รวมข่าว Twitter (X) มีอะไรอัปเดตใหม่บ้าง
สถาบัน The Knight First Amendment จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ฟ้องร้องประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไล่บล็อคผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่น กระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการเข้าถึงข้อมูล
ทางสถาบันระบุว่า เมื่อใดก็ตามที่ข้อมูลโซเชียลมีเดียถูกใช้โดยประธานาธิบดี ข้อมูลนั้นก็ทำหน้าที่เป็นข้อมูลสาธารณะ เทียบเท่าได้กับข้อมูลจากสถาบันการเมือง รัฐบาลท้องถิ่นและโรงเรียน หากประธานาธิบดีบล็อคบัญชีทวิตเตอร์ที่ล้อเลียนเยาะเย้ย ก็เท่ากับละเมิดสิทธิพลเมือง
ปัญหาของ Twitter ที่ยังไม่หมดสิ้นก็คือการป่วนใน Timeline (troll) โดยล่าสุด Twitter พยายามลดความน่ารำคาญนี้ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติควบคุมการแสดงผลบน Timeline ให้มากขึ้น
โดยในหน้าการตั้งค่า ผู้ใช้สามารถเลือกฟิลเตอร์ไม่ให้แสดงผล-แจ้งเตือน จากผู้ใช้งานซึ่งเราอาจไม่ต้องการ เช่น เราไม่ได้ติดตาม, เป็นบัญชีเปิดใหม่, ไม่มีรูปโปรไฟล์ ฯลฯ
อย่างน้อยนี่ไม่ใช่การกำจัดการป่วนบน Twitter ได้สมบูรณ์ แต่ก็ช่วยให้การใช้งานมีความน่ารำคาญน้อยลงได้บ้างนั่นเอง
ที่มา: The Next Web
Twitter ปรับเปลี่ยนดีไซน์ของตัวเองใหม่ทั้งบนแอพมือถือทุกระบบและเว็บไซต์ เน้นความเป็น flat design มากขึ้น, ใช้ขอบมนที่ปุ่ม, เปลี่ยนกรอบภาพโปรไฟล์เป็นวงกลม, ใช้ตัวอักษรแบบใหม่และเพิ่มความหนาเพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็น อีกทั้งเปลี่ยนไอคอนส่วนต่างๆ ให้เป็นแบบ flat เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เข้าใจถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้แอพ Twitter บนมือถือก็อัพเดตฟีเจอร์เพิ่มเติมได้แก่ อัพเดตตัวเลขในแต่ละทวีตทันทีเมื่อมีผู้ตอบทวีต, Retweet หรือกด Like ส่วน Twitter บน iOS ก็ได้เพิ่มเมนูด้านข้างเมื่อแตะรูปโปรไฟล์เหมือนกับ Twitter บน Android และเมื่อเปิดลิงก์ต่างๆ ผ่านแอพก็จะใช้ Safari In-app browser เป็นตัวแสดงเว็บแล้ว
Twitter หวังว่าการเปลี่ยนดีไซน์ในครั้งนี้จะทำให้แบรนด์ดูสดใหม่, สว่างสดใส, รวดเร็วและใช้งานง่ายขึ้น หากใครมีคำติชมใดๆ ก็สามารถติดต่อได้ทาง https://support.twitter.com/articles/20172023
ที่มา : Twitter Blog
ผู้ใช้ Twitter ที่เป็นบัญชีประเภทธุรกิจสามารถเพิ่มปุ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้กดใช้งาน (action button) ลงไปในทวีตที่ต้องการได้มากสุด 3 ปุ่ม โดยกำหนดการทำงานได้ตามใจเช่น ให้ลิงก์ไปที่เว็บไซต์, บัญชี Twitter หรือคำสั่งต่างๆ ภายในแอพ Twitter ภายในปุ่มกำหนดคำได้เอง ซึ่งรองรับการใช้งาน emoji ด้วย
ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานกับฝ่ายดูแลลูกค้าบน Twitter ติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกขึ้น และหากบัญชีมีบอททำงานอยู่ใน DMs อยู่แล้วก็จะทำให้สะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้การสื่อสารไม่น่าเบื่อ
