ใครที่ติดตามข่าวบริษัทเทคโนโลยีจีนมาตลอด น่าจะคุ้นกับตัวย่อ BAT ที่ใช้เรียกแทน 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ Baidu, Alibaba และ Tencent แต่ดูเหมือนตัวย่อนี้กำลังถูกท้าทายจาก Meituan Dianping แพลตฟอร์มบริการออนไลน์ทูออฟไลน์ (O2O) รายใหญ่ ซึ่งมีธุรกิจเด่นคือการส่งอาหาร

เนื่องจาก Meituan Dianping ได้เข้าตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อปลายปีที่แล้ว และล่าสุดมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นของ Meituan Dianping อยู่ที่ 47,000 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้มีความสำคัญเนื่องจากมูลค่ากิจการล่าสุดของ Baidu นั้นอยู่ราว 41,000 ล้านดอลลาร์ เท่ากับว่า Meituan Dianping มีมูลค่าสูงกว่า Baidu ไปแล้ว

ไมโครซอฟท์กลายเป็นบริษัทอเมริกาลำดับที่ 3 ที่มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (Market Capitalization) ไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ หลังตลาดหุ้นเริ่มทำการซื้อขายในคืนวันนี้ ซึ่งบริษัทแรกที่ทำได้คือแอปเปิล และลำดับที่สองคือ Amazon

ราคาหุ้นของไมโครซอฟท์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 4% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ยังคงเติบโตสูง โดยเฉพาะธุรกิจคลาวด์ที่มีแนวโน้มดี ซึ่งปัจจุบันบริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นเบอร์สองรองจาก Amazon

ล่าสุดไมโครซอฟท์ยังคงเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลก

หลังปิดตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในไทย มูลค่ากิจการของแอปเปิลก็กลับขึ้นมาแซงไมโครซอฟท์อีกครั้ง ทำให้แอปเปิลกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้น เป็นอันดับ 1 ของโลก ที่มูลค่า 8.24 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ไมโครซอฟท์มีมูลค่ากิจการ 8.13 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนอันดับ 3 คือ Amazon 8.06 แสนล้านดอลลาร์

แอปเปิลเสียตำแหน่งการจัดอันดับด้วยมูลค่ากิจการตามราคาหุ้น หรือ Market Cap อีกครั้ง หลังถูกไมโครซอฟท์แซงจนตกไปอยู่อันดับ 2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาหุ้นแอปเปิลหลังปิดตลาดเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาปรับลดลง 1.11% ทำให้มีมูลค่ากิจการ 8.29 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ Amazon ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 1.85% มีมูลค่ากิจการ 8.31 แสนล้านดอลลาร์

จากราคาหุ้นดังกล่าว ทำให้ Amazon ขึ้นมามีมูลค่ากิจการมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 ส่วนแอปเปิลลงไปอยู่ในอันดับที่ 3 และไมโครซอฟท์ยังครองอันดับ 1 ที่มูลค่า 8.38 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้มูลค่ากิจการของทั้ง 3 บริษัท ถือว่าห่างกันไม่มากในระดับไม่กี่เปอร์เซ็นต์ อันดับจึงอาจมีการสลับได้ในแต่ละวันในช่วงนี้

ถ้าย้อนไปไม่กี่ปีก่อน ไมโครซอฟท์อาจมีภาพลักษณ์เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ไม่โดดเด่นในด้านผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าทั่วไป ออกสินค้าอะไรมาก็สู้คู่แข่งรายอื่นที่ดูตื่นตาตื่นใจกว่าไม่ได้ สิบปีที่ผ่านมาในโลกของไอทีมีสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นมากมาย อาทิ สมาร์ทโฟน, เสิร์ชอินเทอร์เน็ต, โฆษณาออนไลน์ หรือบริการคลาวด์ ทุกอย่างที่ว่ามา ไมโครซอฟท์ล้วนไม่ใช่ผู้ชนะในแต่ละหมวด จนดูราวเป็นบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ที่น่าเบื่อ และไม่น่าสนใจในสายตานักลงทุนอีกต่อไปเมื่อเทียบกับบริษัทใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา

ไมโครซอฟท์กลายเป็นบริษัทที่มูลค่ากิจการตามราคาหุ้น (market capitalization) มากที่สุดในโลกอีกครั้ง โดยมีมูลค่าสูงกว่าแอปเปิลที่เป็นบริษัทอันดับ 1 มายาวนานหลายปี ซึ่งมูลค่ากิจการหลังปิดตลาดหุ้นเมื่อคืนนี้ ไมโครซอฟท์มีมูลค่า 851,216 ล้านดอลลาร์ ส่วนแอปเปิลอยู่ที่ 847,433 ล้านดอลลาร์

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่ากิจการตามราคาหุ้นของไมโครซอฟท์นั้นสูงกว่าแอปเปิลในบางช่วงเวลาระหว่างการซื้อขายหุ้น แต่เพิ่งมีมูลค่ากิจการสูงกว่าหลังปิดตลาดในคืนวันศุกร์เป็นครั้งแรก

มูลค่าบริษัทของแอปเปิลตามราคาหุ้น (market cap) ลดต่ำลงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ตามราคาหุ้นของแอปเปิลที่ลดลงในช่วง 2 วันนี้ (ขณะที่เขียนข่าว มูลค่าบริษัทอยู่ประมาณ 9.58 แสนล้านดอลลาร์)

เหตุผลที่หุ้นแอปเปิลตก น่าจะเป็นเพราะบริษัทออกคำเตือนว่ายอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ไม่น่าจะร้อนแรงเท่ากับที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้

แอปเปิลเพิ่งประกาศว่าจะเลิกเผยยอดขาย iPhone เป็นจำนวนเครื่อง รวมถึงมีข่าวลือว่า ลดกำลังการผลิต iPhone XR เพราะยอดขายไม่แรงแบบที่คาด

ไมโครซอฟท์ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้น (Market Capitalization) สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก แซงหน้า Amazon ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากปิดตลาดหุ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

มูลค่ากิจการของไมโครซอฟท์ล่าสุดอยู่ที่ 8.23 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ Amazon อยู่ที่ 8.05 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนแอปเปิลยังคงเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งปัจจัยสำคัญคือราคาหุ้นของ Amazon ที่ปรับตัวลดลงมากหลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด

หลังจากแอปเปิลเข้าวิน กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาหุ้นแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ สัปดาห์หน้าเราอาจได้เห็น Trillion Company รายที่สองชื่อว่า Amazon

หุ้นของ Amazon ตามราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 2,012.71 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าบริษัท (market cap) อยู่ที่ 981.68 พ้นล้านดอลลาร์ จ่อเทียบชั้นขึ้นเป็นบริษัทระดับล้านล้านดอลลาร์แล้ว

ต้องรอดูหลังตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการในวันจันทร์ (ตามเวลาสหรัฐก็คือวันอังคารบ้านเรา) ว่า Amazon จะสามารถแตะหลักล้านล้านดอลลาร์สำเร็จในสัปดาห์หน้าหรือไม่

มูลค่าบริษัทของแอปเปิลตอนนี้อยู่ที่ราว 1.099 ล้านล้านดอลลาร์

หลังจากลุ้นกันมานานว่าบริษัทไอทีรายใดจะสร้างประวัติศาสตร์ เป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่าตามราคาหุ้น (market cap) แตะหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ (1 trillion dollar) ได้สำเร็จเป็นรายแรก ผลก็ออกมาไม่ผิดคาดคือ แอปเปิลที่มีมูลค่าบริษัทนำหน้าบริษัทอื่นๆ มาโดยตลอด

หลังแอปเปิลประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2018 ที่ออกมาดี หุ้นของแอปเปิลก็ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดขณะที่เขียนข่าวนี้ (ช่วงเช้าของวันที่ 2 สิงหาคม ตามเวลาสหรัฐ ตลาดหุ้นเพิ่งเปิดทำการ) มูลค่าของแอปเปิลก็ฝ่ากำแพง 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ

Jitendra Waral นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence ได้ประเมินมูลค่ากิจการของ Instagram ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ราว 100,000 ล้านดอลลาร์ โดยดูจากตัวเลขผู้ใช้งานที่มีมากกว่า 1,000 ล้านคน คาดว่าจะสูงถึง 2,000 ล้านคน ใน 5 ปีข้างหน้า และประเมินรายได้ใน 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นรายได้ถึง 16% ของรายได้รวม Facebook

