Xiaomi ประกาศวันเปิดตัว Mi CC9 Pro อย่างเป็นทางการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 5 พ.ย. และมีอีเวนต์เปิดตัวเพื่อขายทั่วโลกใน 6 พ.ย. เวลา 11:30 น. (เวลาไทย 17:30 น.) ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ทาง Android Authority กล่าวว่า Xiaomi CC9 Pro จะใช้ชื่อ Mi Note 10 ทำตลาดทั่วโลก
ทาง Xiaomi ได้ปล่อยโปสเตอร์เปิดตัวกับภาพตัวอย่างมาทางทวิตเตอร์ของ Xiaomi และมีภาพบอกสเปคตัวเครื่องออกมาบน Weibo แล้ว ซึ่งกล้อง 5 ตัว นับจากบนลงมาแบ่งเป็น:
ก่อนหน้านี้ ByteDance บริษัทแม่ TikTok ประกาศจับมือแบรนด์จีน Smartisan เพื่อผลิตสมาร์ทโฟน ล่าสุดออกมือถือมาอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อว่า Smartisan Jianguo Pro 3 ฟีเจอร์หลักๆ คือสามารถปัดที่หน้าจอหลักเพื่อเข้าแอพ TikTok ได้ทันที ขายในจีนก่อน
ต่อจากรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในไตรมาส 3 ปี 2019 ของ Canalys ก็มีบทวิเคราะห์แยกมาอีกฉบับว่าด้วยตลาดสมาร์ทโฟนในจีนโดยเฉพาะ ภาพรวมส่งมอบสมาร์ทโฟน 97.8 ล้านเครื่อง ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2018
ส่วนที่น่าสนใจคือหัวเหว่ยเป็นผู้ผลิตรายเดียวจากทั้งหมด ที่มียอดส่งมอบเพิ่มขึ้นที่ 41.5 ล้านเครื่อง (+66%) ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 42.4%
อันดับ 2-3-4-5 คือ Vivo, Oppo, Xiaomi และแอปเปิลตามลำดับ โดยทุกรายมียอดส่งมอบลดลงตั้งแต่ 20-33% รวมทั้งผู้ผลิตรายอื่น ๆ ภาพรวมก็มียอดส่งมอบที่ลดลง
ซัมซุงได้ปล่อยคลิปที่โชว์ Form Factor ของสมาร์ทโฟนพับได้แบบใหม่ ที่เป็นการพับจากบนลงล่างแบบเดิมกับสมาร์ทโฟนฝาพับเมื่อก่อน เพียงแต่เป็นการพับกึ่งกลางหน้าจอแบบเดียวกับ Galaxy Fold
Form Factor ใหม่นี้ยังเป็นแค่คอนเซ็ปเท่านั้นและยังไม่มีชื่อเรียกหรือรายละเอียดใด ๆ ออกมา นอกจากเพียงต้องการทำให้สมาร์ทโฟนพับได้ มีขนาดที่เหมาะสมกับกระเป๋ากางเกงมากขึ้น
Realme แยกตัวจาก OPPO ได้เพียง 18 เดือน ทว่ายอดขายมือถือกลับสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยบริษัท Counterpoint ที่วิจัยตลาดอุตสาหกรรมนานาชาติ รายงานว่า Realme มียอดจำหน่ายมือถือในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 ไปร่วม 10 ล้านเครื่องทั่วโลก
และเมื่อรวมยอดขายสะสมรายปีแล้ว มียอดโตขึ้น 808% ทำให้ Realme ขึ้นแท่นเป็นมือถือที่มียอดจำหน่ายทั่วโลกในอันดับที่ 7 และการขยายตลาดไปในรัสเซีย, อินเดียและภูมิภาคยุโรปด้วยจะทำให้มียอดขายมากขึ้นอีก
เว็บไซต์ Android Police กล่าวว่า Realme นั้นเติบโตได้เร็วมาก และจากการเปิดตัวมือถือ Realme X2 Pro รุ่นเรือธงราคา 399 ยูโรหรือราว 13,000 บาท ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ Realme เป็นสมาร์ทโฟนที่ให้สเปคคุ้มค่ากับราคาชัดเจนยิ่งขึ้น
มีรายงานว่าซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ ได้ตัดสินใจปิดโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือทั้งหมดในจีน เนื่องจากการแข่งขันที่สูงมากจากผู้ผลิตมือถือในประเทศ ทั้งนี้ซัมซุงได้ปิดโรงงานในเมืองเทียนจินไปเมื่อปีที่แล้ว เหลืออีกโรงงานที่เมืองหุ้ยโจว ซึ่งได้เริ่มทยอยลดกำลังการผลิตเมื่อหลายเดือนก่อน
ก่อนหน้านี้โซนี่ก็ปิดโรงงานผลิตสมาร์ทโฟน Xperia ในจีน และย้ายการผลิตทั้งหมดมาที่ประเทศไทย
