Apple iOS
แอปเปิลได้ออก iOS 13.4 เบต้า สำหรับให้นักพัฒนาใช้ทดสอบ โดยในเวอร์ชันล่าสุดมีผู้พบคุณสมบัติการทำงาน OS Recovery แบบผ่านอินเทอร์เน็ต
ที่ผ่านมาหาก iPhone หรือ iPad ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากระบบปฏิบัติการมีปัญหา การ restore ต้องทำผ่าน Mac หรือพีซี โดยการเชื่อมต่อสายเท่านั้น ซึ่งด้วยแนวโน้มที่หลายคนไม่มีคอมพิวเตอร์ แต่ใช้สมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์หลัก การทำ recovery ก็เป็นเรื่องยุ่งยากขึ้น
โหมด OS Recovery ที่พบใน iOS 13.4 นั้น ระบุว่าสามารถซ่อมแซมระบบ iOS ด้วยการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต OTA ได้เลย การทำงานน่าจะคล้ายกับโหมด Internet Recovery บน macOS
Microsoft Threat Protection (MTP) เป็นชื่อเรียกรวมๆ ของชุดฟีเจอร์-บริการด้านความปลอดภัยของไมโครซอฟท์แบบเสียเงินหลายตัว ประกอบด้วย Microsoft Defender ATP ที่คุ้มครองเครื่อง, Office 365 ATP คุ้มครองอีเมล, Azure ATP คุ้มครองบัญชี, Microsoft Cloud App Security คุ้มครองแอพ
วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Microsoft Threat Protection มีสถานะเปิดบริการเป็นการทั่วไป (generally available) องค์กรที่จ่ายแพ็กเกจ Microsoft 365 E5 อยู่แล้วสามารถเปิดใช้งานได้ทันทีผ่านหน้าแอดมินของระบบ
Mark Gurman จากสำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เผยว่าแอปเปิลกำลังพิจารณาเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ใช้ iOS บน iPhone และ iPadOS บน iPad ให้สามารถเลือกแอปตั้งต้นในการใช้งาน เป็นแอปจากนักพัฒนาภายนอก (3rd Party) แทนที่ Safari สำหรับเบราว์เซอร์ หรือ Mail สำหรับอีเมลได้
ที่ผ่านมา แม้ผู้ใช้งานอุปกรณ์แอปเปิลจะสามารถเลือกลงแอปอื่นแทนได้ แต่แอปเปิลก็กำหนดให้ค่าเริ่มต้นอยู่ที่แอปพื้นฐานของแอปเปิลเท่านั้น เช่นเมื่อคลิกลิงก์ก็จะถูกเปิดด้วย Safari เสมอ ประเด็นนี้ทำให้นักพัฒนาหลายรายร้องเรียนว่าอาจเป็นการผูกขาด (ตัวอย่างกรณี Spotify)
แอปเปิลเปิดให้นักพัฒนาพอร์ตแอปบน iOS มาเป็นเวอร์ชัน macOS ผ่านโครงการ Catalyst มาระยะหนึ่ง ล่าสุดแอปเปิลได้เพิ่มตัวเลือกให้นักพัฒนาสามารถขายแอปแบบ unified กล่าวคือใช้งานได้ทั้งบน macOS และ iOS แล้ว จากเดิมที่ต้องขายแยกกัน
ทั้งนี้นักพัฒนาสามารถกำหนดค่าดังกล่าวได้ใน Xcode 11.4 beta สำหรับแอปที่พอร์ตผ่าน Catalyst อย่างไรก็ตามหากนักพัฒนาทำแอป macOS แยกออกมาตั้งแต่ต้น ก็อาจลำบากสักหน่อย
เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ App Store ของบน iOS และ macOS จึงได้ปรับเพิ่มชื่อหมวดของแอปให้สอดคล้องกันทั้งสองระบบด้วย
ที่มา: 9to5Mac
ไมโครซอฟท์ประกาศโอเพนซอร์ส DarkModeKit ซึ่งเป็นโค้ดที่ใช้ใน Outlook for iOS และรองรับ Dark Mode มาตั้งแต่ iOS 11 ขึ้นไป (แอปเปิลเริ่มรองรับใน iOS 13)
