Raffaela Spone คุณแม่ในเมืองชาลฟอนต์ รัฐเพนซิลเวเนีย ถูกตำรวจจับกุม เพราะทำภาพและวิดีโอคู่แข่งทีมเชียร์ลีดเดอร์ของลูกสาว เป็นภาพกำลังสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และภาพอนาจาร โดยใช้ AI ช่วยปรับแต่งหรือ DeepFake จากนั้นส่งไปให้โค้ชที่คุมทีมอยู่ เพื่อหวังให้คู่แข่งลูกสาวถูกไล่ออกจากทีมเชียร์ลีดเดอร์ไป
ตำรวจรับเรื่องหลังจากเหยื่อรายหนึ่งได้รับข้อความขู่จากเบอร์ที่ไม่ระบุตัวตน ก่อนจะมีเหยื่อรายอื่นตามมาแจ้งตำรวจด้วย ตำรวจจึงสืบข้อมูลโดยการนำเบอร์โทรมาค้นหาจนพบว่ามาจากเว็บขายของทางโทรศัพท์
ศาลสหพันธรัฐในวอชิงตันประกาศสั่งหยุดคำสั่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ให้แบนการลงทุนของสหรัฐฯ ใน Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากจีน
คำสั่งแบน Xiaomi ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เกิดขึ้นในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงปลายวาระการดำรงตำแหน่งช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยกระทรวงนำชื่อ Xiaomi บันทึกไว้เป็นรายการบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ซึ่งตามกฎหมายแล้วจะห้ามนักลงทุนสหรัฐฯ ซื้อหุ้น Xiaomi และหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ส่วนนักลงทุนที่ถือหลักทรัพย์อยู่แล้วจะต้องขายออกภายใน 11 พฤศจิกายนนี้ โดยกฎหมายจะเริ่มมีผลในสัปดาห์หน้า
Uber และ Lyft ประกาศความร่วมมือแชร์ข้อมูลคนขับในสหรัฐฯ ที่ถูกแบนจากพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ หรือมีการทำร้ายร่างกายผู้โดยสาร โดยบริษัทผู้ดูแลฐานข้อมูลคือ HireRight ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติคนขับรถ บริการเรียกรถและเดลิเวอรี่รายอื่นสามารถเข้าร่วมแชร์ข้อมูลนี้ได้ด้วย
ที่ซานฟรานซิสโก เกิดเหตุการณ์คนขับ Uber ชาวเอเชียใต้รายหนึ่ง อัดวิดีโอผู้โดยสารหญิงสามรายที่ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นรถเนื่องจากไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย ในวิดีโอยังพบพฤติกรรมผู้หญิงที่พยายามไอใส่หน้าคนขับ และก่นด่า รวมถึงพยายามจะดึงหน้ากากของเขาออกด้วย เชื่อว่าเป็นพฤติกรรมจากความเกลียดขังชาวเอเชียในอเมริกาตอนนี้ ด้าน Lyft เองก็ออกมาบอกผ่านทวิตเตอร์ว่า ผู้โดยสารในคลิปดังกล่าว จะถูกแบนจากการใช้งาน Lyft ด้วย
นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เดียวที่คนขับรถถูกโจมตีเนื่องจากพยายามบังคับให้ผู้โดยสารใช้หน้ากาก เดือนที่แล้ว Chicago Tribune รายงานว่าคนขับ Lyft ก็ถูกทำร้ายด้วยการถ่มน้ำลายใส่หลังจากขอให้ผู้โดยสารสวมหน้ากาก
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยกับสำนักข่าว Wall Street Journal ว่าตอนนี้รัสเซียกำลังรันแคมเปญออนไลน์เพื่อทำลายความเชื่อมั่นในวัคซีน COVID-19 ที่เป็นคู่แข่งกับ Sputnik-V
สำนักข่าวที่รัสเซียใช้เป็นเครื่องมือที่ทางการสหรัฐฯ รับรู้แล้วมีตั้งแต่ New Eastern Outlook, News Front, Oriental Review และ Rebel Inside ซึ่งทั้งหมดนำข้อสงสัยที่ไม่มีมูลความจริงของวัคซีนอย่าง Pfitzer ออกมารายงาน และเรียกเทคโนโลยี mRNA ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง พร้อมระบุว่าเป็นอันตรายและไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป้าหมายคาดว่ารัสเซียต้องการเร่งยอดขายวัคซีน Sputnik-V หรืออาจต้องการใช้วัคซีนเป็นเครื่องมือสร้างการต่อรองกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
