นี้เป็นความคิดที่แปลกใหม่ในการลดภาวะโลกร้อนจากความร้อนที่เกิดขึ้นของพวกศูนย์ข้อมูลทั้งหลาย เพียงแค่สร้างสระว่ายน้ำข้างๆ แค่นั้น
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงใน Uitikon ประเทศสวิตซ์เซอร์แลนด์ ซึ่งมีศูนย์ข้อมูลเครื่อง IBM ที่เป็นของบริษัท GIB-Services AG ซึ่งบริษัทนี้ได้ใช้ความร้อนที่ออกมาไปอุ่นสระว่ายน้ำข้างเคียงให้กลายเป็นสระน้ำอุ่น
โดยความร้อนที่เกิดขึ้นจากเครื่องจะถูกส่งไปยังตัวแลกเปลี่ยนความร้อนเพื่อไปเร่งให้อุณหภูมิสระว่ายน้ำสูงขึ้น ซึ่งบ้านไหน หรือโรงแรมไหนที่ต้องการความร้อนนี้จะต้องจ่ายเงินในการก่อสร้างระบบร่วมกัน
ที่มา - engadget.com
ผู้จัดการรายงานจากผลการวิจัยเรื่อง "การสำรวจอุปกรณ์การเก็บข้อมูลที่ใช้ในบ้านประจำปี พ.ศ. 2550" พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของการเก็บข้อมูลดิจิตอลคอนเทนท์มากขึ้น โดยข้อมูลเหล่านี้รวมไปถึงอุปกรณ์เก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น เครื่องเล่น MP3, เครื่องเล่นเกมส์, กล้องถ่ายรูปดิจิตอลและกล้องวีดีโอ รวมไปถึงสื่อเก็บข้อมูลเช่น ซีดี ฮาร์ดดิสก์ และอื่น ๆ
ผลการสำรวจภายใต้โครงการ Skypad ของ IDC เมื่อปีที่แล้วพบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผลสำรวจมีการเก็บข้อมูลน้อยกว่า 100GB
ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่มีการเก็บข้อมูลมากกว่า 100GB นั้นพบว่าไต้หวันมีจำนวนผู้เก็บรักษาข้อมูลมากกว่า 100GB มากที่สุด ตามมาด้วยประเทศไทย, ฮ่องกงและอินเดีย
Divshare ผู้ให้บริการรับฝากไฟล์ฟรี ที่มีฟีเจอร์ดีๆ หลายอย่าง เช่นการดาวน์โหลดไฟล์ ที่ดาวน์โหลดได้ทันที ไม่มีดีเลย์ มีโฆษณาให้ดูแต่ไม่รบกวนการดาวน์โหลดมากนัก
วันนี้เจ้าของเว็บได้ออกมาประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ผู้ใช้ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีน ซึ่งประกอบด้วยประเทศ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา และมองโกเลีย จะไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์จากผู้ใช้ free account ได้อีกต่อไป ส่วนไฟล์ที่อัพโหลดโดยผู้ใช้ premium account จะยังคงดาวน์โหลดได้อยู่
มีข่าวไม่เป็นทางการระบุว่าทางฮิตาชิ ซึ่งมีกิจการฮาร์ดดิสก์ที่ซื้อจากไอบีเอ็มมาเมื่อปี 2002 กำลังเตรียมการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการเข้ากับคู่แข่งที่ครองส่วนแบ่งในตลาดส่วนน้อยเช่น โตชิบา และฟูจิสึ