ฟีเจอร์ของ DarkModeKit คือสามารถสลับธีมได้ในตัวแอพ โดยไม่ต้องรีสตาร์ตแอพใหม่ และมี API ที่ใช้ง่าย เสียบเข้ากับโค้ดเดิมของแอพได้ทันที
โค้ดอยู่บน GitHub ต้องใช้ร่วมกับ Xcode 11 และ Swift 5 ขึ้นไป
แอปเปิลอัพเดตตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS 13 และ iPadOS 13 โดย iOS 13 มีการใช้งานอยู่ 77% บน iPhone ที่วางจำหน่ายช่วง 4 ปีย้อนหลัง ส่วน iOS 12 มี 17% และ 6% เป็นเวอร์ชันเก่ากว่านั้น แต่หากนับรวม iPhone ทั้งหมดที่ยังมีการใช้งาน iOS 13 จะมีส่วนแบ่งเป็น 70% และ iOS 12 มี 23%
ตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับ iOS 12 โดยเมื่อเดือนมกราคมในปีที่แล้ว iOS 12 มีส่วนแบ่ง 78%
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ iOS 13.3.1 และ iPadOS 13.3.1 มีรายการปรับปรุงสำคัญคือการแก้ไขบั๊ก Communication Limits ที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวเลือกปิดการทำงานของชิประบุพิกัด U1 ใน iPhone 11
รายการปรับปรุงอื่น ได้แก่ แก้ปัญหาแอปอีเมลโหลดรูปจากภายนอกแม้ตั้งค่าปิดไว้ และแก้ปัญหาการเตือนแบบพุชเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi
นอกจากนี้ยังมีรายการอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์อื่นดังนี้
หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ยกเครื่องแอพ Remote Desktop บน iOS ใหม่ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนทางบริษัทก็ได้ออกอัพเดตให้อีกครั้ง โดยได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่างการรองรับไฟล์ RDP และปรับปรุงการใช้งานแอพเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายอย่าง
เริ่มจากฟีเจอร์ใหม่ อัพเดตข้างต้นจะรองรับการรีโมทเข้าการเชื่อมต่อที่ถูกบันทึกเก็บไว้เป็นไฟล์ RDP ทำให้สามารถนำไฟล์ RDP ที่เคยใช้บนพีซี มาเปิดด้วยแอพ Remote Desktop บนอุปกรณ์ iOS ได้เลย
LINE สำหรับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS ออกอัพเดตเวอร์ชัน 10.0.1 ซึ่งเป็นการแก้ไขบั๊กซึ่งมีรายงานเข้ามาในเวอร์ชันก่อนหน้า 10.0.0 ที่ออกมาเมื่อ 3 วันที่แล้ว
ปัญหาที่รายงานคือแอปจะเด้งออก (แอปปิด) เมื่อกดเข้าห้องแชทบางห้องจากหน้ารวมแชท โดย LINE ระบุในตอนแรกว่ารับทราบปัญหาและจะออกตัวแก้ไขโดยเร็วที่สุด
ผู้ใช้ LINE บน iOS ที่พบปัญหานี้ก็ไปอัพเดตตัวแก้ไขได้ที่ App Store
ที่มา: LINE
จากการที่ iOS 13 เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วและมีฟีเจอร์สำคัญที่รอกันมานานคือ Dark mode โดยแอพที่จะใช้ได้ต้องรอให้นักพัฒนาออกอัพเดตให้รองรับเสียก่อน ซึ่งมีหลาย ๆ แอพก็ทยอยอัพเดตให้รองรับฟีเจอร์ดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Twitter, YouTube, Messenger, LINE TV และอื่น ๆ ที่ไม่สามารถกล่าวถึงได้
