NVIDIA ฉลองจุดเริ่มต้นของตำนานแห่งวงการการ์ดจอ GeForce 256 มีอายุครบ 25 ปี

GeForce 256 ออกวางขายในวันที่ 11 ตุลาคม 1999 ถึงแม้ไม่ใช่การ์ดจอตัวแรกของ NVIDIA (ก่อนหน้านั้นมี Riva TNT) แต่เป็นการ์ดจอตัวแรกที่รองรับ hardware transform and lighting (T&L) ช่วยแบ่งงานประมวลผล 3D เหล่านี้ไปจากซีพียู ช่วยยกระดับกราฟิก 3D ยุคนั้นอย่างก้าวกระโดด โดย NVIDIA ในยุคนั้นให้นิยาม GeForce 256 ว่าเป็น "GPU" ตัวแรกของโลก (ประดิษฐ์คำใหม่ขึ้นมาแทน Graphic Card ในทางการตลาด)

เมื่อนำ GeForce 256 มาใช้กับเกมแถวหน้าเรื่องกราฟิกของยุคนั้นคือ Quake III Arena และ Unreal Tournament จึงกลายเป็นการผลักดันให้เกมแนว 3D FPS เกิดขึ้นได้จริงๆ และเป็นจุดเริ่มต้นของจีพียูแบรนด์ GeForce จนถึงปัจจุบัน

Foxconn ประกาศสร้างเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน โดยจะใช้ชิป NVIDIA Blackwell GB200 รุ่นใหม่ล่าสุดด้วย

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Foxconn จะใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ NVIDIA GB200 NVL72 หนึ่งตู้มี 64 แร็ค ใช้ซีพียู NVIDIA Grace 36 ตัว, จีพียู Blackwell 72 ตัว ถ้านับรวม Tensor Core ทั้งหมดรวมกัน 4,608 คอร์, เชื่อมต่อกันด้วย NVLink แบนด์วิดท์ 130 TB/s

Young Liu ประธานของ Foxconn ให้สัมภาษณ์กับ CNBC พูดถึงแนวโน้มของ AI ว่ายังมีโอกาสไปต่ออีกมาก โดยมองว่าโมเดล AI เมื่อมีความฉลาดมากขึ้น ก็จะนำไปสู่การใช้งานใหม่ ๆ และหากเราไปถึง AGI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานได้รอบด้าน ก็จะทำให้ธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ AI ที่เกี่ยวข้องดีขึ้นไปอีก

เขาบอกว่าถ้าให้ประเมินความสามารถของ AI วันนี้ โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ เราก็กำลังอยู่ในระดับที่ 2 และมีระดับ 3-4 ให้ไปต่อได้อีก

ในอันดับมหาเศรษฐีโลกของ Bloomberg นอกจาก Mark Zuckerberg รวยขึ้นมาเป็นอันดับสองของโลก เศรษฐีอีกคนที่รวยขึ้นพรวดพราดคือ Jensen Huang ผู้ก่อตั้ง NVIDIA ที่ตอนนี้รวยอันดับ 13 ของโลก มูลค่าสินทรัพย์ 1.09 แสนล้านดอลลาร์

มูลค่าความรวยตามราคาหุ้นย่อมมีขึ้นมีลง แต่มีคนช่างเปรียบเทียบพบว่า มูลค่าสินทรัพย์ส่วนตัวของ Jensen Huang นั้นเยอะกว่ามูลค่าบริษัท Intel ทั้งบริษัท 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เรียบร้อยแล้ว เท่ากับว่าถ้า Jensen อยากเป็นเจ้าของ Intel ในตอนนี้สามารถควักเงินส่วนตัวมาซื้อได้สบายๆ

ที่มา - Tom's Hardware

เมื่อต้นปีนี้ NVIDIA เปิดตัวแอพใหม่ NVIDIA App เตรียมใช้แทน GeForce Experience, RTX Experience (สำหรับการ์ดกลุ่มโปร) และ NVIDIA Control Panel ที่ปัจจุบันแยกกันเป็นแอพคนละตัว

ล่าสุด NVIDIA ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ให้ NVIDIA App เพิ่ม พร้อมประกาศแผนว่าจะเปลี่ยนผ่าน ย้ายผู้ใช้แอพ GeForce Experience มาเป็น NVIDIA App ภายในสิ้นปี 2024 (ยังไม่ระบุวันที่ชัดเจน)

ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาได้แก่

Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เนื่องในการประกาศความร่วมมือกับ Accenture เพื่อผลักดันให้องค์กรลูกค้าใช้งาน AI กันมากขึ้น โดยช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ Huang พูดถึงยอดขายชิป AI ของ NVIDIA

เขาบอกว่าความต้องการชิป AI ของบริษัทตอนนี้ยังเป็นไปอย่าง "บ้ามาก" (Insane)

Huang พูดถึงความร่วมมือกับ Accenture ว่าจะทำให้บริษัทมีตลาดที่มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการใช้งาน AI เขามองว่าตอนนี้เป็นการเริ่มต้นของการเติบโตรอบใหม่บริษัทเรียกว่า Enterprise AI

ที่มา: Investopedia

Accenture ประกาศตั้งกลุ่มธุรกิจใหม่ชื่อว่า NVIDIA Business พร้อมกับตั้งเป้าหมายให้พนักงานบริษัท 30,000 คน รับการฝึกอบรมเพื่อช่วยสนับสนุนให้องค์กรที่เป็นลูกค้า สามารถนำ AI มาใช้งานได้ดีมากขึ้น

Lan Guan หัวหน้าฝ่าย AI ของ Accenture บอกว่าเรากำลังอยู่ในอนาคตที่บริษัทมีบทบาทในการช่วยเปลี่ยนแปลงธุรกิจได้ แผนคือนำพนักงานปัจจุบัน รวมทั้งพนักงานที่รับมาใหม่ทั่วโลก ได้รับการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีของ NVIDIA

Accenture ยังขยายความร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อรองรับการพัฒนาระบบ AI พื้นฐานบนแพลตฟอร์ม Accenture AI Refinery ที่ใช้เทคโนโลยีของ NVIDIA ครบทั้งสแต็ก รองรับการรันทั้งบนพับลิกคลาวด์ และไพรเวทคลาวด์

OpenAI ประกาศรายละเอียดเพิ่มทุนรอบใหม่ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ โดยได้เงินจากนักลงทุนรวม 6.7 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.2 แสนล้านบาท ที่มูลค่ากิจการ 1.57 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.16 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนรอบล่าสุดที่ 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เกือบเท่าตัว

OpenAI บอกว่าเงินทุนก้อนใหม่นี้ จะนำมาใช้เพิ่มจำนวนพลังการประมวลผล และสร้างเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยผู้คนแก้ปัญหาที่มีความยาก ทำให้บริษัทยังคงความเป็นผู้นำด้านงานวิจัย AI

มีข่าวลือของ GeForce RTX 5090 และ 5080 สองเรือธงรุ่นถัดไปของสถาปัตยกรรม Blackwell ออกมาทาง @kopite7kimi นักปล่อยข่าวหลุดฮาร์ดแวร์ชื่อดัง

ข้อมูลจาก @kopite7kimi บอกว่า

Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ขายหุ้นบริษัทมูลค่ากว่า 700 ล้านเหรียญ ตามข้อมูลในเอกสารที่ยื่นต่อ SEC หรือ กลต. ของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยที่ผ่านมาก็มีการขายหุ้นออกไปต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้

ก่อนหน้านี้ เขาได้ระบุว่า จะขายหุ้น Nvidia 6 ล้านหุ้น ภายในไตรมาสแรกปี 2025 เป็นไปตามกฎ 10b5-1 ที่อนุญาตให้ซีอีโอสามารถขายหุ้นได้แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าเพื่อป้องกันการเทรดด้วยข้อมูลวงใน

NVIDIA เปิดตัว NVIDIA AI Aerial ชุดประมวลผลทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ สำหรับงานออกแบบ ทดสอบ เทรนข้อมูล และดีพลอย ปัญญาประดิษฐ์สำหรับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (AI-RAN) เพื่อรองรับเครือข่ายไร้สายในยุคปัญญาประดิษฐ์

แพลตฟอร์ม NVIDIA AI Aerial พัฒนาขึ้นมาสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ สามารถออกแบบโครงข่ายให้รองรับความต้องการใช้งานเครือข่ายที่หลากหลายมากขึ้น เช่น หุ่นยนต์ในงานการผลิต, งานหุ่นยนต์คอมพิวเตอร์วิทัศน์, หุ่นยนต์ในการเกษตร, งานขนส่งสินค้า, GenAI รองทั้งรองรับเครือข่าย 5G, 6G ในอนาคต

