Uber ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ตอนนี้ทางบริษัทมียอดการเดินทางครบ 1 พันล้านครั้งแล้ว โดยถือเป็นยอดที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อห้าปีกว่าตอนเริ่มกิจการใน San Francisco
การเรียกรถครั้งที่พันล้านนั้น เป็นการเรียกรถ UberX ของ Marvin เป็นรถ Honda Insight Hybrid มีคนขับคือ Ara ในวันคริสต์มาสอีฟ โดยเรียกรถจาก London Fields เมือง Hackney ไปยังเขต Hoxton
Uber จะมอบของขวัญให้ Marvin เป็นการนั่งรถ Uber ฟรี 1 ปี, Ara จะได้ไปหยุดพักผ่อนกับ Uber โดยสามารถเลือกได้ว่าจะไปที่เมืองไหนก็ได้ที่มี Uber และ Uber จะบริจาคเงินตั้งแต่ทริปที่พันล้านเริ่มต้น ให้กับ Hackney Pirates องค์กรการกุศลเพื่อการพัฒนาเด็กอายุ 9-12 ปีในเมือง Hackney
Uber สรุปข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ในกรุงเทพมหานครประจำปี 2558 ดังนี้
นอกจากนี้ Uber ยังได้จัดส่งอั่งเปา 888 ซองให้ผู้ใช้ในช่วงตรุษจีน และไอศกรีม 1,852 สกู๊ประหว่างกิจกรรม #UberIceCream อีกด้วย
แอพแชทอย่าง Facebook Messenger เริ่มจะอรรถประโยชน์อีกระดับ เมื่อ Uber เปิดตัวฟังก์ชั่นเรียกรถในเครือข่ายของตนได้ผ่านทางแอพ Messenger นี้ได้โดยตรง โดยไม่ต้องกดปุ่มโฮมสลับแอพ และไม่จำเป็นต้องลงแอพ Uber ไว้ในเครื่องก็ได้ รายละเอียดของเส้นทาง รถที่จะมารับ และประวัติการใช้จ่ายค่าเดินทางจะถูกบันทึกเป็นลักษณะการสนทนากับ Uber ผ่านหน้าต่างหนึ่งในแอพแชทนี้ในตัว และเหมือนเดิม เริ่มใช้ได้ก่อนที่สหรัฐฯ ครับ
สภาเมือง Seattle ได้รับรองกฎหมายให้ผู้ขับรถของบริษัทอย่าง Uber และ Lyft หรือบริษัทอื่นที่มีบริการใกล้เคียงก็สามารถจัดตั้งสหภาพแรงงานได้ เพื่ออำนาจในการต่อรองกับบริษัทเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ควรจะได้ อย่างไรก็ดี ตอนนี้ Ed Murray นายกเทศมนตรีเมืองยังไม่ได้เซ็นรับรองกฎหมาย
แน่นอนว่า Uber กับ Lyft ไม่ยอมรับกฎหมายนี้ โดยทาง Lyft ได้เผยกับ New York Times ว่าขอให้นายกเทศมนตรีและสภาเมืองทบทวนกฎหมายใหม่อีกครั้ง และฟังเสียงจากคนที่เลือกจะขับรถกับ Lyft เพราะว่ามันเป็นความยืดหยุ่นและโอกาสที่จะได้รับ
ก่อนหน้านี้ Uber มีแอพของตนอยู่บน 3 แพลตฟอร์ม คือ Android, iOS และ Windows Phone ล่าสุด Uber ได้ปล่อยแอพของตนลง Windows 10 แล้ว
แอพดังกล่าวจัดเป็นแอพแบบ universal คือเป็นแอพที่เขียนมาครั้งเดียวแล้วใช้ได้บนทุกอุปกรณ์ของ Windows ตั้งแต่สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต ไปจนถึงพีซี โดยส่วนติดต่อผู้ใช้ (user interface) จะเปลี่ยนไปตามขนาดหน้าจอ
จุดเด่นของแอพ Uber ครั้งนี้คือสามารถเรียกรถผ่าน Cortana ได้ด้วย โดยการพูดว่า "Hey Cortana, get me an UberX to [สถานที่หรือที่อยู่ที่จะไป]" นอกจากนี้ Live Tile ใน Start menu ก็จะขึ้นว่าอีกนานเท่าใดกว่ารถจะมาถึง และผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานอีกด้วย
นอกจากการจัดการเรื่องความปลอดภัย และระบบจ่ายค่าบริการด้วยเงินสดในอินเดียแล้ว เพื่อให้เข้าถึงความเป็นท้องถิ่นของอินเดียมากขึ้น Uber ได้เปิดบริการเรียกรถลาก (หน้าตาเหมือนตุ๊กๆ) ในชื่อ UberAUTO มาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
