Tegra เป็นชิปประมวลผลสำหรับอุปกรณ์พกพาที่ NVIDIA เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว จุดเด่นของมันคือรวมหน่วยประมวลผลทุกชนิดที่จำเป็นสำหรับมือถือมาไว้บนฮาร์ดแวร์ชิ้นเดียว และแน่นอนมีความสามารถด้านกราฟฟิกระดับ GeForce รุ่นเล็ก (ข่าวเก่า)
Tegra อาจจะเป็นชิปที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2009 ก็ได้ เพราะมีข่าวลือจากบริษัทวิจัย Broadpoint (ซึ่งอ้างข้อมูลมาจากผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์อีกต่อหนึ่งว่า) HTC, ไมโครซอฟท์ และแอปเปิล สนใจสร้างมือถือที่ใช้ Tegra อยู่
มีข่าวลือจากเว็บไซต์ Tom's Hardware ว่าแอปเปิลเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ได้รับตัวต้นแบบของ nVidia Ion (แพลตฟอร์มที่ใช้ Atom ของ Intel กับชิพกราฟฟิค GeForce 9400M ของ nVidia) และกำลังพิจารณาที่จะใช้กับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลเอง โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็น Mac Mini รุ่นใหม่ ซึ่งไม่ได้อัพเกรดมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีผู้วิเคราะห์ว่าเมื่อพิจารณาถึงขนาดของแพลตฟอร์มนี้ (เพียงแค่ 3" x 4") ร่วมกับความสามารถในการแสดงผลในระดับ Hi-Definition ได้อย่างไม่มีปัญหา ทำให้นึกได้ว่าจริงๆ แล้ว แอปเปิลอาจจะกำลังสนใจนำมาใช้กับ Apple TV ที่กำลังไปได้รุ่งมากกว่า
nVidia Ion หรือแพลตฟอร์มที่เอา Atom ของอินเทลมาชนกับชิพกราฟฟิค GeForce 9400M นั้นได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปได้สักพักแล้ว (ข่าวเก่า: Nvidia Ion: เมื่อ Atom ประสานพลังกับ GeForce 9400M) วันนี้ nVidia ได้เอาตัวจริงมาเผยที่งาน CES พร้อมทั้งผลการทดสอบด้วยครับ โดยเครื่องที่นำมาทดสอบคือ Atom 330 (1.6Ghz, FSB 533Mhz), แรม 2GB DDR3, GeForce 9400M ที่มีแกนประมวลผล 16 แกน, SATA 3Gbps ซึ่งตามคุณสมบัติแล้วจะสามารถแสดงผลได้เต็มที่ที่สุด 2560x1600 พิกเซลผ่าน dual-link DVI หรือ 1080p ผ่าน HDMI
สำหรับผลการทดสอบที่ได้คือ
หลังจาก Khronos Group กลุ่มผู้ดูแลมาตรฐาน OpenGL ประกาศมาตรฐาน OpenGL 3.0 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา ตอนนี้ไดรเวอร์ OpenGL 3.0 สำหรับการ์ดจอของ Nvidia ก็ออกมาให้ดาวน์โหลดไปอัปเดตกันแล้วครับ
การ์ดจอของ Nvidia ที่รองรับ OpenGL 3.0 มีดังนี้
Desktop
Notebook
ทุกวันนี้คนส่วนหนึ่งยังไม่ซื้อเน็ตบุ๊คมาใช้ เนื่องจากกลัวพลังประมวลผลด้านกราฟฟิคที่มีอยู่จะน้อยกว่าเครื่องทั่วๆ ไป วันนี้ Nvidia ได้เปิดเผยแพลตฟอร์มใหม่เพื่อหวังที่จะมาทำลายข้อจำกัดนี้ในตลาดเน็ตบุ๊คแล้วครับ
Nvidia เปิดเผยว่าแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า Ion นี้จะใช้ซีพียูอะตอมของอินเทล แต่แทนที่จะใช้ชิพเซ็ต GMA945 ก็จะใช้ GeForce 9400M แทน (เป็นอันเดียวกันกับที่อยู่ใน MacBook ตัวใหม่ครับ) โดย Nvidia อ้างว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มปัจจุบันของอินเทลแล้ว จะมีพลังประมวลผลกราฟฟิคเพิ่มเป็น 5 เท่า และวิดีโอเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าทีเดียว (ทำให้มีความหวังว่าเจ้าอะตอมมีประจุนี้น่าจะเล่นภาพยนตร์ความละเอียดระดับ Full HD ได้)
