เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) เป็นวันครบรอบ 10 ปีของ Facebook ในฐานะ social network เปลี่ยนโลก นอกจากบริษัทจะฉลองด้วยการทำคลิป A Look Back ให้ผู้ใช้แต่ละคนแล้ว ผู้ก่อตั้ง Mark Zuckerberg ยังออกมาโพสต์ข้อความฉลอง 10 ปีด้วย

Zuckerberg บอกว่าตลอด 10 ปีมานี้เป็นการเดินทางอันแสนมหัศจรรย์ เขาดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้ เพราะโอกาสในการเข้าไปสัมผัสชีวิตของผู้คนจำนวนเยอะขนาดนี้หายากมาก เขาจึงพยายามให้การทำงานของเขาทุกๆ วันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

คนจำนวนมากมักถามเขาว่า เคยคิดบ้างไหมว่า Facebook จะมาได้ไกลขนาดนี้ คำตอบของเขาคือ ไม่เคยคิดแบบนี้เลย

หลังจากที่แอพสำหรับอ่านข่าวและเครือข่ายสังคมที่ทำโดย Facebook ชื่อ Paper ได้เปิดตัวและบอกว่าจะให้ผู้ใช้ในอเมริกาได้ลองใช้ก่อนในวันนี้ (3 กุมภาพันธ์) ซึ่งก็ได้มีการปล่อยแอพขึ้น App Store ให้ดาวน์โหลดกันแล้ว จึงได้ทำการดาวน์โหลดและทดลองใช้งานได้ตามนี้

เมื่อดาวน์โหลดมาก็จะเจอหน้าเปล่าๆ แบบข้างขวา แล้วหลังจากนั้นก็จะมีวิดีโอพร้อมกับปุ่มล็อกอิน ซึ่งพอเรากดล็อกอินและถ้าเราใช้แอพ Facebook อยู่แล้ว ระบบก็จะนำมาหน้าเปิดตัวแอพตามภาพ

Seth Fiegerman ผู้รายงานข่าวด้านธุรกิจของเว็บไซต์ Mashable โพสต์ภาพหน้าจอชี้แจงให้ผู้ใช้ทราบถึงระบบค้นหาแบบใหม่ Graph Search บนแอพเฟซบุ๊กบนมือถือของเขา

จากภาพ Graph Search บนอุปกรณ์พกพาจะรองรับการค้นหาเพื่อน สถานที่ และช่วงเวลา แบบเดียวกับ Graph Search บนเดสก์ท็อป

เฟซบุ๊กได้ยืนยันกับเว็บไซต์ The Verge ว่าได้เริ่มทดสอบการ navigation ของ Graph Search บนอุปกรณ์พกพาจริง

ที่มา: @sfiegerman ผ่าน The Verge

มารู้จักกับ Shorty Awards กัน หนังสือพิมพ์ New York Times เขียนถึงรางวัลนี้ไว้ว่า "ฮอลลีวูดมีออสก้า บรอดเวย์มีโทนี ตอนนี้ Twitter ก็มี... Shorty Awards" สำหรับปีนี้ก็ได้จัดเป็นปีที่ 6 แล้ว

รางวัลนี้จัดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดย Sawhorse Media ในปีแรกๆ นั้นจะเป็นการมอบรางวัลให้กับผู้ใช้ Twitter แต่ต่อมาภายหลังได้ขยายรวมไปถึงผู้ที่ใช้ Facebook, Tumblr, YouTube, Instagram, Vine และเว็บ social media อื่น ๆ ด้วย

ปีนี้มีระยะเวลาโหวตตั้งแต่ 7 มกราคม จนถึง 18 กุมภาพันธ์ และจะมีการมอบรางวัลในวันที่ 7 เมษายน ที่ The TimesCenter ตึก New York Times ในเมืองนิวยอร์ก ที่ท้ายข่าวก็มีแนบคลิปวิดีโอแนะนำรางวัลนี้จาก Shorty Awards ไว้ด้วย

วิธีการโหวต

หลังจากที่ทางโนเกียเคยประกาศในงานเปิดตัว Lumia 1020 แล้วว่าแอพสังคมออนไลน์สำหรับเพื่อนสนิทอย่าง Path จะมาบน Windows Phone แน่นอน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่คลอดออกมาเสียที

