สำหรับผู้ขับ Uber ที่นำรถไปจอดบริเวณลานจอดรถของบริษัท ใกล้ๆกับ Mission Bay ในซานฟรานซิสโก จะสังเกตเห็นยามรักษาความปลอดภัยคนใหม่ รูปร่างเหมือนไข่ยักษ์สีขาว สูง 5 ฟุต เคลื่อนไหวไปมาคอยสอดส่องสิ่งผิดปกติ เขาคนนั้นก็คือ K5 หุ่นยนต์เฝ้ายามที่ Uber จ้างมาดูแลความปลอดภัยในลานจอดรถนั่นเอง
ต่อเนื่องจากข่าวSan Francisco ผ่านกฎหมายบีบให้ Airbnb ปล่อยเช่าห้องเฉพาะที่ลงทะเบียนกับทางการ ล่าสุดทาง Airbnb ยื่นฟ้องต่อศาลแขวง Northern California แล้วว่ากฎหมายดังกล่าวละเมิดรัฐบัญญัติ (Federal Law) ของสหรัฐ
Airbnb ระบุว่ากฎหมายดังกล่าวละเมิดกฎหมายว่าด้วยการสื่อสารที่เหมาะสม (Communication Decency Act), กฎหมายว่าด้วยการสื่อสารที่ถูกเก็บไว้ (Stored Communications Act) และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออก (the First Amendment)
สถาเมือง San Francisco ผ่านกฎหมายฉบับใหม่ ที่กำหนดไม่ให้บริษัทที่ปล่อยห้องเช่าแบบระยะสั้นอย่าง Airbnb แสดงรายการของห้องเช่าที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับทางการเมือง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการบีบให้ผู้ที่อยากจะปล่อยห้องเช่า ต้องไปลงทะเบียนกับทางการ
ปัญหาหนึ่งในเมือง San Francisco คือมีห้องว่างเป็นจำนวนมากที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย เจ้าของห้องจึงเลี่ยงการโดนยึดทรัพย์หรือถูกนำไปจำนอง จากการไม่มีผู้อยู่อาศัย ด้วยการปล่อยห้องเช่าบน Airbnb ซึ่งทางของ Airbnb ได้โต้ตอบว่าเมือง San Francisco แก้ปัญหาไม่ถูกจุดในการแก้ปัญหาห้องว่าง พร้อมทั้งโจมตีว่ากระบวนการลงทะเบียนนั้นค่อนข้างวุ่นวายและเสียเวลา
Waze บริการแผนที่และนำทางของ Google ประกาศทดสอบบริการคาร์พูลใน Bay Area ที่ San Francisco หลังจากที่เคยทดสอบมาก่อนหน้านี้ในอิสราเอล
ผู้ที่สามารถใช้บริการของ Waze ได้นี้คือพนักงาน Google จำนวนหนึ่ง รวมถึงบริษัทบางแห่งที่ถูกเลือกใน Bay Area เช่น Adobe, Walmart Global eCommerce และ University of California, San Francisco โดยผู้ใช้จะต้องโหลดแอพ Waze Rider เพื่อเริ่มใช้บริการ
วิธีจับคู่ของ Waze คือฝ่ายคนนั่งจะเป็นคนเลือกก่อนว่าจะเดินทางจากจุดไหนไปจุดไหนในแอพ Waze Rider ส่วนฝ่ายคนขับจะเป็นฝ่ายเลือกว่าจะรับผู้ใช้คนไหนในแอพหลักของ Waze โดยผู้ที่นั่งจะต้องจ่ายให้คนขับเป็นจำนวนเงิน 54 เซนต์ต่อไมล์ และ Waze จะไม่หักส่วนแบ่งใดๆ
Sanfrancisco Examiner เว็บไซต์ข่าวท้องถิ่นในเมืองซานฟรานซิสโก รายงานว่า Yellow Cab Co-Op บริษัทผู้ให้บริการเรียกแท็กซี่รายใหญ่ที่สุดของเมืองกำลังจะยื่นล้มละลายตามบทบัญญัติที่ 11 ในเร็ววันแล้ว
ในจดหมายที่ Yellow Cab Co-Op ส่งให้กับผู้ถือหุ้นระบุว่าบริษัทกำลังประสบความล้มเหลวการเงินอย่างหนัก จึงต้องยื่นขอล้มละลายเพื่อความอยู่รอด โดยหนึ่งในปัญหาที่ว่ามาจากการใช้เงินเพื่อแย่งชิงลูกค้าในตลาด ซึ่งมีคนมาชี้รายละเอียดให้ชัดๆ ว่า Yellow Cap Co-Op น่าจะหมายถึงการแข่งขันกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของบริการเรียกรถรับส่งผ่านแอพอย่าง Uber และ Lyft
ผมมีโอกาสไปเยือนสำนักงานใหญ่ของบริษัทไอทีหลายแห่ง จะทยอยนำมาเขียนลง Blognone ครับ ลำดับแรกเป็นสำนักงานใหญ่ของ Twitter หรือที่เรียกกันว่า Bird's Nest รังของเจ้านกสีฟ้านั่นเอง