สมาคมอุตสาหกรรมเพลงของอเมริกาหรือ RIAA ออกรายงานอุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐฯ ประจำปี 2020 อย่างเป็นทางการ โดยพบว่ารายได้จากเพลงในอุตสาหกรรมเติบโตขึ้น 9.2% อยู่ที่ 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือรายได้ปีที่แล้วเติบโตมีผลมาจากบริการสตรีมมิ่งค่อนข้างสูง
ในรายงานระบุว่า สตรีมมิ่งมีรายได้ 1.01 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โตขึ้น 13.4% โดยกลุ่มสตรีมมิ่งนี้นับรวมทั้งบริการเสียเงินอย่าง Spotify, Apple Music และ Amazon Music Unlimited, บริการแบบออนดีมานด์มีโฆษณา เช่น YouTube, Vevo, Spotify แบบฟรี และวิทยุดิจิทัลอย่าง Pandora, SiriusXM
กลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้วสำหรับภาวะชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน กระทบอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, รถยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า จนรัฐบาลโจ ไบเดน ต้องวางแผนแก้ไขปัญหานี้ ล่าสุดทำเนียบขาวออกมาประกาศว่าจะมีการลงนามคำสั่งบริหารแก้ปัญหาอย่างเป็นทางการ
ในคำสั่งระบุต้องมีการตรวจสอบทันที 100 วันในหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เพื่อแก้ไขช่องโหว่ห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์หลัก 4 รายการ คือ Active pharmaceutical ingredients หรือ APIs ส่วนประกอบสำคัญในการผลิตยา, แร่ธาตุที่ใช้ในการผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า, แบตเตอรี่ความจุสูง และชิปเซมิคอนดักเตอร์
Marcus C. Evans, Jr. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เตรียมยื่นร่างกฎหมาย House Bill 3531 เพื่อแบนการจำหน่าย “เกมที่มีความรุนแรง” ในรัฐอิลลินอยส์ และผู้ฝ่าฝืนจะต้องเสียค่าปรับ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ในร่างกฎหมายขยายความคำว่าความรุนแรงไว้ว่าเป็นเกมที่ “อนุญาตให้ผู้เล่นควบคุมตัวละครในวิดีโอเกม ที่สนับสนุนให้เกิดการก่อความรุนแรงระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ด้วยการให้ผู้เล่นสังหาร หรือก่อความเสียหายอย่างร้ายแรงทางกายภาพหรือจิตใจกับมนุษย์หรือสัตว์”
Parler แพลตฟอร์มโซเชียลที่เป็นข่าวครึกโครมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดนแบนจากแอปเปิล, กูเกิล และ AWS ทำให้เว็บไซต์ถูกปิดด้วย เพราะสืบพบว่า ม็อบบุกรัฐสภาสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งใช้ Parler ไว้สื่อสารกันเรื่องการโจมตี รวมถึงมีเนื้อหารุนแรง ไร้ระบบคัดกรอง
ล่าสุด Parler กลับมาออนไลน์แล้ว และได้แหล่งโฮสต์เว็บใหม่คือ Epik ซึ่งเว็บไซต์ฝ่ายขวามักไปจดทะเบียนใช้งานกัน นอกจากนี้ Parler ยังได้ซีอีโอใหม่คือ Mark Meckle ผู้ก่อตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ออกไปทางขวาจัด Tea Party Patriots
จากกรณี George Floyd ทำให้สังคมตื่นตัวกับการเหยียดผิวรวมถึงการปฏิรูปวงการตำรวจในสหรัฐฯ ล่าสุด Minneapolis เมืองใหญ่ในรัฐมินนิโซตา ซึ่งเป็นสถานที่ต้นตอของเหตุการณ์ George Floyd โหวตแบนไม่ให้ตำรวจใช้ระบบจดจำใบหน้า สมาชิกสภาเมือง 13 คนลงมติเห็นชอบกับคำสั่งดังกล่าวโดยไม่มีสมาชิกเห็นค้าน