Tesla เป็น GPU จาก NVIDIA ที่จับตลาดประมวลผลเชิงวิศวกรรมหรือวิทยาศาสตร์ จุดเด่นของมันคือมีคอร์จำนวนมาก (128-240 คอร์ขึ้นกับรุ่น) และสามารถโปรแกรมการทำงานได้ผ่าน CUDA (Compute Unified Device Architecture) ทำให้ GPU กลายเป็น CPU ที่เหมาะสำหรับงานประมวลผลขั้นสูง (แต่ตัว CPU จริงเองก็ยังต้องใช้อยู่นะครับ)
โน้ตบุ๊กแบรนด์ Qosmio ของโตชิบานั้นถือเป็นรุ่นท็อปที่อัดฟีเจอร์แรงๆ สู้ตลาดเสมอ (ดูข่าวเก่าในหมวด Qosmio) ล่าสุดโตชิบาเปิดตัวโน้ตบุ๊ก Qosmio สองตัวในชื่อรุ่น X305 ซึ่งไม่ธรรมดาตรงที่มันมีการ์ดจอจาก NVIDIA ถึง 3 ตัว
Qosmio X305 ประกอบด้วยการ์ดจอออนบอร์ด 9400M หนึ่งตัวและ GeForce 9800M GTS อีกสองตัว ทั้งสามตัวต่อกันแบบ SLI แน่นอนว่าเพื่อเอาไว้เล่นเกม แต่ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะปิดการ์ดจอแยก 2 ตัวเพื่อประหยัดแบตเตอรี และใช้เพียง 9400M ตัวเดียวได้
แม้จะยังไม่มีคำยืนยันว่านี่คือการ์ดจอที่แรงที่สุดในโลก แต่ NVIDIA Quadro FX 5800 ก็อัดทุกอย่างเท่าที่เราจะนึกออกเอาไว้ในการ์ดใบเดียว รวมถึงหน่วยความจำขนาด 4 กิกะไบต์ พลังประมวลผลขนานที่ใช้งานผ่าน CUDA ได้ถึง 240 คอร์ และเผื่อว่านี่ยังไม่แรงพอ การ์ดใบนี้รองรับ SLI อีกต่างหาก
ตัวการ์ดอย่างเดียวกินไฟ 189 วัตต์ และกินเงิน 3,499 ดอลลาร์ (ประมาณใบละแสน)
ซื้อการ์ดจอแล้วต้องมาหาเครื่องให้สมศักดิ์ศรีกับมันอีก
ที่มา - ArsTechnica
การรอคอยสิ้นสุดลงแล้ว ในที่สุดแอปเปิลก็ได้เปิดตัว MacBook รุ่นใหม่ตามข่าวลือที่มีมาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว โดยมีทั้งที่เป็นไปตามคาดไว้และไม่เป็น ที่ฮือฮาที่สุดคงเป็น trackpad แบบใหม่ที่ไม่มีปุ่มโดยเราสามารถคลิ้กได้โดยกดลงไปที่ trackpad โดยตรง รวมทั้งการเปลี่ยนไปใช้ชิปเซตของ NVIDIA ตามที่เป็นข่าว โดยในแต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้
MacBook
AppleInsider ได้ออกมายืนยันว่าแอปเปิลได้ทำการเปลี่ยนมาใช้ชิปเซตของ Nvidia อย่างแน่นอนแล้ว
โดยแอปเปิลได้เลือกใช้แพลตฟอร์ม MCP79 จาก Nvidia ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีลักษณะการทำงานที่คล้ายกับ Centrino 2 (Montevina) จากอินเทลมาก โดยทั้งคู่สนับสนุน Front Side Bus ความเร็ว 1066MHz, หน่วยความจำ DDR3 และ PCI Express 2.0
ข้อดีที่เลือกใช้ Nvidia แทนในครั้งนี้คือ:
TUAW รายงานว่า MacBook รุ่นต่อไปนั้นจะใช้ชิปเซตจาก NVIDIA และคาดว่าอาจจะได้เห็นตัวจริงภายในวันที่ 14 ตุลาคมที่จะถึงนี้
จากการรายงานของ TUAW หนึ่งในเครือเว็บของ Engadget อ้างว่า Nvidia ได้นำตัวอย่าง MacBook ใหม่มาโชว์กับพนักงานพวกเขาเอง และที่พูด ๆ กันภายในบริษัทนั้น คาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว MacBook ตัวชิปเซตใหม่ภายในวันที่ 14 ตุลาคม
