Ubuntu One บริการเก็บไฟล์บนกลุ่มเมฆ (ซึ่งภายหลังขยายเป็นบริการอื่นๆ ด้วย เช่น Music Streaming ที่ทำก่อนกูเกิล-แอปเปิลด้วยซ้ำ)
ทางบริษัท Canonical ออกมาประกาศว่า Ubuntu One มีผู้ใช้เกิน 1 ล้านคนแล้ว (จริงๆ เกินตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทำไมเพิ่งมาประกาศตอนนี้ก็ไม่ทราบได้)
ในโอกาสนี้ Ubuntu One ได้เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลของรุ่นฟรี จากเดิม 2GB เป็น 5GB และจะยกเลิกแพกเกจซิงก์ข้อมูลสำหรับมือถือซึ่งเดิมจ่ายเดือนละ 3.99 ดอลลาร์ อัพเกรดผู้ใช้เดิมมาเป็นแพกเกจ Music Streaming ที่มีเนื้อที่เก็บข้อมูล 20GB แทน
ที่มา - Canonical
YouSendIt บริการส่งไฟล์ขนาดใหญ่ผ่านเว็บที่หลายคนรู้จักกันดี ขยายบริการของตัวเองจากการส่งไฟล์ผ่านเว็บ มาเป็นการเก็บข้อมูลบนเว็บแบบเดียวกับ Dropbox
ตอนนี้ที่ YouSendIt ยังเป็นรองคือจำนวนแพลตฟอร์มที่รองรับ ซึ่งยังมีแค่บนวินโดวส์และไอโฟน ในขณะที่ Dropbox มีสารพัดแพลตฟอร์ม ซึ่งตรงนี้อาจต้องให้เวลากับ YouSendIt สักหน่อย
บริการฝากไฟล์ของ YouSendIt ให้บริการฟรีสำหรับ 2GB แรก ใครอยากหาที่เก็บไฟล์อื่นๆ ก็ไปใช้กันได้ ส่วนแบบคิดเงิน มีแพกเกจเดือนละ 9.99 ดอลลาร์ สำหรับพื้นที่ 5GB (แพงกว่า Dropbox ซึ่งจ่ายเท่ากันได้ 50GB) แต่แพกเกจที่น่าสนใจกว่าคือ 14.99 ดอลลาร์กับพื้นที่ไม่จำกัด - รายละเอียด
มีคนค้นพบว่า SSD ของ Macbook Air รุ่นใหม่บางเครื่องมีความเร็วช้ากว่าบางเครื่อง เนื่องจากมีการไช้ SSD จากทั้ง Samsung และ Toshiba
โดยทาง Engadget ทดสอบดูพบว่าเครื่องรุ่นเก่าที่ใช้ Samsung SSD ขนาด 256GB สามารถเขียนได้ที่ความเร็ว 214 MB/s และอ่านได้ที่ความเร็ว 251 MB/s
ส่วนเครื่องรุ่นใหม่ที่ใช้ Toshiba SSD ขนาด 128 GB สามารถเขียนได้ที่ความเร็ว 184 MB/s และอ่านได้ที่ความเร็ว 203 MB/s
ที่มา Engadget
Backblaze เป็นบริษัทเก็บข้อมูลแบบกลุ่มเมฆที่ขึ้นชื่อว่าทำราคาได้ถูกมากจากการสร้างไฟล์เซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเองแล้วกดทุกอย่างจนมีต้นทุนต่ำสุด นอกจากให้บริการแล้วบริษัทนี้ยังเปิดเผยการออกแบบ Storage Pod ของตัวเองที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลได้ขนาดใหญ่มาก (รุ่นที่แล้วมีความจุ 67 เทราไบต์ต่อเซิร์ฟเวอร์ 4U) และวันนี้ก็มีการเปิดเผย Storage Pod 2.0 ที่มีความจุรวม 135 เทราไบต์ในต้นทุน 7,384 ดอลลาร์หรือ 220,000 บาท
รายการฮาร์ดแวร์ชิ้นสำคัญเช่น
ใครคิดจะซื้อ SSD ใช้งานช่วงนี้อาจจะต้องระวังกันสักหน่อยเมื่อผู้ใช้จำนวนหนึ่งพบปัญหาว่าอยู่ดี Intel SSD ตระกูล 320 ไม่ว่าจะขนาดเท่าใหร่ก็ลดขนาดตัวเองเหลือ 8MB ได้ ปัญหานี้จะเกิดขึ้นหากปิดเครื่องอย่างผิดปรกติเช่นไฟดับ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถอ่านข้อมูลอื่นๆ ออกมาได้
ผู้ใช้บางส่วนระบุว่าสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการใช้เครื่องมือของอินเทลเองในการล้างข้่อมูลทั้งหมดแต่ก็จะทำให้ข้อมูลหายไปทันที
ปัญหานี้น่าจะแก้ได้ด้วยการอัพเกรดเฟิร์มแวร์เพียงอย่างเดียว โดยเฟิร์มแวร์รุ่นที่แก้ปัญหาแล้วน่าจะส่งถึงลูกค้าภายในสิ้นเดือนนี้