ปุ่ม action button นี้จะเริ่มให้ใช้งานแล้วตั้งแต่วันนี้ผ่านแอพ Twitter บน iOS, Android และเว็บไซต์
ที่มา : The Next Web
หนึ่งในวิธีที่จะทำให้ยอด follower หรือยอดผู้ติดตามในทวิตเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วคือ การแย่งชิงพื้นที่ reply ในทวิตเตอร์ของโดนัลด์ ทรัมป์
Account ของทรัมป์ในทวิตเตอร์ ภายใต้ ชื่อ realDonaldTrump กำลังเป็นพื้นที่ร้อนๆสำหรับคนที่กระหายอยากได้ยอด follower เพิ่มขึ้นเร็วๆ ด้วยการรีบไปตอบทวีตทรัมป์เป็นรายแรกๆ (กรณีนี้ ไม่นับรวมกลุ่มคนที่ต้องการสื่อสารกับทรัมป์โดยตรง แต่ไม่ได้ต้องการยอด follower เพิ่ม)
Politico และ Morning Consult ได้จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นของทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายที่ไม่สนับสนุนประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump เกี่ยวกับการเล่น Twitter ของประธานาธิบดี โดยเปรียบเทียบทั้งก่อนเข้ารับตำแหน่งในเดือนธันวาคมและหลังเข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน
แบบสำรวจนั้นแยกความคิดเห็นเป็นผู้โหวต, ผู้ไม่สนับสนุนฝ่ายใด, Democrat และ Republican ซึ่งจากการเปรียบเทียบผลสำรวจตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วก่อนที่ Trump จะเข้ารับตำแหน่ง กับล่าสุดคือเดือนมิถุนายน พบว่าทุกฝ่ายต่างคิดว่าท่านประธานาธิบดีทวีตเยอะเกินไปเป็นจำนวนมากขึ้น โดย 53% ของผู้โหวต Trump, 70% ของผู้ไม่สนับสนุนฝ่ายใด, 82% ของ Democrat และ 53% ของ Republican คิดว่า Trump ทวีตเยอะมากเกินไป
นับจากที่มีการทำสัญญาร่วมกันของโซเชียลมีเดียในการจัดการกับ Hate Speech ออกจากแพลตฟอร์ม ล่าสุด EU เผยสถิติว่าโซเชียลมีเดียจัดการ Hate Speech ในภาพรวมได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ Facebook ที่สามารถนำ Hate Speech ออกจากแพลตฟอร์มได้ 58% ภายใน 24 ชั่วโมง ดีขึ้นจากเดิมในเดือนธันวาคมที่ทำได้ 50%
Twitter ทำได้ 39% ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าดีขึ้นมากเช่นกัน จากเดิมที่เคยทำได้ 23.5% และครั้งนั้น EU ก็เตือนว่ายังทำได้ไม่ดีพอ
ในทางตรงกันข้าม YouTube กลับทำผลงานได้ช้าลง ทำได้ 42.6% ผิดจากการวัดผลครั้งก่อนหน้าที่ทำได้ถึง 60.8% แต่โดยรวมทุกแพลตฟอร์มมีการจัดการดีขึ้น คิดเป็นตัวเลข 59.2% จากเดิมวัดได้ 28.2%
Twitter ยังคงพัฒนาฟีเจอร์ส่วน Direct Messeges อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เพิ่มแถบ Request ลงไปเพื่อคัดกรองข้อความจากผู้ใช้ที่เราไม่ได้ติดตาม
