มีรายงานว่า Tencent เพิ่งสั่งซื้อชิป H20 ของ NVIDIA เป็นจำนวนมาก มูลค่ารวมระดับหลายหมื่นล้านหยวน อย่างไรก็ตาม Tencent ไม่ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดการสั่งซื้อนี้อย่างเป็นทางการ

ก่อนหน้านี้มีรายงานบริษัทเทคโนโลยีของจีนหลายแห่งทั้ง Tencent, Alibaba และ ByteDance ต่างเพิ่มคำสั่งซื้อ H20 เพื่อรองรับความต้องการใช้งาน AI ที่มากขึ้นในจีน ซึ่งถูกจุดกระแสจาก DeepSeek แต่ไม่มีตัวเลขมูลค่าเปิดเผยออกมา

H20 เป็นชิปรุ่นปรับแต่งสถาปัตยกรรม Hopper ของ NVIDIA สำหรับขายให้กับลูกค้าในจีน ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีรุ่นล่าสุด Blackwell

เมื่อปี 2023 NVIDIA เปิดตัวโครงการ Half-Life 2 RTX ซึ่งเป็นการม็อดเกม Half-Life 2 ด้วยเครื่องมือ NVIDIA Remix จนเหมือนเป็นเกมใหม่

หลังเวลาผ่านมาเกือบ 2 ปี ในที่สุดโครงการ Half-Life 2 RTX อยู่ในสถานะที่พร้อมให้เล่นแล้ว ตอนนี้ตัวม็อดมีหน้าเพจบน Steam และจะเปิดให้ดาวน์โหลดในวันที่ 18 มีนาคม 2025 (ผู้เล่นจะต้องมีเกม Half-Life 2 ตัวเต็มก่อนติดตั้งม็อด)

Reuters รายงานข่าวลือว่า TSMC ได้นำเสนอแนวทางต่อบริษัทออกแบบชิป (ที่ไม่มีโรงงานตัวเอง) สัญชาติสหรัฐหลายราย เพื่อร่วมลงทุน (joint venture) ในธุรกิจผลิตชิปของอินเทลที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน

ข้อเสนอของ TSMC คือ TSMC จะเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการในธุรกิจผลิตชิปของอินเทล แต่จะถือหุ้นไม่เกิน 50% ส่วนที่เหลือจะให้บริษัทต่างๆ เช่น NVIDIA, AMD, Broadcom, Qualcomm ร่วมกันถือหุ้น

ข่าวนี้เป็นความต่อเนื่องจาก TSMC อาจซื้อโรงงานผลิตชิปของ Intel ตามข้อเสนอของทีมงาน Trump เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ การที่ TSMC ยินดีถือหุ้นไม่เกิน 50% อาจช่วยลดแรงต้านทานในประเด็นเรื่องความเป็นอเมริกันลง

ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนนี้ ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 7 บริษัท หรือที่เรียกกันว่าหุ้น 7 นางฟ้า (Magnificent Seven) ต่างปรับลดลงมาก จนทำให้ภาพรวมดัชนี Nasdaq ลดลง 4% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 ปิดที่ 17,468.32 จุด

ราคาหุ้น 7 นางฟ้าปรับลดลงดังนี้ NVIDIA ลบ 5%, Alphabet ลบ 4.4%, Meta ลบ 4.4%, Apple ลบ 4.9%, Microsoft ลบ 3.3%, Amazon ลบ 2.4% ส่วน Tesla ลบ 15.4%

นักวิเคราะห์ให้เหตุผลหลักที่ทำให้ราคาหุ้นปรับลดลงมากรวมทั้งกลุ่มเทคโนโลยี ว่ามาจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในช่วงเดือนที่ผ่านมา รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลสหรัฐทั้งการขึ้นกำแพงภาษี การตัดลบงบประมาณหน่วยงานรัฐ

หลังจากผู้ผลิตจีพียูทั้งสองค่าย วางขายสินค้าระดับกลาง (รหัสลงท้ายด้วย 70 ซึ่งรอบนี้เรียกเหมือนกันแล้ว) กันเรียบร้อยแล้ว ก็ใกล้ได้เวลาของสินค้าระดับล่างลงมาคือรหัสลงท้าย 60