บริษัทไอทีเหล่านี้มักไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าภายในสำนักงาน เว้นแต่มีพนักงานคนในพาเข้าไปชม ซึ่งคราวนี้ได้คุณเพชร วรรณิสสร (Blognone เคยสัมภาษณ์ไปแล้ว) พาเข้าไป ก็ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
หมายเหตุ: ภายในสำนักงานห้ามถ่ายภาพบริเวณพื้นที่ทำงานครับ ดังนั้นจะมีแต่ภาพของโรงอาหารและพื้นที่นั่งพักเท่านั้น
Blognone เคยนำเสนอเรื่องของ Maker Movement ที่มีแกนกลางอยู่ที่นิตยสาร Make มาแล้วครั้งหนึ่ง
ล่าสุดผมมีโอกาสผ่านไป Maker Media Lab ในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นห้องแล็บที่เพิ่งเปิดใหม่ของนิตยสาร Maker และเปรียบเสมือน "หน้าบ้าน" ต้อนรับชาว Maker จากทั่วโลก เลยนำภาพมาฝาก เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจสำหรับชาว Maker ในไทยกันบ้าง
เมื่อพูดถึงชื่อ Amazon ทุกคนคงนึกถึงร้านค้าออนไลน์ที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวตนทางกายภาพ มีหน้าร้านเหมือนร้านค้าทั่วไป แต่เอาเข้าจริงแล้ว Amazon เพิ่งปรับนโยบายหันมาเปิด "หน้าร้าน" ของตัวเองบ้างกับเขาเหมือนกัน
ร้านของ Amazon เป็นร้านแนวทดลองที่ใช้ชื่อว่า Amazon Pop Up Store เป้าหมายหลักคือให้ลูกค้าทั่วไปได้ลองจับผลิตภัณฑ์ตระกูล Kindle ของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ร้านลักษณะนี้มีเพียง 2 แห่งในสหรัฐอเมริกา คือที่เมืองซานฟรานซิสโกและซาคราเมนโต แถมเพิ่งเริ่มทำเมื่อปีที่แล้วนี้เอง (ข่าวใน CNET)
ผมได้รับเชิญจากไมโครซอฟท์มางาน Build 2015 ที่ซานฟรานซิสโก (งานเริ่ม 29 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น) เนื่องจากบริเวณใกล้ๆ ศูนย์ประชุมที่จัดงาน มีร้าน Microsoft Store ตั้งอยู่ด้วย เลยถือโอกาสเก็บบรรยากาศมาฝากครับ
วันที่ 31 ธันวาคม 2013 หรือประมาณหนึ่งปีที่แล้ว Syed Muzzafar อดีตคนขับรถในเครือข่ายของ Uber ขับรถชนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตที่เมืองซานฟรานซิสโก (แม่ของเด็กบาดเจ็บสาหัส) หลังจากนั้นครอบครัวของผู้เสียชีวิตยื่นฟ้อง Muzzafar และบริษัท Uber
ขณะที่เกิดเหตุนั้น Muzzafar เพิ่งมาเป็นคนขับ Uber ได้ประมาณหนึ่งเดือน ซึ่ง Uber ระบุว่าบริษัทไม่เกี่ยวข้องด้วยกับอุบัติเหตุครั้งนี้ เพราะ Muzzafar ไม่ได้รับผู้โดยสารขณะเกิดเหตุ (แต่หลังจากนั้นบริษัทก็เพิ่มประกันภัยกรณีคนขับเกิดอุบัติเหตุขณะที่ไม่มีผู้โดยสาร)
คดีของ Muzzafar ถูกส่งฟ้องศาลโดยอัยการเขตซานฟรานซิสโกแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และ Muzzafar มีกำหนดไปขึ้นศาลเมื่อวานนี้
ช่วงนี้มีข่าว Uber โดนหน่วยงานภาครัฐทั่วโลกเล่นงานเยอะมาก และล่าสุดแม้แต่ใน "บ้านเกิด" ของ Uber เองอย่างเมืองซานฟรานซิสโกก็เตรียมฟ้อง Uber เช่นกัน
อัยการเขตซานฟรานซิสโกประกาศว่าร่วมมือกับอัยการเขตลอสแองเจลิส ยื่นฟ้อง Uber ในสองข้อหา คือโฆษณาเกินจริงหรือชวนให้เข้าใจผิด (ประเด็นการตรวจสอบประวัติคนขับ และการเก็บเงิน 1 ดอลลาร์ค่าความปลอดภัย) และข้อหาละเมิดกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย อัยการทั้งสองเขตบอกว่าบริษัทเรียกรถยนต์เหล่านี้สามารถสร้างนวัตกรรมได้โดยไม่ละเมิดกฎหมายที่ปกป้องคุ้มครองประชาชน