ฟีเจอร์นี้การทำงานเหมือนกับ Messenger ของ Facebook เลยก็ว่าได้ เมื่อมีผู้ใช้ที่เราไม่ได้ติดตามส่งข้อความมาทาง DM Twitter จะจับข้อความของคนนั้นเข้าไปในแถบ Request ส่วนฝั่งคนที่ได้รับข้อความหากเปิดหน้าต่าง Messages ขึ้นมา ที่แถบ Request จะแจ้งว่ามีผู้ใช้ที่ไม่ได้ติดตาม DM มาหา สามารถอ่านข้อความได้ตามปกติ ส่วนไฟล์ภาพหรือวิดีโอจะไม่แสดงจนกว่าจะกดปุ่ม View Media หากต้องการคุยต่อก็กดปุ่ม Agress ข้อความของคนนั้นก็จะย้ายเข้าไปในแถบ Inbox หรือไม่ต้องการคุยก็เลือกลบข้อความจากคนนั้นๆ ก็ได้เช่นกัน
เปิดให้ใช้งานแล้วผ่านทางแอพ Twitter บน iOS และ Android ส่วนเวอร์ชันเว็บจะปล่อยให้ใช้งานในไม่กี่เดือนนี้
ที่มา : Engadget
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Andy Rubin เผยภาพสมาร์ทโฟนตัวใหม่ของบริษัทเขาผ่านทวิตเตอร์ ล่าสุด บริษัทใหม่ของเขาหรือ Essential Products Inc. มีบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการแล้ว โดยทวิตข้อความเชิงว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ในวันที่ 30 พ.ค. นี้ ("...something big is coming May 30th! Stay tuned...")
เป็นที่ทราบกันว่าประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอย่างโดนัล ทรัมป์ ไม่ค่อยเสพสื่อหรือเล่นโซเชียลมีเดียนอกจากทวิตเตอร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งเจ้าตัวยืนยันจะใช้แอคเคาท์เดิมของตัวเองต่อไปแทนที่จะเป็น @POTUSด้วย และนั่นอาจเป็นสาเหตุให้ทวิตเตอร์เป็นเพียงแอพเดียวที่อยู่บน iPhone ของประธานาธิบดี
ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการโดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระดับสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็กังวลว่าประธานาธิบดีจะเอาแต่นั่งเล่นทวิตเตอร์ จึงป้องกันด้วยการยัดงานให้ประธานาธิบดีอย่างต่อเนื่อง
Twitter เปิดตัวโฆษณารูปแบบใหม่ในรูปแบบ Direct Message Card ให้แบรนด์สร้าง Business Card พร้อมปุ่ม Call-to-Action ระบุเรื่องให้ผู้ใช้กดส่ง Direct Message โต้ตอบในกล่องข้อความส่วนตัว และจากนั้นก็ตั้งโปรแกรมให้บ็อตคุยกับผู้ใช้ในประเด็นที่ปุ่มพาเข้ามาได้
มีการใช้งานจริงแล้วกับแบรนด์เตกิล่า Patrón Tequila ที่ตั้งทวิตชวนคุยเรื่องเครื่องดื่มที่เหมาะกับโอกาสต่างๆ และบ็อตจะเตรียมเครื่องดื่มตามวาระที่ผู้ใช้กดเข้ามา ซึ่งปุ่มรูปแบบนี้ใช้ได้กับทั้งทวีตที่เป็นภาพ วิดีโอ และใส่อีโมจิได้ด้วย
Biz Stone (@biz) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ประกาศผ่าน Medium ของเขาว่าจะกลับมาทำงานที่ Twitter ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จากคำชวนของซีอีโอ Jack Dorsey ซึ่งก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ที่เคยลาออกและกลับเข้ามาทำงานที่ Twitter เช่นกัน
ตำแหน่งงานของ Biz นั้นจะมาเป็นผู้ดูแลวัฒนธรรมและพลังงานในองค์กร ซึ่งเขาบอกเองว่าไม่ได้แทนที่ตำแหน่งของใครใน Twitter โดยตำแหน่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเคยทำสมัยอยู่ที่ Twitter ก่อนหน้า
