Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited
เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว TSMC ประกาศตั้งโรงงานผลิตชิปที่รัฐแอริโซนา ล่าสุด Nikkei Asian Review รายงานว่าโรงงานใหม่ของ TSMC อาจไม่เสร็จตามแผน โดยคาดว่าจะล่าช้าราว 3-6 เดือน
ปัญหาที่ทำให้โรงงานผลิตชิป TSMC เสร็จไม่ทันตามกำหนดเนื่องจากการขาดแคลนแรงงาน รวมถึง COVID-19 และปัญหาการขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงงาน โดยตามคาดการณ์ตอนแรกโรงงานแห่งใหม่น่าจะก่อสร้างเสร็จได้ภายในเดือนกันยายนปีนี้ แต่จากรายงานล่าสุดระบุว่าอาจจะเสร็จต้นปี 2023
เว็บไซต์ DigiTimes รายงานว่า TSMC เริ่มแจ้งลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทแล้วว่าค่าชิปที่ผลิตอาจแพงขึ้นได้ถึง 20% จากปัจจัยต่างๆ เช่นความขาดแคลนที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 ราคาวัตถุดิบ ไปจนถึงค่าขนส่ง
อีกสาเหตุสำคัญน่าจะเป็นเพราะ TSMC ใช้อุปกรณ์หลายชนิดที่มาจากบริษัท ASML ซึ่งโรงงานของ ASML ที่เบอร์ลิน เพิ่งเกิดไฟไหม้ ไปช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้อุปกรณ์ lithography สำหรับพิมพ์ชิปบางส่วนเกิดความล่าช้า ส่งผลกับการขยายกำลังการผลิตและราคา ที่น่าจะไม่ใช่แค่ช่วงสั้นๆ
ญี่ปุ่นเตรียมลงทุน 6 แสนล้านเยน (ราว 1.78 แสนล้านบาท) ให้กับบริษัทผลิตชิปจากทั้งไต้หวัน สหรัฐฯ และของญี่ปุ่นเอง เป็นการทยอยให้เป็นเวลาหลายปี พร้อมเงื่อนไขว่าต้องเพิ่มกำลังการผลิตหากชิปขาดแคลน เพื่อรักษาซัพพลายของชิปในประเทศ
เงิน 6 แสนล้านเยนนี้ แบ่งเป็น 4 แสนล้านเยนที่จะลงทุนให้ TSMC ตั้งโรงงานใหม่ที่จังหวัดคุมาโมโตะ อีก 2 แสนล้านเยน สำหรับบริษัทผลิตชิปจากสหรัฐฯ Micron Technology ที่เพิ่งซื้อโรงงานผลิตชิปของ Elpida Memory ที่ฮิโรชิม่าเพื่อตั้งโรงงานผลิต DRAM และ Kioxia Holdings ที่เป็นผู้ผลิตชิป NAND รายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งกำลังตั้งโรงงานแห่งใหม่ในหลายเมือง
มีรายงานจาก The Information ว่าแอปเปิลเตรียมแผนงานสำหรับชิป Apple Silicon ที่ใช้ใน Mac โดยมองข้ามไปถึงรุ่นที่ 3 แล้ว
ปัจจุบันแอปเปิลมีชิปที่ใช้ใน Mac ได้แก่ M1, M1 Pro และ M1 Max ทั้งหมดเป็นชิป 5 นาโนเมตร ส่วนในแผนสำหรับรุ่นที่ 2 แอปเปิลยังใช้ชิป 5 นาโนเมตร แต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และอาจเพิ่มขนาดสำหรับเดสก์ท็อปที่สามารถใส่ชิปที่ใหญ่ขึ้นได้เช่น Mac Pro
ส่วนชิปรุ่นที่ 3 นั้น รายงานบอกว่าแอปเปิลเริ่มเตรียมแผนการผลิตกับ TSMC แล้ว จะเป็นชิป 3 นาโนเมตร สเป็กอาจมีถึง 40 คอร์ซีพียู มีโค้ดเนมภายในคือ Ibiza, Lobos และ Palma กำหนดเปิดตัวเร็วที่สุดในปี 2023
ที่มา: 9to5Mac
วิกฤตชิปขาดแคลน ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงในเร็วๆ นี้ ล่าสุดรัฐบาลอินเดียเตรียมพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ปั้นกองทุนสนับสนุนการลงทุนมูลค่าหลักพันล้าน เพื่อดึงดูด TSMC, Intel, AMD, Fujitsu และ United Microelectronics Corp. ให้มาตั้งโรงงานในประเทศ หลังบริษัทผลิตชิปหลายบริษัทเริ่มมองหาฐานผลิตในประเทศอื่นเพิ่มเติมนอกจากประเทศจีน