แม้ว่าการใช้บริการรถลากในอินเดียจะได้รับความนิยมมากแต่ทว่าตอนนี้ Uber ออกมาประกาศว่าจะยุติบริการ UberAUTO เป็นการชั่วคราวหลังจากพบกับปัญหาที่ทำให้ตัวบริการไม่สามารถขยายตัวเพิ่มได้
แม้จะไม่มีรายละเอียดว่า Uber เจอปัญหาอะไรจริงๆ กันแน่ แต่หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะมาจากการแข่งขันสูง ที่นอกจากจะชนกับ Ola ซึ่งเป็นบริการเรียกรถลากสัญชาติอินเดียหลากรายแล้ว ยังต้องแข่งกับบริการของทางการอินเดียเองในชื่อ PoochO อีกด้วย
เพื่อขยายการครอบคลุมด้านการขนส่งในสหรัฐฯ ให้หลากหลายยิ่งขึ้นไปอีก Uber ประกาศเตรียมเปิดตัวบริการใหม่เพิ่มอีกสองตัวในชื่อ UberHOP และโครงการ UberCOMMUTE
เริ่มต้นที่ UberHOP เป็นบริการรถรับส่งในรูปแบบของรถโดยสาร ซึ่งจะต่างกับ Uber ปกติตรงที่ไม่ได้ไปรับผู้โดยสารถึงที่ และส่งถึงที่หมาย แต่จะมีจุดรับ-ส่งให้ไปใช้บริการกัน ข้อดีคือสามารถใช้เดินทางได้พร้อมกันได้ทีละหลายคน จะเริ่มเปิดบริการในแถบซีแอตเติล และชิคาโกวันที่ 10 ธันวาคมนี้
เพราะรถของ Uber คือรถบ้านที่วิ่งอยู่ท้องถนน เหมือนกันไปหมด การที่จะดูว่ารถที่เรียกไว้เป็นของเราหรือไม่อาจต้องสังเกตป้ายทะเบียนหรือหน้าคนขับ เพื่อความรวดเร็วและไม่งง Uber เปิดตัว SPOT อุปกรณ์คล้ายแท่งไฟติดบริเวณเสาเอของกระจกหน้ารถ ฝั่งผู้โดยสารเมื่อเรียกรถได้แล้ว ก็เลือกสีที่จะให้แท่งไฟนี้เรืองออกมา (จากภาพเลือกได้ 6 สี) ในขณะเดียวกันฝั่งผู้ใช้ก็สามารถโชว์แสงสีจากหน้าจอสมาร์ทโฟนให้คนขับได้สังเกตง่ายขึ้นด้วย
ข่าวไม่ได้ระบุว่าเริ่มใช้ก่อนที่ไหน แต่ในบล็อกตั้ง category เป็น Seattle จึงน่าจะอนุมานได้ว่าฝั่งอเมริกาได้ลองใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ก่อนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าครับ
ราวกับดิ อเวนเจอร์ส เมื่อมีข่าวว่าแอพให้บริการรถยนต์โดยสารอย่าง Lyft จากสหรัฐฯ, Ola จากอินเดีย, Didi Kuaidi จากจีน และ GrabTaxi จากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงนามร่วมกันว่าจะร่วมใช้กลยุทธ์และเทคโนโลยี ที่จะทำให้ผู้ใช้แต่ละรายใช้แอพของตัวเอง เรียกรถของอีกค่ายเมื่ออยู่ต่างถิ่นได้ โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2016 นี้เลย
โดยกลุ่มแอพทั้งสี่เจ้าระบุว่า แต่ละแอพจะแชร์เส้นทาง แผนที่ และการคิดราคาค่าโดยสารผ่าน API ที่ปลอดภัยหากันและกัน โดยยังคงการเป็นเอกเทศในการให้บริการแต่ละประเทศซึ่งมีสภาพตลาดไม่เหมือนกัน ยังไม่มีแผนที่ควบรวมหมด ที่ดีลนี้เกิดขึ้นได้เพราะแอพแต่ละรายมีผู้ลงทุนรายเดียวกัน หนึ่งในนั้นคือ Didi Kuaidi ที่นับเป็นพี่ใหญ่ ลงเงินให้กับแอพทั้งสาม
Uber เปิดตัว Ride Request Botton ให้นักพัฒนาแอพรายต่างๆ ทั้งบน iOS และ Android ได้นำปุ่มนี้ไปใช้ในแอพตนเอง ที่อาจเกี่ยวกับการเดินทางตามพิกัดสถานที่ต่างๆ เช่นแอพร้านอาหาร เมื่อผู้ใช้แตะปุ่มนี้ก็จะได้เรียกรถของ Uber ไปยังสถานที่นั้นได้ทันที