ข่าวนี้มีความเป็นไปได้สูง เพราะกิจการฮาร์ดดิสก์ที่แข่งขันสูงในตอนนี้ มีเพียงสองบริษัทที่กำลังทำกำไรอยู่ได้ คือ Seagate และ Western Digital เท่านั้น และส่วนแบ่งตลาดของสองบริษัทนี้กำลังเบียดพื้นที่ของบริษัทอื่นๆ ลงไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการรวมตัวเพื่อให้มีอำนาจในตลาดสูงขึ้นก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะทำ
บริษัท Mempile Inc. จากอิสราเอลเตรียมโชว์เทคโนโลยีแผ่นดิสก์แบบใหม่ TeraDisk ในงาน CES ที่ลาสเวกัส ต้นเดือนมกราคมปีหน้า โดยมีความจุได้ถึงระดับ Terabyte
TeraDisk จะใช้เทคโนโลยีเลเซอร์สีแดงแบบเดียวกับดีวีดี (ซึ่งต่างกับ Blu-ray/HD DVD ที่ใช้เลเซอร์สีน้ำเงิน) โดยมีหัวเลเซอร์ 2 หัวคือสำหรับค้นหาแทร็ก และเอาไว้เขียน-อ่านข้อมูล แผ่นต้นแบบที่ใช้โชว์ในงานต้นเดือนหน้าจะหนา 0.6 มิลลิเมตร ประกอบด้วยข้อมูล 100 เลเยอร์ ความจุรวมทั้งหมด 500GB ทางบริษัทคาดว่าจะพัฒนาให้เป็น 200 เลเยอร์ หนา 1.2 มิลลิเมตรเท่าดีวีดีมาตรฐาน และจุได้ 1TB ภายในสองสามปีข้างหน้า ก่อนจะขึ้นไปถึงเป้าความจุ 5TB หลังจากนั้นไม่นาน
จากรายงานของ The Wall Street Journal คาดว่ากูเกิลเตรียมตัวเปิดบริการเก็บข้อมูลออนไลน์อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
บริการนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดข้อมูลประเภทไหนก็ได้ไปบนเซิฟเวอร์ของกูเกิลและดึงข้อมูลกลับมาจากคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต โดยบริการนี้จะเป็นบริการฟรีแต่จะมีการจำกัดพื้นที่ หากต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มจะต้องจ่ายค่าบริการ
ตอนนี้ยังไม่มีใครจากกูเกิลได้ออกมายืนยันเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับบริการนี้ออกมานานพอสมควรแล้ว โดยหลาย ๆ สื่อก็ได้ตั้งชื่อบริการนี้ว่า "Gdrive"
Hitachi ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่เจ้าของเทคโนโลยีหัวอ่านขนาดเล็กที่สุด กล่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูงของตนว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้านี้ เราอาจจะได้พบกับฮาร์ดดิสก์ 4TB สำหรับเครื่องเดสก์ท็อป และ 1TBสำหรับเครื่องโน้ตบุ๊ค เมื่อเทคโนโลยีการผลิตหัวอ่านสามารถผลิตได้เล็กกว่าปัจจุบันเป็น 2 เท่า หรือเล็กเป็น 2000 เท่าของเส้นผมมนุษย์
มีการให้ความเห็นต่อมาด้วยว่าทาง Samsung ควรอัพเดทกราฟประสิทธิภาพระหว่าง SSD กับฮาร์ดดิสก์หลังจากนี้
นักวัจัยชาวฝรั่งเศส Albert Fert และชาวเยอรมัน Peter Grünberg ควัารางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์จากเทคโนโลยีที่มีื่อว่า Giant Magnetoresistance หรือ GMR ซึ่งแตกแขนงมาจากนาโนเทคโนโลยี โดยสามารถนำมาประยุกต์เพื่อเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์โดยที่ฮาร์ดดิสก์มีขนาดที่เล็กลง (อ่านประกอบ) หรือ พัฒนาเซ็นเซอร์แม่เหล็กหลายรูปแบบ