เว็บไซต์ Re/code (ทีมงาน AllThingsD เดิม) อ้างแหล่งข่าววงในของ Facebook ว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวแอพหรือบริการด้านอ่านข่าวในรหัส "Paper" ในเร็วๆ นี้

โครงการ Paper เป็นไอเดียของ Chris Cox ผู้บริการด้านผลิตภัณฑ์ของ Facebook และมันเป็นส่วนหนึ่งของ "Project Reader" โครงการปรับปรุงระบบ News Feed ที่ดำเนินต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว (บางส่วนภายใต้โครงการ Reader ก็ถูกนำไปใช้กับ News Feed รุ่นใหม่แล้ว ส่วนไอเดียที่เหลือก็ถูกย้ายมาอยู่ใน Paper)

รูปแบบของ Paper จะคล้ายกับแอพอ่านข่าว Flipboard แต่แหล่งข่าวบอกว่าตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า Paper จะเป็นแอพแยกเฉพาะหรือเป็นอินเทอร์เฟซผ่านเว็บที่เข้าถึงได้จากอุปกรณ์พกพา คาดว่ามันจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในเดือนมกราคมนี้

ทุกๆ คนที่เล่น Facebook คงอาจจะเคยเห็นโฆษณาของเพจที่เราไม่ได้กดไลค์แต่ขึ้นมาในหน้า News Feed เพราะเพจนั้นซื้อโฆษณาแบบ Sponsored Stories แต่หน่วยโฆษณาแบบนี้กำลังจะหยุดการให้บริการในวันที่ 9 เมษายน แต่โฆษณาแบบอื่น เช่น Page Like Ad, Page Posts ก็ยังมีอยู่ต่อไป

สาเหตุของการยุบหน่วยโฆษณาประเภท Sponsored Stories นั้น ไม่ถูกเปิดเผยชัดเจน แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นเพราะการที่ถูกผู้ใช้ฟ้องร้องว่าด้วยการนำรูปและข้อมูลของผู้ใช้ไปเป็นส่วนหนึ่งของโฆษณาโดยที่ผู้ใช้ไม่ได้อนุญาต และจบด้วยความพ่ายแพ้ของ Facebook ที่ต้องจ่ายเงินชดเชยถึง 20 ล้านเหรียญ

Biz Stone หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Twitter เปิดตัวบริษัทใหม่ของเขาชื่อ Jelly

Jelly เป็นแอพถามตอบ (Q&A) ลักษณะเดียวกับเว็บไซต์แบบ Quora หรือ StackOverflow แต่ความต่างอยู่ที่มันเป็น "แอพ" (มีบน iOS/Android ยังไม่มีเวอร์ชันเว็บ) และเน้นการสอบถามข้อมูลไปยังเพื่อนๆ ในเครือข่าย social network ของเรามากกว่าคนแปลกหน้า

รูปแบบการใช้งานของ Jelly คือการดาวน์โหลดแอพแล้วโพสต์คำถามหรือถ่ายภาพสิ่งที่ต้องการถาม จากนั้นระบบจะจัดการแจ้งถามเพื่อนๆ ของเราที่ใช้ Jelly ด้วยกันว่ามีใครทราบคำตอบหรือไม่

Steve Grove หัวหน้าทีม Community Partnership ของ Google+ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ LiveMint.com ถึงอนาคตของ Google+ ในประเด็นต่างๆ ดังนี้

เราเห็นข่าว Facebook ทำฟีเจอร์ Year in Review รวมโพสต์เด่นประจำปี 2013 ของผู้ใช้แต่ละคนให้เจ้าตัวดูระลึกความหลังว่าปีนี้ทำอะไรมาบ้าง

ฝั่ง Google+ ก็ไม่ยอมแพ้ และล้ำกว่าตรงที่นำฟีเจอร์ Auto Awesome (Auto Awesome สำหรับวิดีโอ) มาประยุกต์ใช้ โดยผู้ใช้ Google+ ที่สั่งให้แบ็คอัพภาพจากมือถืออัตโนมัติ จะเห็นคลิปวิดีโอส่วนตัวที่ Google+ นำภาพของเรามาคัดเลือกเป็นคลิป Year in Review ให้โดยผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม

กูเกิลบอกว่าผู้ใช้ Google+ จะทยอยได้รับการแจ้งเตือนว่ารวมคลิปให้แล้ว (ของผมก็ได้แล้วนะครับ) ตัวอย่างคลิปดูได้ท้ายข่าว

ที่มา - +Vic Gundotra

ถึงช่วงสิ้นปีก็ยังคงมีการจัดอันดับกันอยู่เรื่อยๆ ล่าสุด Starcount บริษัทติดตามความนิยมบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คได้เผยรายชื่อบรรดาแบรนด์ที่ได้รับความนิยมบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คในปี 2013 โดยประเมินจากผลงาน และความเคลื่อนไหวของแต่ละแบรนด์ตลอดทั้งปี ซึ่งแชมป์ในปีนี้ตกเป็นของยักษ์ใหญ่ไอทีจากเกาหลีใต้ ซัมซุงนั่นเอง

เพิ่งมีข่าวหลุดออกมาไม่นานก่อนหน้านี้ วันนี้ Facebook ประกาศข่าวอย่างเป็นทางการว่า "โฆษณาเป็นวิดีโอ-เล่นอัตโนมัติ" เดินทางมาถึง News Feed ของท่านแล้ว

รูปแบบของโฆษณาวิดีโอบน News Feed เป็นดังนี้ครับ

• วิดีโอจะถูกเล่นอัตโนมัติเมื่อเราเลื่อนหน้าจอมาถึงวิดีโอนั้นๆ แต่จะไม่มีเสียง ผู้ใช้ต้องคลิกเพื่อเปิดเสียงเอง
• ถ้าไม่อยากดูก็เลื่อนหน้าจอหนี วิดีโอจะหยุดเล่นเอง (เหมือน Instagram)
• ตอนท้ายของวิดีโอจะมี thumbnail ของวิดีโออื่นอีก 2 ภาพ ให้ผู้ใช้เลือกกดดูวิดีโอที่เกี่ยวข้อง
• การใช้งานบนอุปกรณ์พกพา Facebook จะแอบโหลดวิดีโอมาก่อน (ผ่าน Wi-Fi เท่านั้น) ดังนั้นวิดีโอจะเล่นได้แม้ไม่ได้ต่อ Wi-Fi
• เบื้องต้นจะยังมีเฉพาะบางเพจที่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ ส่วนวิดีโอที่เพื่อนๆ ของเราอัพโหลดเองจะเล่นอัตโนมัติทั้งหมด
  

หลังจากที่ทีม Microsoft Research ได้เปิดตัว Socl ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ของ Microsoft มาปีเศษ ตอนนี้ Socl ได้เปิดตัวแอพสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS, Android และ Windows Phone 8 แล้ว

Socl เป็นบริการที่ Microsoft เรียกกันเองภายในตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาว่าโครงการ Tulalip ซึ่ง Microsoft ตั้งใจสร้างให้มันเป็นเครื่องมือสำหรับผู้คนในเรื่อง "ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการและแบ่งปันสิ่งที่คุณรู้ ได้ง่ายกว่าที่เคย" และในปัจจุบัน Tulalip ก็ได้กลายเป็น Socl เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เน้นหนักเรื่องการค้นหารูปภาพและวิดีโอจากทั่วทุกมุมบนโลกอินเทอร์เน็ตด้วย Bing

Lars Backstrom ผู้บริหารของ Facebook ออกมาอธิบายถึงการปรับอัลกอริทึม News Feed ครั้งล่าสุด โดยมีประเด็นดังนี้

สัปดาห์นี้ผมได้ฟังการนำเสนอของคุณ ฮวัง แด ยุน หัวหน้าฝ่ายงานขายและปฏิบัติการ LINE ประเทศไทย ที่งาน OKMD Knowledge Festival 2013 มีสถิติข้อมูลที่น่าสนใจของ LINE หลายอย่าง (โดยเฉพาะข้อมูลของประเทศไทย) เลยนำมาเล่าให้อ่านกันครับ