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาว่าแอปเปิลเตรียมที่จะเปลี่ยนไปใช้ชิปเซตจากบริษัทอื่น แต่แม้ว่าจะมีการใช้ชิปเซตจากบริษัทอื่นแล้วก็ตาม ตัวซีพียูของโน้ตบุคแอปเปิล ยังคงเป็นของอินเทลอยู่
จากปัญหาชิปกราฟิกโน้ตบุ๊กจำนวนมากของ NVIDIA ทำงานผิดพลาด จนทำมาซึ่งการขาดทุนในไตรมาสที่ผ่านมา: มาวันนี้ผู้ถือหุ้นของทาง NVIDIA ก็ยื่นฟ้องต่อศาลแคลิฟอร์เนียร์แล้วว่า ทาง NVIDIA ปกปิดข้อมูลนี้ไว้ทำให้ผู้ถือหุ้นเสียหาย
ชิปที่เป็นปัญหาจำนวนมากนี้เป็นชิปที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 2007 แต่ทาง NVIDIA เพิ่งประกาศรับรู้ปัญหาดังกล่าวในปีนี้
สงครามน้ำลายระหว่าง Nvidia และอินเทลดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่าย ๆ ล่าสุด จาก PC Pro ทาง Nvidia ได้ออกมาวิจารณ์ว่าเทคโนโลยี CPU/GPU มัลติคอร์จากอินเทลภายใต้โค้ดเนม Larrabee ที่จะออกมาในปี 2010 นั้นจะมีความสามารถพอ ๆ กับ GPU ขอ Nvidia หรือ ATI เมื่อปี 2006 เท่านั้น
นอกจากนี้ Nvidia ได้ออกมาชมเชย ATI มากมาย เริ่มด้วยการยอมรับว่าทาง Nvidia จะต้องไล่ตาม GPU จาก AMD และยังได้พูดว่า "เราประเมิน ATI ต่ำไปหน่อย"
ที่มา - Slashdot
เดวิด เคิร์ค (David Kirk) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ NVIDIA Corporation บริษัทผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟฟิกส์รายใหญ่ได้กล่าวว่า "การประมวลผลแบบขนานกำลังมีบทบาทสำคัญยิ่งในยุคนี้" โดยโปรเซสเซอร์ประเภท GPU และ multi-core เป็นเทคโนโลยีที่ต้องการการพัฒนาโปรแกรมให้สามารถประมวลผลแบบขนาน แม้ว่าเราจะสามารถเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์แบบ multi-core ได้แล้วก็ตามที แต่โปรแกรมหลายตัวที่ถูกพัฒนาขึ้นมายังไม่สามารถใช้สมรรถนะจาก multi-core ได้เต็มที่เนื่องจากโปรแกรมยังขาดความสามารถในการทำงานแบบขนานนั่นเอง
ผลประกอบการไตรมาสที่สองของ NVIDIA นั้นออกมาช้าไปสักหน่อย และผลที่ออกมาก็เห็นได้ชัดว่า NVIDIA อยู่ในสภาพไม่ดีเท่าใหร่นัก ด้วยยอดขาย 892.7 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 5 ที่สำคัญคือผลกำไรนั้นเป็นขาดทุนอยู่ 120 ล้านดอลลาร์ทีเดียว
เหตุผลหลักของการติดลบครั้งนี้คือปัญหาในชิปที่จำหน่ายไปแล้วจำนวนมาก ทำให้ทาง NVIDIA ต้องสำรองเงินไว้จำนวน 196 ล้านดอลลาร์เพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหานี้ อย่างไรก็ดีแม้จะตัดค่าใช้จ่ายก้อนนี้ไปแล้วก็ยังนับว่าไตรมาสที่ผ่านมาไม่สวยนักสำหรับ NVIDIA
ในข่าวเดียวกันนี้ทาง ArsTechnica ได้รายงานถึงแนวทางของชิป Tegra ที่ NVIDIA เตรียมไว้สำหรับการบุกตลาด MID (Mobile Internet Device) ว่าทาง NVIDIA ไม่สนใจตลาด UMPC เท่าใดนัก และ Tegra ยังคงมุ่งไปที่ MID เพียงอย่างเดียว
nVidia ได้จ่ายเงินจำนวน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับเทคโนโลยีต่างๆ จาก Transmeta ซึ่งได้แก่เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับ CPU - LongRun และ LongRun 2 อีกทั้งเทคโนโลยีด้านการประมวลผลอื่นๆ ของ Transmeta ด้วย