มาวันนี้ถึงคิวของ LINE แอพแชทยอดนิยมในประเทศไทยแล้ว โดยเวอร์ชันที่ได้จะเป็น 9.19.0 มีของใหม่ดังนี้
วิธีการใช้งาน
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวหลายรายการ เดลล์ยังอัพเดตข้อมูลของแอป Dell Mobile Connect ที่เชื่อมต่อการทำงานระหว่างสมาร์ทโฟนกับพีซีของเดลล์ จากเดิมที่รองรับเฉพาะ Android จะขยายมารองรับการทำงานร่วมกับ iOS ด้วย โดยอัพเดตดังกล่าวจะออกมาช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ (มีนาคม)
Dell Mobile Connect รองรับการส่งไฟล์ไปยังสมาร์ทโฟน และทำให้ใช้งานแอปมือถือผ่านพีซีได้ (มิเรอร์) สำหรับ iOS ไฟล์ที่ส่งหากันรองรับเฉพาะไฟล์ภาพและวิดีโอเท่านั้น
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตใหม่ให้กับแอพ Microsoft Remote Desktop บนอุปกรณ์ iOS เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาหลายอย่าง
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอย่างแรกคือการยกเครื่องดีไซน์ของทั้งหน้าจอ connection center หลักที่ใช้จัดการ/เลือกพีซีที่ต้องการเชื่อมต่อ รวมถึง UI ที่ใช้ในการสลับหน้าจอไปยังพีซีเครื่องอื่นอย่างรวดเร็วระหว่างใช้งานรีโมท
Twitter ประกาศรองรับการอัพโหลดรูป Live Photo จากอุปกรณ์ iOS ของแอปเปิล โดยสามารถแปลงเป็นภาพเคลื่อนไหว GIF ได้เลยทันทีไม่ต้องใช้แอปอื่นช่วย
แอปเปิลเปิดตัว Live Photo ตั้งแต่ปี 2015 แต่แพลตฟอร์มส่วนมากก็ไม่รองรับการแสดงผลในรูปแบบที่เป็น Live Photo จริง ๆ ต้องดูผ่านอุปกรณ์แอปเปิลกันเอง สำหรับกรณีของ Twitter นี้ก็เลือกแปลงไฟล์และแสดงเป็น GIF
วิธีการอัพโหลดนั้น ผู้ใช้ Twitter เลือกภาพ Live Photo แล้วเลือกปุ่ม GIF เพื่ออัพโหลดให้เป็นภาพเคลื่อนไหว กรณีไม่ได้เลือกก็จะแสดงผลเป็นภาพนิ่งตามปกติ
ที่มา: MacRumors
แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ iOS 13.3 และ iPadOS 13.3 ต่อจากอัพเดตก่อนหน้านี้ iOS 13.2.3 ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตผ่าน OTA ได้โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้เป็นการเพิ่มฟีเจอร์ที่สำคัญหลายรายการ ที่แอปเปิลเคยประกาศไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งปรับปรุงด้านความปลอดภัย อาทิ
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 13.2.3 และ iPadOS 13.2.3 ซึ่งสามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update ซึ่งแอปเปิลระบุว่าอัพเดตนี้มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาหลายรายการได้แก่
ที่มา: MacRumors
ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Joshua Maddux ได้ทวีตปัญหา (น่าจะบั๊ก) ที่พบบนเฟซบุ๊กเวอร์ชัน iOS ที่แอบเปิดกล้องหลังเองขณะที่เจ้าตัวกำลังไถอยู่บนนิวส์ฟีด (ดูตัวอย่างได้จากทวิตเตอร์ท้ายข่าว)