Samsung ยื่นจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการติดตั้งชุดอุปกรณ์เซ็นเซอร์ spectrometer บนสมาร์ทโฟน พร้อมระบบประมวลผล ซึ่งจะใช้เพื่อให้สามารถวิเคราะห์วัตรถุหรือบุคคลได้โดยอาศัยหลักการประมวลสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาทิ การวัดปริมาณน้ำตาลในพืชผล, การวัดค่าความชื้นของผิวหนังบุคคล
ชุดอุปกรณ์เซ็นเซอร์ spectrometer นี้ประกอบไปด้วยแหล่งปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นในช่วง 300 - 1,050 นาโนเมตร ซึ่งหลักๆ แล้วก็คือแหล่งกำเนิดคลื่นแสงที่มองเห็นได้ (ความยาวคลื่นในช่วง 400 - 700 นาโนเมตร) กับแหล่งกำเนิดคลื่นอินฟราเรด (ความยาวคลื่น 700 - 1,000 นาโนเมตร) ส่วนอุปกรณ์อีกอย่างที่ทำงานคู่กันก็คือเซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นแสงและคลื่นอินฟราเรดที่ว่า
IDC เผยยอดขายสมาร์ทโฟนประจำไตรมาส 2/2019 ยอดขายรวม 333.2 ล้านเครื่อง ตลาดยังหดตัวลง 2.3% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก 6.5%
ถ้าแยกยอดขายตามภูมิภาค ทั้งในสหรัฐอเมริกาและจีนมียอดขายตกหนัก แต่ในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย ตลาดยังเติบโตอยู่ ช่วยชดเชยยอดขายที่หายไปได้บ้าง
อันดับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในไตรมาสนี้ยังคงเดิม สิ่งที่น่าสนใจคือ 3 อันดับแรก Samsung, Huawei, Apple ต่างมียอดขายตกลงจากไตรมาสก่อน (1/2019) ในขณะที่ 3 อันดับต่อมาคือ Xiaomi, Oppo, Vivo กลับมียอดขายเพิ่มขึ้น
บริษัทวิจัย Harris Interactive ของฝรั่งเศส ได้เก็บรวบรวมข้อมูลบริการหลังการขาย จากเชนเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ Darty โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับการซ่อมแซมสินค้าที่มีปัญหา ซึ่งยังอยู่ในช่วงรับประกัน โดยเป็นข้อมูลเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดต่าง ๆ รวมทั้งสมาร์ทโฟนด้วย
ข้อมูลพบว่าในช่วงระยะรับประกันสินค้า แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีอัตราการเคลมแจ้งปัญหาต่ำที่สุด อันดับ 1 คือ Honor แบรนด์ลูกของ Huawei ส่วนอันดับ 2 ก็คือ Huawei เอง ตามด้วยอันดับที่ 3 คือ Apple
รายงานยังบอกว่าค่าเฉลี่ยที่คนเปลี่ยนสมาร์ทโฟนไปเป็นเครื่องใหม่อยู่ที่ราว 3 ปี
ที่มา: Phone Arena
กูเกิลเปิดตัว Pixel 3a และ Pixel 3a XL ตรงกับข้อมูลที่หลุดออกมาจากหลายแหล่งก่อนหน้านี้
สเปคของโทรศัพท์ ใช้ชิป Snapdragon 670, แรม 4GB, ภายในใช้ชิป Titan M สำหรับการรักษาความปลอดภัย มีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่า Pixel 3 เล็กน้อย ไม่สามารถใช้เคสร่วมกันได้
สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ, อังกฤษ, และแคนาดา จะได้บริการ Call Screen สำหรับตอบรับสายที่ไม่รู้จักโดยอัตโนมัติ ภายในปีนี้ Pixel 3a จะได้รับ Google Maps AR เช่นเดียวกับ Pixel ตัวอื่น
เป็นประเด็นกันมายาวนานแล้วเมื่อการออกแบบสมาร์ทโฟนยุคนี้ เน้นเต็มจอไร้ขอบ แต่เนื่องจากกล้องหน้ายังจำเป็น ผลที่ได้ก็คือการตัดพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับกล้องจนกลายเป็นติ่ง สำหรับข่าวนี้เป็นแนวทางแก้ปัญหาจาก ZTE
โดยเว็บไซต์ Notebook Italia เผยแพร่ภาพหลุดที่เป็นเรนเดอร์ของสมาร์ทโฟนตัวใหม่จาก ZTE รุ่น Axon S และ Axon V ซึ่งแม้จะไม่เปิดเผยรายละเอียดสเป็กฮาร์ดแวร์ แต่จากภาพก็ทำให้เห็นว่า ZTE ลองแก้ปัญหากล้องหน้าไม่ให้เกิดติ่งอย่างไร