ปัจจุบัน Transmeta นั้นเป็นบริษัทที่ค้นคว้าเทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงานและขายเทคโนโลยีเหล่านั้นแก่บริษัทอื่นๆ Transmeta เคยออกผลิตภัณฑ์สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้พลังงานต่ำในชื่อ Crusoe และ Efficeon ซึ่งสามารถรันโปรแกรมบนสถาปัตยกรรม x86 ผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า code-morphing โดยชิปทั้งสองตัวใช้สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Very Long Instruction Word (VLIW) ครับ
NVIDIA ออกแถลงข่าวในวันนี้ยอมรับว่ามีสินค้าจำนวนมาก "อย่างมีนัยสำคัญ" ที่ส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้วนั้น ทำงาน "ล้มเหลวบ่อยกว่าอัตราปรกติ" โดยขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าชิปตัวใดบ้างที่พบกับปัญหานี้ และอาการของมันคืออะไร แต่ในเบื้องต้นทาง NVIDIA ได้ส่งมอบไดร์เวอร์ตัวใหม่ที่จะทำให้พัดลมทำงานเร็วกว่าเดิมเพื่อช่วยลดอุณภูมิของเครื่องลงให้กับผู้ผลิตการ์ดแล้ว
NVIDIA เตรียมเงินสำหรับการแก้ปัญหานี้ตั้งแต่การซ่อมไปจนถึงการเปลี่ยนสินค้าใหม่เป็นเงิน 150 ถึง 200 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นของ NVIDIA ร่วงลงทันทีร้อยละ 24 ไปอยู่ที่ 13.56 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ถ้าใครใช้การ์ด NVIDIA อาจจะต้องตามข่าวนี้ดีๆ ครับ เผื่อจะได้การ์ดใหม่มาเล่น
สงครามน้ำลายระหว่างอินเทลกับ NVIDIA ยังมีอยู่เรื่อยๆ จากแนวโน้มของสินค้าของทั้งสองบริษัทที่กำลังจะมาทับกันในอนาคตอันใกล้ ทางด้าน NVIDIA นั้นสนับสนุนแพลตฟอร์ม CUDA ที่ใช้การ์ดกราฟิกเพื่อคำนวณเฉพาะด้านที่ให้ความเร็วสูง ส่วนทางอินเทลนั้นมี Larrabee ที่เป็นชิปในสถาปัตยกรรม IA (ทั่วไปเรียกว่า X86) แบบ many-core ที่หมายถึงชิปที่มีปริมาณคอร์มากกว่า 10 คอร์ขึ้นไป
นักพัฒนาเคอร์เนล 135 คนได้เข้าชื่อและออกแถลงการณ์ผ่าน Linux Foundation กดดันให้บรรดาผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เปิดเผยซอร์สโค้ดของไดรเวอร์ โดยเฉพาะไดรเวอร์การ์ดจอซึ่งมีปัญหามากที่สุด
ฝั่ง ATI นั้นไม่ได้เปิดซอร์สแต่เปิดเผยเอกสารสเปก (ข่าวเก่า) ซึ่งเห็นผลทันตาว่าไดรเวอร์โอเพนซอร์ส fglrx มีคุณภาพดีขึ้นมาก (ข่าวเก่า) ส่วนไดรเวอร์ของอินเทลนั้นเปิดเผยซอร์สมาตั้งนานแล้ว
ข่าวการ์ดจอรุ่นใหม่ทั้งสองค่ายออกมาไล่เลี่ยกัน ขอรวบเป็นข่าวเดียวเลย
เริ่มจากสองสามวันก่อน NVIDIA เปิดตัวการ์ดจอรุ่น GeForce GTX 200 โดยนับต่อจาก GeForce 9 และใช้ GPU รหัส GT200 ตัวการ์ดแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยคือ GTX 280 กับ GTX 260
ราคา 649 ดอลลาร์ วางจำหน่ายแล้ว