ค่ายเขียว NVIDIA มีข่าวหลุดออกมา 2 ตัว จากนักปล่อยข่าวฮาร์ดแวร์ชื่อดัง kopite7kimi

Li Guojie นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวจีน มองว่าจีนต้องพัฒนาเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ AI ของตัวเอง แทนที่พึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก โดยเฉพาะ CUDA ของ NVIDIA ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าชิป AI จากบริษัทของจีน เช่น Huawei, Hygon และ, Cambricon มีความสามารถใกล้เคียงกับของ NVIDIA

ทางการสิงคโปร์ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งออกสินค้าเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นของบริษัทสหรัฐอเมริกา ออกไปยังประเทศที่อยู่ในคำสั่งห้ามส่งออกส่งสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นมีชิปรุ่นใหม่ของ NVIDIA ด้วย

การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ประกาศตรวจสอบว่า DeepSeek โมเดลปัญญาประดิษฐ์ของจีนได้เข้าถึงการใช้งานชิป AI ในรุ่นที่อยู่ในคำสั่งห้ามหรือไม่ ซึ่งต่อมา NVIDIA ชี้แจงหลังพบว่ายอดขายในประเทศสิงคโปร์สูงผิดปกติ ว่าเป็นผลจากการออกบิลตามสถานที่จดทะเบียนบริษัทของลูกค้าซึ่งมักเป็นสิงคโปร์ แต่ตัวเครื่องถูกส่งออกไปยังที่อื่น

Reuters รายงานข่าวลือว่า NVIDIA และ Broadcom เริ่มเข้ามาทดสอบผลิตชิปกับโรงงานของอินเทลแล้ว โดยเป็นกระบวนการผลิตระดับ Intel 18A

หากข่าวนี้เป็นจริง เท่ากับว่าความหวังของอินเทลในการรับจ้างผลิตชิปจากบริษัทอื่นๆ ใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และจะช่วยให้ธุรกิจ Intel Foundry ที่ขาดทุนมาตลอด มีรายได้เข้ามาบ้างในอีกไม่ช้า

นอกจากนี้ Reuters ยังรายงานว่าคู่แข่งอย่าง AMD ก็สนใจโรงงาน 18A ของอินเทลเช่นกัน แต่ยังไม่ชัดเจนว่า AMD ได้ส่งชิปตัวอย่างไปทดสอบผลิตด้วยหรือไม่

ทุกบริษัทที่ปรากฏชื่อในข่าวของ Reuters ปฏิเสธไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้

CoreWeave บริษัทให้บริการคลาวด์ที่เน้นการให้เช่าใช้งานจีพียูของ NVIDIA ยื่นเอกสารไฟลิ่งเพื่อเตรียมไอพีโอ นำบริษัทเข้าตลาดหุ้นแนสแดคด้วยตัวย่อ CRWV โดยยังไม่ได้ให้รายละเอียดจำนวนหุ้นที่ต้องการเสนอขาย และราคาหุ้นไอพีโอ รวมทั้งมูลค่ากิจการ

ในเอกสารไฟลิ่ง CoreWeave บอกว่าบริษัทมีรายได้ในปี 2024 1,915 ล้านดอลลาร์ เพิ่มมากกว่า 700% จากปี 2023 แต่ยังขาดทุนในปีที่ผ่านมา 863 ล้านดอลลาร์ รายได้ของบริษัท 77% มาจากลูกค้าเพียง 2 ราย โดยรายที่ใหญ่ที่สุดคือไมโครซอฟท์ (62%) บริษัทจึงพยายามขยายลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น โดยตอนนี้มีสัญญาที่ทำกับลูกค้าแล้วแต่รอส่งมอบมูลค่ารวมถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์

มีประเด็นเพิ่มเติมจากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาของ NVIDIA ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2025 ทำให้บริษัทสรุปตัวเลขภาพรวมในปีการเงินและมีข้อมูลที่น่าสนใจ

ในเอกสาร 10-K ซึ่งเป็นรายงานผลการดำเนินงานอย่างละเอียด NVIDIA บอกว่าบริษัทมีลูกค้ารายสำคัญที่สั่งสินค้าโดยตรงกับ NVIDIA เรียกว่า Direct Customer อยู่ 3 ราย ที่คิดเป็นรายได้สูงต่อบริษัท เรียกว่าลูกค้า A, B, C ซึ่งลูกค้า A คิดเป็นรายได้ 12% ของรายได้ตลอดปีการเงิน ส่วนลูกค้า B และ C เป็นรายได้รายละ 11% ตัวเลขนี้มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปีการเงิน 2024 มีเฉพาะลูกค้า B ที่เป็นรายได้ 13% ส่วน A กับ C น้อยกว่า 10%

มีประเด็นเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ NVIDIA จากซีอีโอ Jensen Huang และซีเอฟโอ Colette Kress ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนน่าจะมีคำถามมากก็คือคำสั่งซื้อชิป AI ยังเป็นไปในทิศทางเติบโตหรือไม่?