NVIDIA AI Aerial มีพาร์ตเนอร์ที่ร่วมการทดสอบและนำไปใช้งาน ซึ่งมีทั้งบริษัทด้านโทรคมนาคมรายใหญ่เช่น Nokia, Ericsson, T-Mobile, Softbank และ Fujitsu

Larry Ellison ซีทีโอของออราเคิล เล่าถึงความพยายามซื้อชิปกราฟิกจาก NVIDIA ว่าเขาต้องไปกินข้าวกับ Elon Musk และ Jensen Huang พร้อมกับขอให้ NVIDIA รับเงินค่าชิปกราฟิกไปอีกเยอะๆ พร้อมกับระบุว่าคำขอร้องได้ผล

ออราเคิลค่อนข้างประสบความสำเร็จจากการให้บริการคลาวด์สำหรับปัญญาประดิษฐ์ หลังจากปีที่ผ่านมาให้บริการคลาวด์กับไมโครซอฟท์

ปีที่ผ่านมาชิป NVIDIA H100 มีปัญหาการส่งมอบล่าช้าพอสมควร โดยชิป H100 นั้นอาจจะต้องรอสินค้านานถึง 6 เดือน แม้ในช่วงหลังระยะเวลารอคอยเริ่มลดลงจนเหลือไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แต่ชิป Blackwell รุ่นล่าสุดกลับประสบปัญหาส่งมอบล่าช้าเช่นกัน

NVIDIA ชี้แจงหลังมีรายงานข่าวว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ส่งหมายเรียก เพื่อทำการสอบสวนประเด็นผูกขาดในธุรกิจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ โดย NVIDIA บอกว่าบริษัทได้สอบถามไปยังกระทรวงยุติธรรมฯ แล้ว แต่ไม่มีการแจ้งหมายเรียกแต่อย่างใด

ตัวแทนของ NVIDIA บอกว่าบริษัทยินดีที่จะตอบทุกคำถามกับหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท

ปัจจุบัน NVIDIA มีส่วนแบ่งตลาดในชิปประมวลผลปัญญาประดิษฐ์มากกว่า 80% ซึ่ง NVIDIA ชี้แจงเรื่องนี้ว่าลูกค้าเลือก NVIDIA เพราะประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสำหรับพวกเขา ในมุมลูกค้าเองพวกเขาก็สามารถเลือกใช้งานชิปประมวลผลใดก็ได้ที่ดีที่สุดสำหรับตน

Sakana AI บริษัทพัฒนาและวิจัยปัญญาประดิษฐ์จากญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งโดยสองอดีตนักวิจัยจากกูเกิล ประกาศรับเงินลงทุนซีรีส์ A รวมมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ โดยมีนักลงทุนหลักได้แก่ New Enterprise Associates, Khosla Ventures, Lux Capital และมี NVIDIA ร่วมลงทุนด้วย มูลค่ากิจการไม่มีการเปิดเผยเป็นทางการ

งานวิจัยของ Sakana AI ใช้การพัฒนาโมเดลแบบอิงธรรมชาติการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยการรวมโมเดลที่มีความสามารถเฉพาะทางเข้าด้วยกันเหมือนการสะสมความรู้ แล้วให้วิวัฒนาการความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น

ในความร่วมมือกับ NVIDIA นี้ Sakana AI บอกว่าบริษัทได้ทั้งการเข้าถึงเทคโนโลยีจีพียูสำหรับการพัฒนา สนับสนุนการตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อการประมวลผลในญี่ปุ่น รวมถึงช่วยส่งเสริมชุมชนนักพัฒนา AI ในญี่ปุ่น

Bloomberg รายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ส่งหมายเรียก NVIDIA แจ้งการสอบสวนการผูกขาดในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ตามที่มีรายงานออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีบริษัทผู้ผลิตชิป AI รายอื่นได้รับหมายเรียกนี้เช่นกัน

ประเด็นที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐตั้งข้อสังเกตจนนำมาสู่การสอบสวน มีทั้งการออกแบบที่ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนค่ายผู้ผลิตชิปสำหรับงาน AI ได้ยาก รวมทั้งประเด็นที่บริษัทคู่แข่งร้องเรียนว่า NVIDIA ใช้อำนาจเหนือตลาดคิดราคาอุปกรณ์เน็ตเวิร์กที่แพงขึ้น หากใช้ชิปคู่แข่งในการประมวลผล