คำเตือน: รูปเยอะหน่อยนะครับ

คุณฮวัง แด ยุน เริ่มต้นด้วยข่าว LINE มีผู้ใช้งานครบ 300 ล้านบัญชีแล้ว โดยให้ข้อมูลว่าในไทยก็มีผู้ใช้ LINE เกิน 20 ล้านบัญชีแล้ว ถือเป็นประเทศที่มีผู้ใช้มากเป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่นเท่านั้น

เมื่อไม่นานมานี้ในงานแถลงผลประกอบการของ Facebook ซีเอฟโอของบริษัทออกมาสรุปข้อมูลสั้นๆ ว่าเห็นแนวโน้มจำนวนผู้ใช้ต่อวัน (daily user) ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น (younger teens)

ข่าวนี้ทำให้ผู้ถือหุ้นและนักวิเคราะห์ตื่นตระหนกกันไม่น้อย (แถมในช่วงไล่เลี่ยกันก็มีข่าวของ Snapchat ที่แย่งลูกค้าวัยรุ่นจาก Facebook ออกมาด้วย) จนล่าสุด Sheryl Sandberg ซีโอโอของบริษัทก็ออกมาสยบข่าวนี้แล้ว

หลายคนคงสนุกกับการถ่ายรูปอาหาร นั่งแชทกับเพื่อน อัพเดทเฟสบุ๊คในขณะที่ทานข้าวในร้านอาหาร แต่ก็มีบางคนที่คิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควร

Jawdat Ibrahim เจ้าของร้านอาหาร Abu Ghosh ได้เล่าว่า อาการติดมือถือมันมีมานานแล้ว แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้มันยิ่งแย่ลง เพราะสมาร์ทโฟนมันทำอะไรได้มากขึ้น เขารู้สึกท้อใจเมื่อเห็นกลุ่มเพื่อนหรือคู่แต่งงานมาทานอาหาร แล้วเอาแต่จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ ถึงขนาดบางครั้งมีการขอให้เขาอุ่นอาหารให้ใหม่

Google ได้สิทธิบัตรฉบับใหม่ ว่าด้วยเรื่องระบบที่จะช่วยเสนอข้อความสำหรับโพสต์แสดงความเห็นบนเครือข่ายสังคมออนไลน์แก่ผู้ใช้ได้อย่างอัตโนมัติ

ระบบที่ว่านี้จะรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้และผู้ที่ติดต่อด้วย จากการโพสต์ความเห็นต่างๆ ที่ระบบได้รับอนุญาตให้เข้าถึงได้ เพื่อวิเคราะห์ทำความเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ว่าควรตอบสนองอย่างไร ตัวอย่างเช่น หากระบบรู้ว่า เพื่อนผู้ติดต่อของผู้ใช้ได้งานใหม่ ก็จะเข้าใจได้ว่าผู้ใช้ควรแสดงความยินดีด้วย หรือเมื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของเพื่อนผู้ตืดต่อตายไป ระบบก็จะเข้าใจได้ว่าผู้ใช้ควรแสดงข้อความในเชิงเห็นอกเห็นใจ เป็นต้น

หลังจาก YouTube เริ่มใช้ระบบคอมเมนต์แบบใหม่ที่ผูกกับ Google+ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็อย่างที่หลายคนคาดคือ "ผู้ใช้จำนวนมากรุมประท้วง" นั่นเองครับ

จุดประท้วงหลักที่ใหญ่ที่สุดคงเป็นแคมเปญบน change.org ที่ต้องการให้กูเกิลกลับไปใช้ระบบคอมเมนต์แบบเดิม ตอนนี้มีคนมาลงชื่อสนับสนุนแล้ว 178,933 คน (ตั้งเป้า 200,000 คน)

หลังจากที่ Twitter เริ่มแสดงภาพ-วิดีโอใน Timeline โดยไม่ต้องกดดู ก็เริ่มมีสถิติออกมาให้วิเคราะห์กันครับ

Buffer บริการจัดการโซเชียลเน็ตเวิร์ค (ที่เพิ่งโดนแฮ็กไป) เผยการวิเคราะห์สถิติของบัญชี @buffer ของตัวเอง ได้ผลดังนี้

• ข้อความทวีตที่มีรูปภาพ จะถูกคลิกมากกว่าข้อความปกติที่ไม่มีรูปภาพ 18%
• ถูกกด favorite มากกว่าปกติ 89%
• ถูก retweet มากกว่าปกติ 150%

