือของหน้าจอ โดยจะเริ่มทดสอบในฝั่งแอปบน iOS ก่อน
ทวิตเตอร์บอกว่าการทดสอบใหม่จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมหรือ engagement ในโพสต์รูปภาพและวิดีโอมากขึ้นนอกเหนือจากโพสต์ในรูปแบบตัวอักษร ตัววิดีโอยังจะได้พื้นที่ในการแสดงเนื้อหามากขึ้นด้วย
เป็นที่รู้กันมานานว่ากูเกิลได้จ่ายเงินให้แอปเปิล ด้วยจำนวนที่สูงในทุกปี เพื่อแลกกับการถูกกำหนดเป็นเสิร์ชค่าเริ่มต้นใน iPhone, iPad และ Mac แต่ไม่เคยมีตัวเลขออกมาเป็นทางการ อย่างไรก็ตามมีการวิเคราะห์อยู่ทุกปี และปีนี้ก็คาดว่าอาจสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ (2019 ประเมินไว้เกือบหมื่นล้าน)
Toni Sacconaghi นักวิเคราะห์จาก Bernstein ให้ข้อมูลว่าปี 2021 กูเกิลน่าจะจ่ายเงินให้แอปเปิลส่วนนี้ราว 15,000 ล้านดอลลาร์ และในปี 2022 ตัวเลขน่าจะอยู่ในช่วง 18,000-20,000 ล้านดอลลาร์ โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากรายได้ส่วน Services ของแอปเปิลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไปสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายสำหรับการเพิ่มทราฟิกให้เว็บกูเกิล (TAC - Traffic Acquisition Costs)
การเล่นวิดีโอแบบ Picture-in-Picture คือการที่เราดู YouTube ในจอเล็กในขณะที่เราเลื่อนใช้งานแอปอื่นๆ ไปด้วยได้ ซึ่งผู้ใช้งานพรีเมียมฝั่งแอนดรอยด์ใช้ได้มาสักระยะแล้ว แต่ iOS กำลังจะได้ใช้ ทาง YouTube ระบุกับ TechCrunch ว่าเริ่มจากฝั่งผู้ใช้งานพรีเมียมในสหรัฐฯก่อน 31 ต.ค. นี้ แต่ผู้ใช้งานบางส่วนในไทยก็สามารถใช้งานได้แล้ว
ผู้ใช้งานบางส่วนพบว่า หากใช้งานไม่ได้ ให้ติดตั้ง YouTube ใหม่อีกครั้ง จึงจะใช้งานได้ วิธีการคือ เข้าไปที่เว็บไซต์ YouTube New เลื่อนลงมาจนเจอเมนู Picture-in-picture on iOS > กด Try it out
ทวิตเตอร์เปิดตัวฟีเจอร์ให้โฮสต์ขายตั๋วเพื่อเข้าห้อง Spaces แบบเอ็กซ์คลูซีฟ หรือ Ticketed Spaces เป็นการหารายได้เพิ่มเติมมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ล่าสุด เริ่มเปิดใช้งานในฝั่ง iOS แล้ว
ทวิตเตอร์เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ใน DM หรือ Direct Messages เริ่มจากส่งข้อความหาหลายคนในคราวเดียวได้สูงสุด 20 ช่องแชท เริ่มเปิดใช้งานใน iOS และเว็บไซต์ก่อน แล้วจะตามมาด้วย Android ในภายหลัง
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นยิบย่อย เช่น เพิ่ม reaction ข้อความแบบใน Facebook กดค้างที่ข้อความแชทเพื่อแสดงอีโมจิ reaction เริ่มใช้งานใน iOS, เพิ่มปุ่มลูกศรเพื่อนำทางไปยังข้อความล่าสุดในแชทได้ เริ่มใช้งานแล้วใน iOS และ Android, จัดกลุ่ม DM ตามวันที่เพื่อให้หาแชทง่ายขึ้น