เมื่อผู้ใช้เรียกรถผ่านแอพของนักพัฒนาแต่ละคน Uber จะจ่าย 5 เหรียญสหรัฐฯ กับนักพัฒนาแอพรายนั้น (เฉพาะในสหรัฐฯ ณ ขณะนี้) ใครทำแอพอยู่แล้วสนใจก็ไปสมัครโปรแกรมกับเขา แล้วนำชุด SDK ของปุ่มนี้ไปแปะในแอพของตนได้เลย ปรับแต่งปุ่ม "Ride there with Uber" นี้ได้ตามคำแนะนำของเขาครับ
Uber ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ โดยสามารถแยกบัญชีระหว่างบัญชีธุรกิจกับบัญชีใช้งานส่วนตัวได้แล้ว เพื่อความสะดวกในการใช้งานทั้งการเดินทางในเรื่องงานและเดินทางไปส่วนตัว
ฟีเจอร์ใหม่ของ Uber นี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถใส่บัตรเครดิตใบที่สองสำหรับการใช้เดินทางในเรื่องงานได้ และสามารถสลับระหว่างบัญชีธุรกิจหรือบัญชีส่วนตัวได้เพียงแค่กดเปลี่ยนบัญชี โดยเมื่อเปลี่ยนบัญชีไปเป็นบัญชีธุรกิจจะสามารถ
ปกติคนขับรถรับจ้างอย่างแท็กซี่, Uber หรือ GrabTaxi จะมีวิธีการหาผู้โดยสารโดยการขับวน จอดรอตามแลนด์มาร์กทำเงิน แต่ก็ยังมีคนขับรถประเภทนี้อีกแบบ คือแค่ขับหาลำไพ่พิเศษ คือออกมารับงานตามเส้นทางที่จะขับไปเท่านั้น
Uber เปิดฟังก์ชั่นใหม่ให้คนขับปักเส้นทางที่จะขับรถไป และจะจับคู่กับผู้โดยสารที่อยู่บนเส้นทางนั้นและมีปลายทางอยู่ในเส้นทางที่คนขับจะไปเท่านั้น (คนขับ UberX ก็จะได้ผู้โดยสารร่วมทางเป็น UberX ไม่มีข้ามชนิดกัน) ซึ่งวันหนึ่งจะให้ใช้ฟังก์ชั่นนี้สองครั้ง และเริ่มใช้แล้วในย่าน Bay Area สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
ที่มา - Uber Newsroom
Uber ประเทศไทยเผยสถิติของ UberX ในกรุงเทพ หลังเปิดบริการมาได้ครบ 1 ปีเต็ม
อย่างไรก็ตาม Uber ยังไม่ได้พูดถึงประเด็นด้านกฎหมายกับกรมการขนส่งทางบก ที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ครับ
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ Uber ประเทศไทย
วานนี้ Uber ผู้ให้บริการระบบขนส่ง ประกาศจับมือกับ TomTom ผู้ให้บริการข้อมูลด้านแผนที่สัญชาติดัตช์ เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการนำทาง และระบุพิกัดต้นทาง-ปลายทาง ซึ่งความร่วมมือนี้จะมีผลกับบริการนี้ทั่วโลก เป็นระยะเวลาหลายปี (แหล่งข่าวระบุ multi-year)
ความพยายามเรื่องการใช้บริการข้อมูลด้านแผนที่ของ Uber ในปีที่ผ่านมาเพิ่งพลาดดีลกับ HERE ที่ถูกค่ายรถยนต์เยอรมัน Audi, Daimler และ BMW ประมูลชนะไป ในขณะเดียวกันก็เพิ่งได้มันสมองทั้งคนและสินทรัพย์ด้านนี้จากทาง Microsoft มาเช่นกัน ด้าน TomTom ก็เคยทำงานกับ Apple ตั้งแต่ปี 2012 ในช่วงที่พยายามเลิกใช้ Google Maps เป็นแผนที่ดีฟอลต์บนไอโฟน
ที่มา - Fortune
สรุปเนื้อหาจาก งานเสวนา Sharing Economy 'เศรษฐกิจแบ่งปัน' เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2558 ที่ร้าน Books&Belongings สุขุมวิท 91 ร่วมจัดโดย กลุ่ม Digital Culture Thailand ร่วมกับมูลนิธิ Heinrich Böll Stiftung และ Siam Intelligence Unit
หลังจากมีปัญหากับรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ มานาน ล่าสุด Uber บอกว่าจะหยุดให้บริการใน 3 เมืองที่ประเทศเยอรมนีแล้ว
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Uber เปิดเผยว่าจะหยุดการให้บริการใน 3 เมือง ได้แก่ Hamburg, Frankfurt และ Düsseldorf โดยทั้ง 3 เมืองมีประชากรรวมกันถึงเกือบ 3 ล้านคน และจะคงการให้บริการในเยอรมนีอยู่เพียงสองเมือง คือ Berlin และ Munich