แผนงานนี้เป็นการกำกับดูแลตรงจากสำนักนายกรัฐมนตรี (Prime Minister’s Office) ร่วมกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักข่าว Times of India ระบุแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนว่ารัฐบาลอินเดียพร้อมที่จะลงเงินสนับสนุนแบบเต็มที่ และพร้อมที่จะยืดระยะโครงการ PLI (Production linked incentive) ที่เพิ่มเงินสนับสนุนให้กับบริษัทที่ตั้งฐานการผลิตในประเทศ
TSMC ยืนยันข่าวการตั้งโรงงานผลิตชิปที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว โดยซีอีโอ C.C. Wei แจ้งกับนักลงทุนว่าโรงงานใช้กระบวนการผลิตขนาด 22 และ 28 นาโนเมตร รองรับงานได้หลายประเภท เช่น เซ็นเซอร์ภาพหรือไมโครคอนโทรลเลอร์ การก่อสร้างจะเริ่มในปี 2022 และเดินสายผลิตจริงในปี 2024
TSMC ไม่ได้แจ้งตัวเลขมูลค่าของโรงงานนี้ (บอกแค่ว่าไม่ได้นับรวมในแผนลงทุนก้อนใหญ่ 1 แสนล้านดอลลาร์ที่ประกาศไปเมื่อต้นปี) และไม่ได้พูดถึงว่าเป็นการร่วมลงทุนกับโซนี่ตามที่เป็นข่าวด้วยหรือไม่ แต่ปกติแล้ว TSMC จะเป็นเจ้าของโรงงานเอง 100%
ท่ามกลางวิกฤตชิปขาดตลาดยาวนาน บริษัทที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้ย่อมเป็น TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co.) ในฐานะโรงงานผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในทำให้หลายๆ ประเทศเชิญชวนให้ TSMC ไปตั้งโรงงานในแผ่นดินของตัวเอง
ประเทศล่าสุดที่กำลังจะชวน TSMC มาอยู่ด้วยสำเร็จคือญี่ปุ่น ที่ TSMC กำลังหารือกับ Sony Group เพื่อตั้งโรงงานผลิตชิปมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ที่จังหวัดคุมาโมโต้ ตอนนี้ยังไม่มีข่าวประกาศอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ในปี 2024
แม้ยังเป็นโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 20 นาโนเมตร แต่ก็จะตอบโจทย์อุตสาหกรรมรถยนต์และการผลิต ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ชิปขนาดเล็กที่สุด แต่ประสบปัญหาขาดแคลนชิปจนต้องหยุดสายการผลิตกันบ้างแล้ว
หนังสือพิมพ์ไต้หวัน Liberty Times ระบุว่า TSMC เริ่มส่งประกาศแจ้งลูกค้าว่าจะขึ้นราคาค่าจ้างผลิตชิป 7nm และสูงกว่านั้นรวดเดียว 20% ส่วนค่าจ้างผลิตชิปเทคโนโลยีชั้นสูงที่ละเอียดกว่า 7nm จะขึ้นราคา 8%
การขึ้นราคาครั้งนี้มีผลกับคำสั่งซื้อใหม่เท่านั้น โดยทั่วไปแล้วการสั่งผลิตชิปมักสั่งกันล่วงหน้าหลายเดือนหรือนับปี
ข้อมูลจาก Liberty Times ไม่ละเอียดนัก ว่าสายการผลิตใดขึ้นราคาเท่าใด โดยก่อนหน้านี้ DigiTimes รายงานว่ากระบวนการผลิตแบบ 16nm หรือต่ำกว่าจะขึ้นราคา 10% ในปี 2022
อินเทลยืนยันข่าวจีพียูตัวใหม่ Intel Arc จะจ้าง TSMC ผลิต ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ IDM 2.0 ที่มีทั้งการจ้างคนอื่นผลิต และเปิดโรงงานของตัวเองรับจ้างผลิตให้คนอื่น
ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะจีพียูเซิร์ฟเวอร์รหัส Ponte Vecchio (Xe-HPC) ก็มีบางส่วนที่จ้าง TSMC ผลิตอยู่ก่อนแล้ว การที่ Intel Arc (Xe-HPG) จะจ้าง TSMC ผลิต "ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่ง" (significant elements) ก็ไปในทิศทางเดียวกัน กระบวนการผลิตมีทั้งแบบ 5 และ 6 นาโนเมตร (N6/N5)
TSMC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้รวม 3.72 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (4.35 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 19.8% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1.34 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่