ระหว่างนี้ถ้าใครใช้ก็อาจจะต้องเปิดปิดเครื่องอย่างระวัง และสำรองข้อมูลกันบ่อยๆ
ซีเกตเปิดตัวฮาร์ดดิสก์ 2.5 นิ้ว Momentus Thin ซึ่งมีความหนา 7 มิลลิเมตร ความจุสูงสุด 320GB อัตราหมุน 7,200rpm สำหรับใช้ในแท็บเล็ต ซึ่งปัจจุบันแท็บเล็ตนั้นใช้ SSD เป็นหน่วยความจำหลักแต่มีข้อจำกัดบางอย่างเช่นขนาดความจุ
แท็บเล็ตรุ่นแรกที่จะใช้ฮาร์ดดิสก์นี้คือ Archos G9 แท็บเล็ตซีพียู dual-core 1.5GHz โดยใส่ฮาร์ดดิสก์ความจุ 250GB วางราคาขายไว้ $279 สำหรับขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว และ $349 สำหรับ 10 นิ้ว
ที่มา: ซีเกต
คุณ Brian Hall ผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Internet Explorer และ Windows Live ได้กล่าวในงานประชุมสัมมนาแห่งหนึ่งว่า ไมโครซอฟท์ต้องการเปลี่ยนบริการ SkyDrive (บริการจัดเก็บไฟล์ในกลุ่มเมฆ ที่ให้เนื้อที่ฟรี 25 กิกะไบต์ของหนึ่งบัญชีผู้ใช้) เป็นแอพพลิเคชันหนึ่งโดยพยายามไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของบริการ SkyDrive อาทิ SkyDrive แอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ที่ให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูไฟล์ที่จัดเก็บไว้ ทั้งรูปภาพ ไฟล์เอกสาร ได้ทันที
คุณ Hall ยังกล่าวถึง Internet Explorer 10 ที่ไมโครซอฟท์นำเสนอในการพรีวิว Windows 8 ด้วยว่า บริษัทไม่ได้นำเสนอมันในฐานะแค่เบราว์เซอร์เท่านั้น แต่ยังนำเสนอมันในฐานะเป็นตัวเรนเดอร์ให้กับแอพพลิเคชันที่รันบน Windows 8 อีกด้วย
ช่วงต้นปีนี้ ยักษ์ใหญ่ของวงการ์ฮาร์ดดิสก์ทั้ง Seagate และ Western Digital ต่างควบกิจการผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายเล็กเข้ามา ย้อนข่าวเก่า
การควบกิจการทั้งสองกรณีทำให้ Seagate และ Western Digital กลายเป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่มากของตลาด (40% และ 50% ตามลำดับ) แต่เรื่องก็ไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะคณะกรรมการยุโรปกำลังเข้าสอบสวนการซื้อกิจการทั้งสองกรณี ว่าเข้าข่ายผูกขาดตลาดหรือไม่
ผมได้เมลจากประชาสัมพันธ์ของ Kingston ประเทศไทย คิดว่าน่าสนใจเพราะกระแส USB 3.0 กำลังมาแรง เลยนำมาลงหน่อยนะครับ
ข่าวแบบสรุปๆ คือเจ้าพ่อแห่ง thumbdrive อย่าง Kingston เริ่มวางขายไดร์ฟ USB 3.0 ในประเทศไทยแล้ว โดยใช้ชื่อรุ่นว่า DataTraveler Ultimate 3.0 Generation 2 (DTU30G2) มีให้เลือก 3 ความจุคือ 16GB, 32GB, 64GB
ถ้าเชื่อมกับพอร์ต USB 3.0 จะได้ความเร็วในการอ่าน 100MBps ซึ่งสูงกว่า USB 2.0 ที่ 30MBps อยู่หลายเท่า ในเอกสารที่ได้ไม่ระบุราคา ใครสนใจก็คงต้องเดินสำรวจตลาดกันเองครับ
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์จาก Kingston
The Wall Street Journal รายงานว่าซัมซุงมีแผนจะขายธุรกิจฮาร์ดดิสก์ออกไปเพื่อนำเงินสดไปลงทุนในธุรกิจกลุ่มอื่น โดยซัมซุงเล็งขายธุรกิจส่วนนี้ออกไปในมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ แต่ดีลอาจจบลงที่มูลค่าไม่เกิน 1 พันล้านดอลลาร์ โดยซีเกทน่าจะเป็นผู้ซื้อกิจการส่วนนี้ไปจากซัมซุง