ช่วงต้นปีผู้บริหาร Uber ได้บอกว่าบริษัทฯ จะจ่ายค่าทำใบอนุญาตเป็นจำนวนเงิน 100 ถึง 200 ยูโร แต่ผ่านไปราว 7 เดือนกลับบอกว่าจะหยุดให้บริการข้างต้น แสดงว่าการพยายามทำให้ Uber ถูกกฎหมายในเยอรมนีนั้นล้มเหลว
หากยังพอจำกันได้ เมื่อปลายปีที่แล้ว คนขับ Uber ของอินเดียถูกกล่าวหาและจับกุม ฐานข่มขืนผู้โดยสาร ตอนนี้คดีมาถึงที่สิ้นสุดแล้วเมื่อศาลในกรุงนิวเดลี มีคำตัดสินให้อดีตคนขับรถ Uber มีความผิดจริง
นาย Shiv Kumar Yadav ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงใน 4 ข้อหาคือข่มขืน ลักพาตัว ข่มขู่คุกคาม และทำให้เกิดอันตราย จากกรณีข่มขืนผู้โดยสารหญิงวัย 25 ปีที่เรียกใช้บริการ โดยนาย Yadav มีกำหนดการเข้ารับฟังพิจารณาโทษในวันที่ 23 ตุลาคมนี้
นอกจากจะกำลังพัฒนารถไร้คนขับแล้ว ตอนนี้ Uber ได้แถลงว่ากำลังเริ่มเก็บข้อมูลแผนที่เป็นของตัวเองแล้ว หลังจากมีภาพหลุดออกมาบนโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้
TechCrunch ได้ติดต่อสอบถามไปยัง Uber และได้คำตอบว่าบริษัทเริ่มปล่อยรถยนต์ที่ติดกล้องในลักษณะเดียวกับรถ Street View ของ Google มาได้ซักพักแล้ว เพราะทาง Uber ต้องการเก็บข้อมูลเส้นทาง ที่จะนำไปปรับปรุงการแนะนำเส้นทางและการกำหนดเวลาเดินทางโดยประมาณบนแอพ
Uber ยังบอกด้วยว่าเทคโนโลยีที่ใช้นี้ เป็นส่วนที่ซื้อมาจากส่วนย่อยของธุรกิจ Bing Map ของไมโครซอฟท์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงพนักงาน 100 กว่าคนด้วย
ที่มา - TechCrunch
หลังจากต่อสู้กันอย่างยาวนานระหว่าง Uber แอพพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่จากสหรัฐอเมริกาและแท็กซี่ดำแห่งลอนดอนจนเป็นที่มาของการที่คณะกรรมการออกใบอนุญาตรถแท็กซี่แห่งสหราชอาณาจักร ( Licensed Taxi Drivers' Association :LTDA) ยื่นคำร้องให้ศาลสูงอังกฤษวินิจฉัยว่า การที่แอพพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ใช้สมาร์ทโฟนที่มี GPS ในการคำนวณระยะทางและค่าโดยสารนั้น เป็นพฤติการณ์เดียวกันกับการใช้มิเตอร์คิดค่าโดยสารของรถแท็กซี่หรือไม่
วงการ Sharing Economy เริ่มรุกคืบหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อล่าสุด Uber เปิดตัวบริการอีกหนึ่งอย่างในชื่อ UberRush ซึ่งเป็นบริการรับสินค้าจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่ (เช่น จากหน้าร้านไปยังที่อยู่ลูกค้า) เปิดบริการแล้วในสามเมืองใหญ่ของสหรัฐอเมริกา อย่างนครนิวยอร์ก, ซาน ฟรานซิสโก และชิคาโก้
ในประเทศจีนแม้ว่าการนำรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมาออกรับขนคนโดยสารจะเป็นบริการที่ผิดกฎหมาย แต่ในเซี่ยงไฮ้บริการประเภทนี้ไม่ได้เป็นบริการที่ผิดกฎหมายอีกต่อไปแล้ว เพราะเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมาตีตีไคว่ตี (Didi Kuaidi : 滴滴快的)ผู้ให้บริการแอพพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในจีนได้ประกาศว่าบริษัทได้รับใบอนุญาตการจองรถทางอินเทอร์เน็ต (Internet-booking License) จากคณะกรรมการการขนส่งท้องถิ่นเมืองเซี่ยงไฮ้ หลังจากที่ทางผู้บริหารได้พยายามเจรจากับรัฐบาลท้องถิ่นเป็นเวลากว่าครึ่งปี