Wendell Huang ซีเอฟโอของ TSMC กล่าวว่าผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาเติบโตสูงจากความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้น ในกลุ่มธุรกิจ HPC (High Performance Computing) และกลุ่มยานยนต์ ส่วนไตรมาสปัจจุบันความต้องการชิปยังคงสูงจาก 4 กลุ่มหลักคือ HPC, IoT, ยานยนต์ และสมาร์ทโฟน
ด้าน C.C. Wei ซีอีโอ TSMC กล่าวว่าบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตชิปสำหรับกลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน ทำให้ลดปัญหาการขาดแคลนชิปของลูกค้ากลุ่มนี้ได้พอสมควรในไตรมาสปัจจุบัน
Foxconn และ TSMC แถลงว่าเจรจาซื้อวัคซีน COVID-19 จาก Pfizer เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยลงนามซื้อผ่าน Shanghai Fosun Pharmaceutical Group ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของ BioNTech ในภูมิภาค สัญญาซื้อวัคซีนทั้งหมด 10 ล้านโดส รวมมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท สองบริษัทแบ่งกันจ่ายคนละครึ่ง
แก้ไข: เวอร์ชั่นแรกของบทความนี้ระบุว่าเป็นการสั่งซื้อ 20 ล้านโดส เมื่อตรวจสอบพบว่ายอดรวมสองบริษัทคือ 10 ล้านโดส
วัคซีนทั้งหมดจะมาจากโรงงานของ BioNTech ในเยอรมัน คาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ภายใต้สิ้นเดือนกันยายน แต่ทาง Fosun ก็เตือนว่ากำหนดการที่แท้จริงนั้นขึ้นกับเงื่อนไขอีกหลายอย่าง
Nikkei Asia อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่า Intel และ Apple กำลังทดสอบผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรของ TSMC คาดเริ่มผลิตสำหรับการค้าได้ภายในครึ่งหลังของปี 2022 โดย TSMC ระบุว่าเทคโนโลยยี 3 นาโนเมตร นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ 10% และลดการใช้พลังงานลง 25-30%
แหล่งข่าวระบุว่าว่าชิปที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร จะถูกใช้กับ iPad ก่อน เนื่องจากกำลังผลิตยังไม่เพียงพอสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple
TSMC เริ่มติดต่อรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เพื่อขอซื้อวัคซีนหลังจากเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมารัฐบาลไต้หวันเห็นชอบให้ทั้ง TSMC และ Foxconn เป็นตัวแทนรัฐบาลเจรจาซื้อวัคซีนจาก Pfizer รวม 10 ล้านโดส
ทั้งสองบริษัทพยายามจัดหาวัคซีนด้วยตัวเองเพื่อมาฉีดให้พนักงานและครอบครัวระยะหนึ่งแล้ว แต่ระบุว่าจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มรูปแบบ และหลังจากเข้าพูดคุยกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน คณะรัฐมนตรีไต้หวันก็ประกาศอนุญาตให้ทั้งสองบริษัทเป็นตัวแทนรัฐบาลจัดหาวัคซีนเป็นทางการ
C.C. Wei ซีอีโอของ TSMC ให้ข้อมูลว่าเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตชิปขนาด 5 นาโนเมตรในรัฐแอริโซนาแล้ว โรงงานจะเสร็จและพร้อมเดินเครื่องผลิตชิปในปี 2024
TSMC ประกาศตั้งโรงงานที่แอริโซนาตั้งแต่กลางปี 2020 สอดคล้องกับทิศทางของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์อื่นๆ ที่ขยายการตั้งโรงงานในสหรัฐอเมริกา เช่น ซัมซุง และอินเทล และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการนำโรงงานผลิตชิปกลับมาอยู่บนแผ่นดินอเมริกา
Wei ยังบอกว่าการผลิตชิป 3 นาโนเมตรที่โรงงาน Fab 18 ในไต้หวันยังเดินหน้าตามกำหนดเดิม คือช่วงครึ่งหลังของปี 2022