ข่าวลือของ Google Pixel 3 Lite และ Pixel 3 Lite XL นั้นมีมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการเปิดตัวออกมาสักที ล่าสุดมีข้อมูลว่ากูเกิลจะเรียกสมาร์ทโฟนสองรุ่นนี้ว่า Google Pixel 3a และ Google Pixel 3a XL
จากข้อมูลภาพหลุดและเรนเดอร์ก่อนหน้านี้ พบว่า Google Pixel 3a และ Google Pixel 3a XL จะมีสองสีคือ สีดำ และสีขาว แต่แหล่งข่าวที่ 9to5Google ได้มาระบุว่าจะมีสีที่สามด้วย ขนาดหน้าจออยู่ที่ 5.6 นิ้วสำหรับ 3a และ 6 นิ้วสำหรับ 3a XL
สำหรับข้อมูลสเป็กอื่น เฉพาะ Pixel 3a ระบุว่าหน้าจอที่ใช้เป็น OLED ซีพียู Snapdragon 670 แรม 4GB และกล้องหน้า 8MP กล้องหลัง 12MP
บริษัทวิจัยตลาด Gartner รายงานตลาดสมาร์ทโฟนของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ภาพรวมมียอดขายทั่วโลกรวม 408.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 โดยการเติบโตส่วนใหญ่มากรุ่นราคาประหยัด (entry-level) และรุ่นราคากลาง ขณะที่สินค้ากลุ่มบน มียอดขายที่ชะลอตัว ทั้งจากลูกเล่นเทคโนโลยีใหม่ที่มีเพิ่มเติมไม่มาก รวมทั้งราคาเครื่องที่เพิ่มสูงขึ้น
ไฮไลท์ตัวเลขของไตรมาสที่ผ่านมาคือแอปเปิล มียอดขาย 64.5 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งการตลาด 15.8% คิดเป็นอันดับ 2 รองจากซัมซุง โดยลดลงถึง 11.8% เป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี ของแอปเปิล โดยมาจากยอดขายที่ลดลงในเกือบทุกภูมิภาคยกเว้นอเมริกาและเอเชีย (ไม่รวมจีน)
IDC ออกรายงานยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนประจำไตรมาส 4 ปี 2018 พร้อมสรุปยอดรวมทั้งปี โดยมีซัมซุงครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดที่ 20.8% ลดลงจากปี 2017 ที่มีส่วนแบ่ง 21.7% ตามมาด้วยแอปเปิลที่ 14.9% ลดลงจากปีก่อนหน้าเช่นกัน อันดับ 3 คือ Huawei ที่ส่วนแบ่งทาบแอปเปิลติดๆ ที่ 14.7% เพิ่มขึ้นมาจาก 10.5%
ส่วนอันดับ 4 และ 5 ยังคงเป็นหน้าเดิมคือ Xiaomi และ Oppo ที่ส่วนแบ่ง 8.7% และ 8.1% ตามลำดับ โดยใน 5 อันดับแรกนี้มีเพียงซัมซุงและแอปเปิลที่ยอดส่งมอบลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่แบรนด์จีน 3 แบรนด์ที่เหลือเพิ่มขึ้นทั้งหมด
Strategy Analytics สรุปยอดขายสมาร์ทโฟนในประเทศจีน ประจำไตรมาส 4/2018 และตัวเลขตลอดทั้งปี 2018 สรุปว่าตลาดรวมหดตัวลงพอสมควร
ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีน ตลอดทั้งปี 2018 อยู่ที่ 408.5 ล้านเครื่อง ลดลงจากตัวเลขของปี 2017 ที่ 459.6 ล้านเครื่อง ส่วนเหตุผลมีทั้งสภาพเศรษฐกิจจีนที่ไม่ร้อนแรง และรอบการเปลี่ยนรุ่นมือถือที่ยาวนานกว่าเดิม
ผู้ผลิตมือถือกลุ่ม Top 5 ที่ขายสมาร์ทโฟนได้ลดลงคือ Oppo, Xiaomi, Apple ในขณะที่ Huawei กับ Vivo กลับสามารถเติบโตสวนกระแสตลาดได้
Huawei ยังเป็นแชมป์ของตลาดจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 25.7% และขายมือถือได้ถึง 105.1 ล้านเครื่อง ตามมาด้วย Oppo, Vivo, Xiaomi, Apple
การสำรวจจัดทำโดยกระทรวงศึกษาธิการวัฒนธรรมกีฬาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น พบว่าจำนวนนักเรียนที่มีวิสัยทัศน์สายตาต่ำกว่ามาตรฐานมีมากที่สุดเท่าที่เคยทำการสำรวจมา คือมีจำนวนมากถึง 25.3% จากนักเรียนทั้งหมด 3.4 ล้านคน โดยกระทรวงฯ คาดว่าเป็นเพราะสมาร์ทโฟน เกม