ถ้าหากดีลนี้เป็นตามข่าว จะทำให้ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ในตลาดเหลือเพียงแค่ 3 รายคือ โตชิบา ซีเกท และ Western Digital (ที่เพิ่งซื้อฮิตาชิไป) โดยจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10%, 40% และ 50% ตามลำดับ
ปัจจุบันซัมซุงมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจฮาร์ดดิสก์ประมาณ 11% และยังเป็นส่วนธุรกิจที่ขาดทุนของซัมซุง
Delkin บริษัทผลิตอุปกรณ์เสริมของกล้องดิจิตอล ได้ออก SDHC card ใช้ชื่อว่า Elite 633 ขนาด 32 GB โดยทาง Delkin บอกว่า "ไวที่สุดในโลก" อ่านข้อมูลที่ความเร็ว 95 MB/s เขียนข้อมูลที่ความเร็ว 80 MB/s โดยไวกว่า Memory Sticks ของทาง Sony ที่พึ่งออกมาไม่นานมานี้ซึ่งมีความเร็ว 50 MB/s SDHC card ตัวนี้ก็เหมาะสำหรับผู้ที่ถ่ายวีดีโอ 1080p, หนังสามมิติ, รูปภาพความละเอียดสูง
ราคาขายคือ 440 ดอลลาร์ (ประมาณ 13,200 บาท)
ที่มา - Engadget
Seagate ออกผลิตภัณฑ์ฮาร์ดดิสก์แบบต่อภายนอกรุ่นใหม่ GoFlex Slim ซึ่งมีจุดขายที่ความบางเพียง 0.9 ซม. เท่านั้น (บางกว่า GoFlex ultra–portable รุ่นพกพาที่ขายในปัจจุบันอยู่ 38%)
GoFlex Slim ทำงานที่ 7,200 RPM, เชื่อมต่อแบบ USB 3.0, มีให้เลือกขนาดเดียวคือ 320GB ขายราคา 99.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ผมไม่แน่ใจว่าบ้านเราเข้ามาขายหรือยังนะครับ) ในสหรัฐยังจะมีรุ่น HFS+ ที่ใช้กับแมคโดยเฉพาะ และขายในร้าน Apple Store ด้วย
เป็นข่าวการควบกิจการระหว่างบริษัทลูกของ EMC ด้วยกันครับ เมื่อยักษ์แห่งวงการ virtualization อย่าง VMware ประกาศดูดกิจการ (จะเรียกว่าซื้อก็คงไม่ได้) บริษัท Mozy ซึ่งเป็นลูกของ EMC เหมือนกัน
Mozy เป็นบริษัทสำรองข้อมูลออนไลน์ (ลักษณะเดียวกับ Dropbox) ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ 1 ล้านราย และลูกค้าส่วนมากเป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ทีมงานเดิมของ Mozy จะกลายเป็นพนักงานของ VMware และเทคโนโลยีหลายๆ อย่างของ Mozy จะถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ของ VMware ต่อไป ส่วนบริการสำรองข้อมูลของ Mozy ก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
อินเทลเปิดตัว SSD รุ่นที่สามสำหรับตลาดคอนซูเมอร์ 320 Series ซึ่งจะมาแทนรุ่น X-25M ของเดิม
Intel SSD 320 Series จะใช้กระบวนการผลิตที่ 25 นาโนเมตร (510 Series รุ่นท็อปที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ ผลิตที่ 34 นาโนเมตร) การเชื่อมต่อจะผ่าน SATA II สูงสุด 3Gbps, ความเร็วในการอ่าน 270MBps, ความเร็วในการเขียน 220MBps
320 Series มีให้เลือกตั้งแต่ 40GB, 80GB, 120GB, 160GB, 300GB และ 600GB ที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นราคาที่บางความจุถูกกว่ารุ่นเดิมถึง 30% (บางความจุอาจลดราคาลงไม่ถึง 30%) รุ่นถูกที่สุด 40GB ขาย 89 ดอลลาร์ต่อการสั่งซื้อ 1,000 ตัว
Seagate เปิดตัว SSD รุ่น Pulsar.2 สำหรับ SSD ที่มีขนาดใหญ่ และ Pulsar XT.2 สำหรับการใช้ SSD ความเร็วสูง พร้อมกับ HDD สำหรับองค์กร คือ Savvio และ Constellation