ลำพังแค่ศึกระหว่าง HD DVD กับ Blu-ray ก็ยังไม่แล้ว ตอนนี้เรากำลังจะมีฟอร์แมตใหม่แบบที่สามเข้ามาให้เลือกใช้ (หรือสับสน?) กันอีกแล้ว
HD VMD (Versatile Media Disk) คิดค้นโดยบริษัท New Medium Enterprises จากลอนดอน HD VMD ไม่ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์สีน้ำเงิน (ความถี่สูง) แบบเดียวกับสองฟอร์แมตข้างต้น แต่กลับใช้เลเซอร์สีแดงแบบที่ใช้อยู่ในดีวีดีปัจจุบัน เพียงแต่เพิ่มความจุด้วยการเพิ่มจำนวนเลเยอร์แทน โดยปัจจุบันสามารถจุได้แผ่นละ 30GB
เหตุการณ์น้ำท่วมเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ สร้างความรุ่งเรืองให้กับธุรกิจบางประเภทอย่างไม่น่าเชื่อ หนึ่งในนั้นคือธุรกิจกู้ข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์นั่นเอง
บริษัทกู้ข้อมูลอย่าง Kroll Ontrack ได้เห็นโอกาสนี้จึงเปิดบริการกู้ข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ที่จมน้ำในเหตุการณ์นี้ในราคาเดียวกันหมดคือ 850 ดอลลาร์ โดยร้อยละ 10 จะบริจาคเข้ากาชาดของสหรัฐ ขณะที่ค่าบริการปรกติอาจจะสูงถึง 2,500 ดอลลาร์
นักวิทยาศาสตร์ของ IBM ได้ออกมาประกาศเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้เข้าใกล้วิธีที่จะสามารถจัดเรียงอะตอมเดียวเพื่อสร้าง หน่วยย่อยสำหรับฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กและบางที่สุด
ด้วยพลังแห่งศาสตร์นาโนเทคโนโลยีทำให้นักวิทยาศาสตร์ไอบีเอ็มสามารถเข้าใจคุณสมบัติของอะตอมและการจัดการอะตอมนั้น ซึ่งคุณสมบัติอะตอมที่นำมาใช้ในงานวิจัยนี้คือ คุณสมบัติการที่อะตอมทำตัวเป็นแม่เหล็กขนาดเล็ก ถ้าสามารถให้ขั้วแม่เหล็กเรียงตัวอย่างสเถียรได้ตลอดเวลา นั้นจะทำให้สามารถใช้เป็นตัวเก็ยข้อมูลได้ และนี่คือกลไกของการเก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์
Lenovo บริษัทไอทีจีนรายหนึ่งแสดงความสนใจจะเข้าซื้อกิจการของ Seagate ซึ่งเป็นหนึ่งในสองบริษัทผลิตฮาร์ดดิสก์ของสหรัฐที่เหลืออยู่ (อีกรายคือ Western Digital) ทำให้กระแสตื่นตัวต่อการเข้าซื้อกิจการบริษัทสหรัฐจากบริษัทในจีนแรงขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเคยขึ้นมาช่วงหนึ่งตอน Lenovo ซื้อกิจการพีซีของไอบีเอ็ม
ประเทศจีนมีเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ 1.33 ล้านล้านเหรียญซึ่งเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ การขนเงินออกมาลงทุนนอกประเทศจึงเป็นทางออกที่ดีกว่า เราจึงเริ่มเห็นการลงทุนของจีนทั้งจากฝั่งรัฐและเอกชน
ผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์ทั้งหลายต่างเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันมานานแล้วว่าต่อให้ระบบทุกอย่างจะดีและเร็วขึ้นมากเท่าไหร่ก็ตาม สุดท้ายมันก็จะมีคอขวดอยู่ที่ฮาร์ดไดรว์ที่ความเร็วส่วนใหญ่แล้วต่ำกว่า 10000 rpm
ล่าสุดนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Radboud Nijmegan ในเนเธอร์แลนด์ก็ได้เจอวิธีใหม่ที่ดีกว่าในการเข้าถึงข้อมูลในฮาร์ดไดรว์ที่เร็วขึ้นถึง 100 เท่า โดยใช้วิธีเขียนและอ่านข้อมูลด้วยลำแสงเลเซอร์แทนการใช้แม่เหล็กในการเขียนและอ่านข้อมูลไบนารี
ใครเป็นแฟนเพลงผ่านมือถือคงได้เฮ เมื่อทาง Sandisk ได้ประกาศเปิดตัวการ์ด microSDHC ขนาด 8 กิกะไบต์ออกมาแล้ว โดยจะเริ่มวางตลาดในครึ่งปีหลัง ของปีนี้เอง แน่นอนว่าด้วยการ์ดขนาด 8 กิกะไบต์ มือถือของคุณจะมีความจุไม่ต่างอะไรไปจากเครื่องเล่น MP3 ขนาดกลางที่มีพื้นที่ความจุพอๆ กัน ข่าวร้ายคือราคายังไม่แจ้ง
ส่วนใครใช้มือถือโซนี่ก็ได้เฮเช่นกันด้วยการเปิดตัว Sandisk M2 ขนาด 4 กิกะไบต์ พร้อมกับประกาศราคาออกมาให้ชื่นใจเล่นด้วยค่าตัว 99.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,500 บาท
อย่าลืมว่า SDHC นี้เป็นมาตรฐาน SD รุ่นใหม่ มือถือที่จะใช้งานได้ต้องรองรับด้วย ดังนั้นใครอยากใช้อาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องกัน
ว่าแต่ใส่เพลงไปเยอะๆ แล้วเครื่องมันช้านะ
ปัญหาเรื้อรังของวงการอิเล็กทรอนิกส์คือเมโมรี่การ์ดมีหลายชนิดมาก แต่ละชนิดก็ทำงานร่วมกันไม่ได้ บรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในไต้หวัน 12 รายจึงรวมตัวกันผลักดันมาตรฐานใหม่ที่เรียกว่า miCard (Multiple Interface Card)
miCard นั้นออกแบบมาให้เสียบได้กับทั้ง USB และช่องของ MMC เดิม เพื่อลดปัญหาความยากในการนำไปใช้ ข้อดีอื่นๆ คือความเร็วในการถ่ายข้อมูลสูงถึง 480Mbit/sec (เท่ากับความเร็วสูงสุดของ USB 2.0) และจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต การ์ดรุ่นแรกจะมีความจุเริ่มต้นที่ 8GB และความจุสูงสุดน่าจะอยู่ที่ 2,048GB
กระัแส SSD (Solid-State Disk) บุกเข้าตลาดโน้ตบุ๊กอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในต่างประเทศ (ในไทยคงต้องรออีกสักปีสองปี)แต่ในตอนนี้ในแง่ของความจุแล้ว SSD ยังเป็นรอง ฮาร์ดดิสก์แม่เหล็กเสมอมา โดยมากแล้วจะมีการใช้งานกันไม่เกิน 40 กิกะไบต์เท่านั้น แต่วันนี้ทาง PQI ได้เปิดตัว PQI's 256GB SSD Turbo+ ที่มีความจุถึง 256 กิกะไบต์ แซงหน้าฮาร์ดดิสก์แม่เหล็กในขนาดเดียวกันไปแล้ว
ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD นั้นมีข้อได้เปรียบฮาร์ดดิสก์แม่เหล็กหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นความทนทานต่อแรงกระแทก เสถียรภาพที่ดีกว่า และเวลา seek-time ที่ต่ำกว่า
ราคาไม่แจ้ง แต่คงแพงกว่าโน้ตบุ๊กผมทั้งชุด
บริษัทวิจัย iSuppli พยากรณ์ว่า 60% ของโน้ตบุ๊คที่วางขายในปี 2009 จะใช้แฟลชเก็บข้อมูล
ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดของโน้ตบุ๊คแบบแฟลชมีแค่เพียง 0.7% เท่านั้น แต่เมื่อราคาของแฟลชตกลง รวมกับข้อดีทั้งในเรื่องการประหยัดไฟ, ขนาดเล็ก, ไม่มีส่วนเคลื่อนไหว ทนทานต่อการตกหล่น จะทำให้แฟลชได้รับความนิยมมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ฮาร์ดดิสก์เองก็ไม่หายไปจากตลาดง่ายๆ โดยช่วงแรกโน้ตบุ๊คที่วางขายจะเป็นลูกผสมที่ใช้ทั้งสองอย่างไปก่อน iSuppli ประเมินว่าจะมีประมาณ 24 ล้านเครื่อง
ที่มา - Ars Technica
ช่วงนี้แม้กระแส SSD จะมาแรง แต่ด้วยราคาเกินหมื่นทุกตัวเลยทำให้ Geek ตกยากอย่างเราๆ อาจจะหามาใช้กันได้ลำบาก แต่ตอนนี้อาจจะมีทางเลือกที่ดีกว่า ด้วยอแดปเตอร์ CF-SATA ที่ทำให้เราสามารถใช้การ์ด CF ราคาถูกเพื่อเสียบเข้ากับช่อง SATA ได้ทันที
แนวคิดอย่างนี้เคยมีมาก่อนหน้านี้แล้วโดยมีคนใช้การ์ด SD มาต่อกัน 4 ชุดเพื่อทำเป็นฮาร์ดดิสก์ แต่ราคานั้นเหยียบหมื่นทำให้ความคุ้มค่าอาจจะไม่ดีเท่าใหร่ แต่อแดปเตอร์ CF-SATA นี้ราคานั้นเพียงประมาณพันบาทถ้วนๆ เท่านั้น
ใครทำงานอยู่บริษัทนำเข้าบอกเจ้านายนำเข้ามาด่วน ไม่เกินพันห้า (พร้อมประกันนะ) ผมจองตัวนึง
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กระแส SSD (Solid State Disk) เข้ามาสู่ตลาดโน้ตบุ๊กอย่างชัดเจนด้วยการเปิดสายการผลิตของหลายบริษัทตั้งแต่ราคาถูกไปจนราคาเกินเอื้อม แต่ที่ผ่านมาผู้ผลิตโน้ตบุ๊กที่เลือกใช้งาน SSD ในเครื่องของตนก็ยังจำกัดอ อยู่ในผู้ผลิตรายย่อยที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่เมื่อเดลล์เข้ามาในตลาด อาจจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าในอนาคตตลาด SSD จะเข้ามามีบทบาทในตลาดโน้ตบุ๊กค่อนข้างแน่
เราเห็นลินุกซ์แบบ Live CD กันมาเยอะแล้ว คราวนี้เป็น Live Flash Drive ที่มีสโลแกนว่า "A 3D Desktop in your pocket"
Mandriva Flash จับตลาดคนอยากใช้ลินุกซ์แต่ลงไม่เป็น สิ่งที่เราต้องทำก็แค่เสียบ USB บูตแล้วตอบคำถามนิดหน่อยในครั้งแรก ไม่ต้องติดตั้งอะไร จากนั้นเครื่องของคุณก็พร้อมใช้งานทันทีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อปลายปีที่แล้ว Mandriva ออก Flash 2GB ซึ่งขายดีมาก (ขายหมดในสองอาทิตย์) ด้วยเนื้อที่ขนาดใหญ่ขึ้นก็หมายถึงความสะดวกในการติดตั้งโปรแกรม, ไดรเวอร์, พื้นที่ทำงานที่มากขึ้นไปด้วย