หนึ่งในคนที่น่าอิจฉาที่สุดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาคงเป็น "พนักงาน NVIDIA" ที่ได้ค่าตอบแทนบางส่วนเป็นหุ้นของบริษัท เพราะมูลค่าหุ้นพุ่งทะยานฟ้าต่อเนื่อง (รอบ 2 ปีล่าสุดหุ้นขึ้นมาประมาณเกือบ 10 เท่า) แต่ชีวิตจริงของพนักงานอาจไม่ได้สวยหรูมากอย่างที่คิด

Bloomberg มีสัมภาษณ์พนักงานและอดีตพนักงานของ NVIDIA หลายคน ทุกคนพูดตรงกันว่างานหนัก พนักงานรายหนึ่งเล่าว่ามีความคาดหวังต่อพนักงานว่าต้องทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ ทำงานเลิกตี 1-2, พนักงานอีกรายบอกว่ามีประชุมทั้งวัน วันละ 7-10 ประชุม แต่พนักงานทุกคนก็บอกกับ Bloomberg ว่างานหนักก็ทนได้ เพราะค่าตอบแทนมันสูงจนปฏิเสธไม่ได้

The Wall Street Journal มีรายงานเพิ่มเติมจากข่าวที่ OpenAI กำลังเจรจากับนักลงทุนเพื่อระดมทุนรอบใหม่ ซึ่งจะทำให้มูลค่ากิจการสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีรายชื่อบริษัทที่สนใจร่วมลงทุนใน OpenAI เพิ่มเติมได้แก่ แอปเปิล และ NVIDIA

อย่างไรก็ตามไม่มีรายละเอียดว่าทั้งสองบริษัทสนใจลงทุนเป็นวงเงินเท่าใด เพราะตามรายงานก่อนหน้านี้ Thrive Capital จะเป็นผู้ลงทุนหลักในรอบนี้ที่วงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ โดยมีไมโครซอฟท์ที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมลงทุนด้วยอีกจำนวนหนึ่ง

NVIDIA เผยผลเบนช์มาร์คแรกของจีพียู Blackwell B200 โดยเป็นเบนช์มาร์ค MLPerf Inference: Datacenter ที่นิยมใช้กันในวงการ AI ทดสอบกับโมเดล Llama 2 70B ผลคือได้ประสิทธิภาพต่อจีพียูสูงกว่าชิป H100 (Hopper) ประมาณ 4 เท่าตัว

ผลการทดสอบของ NVIDIA ใช้เครื่องซีพียู Xeon Silver 4410Y ร่วมกับชิป B200 แรม 180GB ได้คะแนนออกมาดังนี้

ถึงแม้ NVIDIA รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตที่สูงของรายได้ระดับเลขสามหลักติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ห้า ตัวเลขทั้งรายได้-กำไร ออกมามากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันก่อนหน้านี้ รวมทั้งประกาศแผนซื้อหุ้นคืนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ราคาหุ้นกลับลดลงถึง 7% ในช่วงหลังการปิดตลาด

Stacy Rasgon นักวิเคราะห์จาก Bernstein ให้ความเห็นว่าผลสะท้อนจากราคาหุ้นน่าจะมาจากความคาดหวังว่า NVIDIA จะให้ตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาสปัจจุบันที่ระดับ 3.3-3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่บริษัทให้ตัวเลขที่ประมาณ 3.25 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Rasgon มองว่ายังไม่เห็นสัญญาณว่าความต้องการซื้อชิปจาก NVIDIA ลดลง และบริษัทก็ยังสามารถส่งมอบสินค้าได้ตามความต้องการของตลาด

NVIDIA รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2025 สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม รายได้รวมเพิ่มขึ้น 122% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เป็นสถิติสูงสุดอีกครั้งที่ 30,040 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP ที่ 16,599 ล้านดอลลาร์

Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA กล่าวในรายงานผลประกอบการว่า ความต้องการ Hopper ยังคงแข็งแกร่ง ส่วนการตอบรับของ Blackwell ก็น่าเหลือเชื่อ ผลประกอบการในไตรมาสยังทำสถิติใหม่ เป็นผลจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก เริ่มปรับรูปแบบเทคโนโลยีการประมวลผลให้รองรับ Generative AI ที่จะมาปฏิวัติในทุกอุตสาหกรรม