SSD นั้นตัว Pulsar.2 จะมีขนาดสูงสุด 800GB โดยทั้งหมดจะเป็นดิสก์แบบ 2.5" SATA 3.0 SAS โดยมีอัตราการเสียต่อปี (annualised failure rate - AFR) อยู่ที่ 0.44% ต่อปีและอายุการใช้งานเฉลี่ย 2 ล้านชั่วโมง สำหรับรุ่น Pulsar XT.2 นั้นจะมีขนาดสูงสุดที่ 400GB โดยมีความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 360MB/s และเขียน 300MB/s สามารถทำ IOPS ได้ 48,000 read IOPS และ 22,000 write IOPS
วงการสื่อเก็บข้อมูลถึงคราวสะเทือนอีกครั้ง เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Western Digital เข้าซื้อกิจการ Hitachi GST (ย่อมาจาก Hitachi Global Storage Technologies) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Hitachi ที่ผลิตฮาร์ดดิสก์ (ซึ่งเคยเป็นฝ่ายฮาร์ดดิสก์ของ IBM มาอีกทีหนึ่ง)
การเข้าซื้อครั้งนี้มีมูลค่า 4.25 พันล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นเงินสด 3.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เหลือเป็นหุ้นของ Western Digital
ไมโครซอฟท์ออกมาอวดความสำเร็จของ Windows Live Mesh บริการซิงก์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ของตัวเอง (ซึ่งชื่อเรียกสับสนมาก - ข่าวเก่า) ว่าตอนนี้มีอุปกรณ์มาเชื่อมต่อแล้ว 5 ล้านชิ้น, ผู้ใช้งาน 3 ล้านบัญชี, แลกเปลี่ยนข้อมูลไปแล้ว 2.2 เพตะไบต์
ตัวเลขทั้งหมดนับจากเดือนกันยายน 2010 ส่วนบริการคู่กันอีกตัวคือ SkyDrive ซึ่งเป็น cloud storage บนเว็บมีผู้ใช้จำนวน 70 ล้านคน
ผมไม่เคยใช้ก็คงให้ความเห็นไม่ถูกครับ (ว่าแต่ทำไมไม่รวม Mesh กับ SkyDrive เป็นตัวเดียวไปเลยละเนี่ย)
หลังการอัพเกรดซีพียูและชิปเซ็ต วันนี้ก็ถึงรอบของการอัพเกรด SSD ของอินเทลที่เริ่มรองรับมาตรฐาน SATA 3.0 หรือที่เราเรียกว่า SATA-6 เพราะมีความเร็วสูงสุดที่ 6Gbps
Intel SSD 510 ผลิตที่กระบวนการ 34 นาโนเมตร ทำความเร็วในการอ่านได้สูงสุด 500MB/s และความเร็วในการเขียน 315MB/s
ราคาขายที่ล็อต 1,000 ตัวคือ 584 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 250GB และ 284 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 120GB
ที่มา - Intel
หลังจากที่ทาง Apple และ Intel ได้เปิดตัวพอร์ต Thunderbolt ลงใน MacBook Pro รุ่นใหม่ หลายคนอาจจะมีคำถามว่าใส่พอร์ตมาแล้วจะเอาพอร์ตมาใช้กับอะไร ทาง Promise ผู้ผลิตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจึงได้เปิดตัว DAS (Direct Attached Storage) รุ่น Pegasus ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต Thunderbolt สำหรับเครื่องแมคโดยเฉพาะเป็นเจ้าแรก
โดยจุดเด่นคราว ๆ มีดังนี้
แม้ SSD จะมีข้อดีหลายประการที่เหนือกว่าฮาร์ดดิสก์ แต่ผลวิจัยล่าสุดชี้ว่าการ "ล้างข้อมูล" ออกจาก SSD ทำได้ยากกว่าฮาร์ดดิสก์มาก ซึ่งส่งผลต่อการนำ SSD ไปเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญสูงอย่างแน่นอน
กลุ่มนักวิจัยจาก University of California at San Diego ได้ทดสอบ SSD จำนวน 12 รุ่น พบว่ามีเพียง 8 รุ่นที่รองรับคำสั่ง "ERASE UNIT" สำหรับลบข้อมูลแบบหมดจด (กู้คืนไม่ได้) และจากการทดสอบจริง มีเพียง 4 รุ่นที่ลบได้สำเร็จ