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Biz Stone ได้ขายแอพ Jelly ที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งให้กับ Pinterest ซึ่ง Biz เผยว่าไม่มีเงื่อนไขในสัญญาว่าเขาต้องทำงานต่อให้กับ Pinterest เขาจึงมองหางานใหม่ และมาลงตัวที่ Twitter ตามคำเชิญชวนของ Jack นั่นเอง
จากเหตุการณ์กราดยิงครั้งใหญ่ที่ San Bernardino ในปี 2015 มีครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งรวมตัวกันฟ้องโซเชียลมีเดีย Facebook, Google และ Twitter ในข้อหาปล่อยให้โฆษณาชวนเชื่อของกลุ่ม ISIS แพร่หลายในโซเชียล นำไปสู่เหตุโศกนาฎกรรม
เอกสารสำนวนส่งฟ้องมี 32 หน้า Sierra Clayborn ผู้เกี่ยวข้องกับเหยื่อหนึ่งในผู้ฟ้องระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำเลย (Facebook, Google และ Twitter) ได้หยิบยื่นเครื่องมือแพร่กระจายข้อมูลให้กลุ่ม ISIS เปิดโอกกาสให้ ISIS ระดมทุน และดึงดูดคนให้เข้าร่วมกลุ่มด้วยโฆษณาชวนเชื่อ และหากไม่ใช่เพราะ Facebook, Google และ Twitter การเติบโตของกลุ่ม ISIS คงไม่มากขนาดนี้
Twitter ยังคงเดินหน้าบริการสตรีมมิ่งรายการสดตลอดวันต่อไป หลังจากที่ประกาศร่วมมือกับ Bloomberg ไปแล้วก่อนหน้านี้ รอบนี้ก็มีพาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมอีก 16 ราย
สำหรับพาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมบริการสตรีมมิ่งของ Twitter เช่น BuzzFeed, Vox Media, Viacom, WNBA, PGA, Cheddar, Live Nation, A+E Networks และบริษัทอื่น ๆ โดยจะครอบคลุมการสตรีมมิ่งตั้งแต่โปรแกรมข่าว, รีวิว ในรูปแบบของตารางการออกอากาศ ไปจนถึงการออกอากาศงานอีเว้นท์ต่าง ๆ
Twitter ได้ประกาศในการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดว่า จะมีการสตรีมมิ่งรายการสดแบบตลอดทั้งวัน (24/7) ซึ่งสถานีโทรทัศน์แห่งแรกที่จะมาร่วมพัฒนาช่องรายการก็คือ Bloomberg
ช่องรายการนี้จะเป็นชื่อใหม่ซึ่งยังไม่ได้กำหนดออกมา กำหนดเปิดตัวปลายปีนี้ โดยนำรายงานข่าวจาก Bloomberg มาออกอากาศสด สลับกับเนื้อหาใน Twitter ตลอดทั้งวัน
ผู้บริหาร Twitter ให้ความเห็นว่าการเริ่มต้นด้วยสถานีข่าวน่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เนื่องจากผู้ใช้ Twitter น่าจะชอบติดตามข่าวสาร และการร่วมมือกับ Bloomberg ก็ดูเหมาะสม โดยรูปแบบการหารายได้ของช่องสตรีมมิ่งนี้จะแทรกคลิปโฆษณา 15-30 วินาที เข้าไป
ที่มา: WSJ
Twitter รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2017 มีรายได้ 548 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุน 61.6 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้ Twitter ซึ่งเพิ่มเพียงเล็กน้อยมาหลายไตรมาส ในไตรมาสที่ผ่านมามีการเติบโตที่ดี มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs) เพิ่มขึ้น 14% (ไม่ได้บอกตัวเลข) ส่วนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มี 328 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% ซึ่งซีอีโอ Jack Dorsey กล่าวว่าตัวเลขผู้ใช้งานนี้ มีการเติบโตที่เพิ่มสูงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 แล้ว