Kress บอกว่าคำสั่งซื้อจีพียู Blackwell ยังเติบโต ในไตรมาสที่ผ่านมาคิดเป็นรายได้ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากรายได้รวม 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นสินค้าที่มีการเติบโตของยอดขายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท ในไตรมาสปัจจุบันคำสั่งซื้อ Blackwell ยังคงมีเพิ่มมากขึ้น

NVIDIA รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2025 สิ้นสุดเดือนมกราคม รายได้รวมเพิ่มขึ้น 78% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้อยู่ที่ 39,331 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 22,091 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 80% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของบริษัทอีกไตรมาส

Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องหลายราย ให้ข้อมูลว่าบริษัทเทคโนโลยีของจีนหลายแห่งต่างเร่งสั่งซื้อชิป H20 จาก NVIDIA เพื่อรองรับความต้องการใช้งานโมเดล DeepSeek ที่มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสวนทางกับความเห็นก่อนหน้านี้ที่ว่า DeepSeek จะทำให้ความต้องการชิป AI ลดลง

บริษัทที่ระบุชื่อได้แก่ Tencent, Alibaba และ ByteDance โดยทั้งหมดได้เพิ่มคำสั่งซื้อ H20 อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อใช้ทั้งการประมวลผลโมเดล AI ของบริษัท และสำหรับบริการคลาวด์ให้ลูกค้าภายนอก ทั้งนี้ H20 เป็นชิป AI ที่ NVIDIA สำหรับขายในจีนโดยเฉพาะเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขการส่งออกชิปที่สหรัฐอเมริกากำหนดไว้

Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาของ DDN ซึ่งบันทึกไว้ล่วงหน้า พูดถึง DeepSeek เป็นครั้งแรก บอกว่าตลาดมีความเข้าใจผิดไปมากในการมาของ DeepSeek และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

เมื่อเดือนที่แล้ว DeepSeek เป็นหัวข้อหลักที่สร้างผลกระทบกับหุ้นของบริษัทเทคโนโลยี โดย NVIDIA ราคาหุ้นลดลงวันเดียวถึง 17% เนื่องจากนักลงทุนมองว่าปัญญาประดิษฐ์อาจไม่ต้องใช้ทรัพยากรประมวลผลมหาศาลแล้ว ในตอนนั้น NVIDIA ชี้แจงว่างานส่วนใหญ่ของ AI ยังต้องการทรัพยากรประมวลผลจำนวนมากต่อไป

NVIDIA ร่วมกับสถาบันวิจัย Arc Institute ปล่อย AI ออกแบบ DNA ฝึกจาก DNA สิ่งมีชีวิตกว่าแสนสปีชีส์ เพื่อใช้ค้นหายีน และออกแบบยีนใหม่

รูปแบบการใช้งานทำได้หลากหลาย เช่น ทีมงานใส่ยีนของมะเร็งทรวงอก BRCA1 ให้ Evo 2 พบว่าโมเดลสามารถทำนายว่าเป็นมะเร็งแบบลุกลามหรือไม่ได้แม่นยำถึง 90% หรือการใช้งานอีกแบบหนึ่งคือการตรวจสอบผลข้างเคียงของยีนบำบัดว่ายีนที่แก้ไขไปนั้นมีผลกระทบต่อเซลล์ที่ต้องการเท่านั้นหรือไม่ โดย Evo 2 สามารถออกแบบยีนใหม่ได้ระดับแบคทีเรียง่ายๆ สักตัว

เพื่อความปลอดภัย ทีมวิจัยไม่ได้ฝึกโมเดลกับยีนของเชื้อโรคที่ติดต่อในมนุษย์ป้องกันการนำไปใช้สร้างอาวุธเชื้อโรค