ที่มา - Buffer Blog

LinkedIn เข้าซื้อแอพอ่านข่าว Pulse ไปเมื่อต้นปีก่อน และวันนี้ก็ประกาศรวมระบบของ Pulse เข้ากับ LinkedIn เพื่อทำให้เป็นระบบอ่านข่าวสำหรับตลาดมืออาชีพแล้ว

โดย Pulse ในชื่อใหม่ LinkedIn Pulse จะมาแทนบริการหน้าแรกของ LinkedIn เดิมอย่าง LinkedIn Today ที่จะแสดงข่าว และโพสต์จากบุคคลน่าสนใจ สำหรับคนที่โหลดแอพเวอร์ชันใหม่บนสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตมาจะสามารถล็อกอินได้ผ่านบัญชี LinkedIn และสามารถแชร์ขึ้นไปยังเครือข่ายของตัวเองบน LinkedIn ได้ สำหรับคนที่เข้ามาครั้งแรกตัวแอพจะแนะนำแหล่งข่าวจากประวัติบน LinkedIn

YouTube เพิ่งเปิดตัวระบบคอมเมนต์แบบใหม่ที่ผูกกับ Google+ ไปได้ไม่กี่เดือน ล่าสุดก็ประกาศว่าจะเริ่มใช้ระบบคอมเมนต์แบบใหม่นี้แล้ว

จุดเด่นของระบบคอมเมนต์แบบใหม่คือสามารถคอมเมนต์แบบ private ได้ (ตาม circle ของ Google+) และระบบก็จะนำคอมเมนต์ของคนที่เรารู้จักใน Google+ (หรือคนสำคัญอย่างผู้สร้างวิดีโอนั้น หรือคนดังในโลกออนไลน์) มาแสดงข้างบนให้เห็นกันง่ายๆ

ในส่วนของเจ้าของวิดีโอก็ยังได้ฟีเจอร์เรื่องการบริหารจัดการคอมเมนต์ที่ดีขึ้น เช่น การบล็อคคีย์เวิร์ด หรือกำหนดว่าสำหรับแฟนคลับบางคนสามารถคอมเมนต์แล้วขึ้นหน้าแรกโดยอัตโนมัติ (whitelist) เป็นต้น

หลังจาก Instagram เริ่มแสดงโฆษณาอย่างเป็นทางการ โดยมีแบรนด์นาฬิกาหรู Michael Kors เป็นผู้ลงโฆษณาเป็นรายแรก แม้ว่าจะถูกต่อต้านจากผู้ใช้อยู่มาก เพราะว่าเห็นโดยที่ไม่ได้กดติดตาม แต่ผลลัพธ์ในฝั่งผู้ลงโฆษณาก็ออกมาดีเกินคาด

Viddy อดีตผู้ยิ่งใหญ่ของเครือข่ายสังคมการแชร์คลิปวิดีโอ ที่เมื่อถูกกระแส Vine และ Instagram ซึ่งแชร์วิดีโอสั้นได้เหมือนกันเข้ามาทำให้แอพได้รับความนิยมลดลง จนบริษัทต้องปลดพนักงานแถมผู้ก่อตั้งคนหนึ่งยังลาออกอีก ตอนนี้ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่แล้วเป็น Supernova

JJ Aguhob อีกหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทตอนเป็น Viddy และขณะนี้ทำหน้าที่ซีอีโอบอกว่า Supernova อาศัยจุดแข็งในโครงสร้างพื้นฐานการรองรับข้อมูลวิดีโอของ Viddy เดิมแล้วนำมาปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้นภายใต้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ โดยแอพสองตัวใหม่จาก Supernova ประกอบด้วย

ก่อนหน้านี้ Google+ ได้ประกาศให้ใช้ custom URL กับเพจและโปรไฟล์ Google+ ของผู้ใช้บางกลุ่ม ส่วนมากจะเป็นคนดัง (เพื่อป้องกันตัวปลอมมาแย่งจองชื่อ) แต่ตอนนี้กูเกิลได้เริ่มขยายการใช้ custom URL มากขึ้นไปอีก โปรไฟล์ของผู้ใช้ที่จะได้ใช้ custom URL ของ Google+ จะต้องเข้าเงื่อนไขดังนี้