Samsung และ Hynixอาจจะขึ้นราคาของหน่วยความจำแฟลชขนาด 8GB ไปถึง US$9 เนื่องจากมีความต้องการในตลาดสูงมากจนผลิตได้ไม่เพียงพออันเนื่องมาจากยอดขายอันล้นหลามของ iPhone และ iPod อย่างไรก็ตามแนวโน้มราคาหน่วยความจำแฟลชมีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่หลังจากตรุษจีน ซึ่งต่างจากเมื่อตอนต้นปี 2007 ซึ่งหน่วยความจำแฟลชมีราคาลดลง อันเป็นผลเนื่องมาจากความต้องการอันล้นหลามของ iPhone
ที่มา - DigiTimes
ช่วงนี้ทั้ง Blu-ray และ HD DVD เริ่มบุกยุโรปโดยเริ่มจากงาน CeBIT ที่เยอรมนี ฝั่ง HD DVD ประกาศตัว European HD DVD Promotional Group มีเป้าหมายผลักดัน HD DVD ในยุโรป นาย Ken Graffeo จากยูนิเวอร์แซลให้ความเห็นว่า "HD DVD เป็นแบรนด์ที่คนรู้จักมากที่สุดในโลกของ HD"
ส่วนฝั่ง Blu-ray สนุกกว่านั้นเยอะ เพราะนาย Frank Simonis ประธานกลุ่ม Blu-ray ยุโรปให้สัมภาษณ์แบบมั่นใจว่า Blu-ray ไม่ได้มีเป้าหมายแค่เอาชนะ HD DVD แต่มุ่งไปถึงการเข้ามาแทน DVD ภายในสามปี
ถ้าเอาตัวเลขเดิมมาเทียบ สามปีแรก DVD มีส่วนแบ่งตลาดยังไม่ถึง 15%
ที่มา - Ars Technica
ในปัจจุบันชิปที่เราๆ ใช้กันอยู่มักเป็นชิปที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 90 นาโนเมตร ส่วนชิปรุ่นใหม่ๆ จะเป็นเทคโนโลยี 65 นาโนเมตรกัน และเทคโนโลยีรุ่นต่อไปที่เราจะได้เห็นกันนั้นน่าจะเป็นเทคโนโลยี 40 นาโนเมตรที่เริ่มเข้าสู่สายการผลิตกันบ้างแล้ว
แต่เกาหลีก็ทำให้โลกประหลาดใจ ด้วยการที่ประกาศความสำเร็จในการผลิตหน่วยความจำแบบแฟลชด้วยเทคโนโลยี 8 นาโนเมตร ที่ทำให้ผู้ผลิตสามารถใส่หน่วยความจำระดับเทราบิตลงไปในชิปได้ไม่ยากนัก
ลูกผสมที่ว่าก็คือผสมระหว่างหน่วยความจำแบบ NAND (flash memory) กับฮาร์ดดิสก์แบบเดิมครับ
ฮาร์ดดิสก์ลูกผสมนี้ออกมาในซีรีส์ MH80 มีความจุ 80GB, 120GB และ 160GB พร้อมด้วยหน่วยความจำแฟลช 128MB หรือ 256MB ตัวฮาร์ดดิสก์ออกมาในขนาด 2.5 นิ้วครับ (ใช้กันในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค)
สงครามแผ่นดิสก์รอบใหม่ยังไม่จบง่ายๆ ตามปกติแล้ว Blu-ray เหนือกว่าในด้านความจุ (25GB ต่อเลเยอร์ เทียบกับ 17GB ต่อเลเยอร์ของ HD DVD) เมื่อคิดแบบ 2 เลเยอร์แล้ว Blu-ray ก็ทิ้งไปไกลพอสมควร (50GB ต่อ 34GB) ทางโตชิบาจึงแก้เกมโดยการเพิ่มเลเยอร์ที่สามลงไป ซึ่งทำให้ HD DVD มีขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 51GB (เหนือกว่าตั้ง 1GB :P)
แผ่นดิสก์แบบ 51GB นี้จะวางตลาดจริงในช่วงปลายปี คำถามที่ทุกคนสงสัยก็คือเพิ่มแค่ความจุจะช่วยให้ HD DVD ขายขึ้นจริงหรือ ปัจจุบัน Nielsen สำรวจพบว่าอัตราการขายของ Blu-ray เทียบกับ HD DVD คือ 2:1
ที่มา - TGDaily