NVIDIA ยืนยันว่าเอนจินฟิสิกส์ PhysX (อ่านว่า ฟิสิกซ์) ไม่สามารถรันบน GeForce RTX ซีรีส์ 50 (Blackwell) ได้แล้ว เนื่องจากแอพพลิเคชันที่รันบน CUDA แบบ 32 บิตจะไม่ซัพพอร์ตบน Blackwell อีกต่อไป (มีผลกับแอพพลิเคชันอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่แค่ PhysX อย่างเดียว)

จีพียูรุ่นเก่าตั้งแต่ GeForce RTX ซีรีส์ 40 ลงไปยังรองรับการรันแอพ CUDA แบบ 32 บิต แต่จีพียูใหม่ตั้งแต่ Blackwell เป็นต้นไป (CUDA 12.0 ขึ้นไป) จะไม่สามารถใช้งานได้แล้ว

NVIDIA ยื่นรายงาน 13F-HR กับ SEC เพื่อเปิดเผยข้อมูลการลงทุนในบริษัทอื่น โดยมีรายละเอียดดังนี้

• ขายหุ้นทั้งหมดของ Nano-X Imaging, Serve Robotics และ SoundHound AI
• ขายหุ้นบางส่วนของ Arm Holdings
• จำนวนหุ้นเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงของ Applied Digital และ Recursion Pharmaceuticals
• ซื้อหุ้นของ Nebius Group และ WeRide

NVIDIA กับ Arm นั้นมีความสัมพันธ์มานานแล้ว เพราะเคยมีข่าวว่า NVIDIA สนใจซื้อกิจการทั้งหมดแต่ดีลล่มไป ซึ่งต่อมา NVIDIA ก็ได้ซื้อหุ้นไอพีโอของ Arm ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์

หลังจาก วางขายการ์ดรุ่นท็อป GeForce RTX 5090 และ 5080 ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มกราคม ล่าสุด NVIDIA ประกาศวางขาย GeForce RTX 5070 Ti ตามมาในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ยังไม่มีข้อมูลของ 5070 ตัวธรรมดา)

GeForce RTX 5070 Ti ตั้งราคา 749 ดอลลาร์ โดยไม่มีการ์ด Founders Edition ที่ NVIDIA ทำขายเอง มีเฉพาะการ์ดจากผู้ผลิตการ์ดจอแบรนด์อื่นๆ เท่านั้น)

จีพียู NVIDIA Blackwell เริ่มให้เช่าใช้งานบนคลาวด์อย่างเป็นทางการแล้ว (สถานะเป็น Generally Available) โดยผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่สามารถให้บริการเช่า NVIDIA GB200 NVL72 ได้กลับเป็นรายเล็กคือ CoreWeave บริการคลาวด์ที่เน้นให้เช่าจีพียูเป็นหลัก

CoreWeave ก่อตั้งในปี 2017 โดยกลุ่มนักลงทุน ที่เดิมทีกว้านซื้อจีพียูมาขุดเหมืองคริปโต แต่พอตลาดคริปโตตกหนักในปี 2018 เลยผันตัวมาให้เช่าจีพียูแทน เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น CoreWeave ในปี 2019

NVIDIA โพสต์บล็อกผลการทดสอบรันโมเดล DeepSeek R1 Distill ด้วย llama-bench ที่ขนาดพารามิเตอร์ต่าง ๆ โดยบอกว่า GeForce RTX 4090 เร็วกว่า AMD Radeon RX 7900 XTX ถึง 47% และถ้าใช้ RTX 5090 จะเร็วมากกว่า 100% เลย

การทดสอบนี้คาดว่าเพื่อตอบโต้ AMD ที่เผยแพร่ผลทดสอบการรัน DeepSeek ก่อนหน้านี้ว่า Radeon RX 7900 XTX เร็วกว่า RTX 4090 อย่างไรก็ตามด้วยตัวเลขที่ออกแตกต่างกัน จึงอาจมีความแตกต่างในทดสอบของแต่ละค่าย ก็ต้องรอดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันต่อไป

NVIDIA ชี้แจงถึงประเด็นที่สหรัฐฯ สอบสวนว่า DeepSeek ได้ชิปของบริษัทไปทางใด โดยประเทศต้องสงสัยหนึ่งคือสิงคโปร์ เพราะเป็นประเทศที่สร้างยอดขายให้ NVIDIA ถึง 22% จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าประเทศขนาดเล็กจะซื้อการ์ดกราฟิกไปขนาดนี้เพื่ออะไร