NVIDIA โชว์การปรับปรุงโมเดลภาษา Mistral NeMo 12B ที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม ให้มีขนาดพารามิเตอร์ลดลงเหลือ 8B แต่ไม่สูญเสียประสิทธิภาพมากนัก ผลคือโมเดล Mistral-NeMo-Minitron 8B ที่ปรับขนาดลดลงแล้ว เอาชนะโมเดลคู่แข่งระดับใกล้เคียงกันอย่าง Llama 3.1 8B และ Gemma 7B ในเบนช์มาร์ค AI ทุกตัวได้

เทคนิคการปรับลดขนาดโมเดลที่ NVIDIA ใช้งานมี 2 อย่าง ได้แก่

NVIDIA เปิดตัวเทคโนโลยีจอภาพ G-Sync มาตั้งแต่ปี 2013 เพื่อแก้ปัญหาภาพฉีกขาด (screen tearing) โดยใช้วิธีผูกโยงอัตรารีเฟรชของจอภาพเข้ากับเฟรมเรตของเกม อย่างไรก็ตาม ปัญหาของ G-Sync คือจำเป็นต้องเพิ่มโมดูลฮาร์ดแวร์เฉพาะในจอภาพด้วย ทำให้ต้นทุนของจอสูงขึ้น เราจึงไม่ค่อยเห็นจอ G-Sync วางขายมากนัก ในขณะที่คู่แข่ง AMD ออกเทคโนโลยี FreeSync ที่ไม่เสียค่าใช้งาน-ไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์เฉพาะ จึงได้รับความนิยมแพร่หลายกว่า

เจนเซน หวง ซีอีโอของ NVIDIA ขายหุ้นของตัวเองออกไปกว่า 322.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม อ้างอิงจากข้อมูลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นการขายหุ้นครั้งประวัติศาสตร์ของตัวเขา ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาเขาขายหุ้นออกไปรวม ๆ แล้วเกือบ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

การขายหุ้นครั้งนี้อยู่ในแผนการซื้อขายล่วงหน้าตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ก็ถือว่าเกิดขึ้นค่อนข้างถูกเวลา เพราะการขายครั้งนี้คาบเกี่ยวกับการปรับฐานของหุ้นเทคในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ และผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าคาดของบริษัทเทค

404 Media รายงานว่า NVIDIA แอบดูดข้อมูลจาก Youtube และ Netflix เพื่อนำมาเทรน AI อ้างอิงจากหลักฐานหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นข้อความ Slack, อีเมล ตลอดจนเอกสารภายในอื่น ๆ

Ming-Yu Liu รองหัวหน้าทีมวิจัยของ Nvidia และผู้นำในโปรเจกต์ดังกล่าวเผยผ่านอีเมลว่า ในแต่ละวัน AI จะได้ข้อมูลภาพ ที่เยอะที่เทียบเท่ากับช่วงเวลาชีวิตของคนๆ นึงหรือราว 80 ปี มาฝึก

หนึ่งในพนักงานที่ไม่ประสงค์ออกนามเผยว่าตนได้รับมอบหมายให้ดึงข้อมูลจาก Netflix, Youtube และแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่น ๆ สำหรับนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ต่าง ๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น Omniverse หรือระบบรถยนต์ไร้คนขับ ที่ต้องการการข้อมูลเชิงฟิสิกส์จำนวนมาก

เว็บไซต์ The Verge ตั้งข้อสังเกตว่า ในผลประกอบการไตรมาส 2/2024 ของ AMD มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจศูนย์ข้อมูล (ซีพียู Epyc และจีพียู Instinct) เติบโตขึ้นมากถึง 115% ทำให้ตอนนี้รายได้เกือบครึ่ง (48.5%) ของ AMD มาจากศูนย์ข้อมูลแล้ว

AMD แบ่งรายได้ออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ศูนย์ข้อมูล, ไคลเอนต์ (Ryzen/Threadripper), เกมมิ่ง (นับรวมจีพียูเกมมิ่ง Radeon และชิปคอนโซล) และชิปฝังตัว โดยไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจศูนย์ข้อมูลและไคลเอนต์เติบโต ในขณะที่ธุรกิจเกมมิ่งและฝังตัวถดถอยลง