Maddux บอกว่าพบปัญหาบน iPhone ทุกเครื่องที่รัน iOS 13.2.2 แต่กลับไม่พบปัญหา iOS 12 (แต่ก็ไม่รู้ว่ามันแอบทำงานเหมือนกันหรือไม่) ขณะที่ทาง The Next Web ได้ทดสอบก็พบปัญหาเดียวกันบน iOS เวอร์ชันเดียวกัน แต่หากเป็น iOS 13.1.2 กลับไม่พบปัญหา เช่นเดียวกับที่ไม่พบบน Android 10 จาก Pixel 4
ด้านเฟซบุ๊กยังไม่ได้แสดงความเห็นจากปัญหานี้ (แต่ก็คาดเดาได้ว่าคงตอบว่าเป็นบั๊กและจะปล่อยอัพเดตแก้) ทางที่ดีคือปิดไม่ให้เฟซบุ๊กเข้าถึงทั้งกล้องและไมโครโฟนตลอดเวลา เป็นการดีที่สุดครับ
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 13.2.2 และ iPadOS 13.2.2 ต่อจากอัพเดตก่อนหน้า 13.2 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่ามีการแก้ไขปัญหาแอปปิดการทำงานเมื่อทำงานในแบ็คกราวด์ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผู้ใช้งานรายงานออกมาก่อนหน้านี้ใน iOS 13.2
ปัญหาอื่นที่มีการแก้ไขในอัพเดตนี้ อาทิ ปัญหาการเชื่อมต่อบนเครือข่ายมือถือ, ปัญหาเมื่อชาร์จด้วย YubiKey Lightning, แก้ปัญหา single sign-on ผ่าน Kerberos ฯลฯ
แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ iOS 13.2 ที่มาพร้อมฟีเจอร์สำคัญอย่าง Deep Fusion ได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานจำนวนน้อยได้รายงานปัญหาบนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่นี้ โดยเฉพาะการจัดการแรม
ปัญหาที่รายงานนั้นบอกว่าแอปอย่างเช่น Safari, YouTube จะพบปัญหาต้องโหลดเนื้อหาใหม่ทั้งหมดซ้ำ เมื่อมีการสลับใช้งานแอปกลับมา (multitasking) โดยเทียบกับ iOS เวอร์ชันก่อนหน้า ไม่พบปัญหาโหลดเนื้อหาใหม่บ่อยขนาดนี้
ทั้งนี้กลุ่มผู้ใช้ที่พบปัญหานี้จำนวนมาก ใช้ iPhone 11 และ iPad Pro ทำให้การสลับใช้งานแอปไม่ราบรื่นอย่างที่ควรเป็น ทั้งนี้ก็คาดว่าแอปเปิลจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอัพเดตเวอร์ชันถัดไป
ในงาน Adobe Max ปี 2018 มีการเปิดตัว Project Aero แอพพลิเคชั่น AR ใช้กล้องจ่อบนสถานที่จริงแล้วลองวางวัตถุสามมิติ เพื่อดูสภาพแวดล้อมจริงว่าเป็นอย่างไร ล่าสุด Adobe เปิดให้โหลดใช้ Project Aero บนอุปกรณ์ iOS แล้ว โหลดได้ฟรี
ผู้ใช้งานสามารถนำเข้าภาพจากไฟล์ Photoshop และภาพสามมิติจาก Adobe Stock (ในกรณีที่เป็นสมาชิก Creative Cloud) อย่างไรก็ตามในแอพพลิเคชั่นมีวัตถุ 3D และ 2D ที่ผู้ใช้งานสามารถโหลดเข้ามาลองวางเล่นได้ฟรีราวกว่า 200 ชิ้น
Adobe ประกาศอัพเดตแอป Creative Cloud สำหรับ iOS โดยมาพร้อมกับฟอนต์หลากหลายสไตล์ที่มีให้เลือกจากผู้ผลิตฟอนต์ทั่วโลกที่พร้อมติดตั้งบน iOS 13 และ iPadOS พร้อมให้แอปอื่น ๆ เรียกใช้งานผ่าน API
ปัจจุบัน ผู้สมัครสมาชิก Adobe Creative Cloud จะสามารถใช้งานคอลเลคชั่นฟอนต์ของ Adobe ที่มีกว่า 17,000 ฟอนต์ได้ทั้งหมด (ส่วนผู้ใช้ที่มี Adobe ID แต่ไม่ได้สมัคร Creative Cloud จะใช้งานได้เพียง 1,300 ฟอนต์) ซึ่งเดิมฟอนต์เหล่านี้จะใช้งานได้เฉพาะในเดสก์ท็อปเท่านั้น แต่ล่าสุด Adobe ปล่อยให้ผู้ใช้ iOS ได้ใช้ฟอนต์เหล่านี้แล้ว