ทาง NVIDIA ระบุว่าการแยกรายได้นั้นเป็นการแยกรายได้ตามประเทศที่เรียกเก็บเงิน (bill to) ไม่ได้แยกตามการส่งสินค้าจริง ลูกค้าจำนวนมากใช้บริษัทในสิงคโปร์เป็นผู้จ่ายเงิน แม้ว่าที่จริงแล้วตัวเครื่องจะส่งไปยังสหรัฐฯ หรือยุโรปก็ตาม

ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมสิงคโปร์ระบุว่าเป็นหน้าที่ของ NVIDIA ต้องทำตามข้อบังคับการส่งออกของสหรัฐฯ และศุลกากรของสิงคโปร์ยินดีจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อไป

Google Cloud เริ่มเปิดบริการให้เช่าเครื่อง VM ที่ใช้จีพียู NVIDIA Blackwell B200 ตามหลัง Microsoft Azure ที่เริ่มให้บริการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 (ค่าย AWS ยังไม่มา)

เครื่องของ Google Cloud ใช้ชื่อรุ่นว่า A4 VM ตอนนี้ยังมีสถานะเป็นพรีวิว เบื้องหลังเป็นเครื่อง NVIDIA HGX B200 มีจีพียู Blackwell 8 ตัวเชื่อมต่อผ่าน NVLink เวอร์ชัน 5 พ่วงด้วยสถาปัตยกรรม Titanium ML ของกูเกิลเองเพื่อให้ส่งข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์ได้เร็วขึ้น

มีรายงานว่ากระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ได้เริ่มตรวจสอบว่า DeepSeek ใช้ชิปของสหรัฐที่ถูกระบุว่าห้ามส่งออกไปจีนในการพัฒนาโมเดล AI หรือไม่ ซึ่งเป็นคำสั่งที่ออกมาตั้งแต่ปี 2023 โดยบริษัทที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ NVIDIA เพราะโดนทั้ง A100, A800, H100 และ H800

รายงานบอกว่าชิป AI เหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้าจีนผ่านประเทศตัวกลางหลายแห่ง โดยก่อนหน้านี้ Dario Amodei ซีอีโอ Anthropic ให้ข้อมูลว่าชิป AI ที่ DeepSeek ใช้พัฒนาโมเดล AI นั้น มีผสมกันทั้งชิปปกติที่ไม่ถูกแบน, ชิปถูกแบนแต่ซื้อมาก่อนคำสั่งมีผล และชิปที่ใช้การลักลอบนำเข้า

Pat Gelsinger อดีตซีอีโออินเทล แสดงความเห็นในคืนวันจันทร์ที่ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังแตกตื่นกับข่าว DeepSeek จนทำให้หุ้นเทคราคาปรับลดลงมาก โดยเฉพาะ NVIDIA ที่ลดลงวันเดียวถึง 17% โดยเขามองว่าตลาดหุ้นกำลังเข้าใจสถานการณ์ผิด

Gelsinger บอกว่ากรณีของ DeepSeek เป็นการย้ำเตือนในกฎ 3 ข้อ ซึ่งพวกเราต่างรู้กันอยู่แล้วคือ

NVIDIA ออกซอฟต์แวร์​ CUDA เวอร์ชัน 12.8 มีประกาศที่น่าสนใจคือ เตรียมหยุดซัพพอร์ตจีพียูสถาปัตยกรรมเก่าๆ 3 รุ่น ได้แก่

• Maxwell (ออกปี 2014 - GeForce 700, 800M, 900)
• Pascal (ออกปี 2016 - GeForce 1000, Quadro P, Tesla P4)
• Volta (ออกปี 2017 - Tesla V100, Titan V)

ประกาศของ NVIDIA บอกว่าสถาปัตยกรรมทั้งสามรุ่นถือว่า feature-complete แล้ว และจะไม่ถูกปรับปรุงแก้ไขอะไรเพิ่มใน CUDA รุ่นถัดไป ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ล้าสมัย (deprecated) แล้ว แม้ยังซัพพอร์ตอย่างเป็นทางการอยู่ในตอนนี้