การเติบโตของ Instagram ยังมีโอกาสอีกมาก เนื่องจากผู้ใช้งานยังคงเติบโตต่อเนื่องแม้แต่ในอเมริกา และผู้ใช้งานส่วนมากเป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้สื่อโฆษณาเพิ่มความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

มูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) ของไมโครซอฟท์เพิ่มสูงขึ้นจนแซงหน้า Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิลแล้ว

คิดตามราคาปิดตลาดของวันอังคารที่ 29 พฤษภาคม ไมโครซอฟท์มีมูลค่า 749 พันล้านดอลลาร์ ส่วน Alphabet อยู่ที่ 739 พันล้านดอลลาร์

หุ้นของไมโครซอฟท์มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หุ้นของ Alphabet เคยมีมูลค่าสูงสุดราว 808 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2018 ก่อนตกลงมาอยู่ราว 750 พันล้านดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้านี้ และลดลงมาอีกในรอบสัปดาห์ล่าสุด จนเป็นเหตุให้ไมโครซอฟท์แซงได้

ทั้งไมโครซอฟท์และ Alphabet ยังมีมูลค่าเป็นรองแอปเปิล (924 พันล้านดอลลาร์) และอเมซอน (783 พันล้านดอลลาร์)

Netflix ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งที่กลยุทธ์ในช่วงหลัง เน้นการพัฒนาคอนเทนต์ขึ้นมาเอง ทำให้ถูกจับตามองว่าจะขึ้นมาเป็นบริษัทสื่อรายใหญ่ของโลกได้หรือไม่ ตอนนี้ราคาหุ้นของบริษัทได้สะท้อนความเชื่อดังกล่าวไปมาก โดยเมื่อกลางสัปดาห์ มูลค่ากิจการตามราคาหุ้น (Market Cap.) Netflix ได้แซง Comcast ยักษ์ใหญ่เคเบิ้ลทีวีในอเมริกา และล่าสุดก็กำลังจะแซงหน้า Disney แล้ว

มูลค่ากิจการล่าสุดของ Netflix อยู่ที่ 1.518 แสนล้านดอลลาร์ ส่วน Disney 1.522 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเหลืออีกไม่มาก Netflix ก็จะขึ้นเป็นบริษัทสื่อที่มีมูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลกแล้ว

เมื่อคืนนี้หลังปิดตลาดหุ้นสหรัฐ Amazon ได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้น (Market Capitalization) สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว แซงหน้า Alphabet บริษัทแม่กูเกิล

มูลค่ากิจการของ Amazon อยู่ที่ 7.633 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ Alphabet มีมูลค่ากิจการ 7.630 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาหลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด หุ้นของ Amazon ก็มีราคาเพิ่มขึ้นตลอด ขณะที่ Alphabet ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากเท่า

Netflix ได้รายงานผลประกอบการของไตรมาส 4/2017 ซึ่งมีการเติบโตสูง จำนวนสมาชิกยังคงเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้ราคาหุ้น Netflix ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตลอดตั้งแต่รายงานผลประกอบการ

ตอนนี้มูลค่ากิจการ Netflix อยู่ที่ราว 141,000 ล้านดอลลาร์ ตามราคาหุ้นล่าสุด ซึ่งเปรียบเทียบขนาดความใหญ่แล้ว ตอนนี้ Netflix มีมูลค่าสูงกว่า McDonald's หรือ General Electric ไปเรียบร้อยแล้ว ในกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่ากิจการสูง Netflix ก็ใกล้จะแซง IBM แล้วด้วย

ราคาหุ้นของ Tencent ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำสถิติใหม่ให้บริษัทมีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นสูงกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับบริษัทจีนที่มีมูลค่ากิจการสูงขนาดนี้

หลักไมล์สำคัญ 5 แสนล้านดอลลาร์นี้ มีบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ปัจจุบันมีมูลค่าสูงในระดับนี้อยู่ 5 ราย นั่นคือ Apple, Alphabet, Facebook, Microsoft และ Amazon ส่วนบริษัทคู่แข่งสำคัญจากจีนอย่าง Alibaba ตอนนี้มีมูลค่ากิจการ 4.74 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งก็ใกล้ถึงระดับ 5 แสนล้านเช่นกัน