SquareTrade บริษัทรับประกันอุบัติเหตุที่เกิดกับโทรศัพท์ ออกรายงานผลสำรวจกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในอเมริกา พบข้อมูลน่าสนใจว่า 66% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน เคยทำอุปกรณ์เสียหายอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา และ 29% ก็เป็นกรณีของหน้าจอแตก ซึ่งเป็นกรณีอุปกรณ์เสียหายที่พบเจอมากที่สุด
ส่วนอันดับ 2 และ 3 เป็นปัญหาหน้าจอสัมผัสกดไม่ติด และขอบเครื่องเป็นรอย ตามลำดับ
เมื่อคำนวณตัวเลขจากผลสำรวจนี้กลับ ทำให้พบว่าคนอเมริกาทำหน้าจอโทรศัพท์แตกมากกว่า 50 ล้านครั้ง ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่าคนมักประเมินค่าซ่อมจอต่ำกว่าราคาจริง ทำให้ 67% ตัดสินใจไม่เปลี่ยนหน้าจอเมื่อรู้ราคาค่าซ่อม กรณีที่สมาร์ทโฟนยังพอใช้งานได้
MobData บริษัทวิจัยข้อมูลในจีน เผยรายงานการสำรวจลักษณะของผู้ใช้สมาร์ทโฟนแต่ละยี่ห้อในจีน พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า ผู้ใช้ iPhone ในจีนมีระดับการศึกษาน้อยกว่า มีสินทรัพย์ในครอบครองน้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Huawei หรือ Xiaomi
ข้อมูลจากการวิจัยระบุว่าภาพรวมของผู้ใช้ iPhone ในจีน คือผู้หญิงโสด อายุ 18-34 ปี ระดับการศึกษามัธยมศึกษา รายได้เดือนละ 3,000 หยวน ขณะที่ผู้ใช้ Huawei มักเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว อายุ 25-34 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี รายได้ต่อเดือน 5,000-20,000 หยวน มีแฟลตและรถยนต์เป็นของตนเอง ตัวเลขนี้คล้ายกับสำหรับ Xiaomi ขณะที่ Oppo จะน้อยกว่าอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังสูงกว่า iPhone
Meitu ผู้พัฒนาแอพเซลฟี่ยอดนิยมและผู้ผลิตสมาร์ทโฟนประกาศว่า ตอนนี้ Xiaomi ได้เข้าเทคโอเวอร์ฝ่ายฮาร์ดแวร์ของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Xiaomi จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านดีไซน์, การวิจัยและพัฒนา และการขายสมาร์ทโฟน ซึ่งจะยังคงใช้แบรนด์ Meitu อยู่เหมือนเดิม ในขณะที่ Meitu จะเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์กล้องบนสมาร์ทโฟน
ในวันที่ 18 ตุลาคม ทาง Samsung Display เชิญกลุ่มลูกค้าประมาณ 20 ราย เข้าร่วมงาน "2018 Samsung OLED Forum" ที่โรงแรม Shenzhen Marriott ในประเทศจีน
ประเด็นสำคัญกล่าวถึงทิศทางการออกแบบหน้าจอสมาร์ทโฟนของปี 2019 จะรวมเอา 4 เทคโลโนยีมาไว้ที่จอแสดงผล ประกอบด้วย
DJ Koh หัวหน้าฝ่ายธุรกิจสมาร์ทโฟนของซัมซุง ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนจะปรับกลยุทธ์ธุรกิจสมาร์ทโฟนใหม่ โดยจะเพิ่มยอดขายสินค้ากลุ่มราคากลาง โดยเฉพาะ Galaxy ตระกูล A ให้มากขึ้น
เขาบอกว่าที่ผ่านมา เวลาซัมซุงเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็จะนำไปใส่ในสินค้าที่วางตำแหน่งระดับบนก่อน นั่นคือ Galaxy S และ Note แต่จากนี้ เทคโนโลยีใหม่บางอย่าง จะนำมาไว้ในรุ่นที่ราคาถูกกว่าก่อน ซึ่งจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่นี้จากสมาร์ทโฟนตระกูล A ภายในปีนี้
การปรับแผนนี้น่าจะมาจากการที่ซัมซุงต้องแข่งขันกับบรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีน ที่ใส่สเป็กมาสูงในขณะที่ตั้งราคาเครื่องราคากลาง ๆ กระทบต่อซัมซุงในสินค้ากลุ่มนี้ ซึ่งแนวทางก็คือนำเสนอเทคโนโลยีใหม่สร้างความแตกต่างนั่นเอง