ที่มา: Twitter
Evan Williams หนึ่งในผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Twitter (ปัจจุบันธุรกิจหลักคือ Medium) ประกาศว่าตัวเองจะทยอยขายหุ้นบางส่วน (30% ของที่เขาถืออยู่) ใน Twitter ออกไป เพื่อนำเงินสดที่ได้ไปลงทุนในกิจการอื่นๆ
Williams บอกว่าเขาไปลงทุนในกิจการมากมาย เช่น บริษัทลงทุน Obvious Ventures และกิจการเพื่อการกุศลอื่นๆ ทำให้ต้องการเงินสดมาใช้สอย การขายหุ้นครั้งนี้ไม่ได้แปลว่าเขามองว่า Twitter กำลังอยู่ในช่วงขาลง เขายังมั่นใจในอนาคตของบริษัท และยังนั่งเป็นบอร์ดของบริษัทต่อไป
ช่วงหลัง Twitter ประสบปัญหามากมาย การขายหุ้นของผู้ก่อตั้งอย่าง Williams อาจส่งผลให้นักลงทุนไม่มั่นใจในอนาคตของบริษัท ทำให้ Williams ต้องรีบออกมาประกาศตัวไว้ก่อนว่าเป็นการขายหุ้นด้วยเหตุผลส่วนตัว
เปิดตัวอีกรายสำหรับโซเชียลมีเดียแบบ Lite ใช้เนตน้อยกว่า โหลดภาพและคลิปดูได้แม้ในพื้นที่ที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตต่ำกว่ามาตรฐาน Facebookเองก็เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด Twitter เปิดเวอร์ชั่น Lite ด้วย โดยมีเป้าหมายคือขยายฐานผู้ใช้ โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย
Twitter ได้เปิดให้แชร์ที่อยู่ผ่าน DM สำหรับการแชทกับบัญชีธุรกิจได้แล้ว เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น ตามหลังฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มีแผนทำให้ DM เป็นช่องทางสำหรับการติดต่อระหว่างธุรกิจกับผู้ใช้ Twitter
สำหรับที่อยู่ที่ส่งให้ธุรกิจนั้น ผู้ใช้จะสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง หากต้องการที่อยู่ของผู้ใช้จะต้องขอก่อน ซึ่งผู้ใช้มีสิทธิที่จะอนุญาตหรือปฏิเสธการแชร์ได้ โดยถ้าเลือกที่จะแชร์ก็มีตัวเลือกว่าจะแชร์ที่อยู่ตอนนี้ หรือแชร์ที่อยู่แบบเลือกสถานที่จากรายการก็ได้
Twitter ประกาศเปลี่ยนรูป avatar เริ่มต้นของผู้ใช้งาน จากเดิมที่เป็นรูปไข่หลากสี มาเป็นรูปร่างใบหน้าคนแทน
ทีมออกแบบของ Twitter เล่าถึงที่มาที่ไปของการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มีรายละเอียดอยู่พอสมควร แต่สรุปที่สำคัญได้ดังนี้
ทีมออกแบบเผยว่า รูปหัวคนที่เลือกใช้มีการปรับสัดส่วนหลายรูปแบบ เพื่อให้ได้รูปเดียวที่สามารถใช้กับทุกเพศโดยไม่ต้องแบ่งแยกออกมา
ที่มา: Twitter
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Twitter กำลังทดสอบฟีเจอร์การตอบกลับโดยไม่ใช้ @username เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการเลิกนับ 140 ตัวอักษรของ Twitter
วันนี้ (31 มีนาคม) บล็อกของ Twitter ออกประกาศการมาถึงของฟีเจอร์สำหรับทุกคน ซึ่งจากนี้ไปการตอบกลับ Twitter จะไม่นับ username ไว้ใน 140 ตัวอักษร ทำให้ใส่ข้อความได้มากขึ้น