Jack Dorsey ซีอีโอ Twitter และ Square ถูกตั้งคำถามมานับตั้งแต่ควบตำแหน่งซีอีโอสองบริษัท ว่าเขาจะบริหารทั้งสองบริษัทที่เป็นผู้ก่อตั้งทั้งคู่อย่างไร ซึ่งผ่านมา 2 ปี นับตั้งแต่เขากลับมาเป็นซีอีโอ Twitter ดูเหมือนจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า Square จะไปได้ดีกว่า

Rani Molla แห่ง Recode รายงานว่า มูลค่ากิจการตามราคาในตลาดหุ้นของ Square ล่าสุดอยู่ที่ 16,500 ล้านดอลลาร์ แซงหน้า Twitter (15,300 ล้านดอลลาร์) ไปเรียบร้อยแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ Square เริ่มมีรายได้แซงหน้า Twitter

หลังจากแอปเปิลแถลงผลประกอบการไตรมาส 3/2017 ออกมาดี ส่งผลให้ราคาหุ้นของแอปเปิลในตลาดสหรัฐวันนี้ (ที่เพิ่งเปิดตลาดตามเวลาท้องถิ่น) ขึ้นไปอยู่ที่ 174.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น (บวก 3.7%) ส่งผลให้มูลค่าบริษัท (market capitalization) ของแอปเปิลขึ้นไปแตะหลัก 900 พันล้านดอลลาร์อยู่ชั่วขณะหนึ่ง (ราคาปิดของวันก่อนหน้าคือ 168 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่าบริษัท 885 พันล้านดอลลาร์)

ขณะที่เขียนข่าวนี้ หุ้นของแอปเปิลตกลงมาเล็กน้อย อยู่ที่ประมาณ 171.47 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าน้อยกว่าเส้น 900 พันล้านดอลลาร์อยู่เล็กน้อย ก็ต้องรอดูว่าราคาของวันนี้จะจบลงที่เท่าไรครับ

หุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดก็สามารถทำลายกำแพงมูลค่าบริษัท (market cap) ทะลุ 600 พันล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ

มูลค่าบริษัทของไมโครซอฟท์เคยทะลุ 600 พันล้านดอลลาร์ได้เมื่อปี 2000 หรือ 17 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงฟองสบู่ดอทคอมบูม แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยขึ้นไปสู่จุดนั้นอีกเลย

ไมโครซอฟท์เพิ่งผ่านกำแพง 500 พันล้านดอลลาร์ได้เมื่อเดือนมกราคม 2017 ส่วนบริษัทที่มีมูลค่าบริษัทเหนือกว่าในตอนนี้คือแอปเปิล (807 พันล้าน) และ Alphabet (690 พันล้าน)

ที่มา - Neowin

ราคาหุ้นคลาส A ของ Alphabet บริษัทแม่กูเกิล มีราคาซื้อขายล่าสุดเกิน 1,000 ดอลลาร์ต่อหุ้นเรียบร้อยแล้ว ทำให้มูลค่ากิจการบริษัทตอนนี้สูงกว่า 680,000 ล้านดอลลาร์ เป็นบริษัทในตลาดหุ้นที่มีมูลค่ากิจการสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากแอปเปิล

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาหุ้น Amazon ก็เพิ่งทะลุ 1,000 ดอลลาร์ต่อหุ้นไป

ปัจจุบันหุ้นของ Alphabet มีการซื้อขายสองกลุ่มคือหุ้นคลาส A ที่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุม และคลาส C ที่ไม่มีสิทธิออกเสียง ตอนนี้ราคาหุ้นคลาส C ยังไม่ทะลุ 1,000 ดอลลาร์ครับ

ที่มา: CNN Money

ราคาหุ้นของ Amazon ทำสถิติใหม่ระหว่างวันสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อหุ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่บริษัทเข้าตลาดหุ้นในปี 1997 หรือ 20 ปีที่แล้ว และราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 996.70 ดอลลาร์

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Amazon กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างรวดเร็ว นอกจากการพิสูจน์ว่าอีคอมเมิร์ซเป็นกระแสหลักของธุรกิจค้าปลีกแล้ว คือธุรกิจให้บริการคลาวด์ ซึ่งทำให้ Amazon มีกำไรสุทธิเป็นบวกถึง 8 ไตรมาสติดต่อกัน จากที่ผ่านมา Amazon เป็นบริษัทซึ่งนำกระแสเงินสดทั้งหมดไปลงทุนต่อ จนทำให้ขาดทุนหรือมีกำไรเพียงเล็กน้อยมาโดยตลอด