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 13.2 และ iPadOS 13.2 ในวันนี้ ซึ่งเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ จากอัพเดตก่อนหน้านี้ 13.1.3
รายการของใหม่ที่สำคัญในอัพเดตนี้ได้แก่
ที่มา: MacRumors
แอปเปิลอัพเดตข้อมูลในหน้าสนับสนุนอีกครั้ง โดยคราวนี้ระบุถึงผู้ใช้ iPhone 5 โดยเฉพาะ ให้อัพเดตระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชันล่าสุด iOS 10.3.4 ก่อนวันที่ 3 พฤศจิกายน เพื่อป้องกันปัญหา GPS ที่แอปเปิลเคยระบุไว้กับ iPhone รุ่นเก่าก่อนหน้านี้
ใน iPhone และ iPad รุ่นเก่ารุ่นอื่น แอปเปิลบอกว่าปัญหาที่เกิดหากไม่อัพเดตซอฟต์แวร์คือ GPS และผลกระทบข้างเคียงอื่น แต่สำหรับ iPhone 5 นั้น แอปเปิลระบุเลยว่าจะกระทบตั้งแต่ GPS ทำให้เกิดปัญหาการระบุวันเวลา ส่งผลต่อ App Store, iCloud, อีเมล และการเรียกดูเว็บต่าง ๆ
แอปเปิลอัพเดตตัวเลขส่วนแบ่งผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS 13 และ iPadOS 13 ในอุปกรณ์ทั้งหมดที่รองรับเป็นครั้งแรก โดยหลังจาก iOS 13 เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปดาวน์โหลดเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้ส่วนแบ่งผู้ใช้งาน iOS 13 อยู่ที่ 50% และหากพิจารณาเฉพาะอุปกรณ์ที่เปิดตัวในช่วง 4 ปีย้อนหลัง ตัวเลขจะเพิ่มเป็น 55%
แอปเปิลเปิดตัวฟีเจอร์จำกัดและลดเวลาการใช้มือถือ Screen Time ตั้งแต่ iOS 12 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งประโยชน์ด้านหนึ่ง ก็คือให้พ่อแม่ควบคุมเวลาใช้งานโทรศัพท์ของลูกได้ด้วย อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าเด็ก ๆ ก็พยายามหาช่องโหว่ของ Screen Time จนได้อยู่ดี
เว็บไซต์ Protect Young Eyes ได้เปิดเผย (อย่างน้อย) 12 วิธี ที่เด็กสามารถใช้เพื่อข้ามการควบคุมของ Screen Time อาทิ เปลี่ยน Time Zone, ดู YouTube ผ่าน iMessage ไปจนถึงลบและลงแอปใหม่ พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นให้พ่อแม่ด้วย
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ iOS 13.1.3 และ iPadOS 13.1.3 ในวันนี้ ต่อเนื่องจากอัพเดตก่อนหน้านี้ 13.1.2 ที่ออกมาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว สามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update
อัพเดตในรอบนี้แอปเปิลระบุว่าเป็นการแก้ไขปัญหาหลายรายการ ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพ อาทิ ปัญหาโทรศัพท์อาจไม่สั่นหรือส่งเสียงเมื่อมีสายเรียกเข้า, ปัญหาข้อมูลใน Health หลัง DST, ปัญหาดึงข้อมูล Voice Memos จาก iCloud, ปัญหาการจับคู่ Apple Watch ฯลฯ
ที่มา: MacRumors