Nikkei Asia มีบทความประเมินสถานการณ์ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุง ที่ตามหลังคู่แข่ง TSMC และช่องว่างเริ่มถ่างออกเรื่อยๆ
ปัญหาของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงเกิดจากหลายสาเหตุประกอบกัน เช่น ภัยธรรมชาติ (โรงงานในเท็กซัสต้องปิดเพราะปัญหาไฟดับเป็นวงกว้าง), การเปิดโรงงานใหม่ในเกาหลีใต้ล่าช้า ทำให้ซัมซุงตามหลัง TSMC ในเรื่องการผลิต 5nm ไปหลายเดือน
บริษัทผลิตอุปกรณ์ไอทีต่างลดกำลังการผลิต ซึ่งเป็นผลกระทบจากปรากฏการณ์ชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดตลาด กระทบทั้งสายการผลิตตั้งแต่รถยนต์ ไปจนถึงเครื่องปิ้งขนมปัง ล่าสุด Chuck Robbin ซีอีโอ Cisco บอกว่า วิกฤตินี้จะอยู่กับเราไปอีก 6 เดือน แต่หลังจากนั้นจะดีขึ้นในช่วง 12-18 เดือน เพราะบริษัทเทคโนโลยีต่างเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและพัฒนา
TSMC เตรียมสู้ภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีในไต้หวัน หลังรัฐสั่งลดการใช้น้ำเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยการสร้างโรงบำบัดน้ำเสียที่เมืองไถหนาน เมืองที่มีโรงงานผลิตชิปสถาปัตยกรรม 5nm สำหรับ iPhone และ Macbook ของบริษัท เพื่อนำน้ำเสียจากกระบวนการอุตสาหกรรมกลับมาใช้ซ้ำในกระบวนการผลิต
TSMC ระบุว่าโรงงานนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2021 และจะบำบัดน้ำกลับมาใช้ได้ถึง 67,000 ตัน ภายในปี 2024 หรือเกือบครึ่งของความต้องการใช้น้ำต่อวันในกระบวนการผลิตชิปของ TSMC ที่อยู่ที่ราวๆ 156,000 ตันเลยทีเดียว
วิกฤติชิปขาดตลาดกระทบหลายอุตสาหกรรม ที่ผู้อ่าน Blognone เห็นได้ชัดน่าจะเป็นชิปกราฟิกที่หาซื้อแทบไม่ได้ในช่วงหลัง ในงานแถลงข่าวกับนักวิเคราะห์ C.C. Wei ซีอีโอของ TSMC ก็คาดว่าความต้องการสินค้าจะสูงต่อไป และเขาหวังว่า TSMC จะเพิ่มกำลังผลิตให้ทันความต้องการได้ในปี 2023
Wei ระบุว่าตอนนี้โรงงานของ TSMC เดินหน้าผลิตเกิน 100% ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ก่อนหน้านี้ TSMC เคยประกาศลงทุนแสนล้านดอลลาร์เพื่อตั้งโรงงานเพิ่ม แม้จะยังไม่ระบุว่าจะตั้งโรงงานที่ใดบ้าง แต่ในการแถลงครั้งนี้ Wei ก็ระบุว่ากำลังผลิตหลักและส่วนวิจัยและพัฒนาจะยังคงอยู่ในไต้หวัน ส่วนโรงงานในสหรัฐฯ นั้นจะเริ่มก่อสร้างปีหน้า
TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน ออกข่าวว่าจะลงทุนจำนวนมากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ (3 ล้านล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปในอีก 3 ปีข้างหน้า ตอบสนองปัญหาชิปขาดตลาดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้ TSMC เคยลงทุนโรงงานมูลค่า 12 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกาไปแล้ว และระบุว่าจะลงทุนเป็นเงิน 25-28 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 นี้ แต่ดูยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องโรงงานผลิตชิปในระยะยาวได้ จึงต้องเพิ่มเม็ดเงินลงทุนเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ TSMC ยังไม่ประกาศแผนว่าจะตั้งโรงงานใหม่ที่ไหนบ้าง
ฝั่งของอินเทลเองเพิ่งออกมาประกาศลงทุน 20 พันล้านดอลลาร์ตั้งโรงงานใหม่ในสหรัฐอเมริกา
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว ปัญหาที่ทุกคนสงสัยคงเป็นว่าทำไมอินเทลติดหล่ม 14 นาโนเมตรอยู่หลายปี มาถึงวันนี้ (ต้นปี 2021) ยังก้าวไม่ถึง 10 นาโนเมตรได้สมบูรณ์ 100% เลยด้วยซ้ำ แถมแผนการผลิตชิป 7 นาโนเมตรก็ล่าช้ากว่ากำหนด