ฮาร์ดดิสก์ลูกผสม Seagate Momentus XT ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากตลาด เพราะผสมความเร็วของ SSD กับราคาถูกของฮาร์ดดิสก์แบบเดิมเข้าด้วยกัน ตัวเลขของ Seagate เองระบุว่าขายได้ถึง 350,000 ตัว
แต่ใช้กันมาได้สักพัก ก็มีผู้ใช้รายงานปัญหาของ Momentus XT กันเป็นจำนวนมาก จุดที่เป็นปัญหาหลักคือ Advanced Power Management (APM) ที่ออกแบบมาให้หมุนจานฮาร์ดดิสก์ใช้ช้าลง (spin down) เพื่อประหยัดพลังงาน แต่ Seaagate กลับตั้งค่าให้มัน spin up/down บ่อยเกินไป ผู้ใช้รายหนึ่งรายงานว่าเดือนแรกมีจำนวน spin up/down ถึง 65,000 ครั้ง
อิลเทลปล่อยซอฟต์แวร์ Open Fiber Channel over Ethernet หรือ Open FCoE ที่ช่วยให้การ์ดอีเธอร์เน็ตธรรมดาสามารถรองรับโปรโตคอล Fiber Channel ได้ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการการเชื่อมต่อ SAN กับเครือข่ายทั่วไปเข้าเป็นเครือข่ายแบบเดียวกัน
Open FCoE จะย้ายงานประมวลผลโปรโตคอล Fiber Channel ไปอยู่บนซีพียูแทนที่จะเป็นชิปพิเศษแบบการ์ด Fiber Channel แบบเดิม โดยอินเทลอ้างว่าการรวมเครือข่ายสำหรับการเก็บข้อมูลมาวิ่งบนอีเธอร์เน็ตนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานลง 29%, ค่าพลังงาน 50%, และค่าสายเคเบิลอีก 80%
ในบทความ The New Dawn of Computing ผมได้เขียนถึงปัญหาการแชร์ข้อมูลกันเองระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่รอบตัว (ข้อ 4 ในบทความ) เวลาผ่านมาไม่นานเท่าไร RealNetworks บริษัทที่หลายๆ คนลืมกันไปแล้ว ได้ตอบโจทย์นี้ด้วยผลิตภัณฑ์ชื่อ Unifi
อธิบายง่ายๆ Unifi จะทำงานคล้ายกับ Dropbox แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว อุปกรณ์ต่างๆ ของเราไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต พีซี ฯลฯ จะต้องลงโปรแกรม Unifi จากนั้นโปรแกรมจะทำ "รายการไฟล์" ของแต่ละเครื่อง แล้วส่งไปเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ของ Unifi บนอินเทอร์เน็ต
กล้องถ่ายภาพรุ่นหลังๆ แม้จะมีจำนวนพิกเซลน้อยลงแต่กลับเพิ่มความสามารถด้านวีดีโอเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้พื้นที่เก็บไฟล์ไม่พอกันอีกครั้ง ล่าสุด Lexar ก็เปิดตัวการ์ด SDXC ขนาด 128GB แล้วในราคา 699.99 ดอลลาร์ หรือ 21,000 บาท นับเป็นการ์ด SD รุ่นแรกที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้
ตัวการ์ดทำงานที่ความเร็ว 133x หรือความเร็วสูงสุด 20MB/s หากใครต้องการความเร็วแต่งบไม่พออาจจะเลือกรุ่น 64GB ที่ความเร็วเท่ากันแต่ขนาดเหลือครึ่งเดียวที่ราคา 399.99 ดอลลาร์หรือ 12,000 บาท
แพงกว่าโน้ตบุ๊กทั้งเครื่องของผู้อ่านหลายๆ คน แต่สำหรับคนใช้งานจริงจังคงไม่มีปัญหา
ที่มา - DPReview
บางท่านอาจเคยได้ยินเรื่องแปลกๆ ของนักวิจัยที่พยายามให้แบคทีเรียเล่นเกม Sudoku หรือองค์การนาซ่าที่ค้นพบแบคทีเรียที่บริโภคสารหนูเป็นอาหารมาแล้ว แต่คราวนี้นักวิจัยของ University of Hongkong สามารถทดลองนำข้อมูล 90 GB ไปบรรจุอยู่ในดีเอ็นเอของแบคทีเรีย E.Coli จำนวน 18 ตัวเป็นผลสำเร็จ แถมยังเข้ารหัสลับข้อมูลในนั้นผ่านกระบวนการ genetic recombination ของแบคทีเรียที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอีกด้วย