Uber เปิดตัวบริการใหม่ UberEVENTS สำหรับผู้จัดงานอีเวนต์ต่างๆ ในการจัดการเรื่องรถรับส่งให้แขกที่มาร่วมงาน
รูปแบบการทำงานของ UberEVENTS คือผู้จัดงานกำหนดวัน แล้วส่งโค้ดให้แขกทางอีเมล (สามารถจำกัดจำนวนเที่ยวโดยสาร และค่าโดยสารต่อครั้งได้) ให้แขกก่อนร่วมงาน แขกก็เพียงป้อนโค้ดดังกล่าวในแอพ Uber เพื่อเรียกรถมารับ-ส่งที่งาน โดยไม่ต้องจ่ายเงินใดๆ เพราะค่าโดยสารทั้งหมดผู้จัดงานจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบให้ ในกรณีที่แขกใช้งานเกิน แขกจะต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มเอง
UberEVENTS จะยังเปิดให้บริการเฉพาะนครนิวยอร์กเพียงเมืองเดียวเท่านั้น
ที่มา - Uber
Travis Kalanick ซีอีโอและโคฟาวเดอร์ของ Uber ประกาศว่าบริษัทจะบุกตลาดจีนเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนจะขยายการบริการเพิ่มอีกกว่า 100 เมืองภายใน 12 เดือนข้างหน้า หลังจากที่ให้บริการในกว่า 20 เมืองในปัจจุบัน
Kalanick ระบุว่าแรกเริ่ม Uber มีส่วนแบ่งตลาดในจีนเพียง 1% แต่ตอนนี้บริษัทตั้งเป้าถึงส่วนแบ่งตลาดกว่า 30-35% ขณะที่คู่แข่งใหญ่ในจีนของ Uber อย่าง Didi Kuaidi เพิ่งจะระดมทุนเพิ่มได้กว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐเช่นกัน
ในประเทศจีน Uber ได้รับการสนับสนุนจาก Baidu ขณะที่ Didi Kuaidi ได้รับการสนับสนุน Alibaba และ Tencent
ที่มา - Reuters
เมื่อเดือนที่แล้ว มีข่าวนักวิจัยด้านความปลอดภัยเผยช่องโหว่ของรถยนต์ Chrysler จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ล่าสุดนักวิจัยทั้งสองคนได้งานทำแล้วที่ Uber ครับ
นักวิจัยด้านความปลอดภัยทั้งสองคนคือ Charlie Miller (เคยทำงานกับ Twitter) และ Chris Valasek (บริษัทความปลอดภัย IOActive) ยื่นใบลาออกและเตรียมเริ่มงานกับ Uber ในสัปดาห์หน้า โดย Uber ระบุว่าจะส่งเข้าศูนย์วิจัย Advanced Technologies Center ที่เมือง Pittsburgh ซึ่งบริษัทจ้างนักวิจัยด้านรถยนต์จำนวนมากมาจากมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon
ส่วนหน้าที่งานของทั้งคู่เป็นเรื่องความปลอดภัยของรถยนต์ไร้คนขับที่ Uber กำลังพัฒนาอยู่
สงครามแอพเรียกรถแท็กซี่ในจีนเริ่มร้อนระอุ หลัง Uber ออกมาเปิดเผยว่าโดน Tencent บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของจีน บล็อคบัญชีบนแอพแชตยอดนิยม WeChat ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา
Tencent ไม่ได้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่โดยตรง แต่ลงทุนในสตาร์ตอัพ Didi Kuaidi ผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่รายใหญ่ของจีนที่เป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Uber (และมีส่วนแบ่งตลาดในจีนมากถึง 78%) ทำให้ Uber มองว่าโดนกลั่นแกล้งจาก Tencent ที่มีประโยชน์ทับซ้อนกัน
สื่อจีนรายงานว่าตอนแรก Tencent แบนบัญชีด้วยข้อหาละเมิดเงื่อนไขการใช้งานและปัญหาทางเทคนิค แต่ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าตกลงแล้ว Tencent มีเหตุผลใดในการแบนกันแน่