กูเกิลบริจาคเงินกว่า 100,000 เหรียญให้กับโครงการ Lava Mae ซึ่งเป็นโครงการอาสาทำรถบัสสำหรับอาบน้ำให้คนไร้บ้านในบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก
จุดประสงค์ของโครงการนี้ไม่ใช่แค่ช่วยให้คนไร้บ้านได้อาบน้ำทำความสะอาดตัวเพียงอย่างเดียว แต่จะเปิดโอกาสให้เขาเหล่านั้นสามารถสมัครงาน สัมภาษณ์หรือแม้แต่หาที่พักได้ง่ายยิ่งขึ้น
อนึ่ง การบริจาคของกูเกิลในครั้งนี้อยู่ภายใต้โครงการ Google Impact Challenge ที่กูเกิลอาสาจะบริจาคเงินถึง 500,000 เหรียญ เพื่อสนับสนุนโครงการสาธารณประโยชน์ต่างๆ ที่จะปรับปรุงย่าน Bay Area (รอบอ่าวซานฟรานซิสโก) ให้ดีขึ้น โดยจะเปิดให้คนทั่วไปเข้าไปโหวต
แอปเปิลโพสต์วิดีโอบรรยากาศการเข้าร่วมขบวน San Francisco Pride Parade 2014 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา โดย CEO ทิม คุก เองก็ได้ปรากฏในวิดีโอดังกล่าวด้วย
งาน San Francisco Pride เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกๆ ช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนของทุกปีของชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) เพื่อแสดงจุดยืนถึงความเท่าเทียมต่อความหลากหลายทางเพศ โดยในปี 2014 หรือครั้งที่ 43 นี้เป็นปีแรกที่แอปเปิลเข้าร่วมขบวนพาเหรดอย่างเป็นทางการโดยใช้สโลแกนว่า "Inclusion inspires innovation." มีพนักงานของแอปเปิลและครอบครัวจากทั่วโลกกว่า 5,000 คนเข้าร่วมขบวนพาเหรดพร้อมกับการแจก iTunes Gift Card ให้กับผู้ชมพาเหรดระหว่างทาง
จากกรณี รถบัสรับส่งพนักงานกูเกิลถูกประท้วง จนกูเกิลต้องออกมาตรการแก้ไขหลายอย่าง เช่น ใช้เรือ หรือ เพิ่ม รปภ. บนรถ
ข่าวลือล่าสุดระบุว่ากูเกิลกำลังเล็งจะซื้ออาคารสำนักงานขนาดใหญ่ 35,000 ตารางฟุตในเขต Mission District กลางเมืองซานฟรานซิสโก เพื่อให้พนักงานจากบริษัท startup ที่ซื้อกิจการมาทำงานที่นี่แทน จะได้ไม่ต้องนั่งรถบัสไกลๆ เพื่อเดินทางไปยังสำนักงานของกูเกิลที่อยู่นอกเขตเมือง
อาคารที่กูเกิลสนใจซื้อถูกสร้างตั้งแต่ยุค 1920 เพื่อทำเป็นโรงงาน จึงมีความเป็นไปได้ว่ากูเกิลจะย้ายทีมงานสายฮาร์ดแวร์มาไว้ที่นี่ด้วย
จากกรณี รถบัสรับส่งพนักงานกูเกิลถูกประท้วง จนกูเกิลต้องปรับมาตรการโดยใช้เรือมาขนส่งพนักงาน และจ่ายเงินค่าจอดรถบัสที่ป้ายกับเมืองซานฟรานซิสโก
ล่าสุดมีรายงานว่ารถบัสรับส่งพนักงานของกูเกิลมี "ชายใส่หูฟัง" พร้อมสมุดโน้ตประจำกาย 2 คน ขึ้นมาบนรถและจับตาดูผู้โดยสารเผื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น ผู้ชายพวกนี้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบพิเศษแต่ใส่กางเกงยีนส์ สวมหมวกหรือฮู้ดสีดำ เรียกได้ว่าแต่งกายไม่ผิดแปลกไปจากพนักงานกูเกิลคนอื่นๆ บนรถมากนัก
Google เพิ่มทางเลือกให้แก่พนักงานในการเดินทางไปกลับสำนักงานโดยการนั่งเรือผ่านอ่าว San Francisco
หลังจากเหตุการณ์ประท้วงของชาว San Franciscoเรื่องรถรับ-ส่งพนักงานของ Google เมื่อเดือนก่อน ด้วยเหตุผลว่ารถของ Google เข้าใช้งานป้ายรถสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ล่าสุด Google พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว และหนึ่งในการดำเนินการของ Google คือจัดเรือรับ-ส่งพนักงาน