ข้อดีหลักของ USB ในทุกวันนี้เราคงเห็นว่าอุปกรณ์แทบทุกตัวทำงานร่วมกับพอร์ต USB ได้แบบครอบจักรวาล การที่ USB 3.0 จะเร่งความเร็วขึ้นไปถึงสิบเท่าตัวเป็น 5 กิกะบิตต่อวินาทีนั้นหลายๆ คงก็อาจจะคาดว่ามันจะทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้เหมือนเดิม
แต่ปัญหาอาจจะกำลังเกิดขึ้นเมื่อทาง C|Net ได้รายงานข่าวว่ามีแหล่งข่าวภายใน AMD และ NVIDIA ออกมาระบุว่าอินเทลกำลังพยายามถ่วงเวลาที่จะปล่อยสเปคของ USB 3.0 ของทางอินเทลออกมา ซึ่งจะสุดท้ายแล้วจะสร้างความได้เปรียบให้กับอินเทลที่จะมีอุปกรณ์มาวางขายล่วงหน้าคู่แข่งอยู่หลายเดือน และสุดท้ายแล้วอาจจะเป็นการบีบให้ทาง AMD และ NVIDIA ต้องพัฒนามาตรฐานของตัวเองมาใช้กันเอง
ปัญหานี้ยังไม่มีการแถลงการอย่างเป็นทางการจากทุกบริษัททั้ง AMD, อินเทล, และ NVIDIA
Nvidia เปิดตัว Tegra หน่วยประมวลแบบรวมมิตร all-in-one สำหรับอุปกรณ์พกพาประเภท Mobile Internet Device หรือ UMPC
การปะทะคารมระหว่างอินเทลและ NVIDIA ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องหลังจากที่ทางอินเทลได้เปิดตัวแผนการรวมส่วนประมวลกราฟิกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของซีพียู แล้วประกาศว่า "ชิปกราฟิกกำลังจะตาย" ทาง NVIDIA ก็ออกมาโต้ตอบด้วยท่าทีที่รุนแรงพอๆ กันว่าซีพียูต่างหากที่กำลังจะตายไป
พนักงานของ NVIDIA ที่ออกมาพูดเรื่องนี้คือ Roy Taylor ในอีเมลของเขาระบุว่าที่จริงแล้วผู้ใช้ไม่ได้ต้องการซีพียูที่เร็วกว่าในตอนนี้ไปสักเท่าใหร่นัก โดยชิปที่ผู้ใช้ต้องการให้เร็วขึ้นจริงๆ คือ GPU หรือชิปกราฟิกนั่นเอง เพราะงานที่ผู้ใช้ต้องการเช่น การชมภาพยนตร์, เร่งความเร็วเกม, และการเข้าบีบอัดภาพยนตร์จากแผ่นดีวีดีก็ตามที
พอดีทำงานกับเซิร์ฟเวอร์อยู่หลายเครื่อง อีกหน่อยถ้าการ์ดจอในเซิร์ฟเวอร์แรงๆ จะได้แอบเล่นเกม
Jen-Hsun Huang ซีอีโอของ Nvidia เปิดศึกโจมตี GPU แบบออนบอร์ดของอินเทล
ศึกรอบนี้ตามหลังงาน Intel Developer Forum ที่เซี่ยงไฮ้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งอินเทลเผยรายละเอียดของ GPU (แบบไม่ออนบอร์ด) รหัส Larrabee และซีพียูรหัส Nehalem ซึ่งจะรวมเอา GPU ออนบอร์ด GMA 4500 เข้ามาในแพกเกจของซีพียู (บางรุ่น)
โดย Jen-Hsun Huang บอกว่า GPU ออนบอร์ดของอินเทลนั้นเป็นเรื่องตลก และต่อให้อินเทลเพิ่มความสามารถของ GPU ได้สิบเท่าในปี 2010 ก็จะเพิ่งจะเท่ากับฮาร์ดแวร์ของ Nvidia ในวันนี้ ฮาร์ดแวร์ของอินเทลเหมาะสำหรับรัน Excel เท่านั้น
จากข่าวเก่า NVIDIA เข้าซื้อ AGEIA รวบเทคโนโลยีชิปฟิสิกส์ PhysX ตอนนี้มีความคืบหน้าแล้ว โดย Jen-Hsun Huang ซีอีโอของ Nvidia ออกมาให้ข้อมูลว่าบริษัทกำลังพอร์ต PhysX ไปบน Compute Unified Device Architecture (CUDA) ซึ่งเป็น API ภาษาซีของ GPU ของ Nvidia อยู่ และข่าวดีก็คือ GeForce 8 ทุกตัวสนับสนุน CUDA
ดังนั้นเจ้าของ GeForce 8 ทุกคนจะสามารถดาวน์โหลดเอนจิน PhysX (ซึ่งทำงานบน GPU ของ Nvidia) ผ่านซอฟต์แวร์อัพเดตได้ Jen-Hsun Huang ยังกล่าวเสริมด้วยว่าความสามารถนี้อาจช่วยกระตุ้นให้คนซื้อการ์ดจออันที่สองมาต่อ SLI โดยใช้เป็นการ์ดประมวลผลฟิสิกส์กันมากขึ้น