ในทางกลับกัน คู่แข่งสายโรงงานผลิตชิปทั้ง TSMC และซัมซุง สามารถผลิตชิประดับ 7 นาโนเมตรได้ก่อนแล้วหลายปี (Radeon VII ที่ผลิตโดย TSMC 7nm ออกต้นปี 2019) ตอนนี้ยังเริ่มผลิตชิปที่ 5 นาโนเมตรได้แล้ว
อะไรคือความแตกต่างระหว่างอินเทลกับคู่แข่ง คำตอบของคำถามนี้ต้องย้อนไปดูพัฒนาการของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กันก่อน
ตอนนี้ไต้หวันกำลังประสบปัญหาระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงต่ำเข้าขั้นวิกฤติ ทำให้รัฐบาลเริ่มสั่งลดปริมาณการใช้น้ำในหลายเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตชิปของทั้ง TSMC และ UMC ที่กำลังประสบปัญหาผลิตชิปให้อุตสาหกรรมไอทีและรถยนต์ไม่ทัน
TSMC เคยเปิดเผยว่าใช้น้ำวันละ 156,000 ตันต่อวันในกระบวนการผลิตชิป โดยถึงแม้ TSMC จะมีการนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอยู่แล้วในกระบวนการ อย่างในปี 2019 บริษัทเผยว่าได้รียูสน้ำในกระบวนการผลิตราว 86.7% ของน้ำที่ใช้ทั้งหมด แต่บริษัทก็เกรงว่าหากสถานการณ์ฝนยังไม่ดีขึ้นภายในเดือนพฤษภาคม ปัญหาใหญ่จะตามมาแน่นอน
Nikkei รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดกับโปรเจ็คว่าแอปเปิลกำลังพัฒนาหน้าจอ micro OLED แบบใหม่ร่วมกับ TSMC ที่น่าสนใจคือวัสดุตั้งต้นของจอจะไม่ใช่กระจกเหมือนจอที่ผ่านมา แต่เป็นแผ่นเวเฟอร์ที่ใช้สำหรับผลิตชิป
วิธีนี้ Nikkei บอกว่าจะทำให้หน้าจอบางกว่า เล็กกว่าและใช้พลังงานน้อยกว่า ซึ่งเหมาะกับการนำมาใช้กับแว่น AR โดยตอนนี้ โปรเจ็คนี้อยู่ในขั้นตอนทดลองผลิต (trial production) และหน้าจอที่ทดสอบตอนนี้มีขนาดเล็กกว่า 1 นิ้ว แต่ก็น่าจะใช้เวลาอีกเป็นปี ๆ กว่าจะผลิตจำนวนมากได้
ที่มา - Nikkei Asian Review
Bloomberg รายงานว่า Intel กำลังพูดคุยกับ TSMC และ Samsung ถึงกระบวนการจ้างผลิตชิป เพื่อแก้ปัญหากระบวนการผลิตชิปของตัวเองที่เริ่มตามหลังคู่แข่งไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ
ก่อนหน้านี้ Bob Swan ซีอีโอของ Intel เคยบอกว่าจะเปิดเผยเรื่องนี้พร้อมแผนการจ้างผลิตชิปในการประกาศผลประกอบการ วันที่ 21 มกราคมนี้
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของ Bloomberg ระบุว่าจนถึงตอนนี้ Intel ก็ยังคงไม่ได้ข้อสรุปกับ TSMC เพราะยังรอดูการปรับปรุงกระบวนการผลิตของตัวเองจนนาทีสุดท้าย ขณะที่หากจะจ้าง TSMC ผลิตจริง ก็น่าจะใช้กระบวนการผลิตของ TSMC ที่ผลิตให้ลูกค้ารายอื่นอยู่แล้ว และคาดว่าชิป Intel จาก TSMC จะออกสู่ตลาดอย่างเร็วที่สุด 2023
อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนถือว่าตามหลังตะวันตกหรือแม้แต่ไต้หวันอยู่หลายปี และพอเกิดสงครามการค้ารอบนี้ก็ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้จีนต้องแก้ปัญหานี้ ซึ่ง TSMC เป็นเป้าหมายหลักที่จีนจะดึงวิศวกรเก่ง ๆ มาทำงานด้วย
ล่าสุด Nikkei Asian Review รายงานว่า Quanxin Integrated Circuit Manufacturing (QXIC) และ Wuhan Hongxin Semiconductor Manufacturing Co. (HSMC) ไปจนถึงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีนอีกหลายบริษัทต่างดึงวิศวกรจาก TSMC รวมกันกว่า 100 คน ซึ่งเกินครึ่งของจำนวนนี้ทำงานกับ QXIC และ HSMC ที่สำคัญคือ 2 บริษัทนี้ได้ผู้บริหารที่เคยทำงานกับ TSMC มาบริหารด้วย