ปัจจุบัน Amazon เป็นบริษัทในตลาดหุ้นที่มีมูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 4 รองจาก Apple, Alphabet (Google) และ Microsoft ตามลำดับ

มูลค่ากิจการตามราคาหุ้นของแอปเปิลยังคงทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง โดยหลังปิดการซื้อเมื่อวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม อยู่ที่ 153 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่ากิจการรวมสูงกว่า 8 แสนล้านดอลลาร์แล้ว (27.7 ล้านล้านบาท) ซึ่งราคาหุ้นแอปเปิลต้องการปรับเพิ่มขึ้นอีก 25% ก็จะทำให้เป็นบริษัทล้านล้านดอลลาร์ครั้งแรกในตลาดหุ้น

ปัจจัยหนึ่งที่อาจจะส่งผลให้ราคาหุ้นแอปเปิลปรับตัวเพิ่มสูง มาจากรายงานของบริษัท Berkshire Hathaway ของมหาเศรษฐีนักลงทุนวอร์เรน บัฟเฟตต์ โดยมีการซื้อหุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น จากเดิมสิ้นปี 2016 มีอยู่ 7.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มเป็น 1.92 หมื่นล้านดอลลาร์ กลายเป็นหุ้นที่ Berkshire Hathaway ถือครองมากที่สุดเป็นอันดับ 2 และทำให้ Berkshire Hathaway เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดลำดับที่ 4 ในแอปเปิล

หุ้นของ Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิลพุ่งต่อเนื่อง และเมื่อวานนี้ (25 เมษายน) ตามเวลาสหรัฐ หุ้นเพิ่มอีก 2.4% ที่ราคา 862.76 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market capitalization) เกิน 6 แสนล้านดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก

เหตุการณ์นี้ทำให้ Alphabet เป็นบริษัทที่สองที่มีมูลค่าเกิน 6 แสนล้านดอลลาร์ โดยบริษัทแรกที่ทำได้คือแอปเปิล ที่ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทประมาณ 7.5 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนบริษัทที่กำลังเดินตามมาคือไมโครซอฟท์ที่ 5.2 แสนล้านดอลลาร์, Amazon 4.3 แสนล้านดอลลาร์ และ Facebook 4.2 แสนล้านดอลลาร์

นับตั้งแต่เปิดปี 2017 เป็นต้นมา หุ้น Alphabet ราคาเพิ่มขึ้นมาแล้ว 11%

มูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market capitalization) ของ Tesla, Inc. สามารถแซงหน้าบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของอเมริกาอย่าง GM (General Motors) ได้เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ Tesla กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

มูลค่าบริษัทของ Tesla พุ่งตามราคาหุ้นขึ้นไปที่ 51 พันล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้สูงกว่ามูลค่าของ GM ราว 1.7 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ Tesla ได้เป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ Tesla พุ่งแซงคู่แข่งอีกรายคือ Ford มาได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในแง่ผลประกอบการ GM ยังนำห่าง Tesla อยู่มาก บริษัทขายรถได้ปีละ 10 ล้านคัน ในขณะที่ Tesla ขายได้ปีละ 80,000 คัน

บริการเครือข่ายสังคมของจีน Weibo ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "Twitter จีน" ล่าสุด มีมูลค่ากิจการตามราคาในตลาดหุ้นอยู่ที่ 11,300 ล้านดอลลาร์ สูงกว่า Twitter ซึ่งมีมูลค่ากิจการ 11,100 ล้านดอลลาร์

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Weibo เคยมีมูลค่ากิจการสูงกว่า Twitter แต่เวลาต่อมา Twitter ก็กลับมามีมูลค่าสูงกว่า

Twitter ไตรมาสล่าสุดนั้นออกมาไม่สดใสนัก มีการเติบโตที่น้อย และรายได้ก็เพิ่มขึ้นไม่มากนัก ตรงข้ามกับ Weibo ที่ยังมีการเติบโตและเตรียมขยายฐานสู่ประเทศใหม่ๆ

ที่มา: Bloomberg