เรียกได้ว่าตามล้างตามเช็ดทุกอย่างหลัง Joe Biden เข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้ว (แค่วันแรกก็เซ็นคำสั่งมากที่สุดที่เคยมีมา 17 ฉบับ เพื่อยกเลิกนโยบาย Trump)
และล่าสุดก็เป็นคิวของ TikTok ที่ตอนนี้กระบวนการแบนจากคำสั่งของ Trump อยู่ในชั้นศาล ซึ่งกระทรวงยุติธรรมก็ยื่นเรื่องไปยังศาลขอให้ระงับกระบวนการพิจารณาก่อน เพราะรัฐบาลจะกลับมาทบทวนดูอีกครั้งว่า TikTok เป็นภัยต่อความมั่นคงจนควรถูกสั่งแบนจริงหรือไม่
นอกจากคำสั่งแบนที่ถูกระงับแล้ว รัฐบาล Joe Biden ยังระงับคำสั่งที่บีบให้ TikTok สหรัฐต้องขายให้กับบริษัทสหรัฐด้วย
หลังศาลอังกฤษปัดตกคำร้องของสหรัฐ ไม่อนุญาตให้ส่งตัว Julian Assange ไปสหรัฐ ล่าสุดกระทรวงยุติธรรมสหรัฐยืนยันว่าจะไม่ยอมแพ้และจะผลักดันจนอังกฤษยอมส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
อย่างไรก็ตาม ท่าทีล่าสุดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในยุค Biden ถือว่าสวนทางกับในยุคของ Obama ที่มองว่า Wikileaks เป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรก (the First Amendment)
ที่มา - Reuters
หลังรัฐบาล Joe Biden เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้มีการคาดการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงทิศทางของนโยบายหลาย ๆ อย่างจากสมัย Trump โดยเฉพาะนสงครามการค้าต่อจีน ซึ่งความคาดหวังนี้ก็มีไปถึง Huawei ด้วย
Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Huawei ให้สัมภาษณ์กับสื่อในจีน แสดงความจำนงค์ว่ายินดีที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดี Joe Biden และการพูดคุยก็จะอยู่ที่เรื่องการพัฒนาและความสำเร็จร่วมกัน
ซีอีโอ Huawei บอกด้วยว่าบริษัทมีแผนจะขยายความสามารถในการผลิตให้มากขึ้นอีก ซึ่งหากสามารถทำธุรกิจกับสหรัฐได้ บริษัทซัพพลายเชนของอเมริกันก็จะได้ประโยชน์เช่นกัน และปิดท้ายด้วยว่า หวังว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐจะคิดถึงผลประโยชน์เรื่องนี้เมื่อพิจารณานโยบายใหม่
Financial Times รายงานอ้างอิงข้อมูลข้อมูลจากหลายแหล่งว่า TikTok ในสหรัฐเตรียมออกฟีเจอร์ใหม่ด้านอีคอมเมิร์ซ เช่น ไลฟ์สตรีมช็อปปิ้งหรือเพิ่มลิงก์สินค้า ในรูปแบบคล้าย ๆ กับที่กำลังเป็นที่นิยมในจีน โดยตอนนี้ TikTok เริ่มบรีฟนักโฆษณาถึงฟีเจอร์ใหม่นี้แล้ว
ฟีเจอร์ใหม่ของ TikTok จะชนกับ Facebook และ Instagram โดยตรง ขณะเดียวกันสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของ TikTok เมื่อปีที่แล้วก็ดูผ่อนคลายลงและนักโฆษณาหรือลูกค้าก็เริ่มมั่นใจในแพลตฟอร์มมากขึ้น หลังเปลี่ยนรัฐบาลมาเป็นของ Joe Biden
ที่มา - FT
ประธานาธิบดีไบเดนเริ่มฟื้นฟูรายการประจำสัปดาห์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับมาออกอากาศอีกครั้ง หลังจากที่หายไปในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยการกลับมาของรายการนี้จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นแนวไม่เป็นทางการคล้ายกับพอดคาสท์ และแทนที่จะออกรายการผ่านวิทยุเหมือนอย่างที่เคยเป็น ทีมงาน Biden เลือกใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียและ YouTube ในการออกอากาศแทน
รายการของประธานาธิบดีนี้มีชื่อว่า A Weekly Conversation ในสัปดาห์แรกเป็นการสนทนาทางโทรศัพท์กับ Michele Voelkert ที่เขียนจดหมายถึงเขาจากการถูกเลย์ออฟจากงานเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส
ต่อเนื่องจากที่ Xiaomi ถูกสหรัฐแบน และบริษัทออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา ล่าสุด Xiaomi ยื่นฟ้องศาลในสหรัฐแล้ว
Xiaomi ยื่นฟ้องทั้งกระทรวงกลาโหมและกระทรวงพาณิชย์ต่อศาลแขวงโคลัมเบีย จากการที่กระทรวงกลาโหมอ้างกฎหมายความมั่นคงป้ายสี Xiaomi ว่าเป็นบริษัท "Communist Chinese Military Company" ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ก็มีคำสั่งแบนโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ที่มา - Xiaomi Blog
Financial Times รายงานว่าในช่วงปีที่ผ่านมา Ring ผู้พัฒนากริ่งประตูและกล้องเพื่อความปลอดภัยซึ่งกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฮมของ Amazon ได้ร่วมมือกับหน่วยงานตำรวจ และหน่วยงานดับเพลิงไปแล้วกว่า 2,000 แห่ง แม้จะยังตกเป็นที่วิจารณ์เรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
การร่วมมือนี้ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดต่อเจ้าของบ้านหรือผู้ใช้ ให้มอบฟุตเทจให้เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนได้ ส่วนประเด็นความเป็นส่วนตัวนั้นกระทบคนทั่วไป เพราะว่ามีภาพของคนทั่วไปที่เดินผ่านไปมาหน้าประตู ซึ่งพวกเขาไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกบันทึกภาพไว้
Glassdoor เว็บไซต์แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างพนักงานบริษัท จัดอันดับสายงานยอดนิยมโดยใช้เรตติ้งจากกลุ่มผู้ใช้โดยชั่งน้ำหนักปัจจัย 3 อย่าง คือ ศักยภาพในการสร้างรายได้, คะแนนความพึงพอใจในงานโดยรวมและจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับ พบว่า คนทำ Java ได้อันดับดีที่สุด ด้วยรายได้ 90,830 ดอลลาร์ คะแนนความพึงพอใจในงานที่ 4.2 จาก 5 และจำนวนตำแหน่งที่เปิดรับมากที่สุดคือ 10,103 ตำแหน่ง
การที่ Java ได้รับความนิยมสูงสุดนั้นไม่น่าแปลกใจนัก เพราะ Java เป็นภาษาที่ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม และเป็นภาษาในโครงสร้างพื้นฐานของหลายๆ บริษัท
นิตยสาร MIT Technology Review รายงานถึงปัญหาของระบบจองคิวฉีดวัคซีน COVID-19 หรือ Vaccine Administration Management System (VAMS) ที่สร้างโดยที่ปรึกษารายใหญ่อย่าง Deliotte ว่าระบบมีปัญหาอย่างมาก ทำให้ผู้รอรับวัคซีนต้องไปจุดฉีดวัคซีนเก้อ หรือบางทีข้อมูลก็ค้างจนจองคิวไม่ได้
VAMS เป็นระบบที่รัฐบาลกลางหรือ CDC สร้างขึ้นเพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นแต่ละรัฐสามารถเข้ามาใช้จัดการการฉีดวัคซีน มันรวมเอาทั้งระบบนัดหมายผู้ขอรับวัคซีน กับระบบจัดการคงคลังของรัฐและคลีนิค เข้าด้วยกัน ผู้ขอรับวัคซีนจะเห็นข้อมูลว่ามีคลีนิคใดเปิดบริการฉีดวัคซีนใกล้บ้าน ขณะที่ภาครัฐก็มองเห็นว่าจะจัดสรรวัคซีนไปจุดใดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกมาแถลงมาตรการจัดหาวัคซีน COVID-19 ของสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าจะซื้อวัคซีนของ Pfizer และ Moderna เพิ่มอีกรายละ 100 ล้านโดส (รวม 200 ล้านโดส) ทำให้ยอดสั่งซื้อวัคซีนของสหรัฐอเมริกาเพิ่มจาก 400 ล้านโดส เป็น 600 ล้านโดส
ตัวเลขนี้ทำให้สหรัฐอเมริกาจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชากร 300 ล้านคน คนละ 2 เข็มแล้ว วัคซีนล็อตใหม่จะส่งมอบภายในช่วงฤดูร้อนกลางปีนี้