สองสัปดาห์ที่แล้วรถรับส่งพนักงานกูเกิลถูกประท้วงจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยในเมืองซานฟรานซิสโก ตอนนี้การประท้วงแบบเดิมก็มีอีกครั้ง รอบนี้ผู้ประท้วงปิดกั้นรถบัสสองคันเป็นของกูเกิล และแอปเปิล
ข้อประท้วงสำคัญของกลุ่มประท้วงยังคงเหมือนเดิม คือ รถบัสและพนักงานบริษัทไอทีเหล่านี้ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในซานฟรานซิสโกแพงขึ้นจนพวกเขารับไม่ไหว เหตุผลรองลงมาคือการใช้ป้ายรถเมลสาธารณะโดยไม่ขออนุญาต
ที่มา - Business Insider
กูเกิลมีบริการรถเมล์รับส่งพนักงานในเมืองซานฟรานซิสโกมาเป็นเวลานาน แต่วันนี้รถเมล์คันหนึ่งถูกกลุ่มผู้ประท้วงหยุดไว้ครึ่งชั่วโมง แสดงความไม่พอใจที่กูเกิลไปใช้งานป้ายรถเมล์โดยไม่ได้ขออนุญาต
รถเมล์ของกูเกิลจอดป้ายรถเมลสาธารณะ MUNI ในเมืองซานฟรานซิสโกทั้งหมดประมาณ 200 ป้าย รวมวันละ 7100 ครั้ง กลุ่มผู้ประท้วงระบุว่าการเข้าไปจอดเช่นนี้คือการใช้ทรัพยากรของเมืองอย่างไม่เป็นธรรม และหากกูเกิลต้องจ่ายค่าปรับย้อนหลังตั้งแต่เริ่มโครงการรถเมล์พนักงานนี้ มูลค่าค่าปรับจะเกินพันล้านดอลลาร์แล้ว
จากข่าวเก่าตอนนี้ได้รับการยืนยันแล้วครับว่าเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเป็นของกูเกิลจริงๆ แต่ไม่ใช่อาคารศูนย์ข้อมูลแต่อย่างใดครับ
ตามที่ต้นฉบับรายงานให้ทาง KPIX5 ทราบ เจ้าเรือนี้จะถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดง Google Glass รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ และเป็นสถานที่จัดปาร์ตี้เฉพาะ "ลูกค้าที่ได้รับเชิญ" ครับ เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะไปจอดเทียบอยู่ใกล้ๆ กับสำนักงานกูเกิลที่เมือง Mountain View
เมื่อห้าวันก่อนทาง CNET ได้ออกรายงานถึงเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ลึกลับกลางอ่าวซานฟรานซิสโก บริเวณใกล้เคียงกับเกาะสมบัติ ที่เคยใช้เป็นฐานทัพเรืออยู่ระยะเวลาหนึ่งครับ ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวมีขนาดสูงเท่าตึกสี่ชั้น ตั้งอยู่บนเรือบรรทุกจดทะเบียนเลขที่ BAL 0010 ที่แจ้งว่าบริษัท By and Large LLC เป็นเจ้าของ ขนาดยาว 76.2 เมตร กว้างเกือบ 22 เมตร ด้วยขนาดของมันทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากบนเกาะดังกล่าว
ซานฟรานซิสโกกำลังจะกลายเป็นเมืองแรกในสหรัฐอเมริกา ที่บังคับให้ผู้ค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่แสดงระดับการแผ่รังสีไว้ข้างอุปกรณ์ที่วางขาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนในการตัดสินใจ
โฆษกของนายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโก ได้กล่าวว่า ไม่ได้พยายามทำให้คนลดการใช้โทรศัพท์มือถือ แต่เป็นการเพิ่มความโปร่งใส่และให้ข้อมูลกับผู้บริโภคเท่านั้น
แน่นอนว่ากลุ่มผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือไม่เห็นด้วยเท่าใดนัก โดย Cellular Telecommunications and Internet Association (CTIA) ได้ออกมาเตือนว่า การบังคับให้ระบุในลักษณะนี้ อาจจะทำให้ผู้บริโภคสับสนได้ โดยอาจทำให้คิดว่า โทรศัพท์บางเครื่อง "ปลอดภัยกว่า" เครื่องอื่น โดยอิงกับการปล่อยคลื่นวิทยุ