บริษัทวิจัยตลาด Gartner รายงานตลาดสมาร์ทโฟนประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 ซึ่งออกมาเหมือนกับที่ IDC และ Canalys รายงานก่อนหน้านี้ นั่นคือ Huawei มีส่วนแบ่งยอดขายทั่วโลกเป็นอันดับที่ 2 แซงหน้าแอปเปิลได้เป็นครั้งแรก
ในภาพรวมของสมาร์ทโฟนนั้น Gartner บอกว่ายอดขายอยู่ที่ 374 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย 2%
Huawei มีการเติบโตสูงถึง 38.6% โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 13.3% ขณะที่อันดับ 1 ยังเป็นของซัมซุงที่ 19.3% แต่ก็ลดลงจากปีก่อนที่ 22.6% ซึ่งมีปัจจัยสำคัญจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากจีนที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่ง
สรุป 5 อันดับแรกคือ ซัมซุง, Huawei, แอปเปิล, Xiaomi และ Oppo ตามลำดับ
สำนักข่าว Reuters รายงานว่าซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ กำลังพิจารณาปิดโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งในประเทศจีน ด้วยสาเหตุจากยอดขายในประเทศที่ลดลง และค่าแรงที่สูงขึ้น โดยโรงงานที่อยู่ในการพิจารณาคือโรงงานในเมืองเทียนจิน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของจีน
ด้านตัวแทนของซัมซุงออกมาชี้แจงข่าวดังกล่าวว่า ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ในเรื่องนี้ แต่ก็ให้ข้อมูลว่าภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนมีการเติบโตที่ช้าลง ซึ่งโรงงานในเทียนจินนี้ก็โฟกัสที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ดีมากขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อตอนแอปเปิลเปิดตัว iPhone X ข้อวิจารณ์หนึ่งที่มีค่อนข้างมากก็คือราคาที่แพง โดยเฉพาะในมุมฝั่งอเมริกาที่ราคาขึ้นไปถึงเป็นเลขสี่หลัก คือเกือบหนึ่งพันดอลลาร์ ส่วนในไทยราคาก็ทะลุ 4 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตามผลประกอบการของแอปเปิลที่ออกมา สะท้อนว่า iPhone X น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีมากของแอปเปิล ทั้งจากคำพูดของซีอีโอ Tim Cook เอง ไปจนถึงตัวเลขในผลประกอบการ ที่จำนวนเครื่องขายเพิ่มได้ไม่มาก แต่ยอดขายเฉลี่ยต่อเครื่องเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็ย่อมมาจาก iPhone X นั่นเอง
สหภาพยุโรป หรือ EU เตรียมศึกษาปรับแผนใหม่ เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือใช้ที่ชาร์จมือถือแบบเดียวกันทั้งหมด หลังจากข้อเสนอที่เคยทำไปก่อนหน้านี้ไม่มีความคืบหน้า
EU เคยเสนอให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเปลี่ยนมาใช้ที่ชาร์จแบบเดียวกันทั้งหมดเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว (ข่าวเก่า) ด้วยเหตุผลสนับสนุน คือสามารถลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงได้มากกว่า 5 หมื่นตันต่อปี อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคด้วย ในตอนนั้นบริษัทมือถือรายใหญ่ รวมทั้ง โนเกีย, แอปเปิล, ซัมซุง, หัวเหว่ย ต่างลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อให้สมาร์ทโฟนใช้ที่ชาร์จแบบเดียวกันทั้งหมดภายในปี 2011 และแม้ MOU ดังกล่าวหมดอายุในปี 2012 หลายบริษัทก็ยังคงร่วมลงนามต่อไปอีก 1-2 ปี