ไบเดนยังประกาศความคืบหน้าของแผนการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสแรกให้ได้ภายใน 100 วันแรกที่รับตำแหน่ง ว่าเป็นภารกิจที่ท้าทายมากในประวัติศาสตร์ แต่สหรัฐอเมริกาจะต้องทำให้สำเร็จให้จงได้ โดยหลังเขารับตำแหน่งมา 7 วัน สามารถขยายจำนวนวัคซีนที่กระจายให้รัฐต่างๆ ได้จาก 8.6 ล้านโดสต่อสัปดาห์ มาเป็น 10 ล้านโดสต่อสัปดาห์
Google มีโครงการ NetPAC คณะกรรมการดำเนินการทางการเมือง ที่อนุญาตให้พนักงานของ Google ระดมเงินทุนส่วนตัวในการสนับสนุนนักการเมือง ที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกับ Google ซึ่ง NetPAC เคยเคยสนับสนุนแคมเปญของวุฒิสภาของ Ted Cruz ในปี 2017 และ 2018
ล่าสุด Google ยืนยันกับ CNBC ว่า NetPAC จะไม่ลงเงินสนับสนุนให้นักการเมืองหรือวุฒิสภาคนใดก็ตาม ที่โหวตค้านผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 ที่ผ่านมา โดยชนวนสำคัญคือเหตุการณ์ม็อบสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีบุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ส่วนบริษัทเทคอื่นอย่าง Microsoft, Facebook, Amazon ก็ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะหยุดการสนับสนุนเช่นกัน
Twitter เปิดตัว Birdwatch ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา โดยให้สังคมเป็นผู้ตรวจสอบ โดยเปิดตัวเป็น pilot ก่อนในสหรัฐฯ หลังเปิดทดสอบมาก่อนหน้านี้ วิธีการทำงานของ Birdwatch คือ ผู้ใช้งานทัวไปสามารถเพิ่มโพสต์เข้ามาใน Birdwatch ได้
ในช่วงเปิดตัวแบบนำร่อง จะมีผู้ใช้งานราว 1,000 คน มองเห็นฟีเจอร์นี้ โดยจะมองเห็นเป็นปุ่ม Birdwatch เป็นไอคอนรูปแว่นตาอยู่ใต้โพสต์ ถ้ารู้สึกว่าโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ก็สามารถกดเพิ่มเข้ามาใน Birdwatch และเขียนข้อความกำกับเพิ่มได้ว่าทำไมโพสต์ดังกล่าวถึงมีข้อมูลปลอม เพื่อให้ Twitter ตรวจสอบได้เร็วขึ้น
หนึ่งในนโยบายของทีมรัฐบาล โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ คือเร่งฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับประชาชน 100 ล้านโดส ภายใน 100 วันแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง
ทาง Dave Clark ซีอีโอ Amazon ฝั่ง Amazon Consumer ส่งจดหมายถึงทีมรัฐบาลไบเดนว่า Amazon เสนอตัวจะช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นกำลังแรงงาน, ความรู้ด้านไอทีและการสื่อสาร เพื่อช่วยในการฉีดวัคซีน
วันนี้โจ ไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ บรรดาช่องทางสื่อสารตามตำแหน่งก็ปรับอยู่ในความควบคุมของทีมงานไบเดนทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือเว็บไซต์ whitehouse.gov เวอร์ชั่นไบเดนนั้นมีโหมดพื้นหลังมืด เรียกว่าโหมด high contrast แต่แอปอื่นๆ อาจจะเรียกว่า dark mode พร้อมกับตัวเลือกตัวอักษรขนาดใหญ่สำหรับผู้มองเห็นได้จำกัด
YouTube ประกาศขยายการระงับบัญชี Donald Trump ต่ออีก 1 สัปดาห์ โดยอ้างความเป็นไปได้ที่ Trump อาจจุดกระแสขึ้นมาอีกครั้งในช่วงการเปลี่ยนผ่านอำนาจไปให้ว่าที่ประธานาธิบดี Joe Biden
กระบวนการถ่ายโอนอำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มตั้งแต่เมื่อ Joe Biden ได้รับการยืนยันว่าชนะเลือกตั้ง และจะสิ้นสุดวันที่ประธานาธิบดีคนใหม่เข้าพิธีสาบานตน ซึ่งปกติจะมีขึ้นในวันที่ 20 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น
ที่มา - Bloomberg