Twitter เปิดตัวโฆษณาประเภทใหม่บนแอพถ่ายทอดสด Periscope นั่นคือวิดีโอโฆษณาก่อนจะถ่ายทอดสด (Pre-roll Ads)
ทีมงานของ Periscope เปิดเผยว่า โฆษณาประเภทนี้จะเป็นวิธีใหม่สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาที่ต้องการสร้างรายได้ด้วยการถ่ายทอดสด โดยผู้เผยแพร่โฆษณาจะมีตัวเลือกว่าก่อนผู้ใช้จะเริ่มดูถ่ายทอดสดหรือก่อนดูย้อนหลัง ให้เล่นวิดีโอโฆษณาสั้นๆ ก่อนหรือไม่ ส่วนผู้ลงโฆษณาก็สามารถสร้างแคมเปญโฆษณาที่ผู้เผยแพร่โฆษณามีการถ่ายทอดสดได้เช่นกัน
โฆษณาประเภทนี้จะเตรียมเปิดให้ผู้ลงโฆษณาและผู้เผยแพร่โฆษณาได้ใช้งานได้ในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ที่มา : Twitter Blog
ผู้ดูแลบัญชี Twitter ระดับองค์กรหลายแห่งได้รับอีเมลแบบสำรวจจาก Twitter เกี่ยวกับคุณสมบัติของ TweetDeck ในเวอร์ชันแบบเสียเงินเพื่อให้ได้ฟีเจอร์เพิ่มเติม ที่ลงลึกรายละเอียดข้อมูลได้มากขึ้น
ตัวแทนของ Twitter ยืนยันว่ามี Twitter กำลังเก็บรวบรวมความเห็นเพื่อประเมินในการสร้าง TweetDeck ให้มีประโยชน์มากขึ้นสำหรับกลุ่ม power users ซึ่งอาจมาในรูปแบบของการจ่ายเงินเพิ่มเติม ขณะที่ TweetDeck แบบเดิมจะยังใช้งานได้ฟรีต่อไป
หาก Twitter ตัดสินใจสร้าง TweetDeck เวอร์ชันนี้จริง ก็เท่ากับเป็นครั้งแรกที่ Twitter จะเริ่มเก็บเงินจากผู้ใช้งานเป็นครั้งแรก
ที่มา: The Verge
Twitter ได้เปิดตัว Producer API สำหรับ Periscope เพื่อเปิดทางให้อุปกรณ์ภายนอกอย่างเช่นกล้องระดับโปร หรืออุปกรณ์ถ่ายวิดีโอต่าง ๆ หรือซอฟต์แวร์ภายนอกใช้งาน Periscope ถ่ายทอดสดได้ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับแอพของ Twitter
Producer API นี้จะเปิดให้แอพพลิเคชั่นจากนักพัฒนาภายนอกใช้งานตั้งแต่การล็อกอินบัญชี Periscope, ตั้งค่าการสตรีมมิ่ง, สั่งเริ่มและหยุดการออกอากาศ และโพสต์ลง Twitter
Producer API นี้ยังคงทำการทดสอบแบบปิดอยู่ โดยถ้าใครสนใจสามารถลงชื่อเข้าร่วมได้ที่นี่
รัฐบาลเยอรมนีตีพิมพ์เอกสารข้อกำหนดให้ Facebook และ Twitter จ่ายค่าปรับกว่า 50 ล้านยูโร ข้อหาไม่สามารถจัดการข่าวปลอม ถ้อยคำแสดงความเกลียดชังเหยียดหยาม และคอนเทนต์อันไม่พึงประสงค์บนแพลตฟอร์มได้สำเร็จ
ในเอกสารมีกำหนดแนวทางบังคับใช้มาว่าเนื้อหารุนแรง ข่าวปลอม ต้องถูกลบออกภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนเนื้อหาที่ผิดกฎหมายอื่นๆ ต้องถูกนำออกภายใน 7 วัน ฝ่ายรัฐบาลยังเรียกร้องให้ Facebook และ Twitter อธิบายแผนการและขั้นตอนการแก้ปัญหาอย่างละเอียดแก่ผู้ใช้ด้วย
Heiko Maas รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมด้านคุ้มครองผู้บริโภค และผู้ยื่นเสนอข้อกฎหมายดังกล่าวบอกว่า ทั้ง Facebook และ Twitter พลาดโอกาสปรับปรุงตัวเอง เพื่อสร้างความรับผิดชอบเราจำเป็นต้องมีข้อกำหนดทางกฎหมายมาเป็นแนวทางให้บริษัททั้งสอง