วันนี้ก็วันที่ 2 มกราคมของปี 2010 ซะแล้ว หากมาดูจากประกาศที่แอปเปิลเคยประกาศไว้ว่า...

Apple will support Microsoft Windows 7 (Home Premium, Professional, and Ultimate) with Boot Camp in Mac OS X Snow Leopard before the end of the year. This support will require a software update to Boot Camp.

หรือว่าง่าย ๆ แอปเปิลจะสนับสนุน Windows 7 ที่รันบน Boot Camp โดยการปล่อยอัพเดทไดรเวอร์สำหรับ Windows 7 โดยเฉพาะก่อนสิ้นปี 2009 นั่นเอง ดูเหมือนจะผู้ใช้ Windows 7 บน Boot Camp คงต้องรอต่อไปเสียแล้ว ดูเหมือนจะทุ่มเทให้กับ iSlate มากไปหน่อยกระมัง

ก่อนหน้านี้สักพักถ้าใครจำได้ ที่ทางไมโครซอฟท์ได้เสนอหน้าจอที่ให้ผู้ใช้เลือกติดตั้งเบราว์เซอร์ตามคำสั่งของ EU (ดูข่าวเก่า) และทาง Mozilla ได้ออกมาโต้แย้งเพราะการเรียงตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ไมโครซอฟท์ใช้จะทำให้ Apple Safari อยู่อันแรก (ดูข่าวเก่า)

ล่าสุดทางไมโครซอฟท์ได้เสนอหน้าจอนี้แบบแก้ไขให้กับ EU ใหม่ โดยได้ปรับให้ลำดับการแสดงเบราว์เซอร์แต่ละครั้งเป็นแบบสุ่มแทน

ที่มา - AppleInsider

แม้ว่าช่วงหลังฟีเจอร์ด้านกราฟิกที่เรียกเสียงฮือฮามักจะเป็น 3 มิติ แต่ใน Windows 7 ไมโครซอฟท์ก็ใส่ความสามารถใหม่ด้าน 2 มิติมาแบบเงียบๆ ซึ่งก็คือ Direct2D (ตัววาดภาพ 2 มิติตัวใหม่แทน GDI/DirectDraw) และ DirectWrite (ตัววาดข้อความตัวใหม่แทน Uniscribe)

จุดเด่นของเทคโนโลยีทั้งสองตัวนอกเหนือไปจากฟีเจอร์ใหม่ๆ ก็คือการใช้ GPU ช่วยเร่งการแสดงผล 2 มิติ ทำให้ประสิทธิภาพในการวาดหน้าจอเร็วขึ้นไปด้วย และหลังจาก Windows 7 วางตลาดไปแล้ว ก็มีข่าวว่าเบราว์เซอร์อย่างน้อย 2 ตัวคือ IE9 กับ Firefox เตรียมใช้ Direct2D มาช่วยเร่งการแสดงผลหน้าเว็บเพจ

Computerworld ได้รายงานว่า ไมโครซอฟท์ได้ออกมาปฏิเสธการฝัง backdoors ลงวินโดวส์ 7 สืบเนื่องจากความกังวลที่เกิดขึ้นหลังจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Security Agency หรือย่อว่า NSA) ได้บอกวุฒิสภาว่าหน่วยงานของตนได้มีส่วนร่วมการพัฒนาวินโดวส์ 7

เรื่องราวคือ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาสหรัฐฯ) คุณ Richard Schaeffer จากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติได้บอกคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องการก่อการร้ายและความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (Terrorism and Homeland Security) ของวุฒิสภาว่าหน่วยงานของตนได้มีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษาในระหว่างการพัฒนาวินโดวส์ 7 (ดูข่าวประกอบ)

หลังจากเผย xpPhone โทรศัพท์ติดต่อวินโดวส์เอ็กซ์พีตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัท ITG ผู้ผลิต xpPhone สัญชาติจีนก็ได้ออกรุ่นสั่งประกอบพิเศษ มาพร้อมกับทางเลือกหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดที่ 1024 x 600 พิกเซล กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล การสนับสนุน GSM/CDMA และวินโดวส์ 7 (ในข่าวไม่ได้ระบุว่าเป็นวินโดวส์ 7 เวอร์ชันอะไร แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นคือมีทางเลือก MS-DOS อยู่ด้วย!) ส่วนราคานั่นยังไม่ระบุ

หากใครสังเกตจะเห็นว่าธีมของวินโดวส์ 7 บนเว็บไมโครซอฟท์นั้นจะมีธีมที่มีโลโก้โฆษณาบริษัทต่างๆ อยู่ด้วย มีใครสงสัยไหมว่าอยู่ดีๆ มีธีมแนวโฆษณาดังกล่าวโผล่ขึ้นไปได้ไง?

เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่าได้เริ่มให้มีการโฆษณาบนวินโดวส์ 7 ผ่านธีมตั้งแต่วันเปิดตัววินโดวส์ 7 ที่ผ่านมา ในชื่อโครงการ Windows Theme Experience โดยมีบริษัทเข้าร่วม คือ Ducati, Infiniti, Porsche และ Twentieth Century Fox อย่างที่เราเห็นในธีมที่เปิดให้ดาวน์โหลดอยู่ในขณะนี้

จากข่าวเก่า ไมโครซอฟท์ปลด Windows 7 USB/DVD Download Tool ออกเนื่องจากอาจละเมิด GPL! ตอนนี้ไมโครซอฟท์ออกมายอมรับแล้วว่า Windows 7 USB/DVD Download Tool (ตัวย่อคือ WUDT) นั้นมีโค้ดที่เป็น GPL อยู่จริง โดยไมโครซอฟท์บอกว่าเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะไมโครซอฟท์จ้างบริษัทภายนอกพัฒนาโปรแกรมนี้

อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ก็ประกาศว่าจะเปิดซอร์สของ WUDT ตามเงื่อนไขของ GPL ในสัปดาห์หน้า และได้ตรวจสอบโค้ดของโปรแกรมต่างๆ บน Microsoft Store อย่างละเอียด พบว่ามีโปรแกรม WUDT เพียงโปรแกรมเดียวที่เข้าข่ายละเมิด GPL

Simon Aldous ซึ่งดำรงตำแหน่ง Partner Group Manager ของไมโครซอฟท์ กล่าวกับวารสาร PCR ของสหราชอาณาจักร ว่า Windows 7 นั้น ตั้งใจจะทำให้ได้ความรู้สึกแบบเดียวกับ Mac OS ในเชิงของกราฟิก

What we’ve tried to do with Windows 7 – whether it’s traditional format or in a touch format – is create a Mac look and feel in terms of graphics."

สิ่งที่เราพยายามจะทำเกี่ยวกับ Windows 7 ไม่ว่าจะในรูปแบบเดิมๆ หรือแบบสัมผัสก็ตาม ก็คือการสร้างความรู้สึกแบบแมคในเรื่องของกราฟิก

สมาชิกคนหนึ่งในฟอรั่ม MyDellMini (ฟอรั่มชุมชนผู้ใช้และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์เดลล์รุ่น Mini) ชื่อว่า Rob ได้ลงทุนแปลงเดลล์รุ่น Vostro A9 (รุ่นธุรกิจของ Mini 9) เป็นแท็บเล็ต หน้าจอทัชสกรีนและติดตั้งวินโดวส์ 7 และหลังจากนั้นเขาก็ได้เพิ่มตัววัดอัตราเร่ง (accelerometer) เพื่อใช้ปรับการแสดงผลให้เป็นแนวตั้งหรือแนวนอนโดยอัตโนมัติ จะเป็นอย่างไรดูได้จากภาพและคลิปวีดีโอท้ายข่าว

Gizmodo ได้เจาะลึกที่มาที่ไปของวอลเปเปอร์ที่ใช้ในหน้าล็อกอินและเดสก์ทอปของวินโดวส์ 7 ซึ่งได้รับการออกแบบโดยคุณ Chuck Anderson และใช้เวลาในการออกแบบนานถึง 4 เดือนด้วยกัน

คุณ Chuck ได้กล่าวว่า ในส่วนของวอลเปเปอร์สำหรับเดสก์ทอปนั้น หลังจากได้พูดคุยกับไมโครซอฟท์แล้ว เขาก็ได้ไอเดียในการออกแบบขึ้นมาอย่างกระทันหัน โดยเป็นการทำซ้ำกับเลข "7" ทั้งมีใบไม้ 7 ใบ มี 7 กิ่งก้านสาขา และมีกลีบดอกไม้ 7 กลีบในโลโก้วินโดวส์ แล้วก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเรื่อยมาจนถึงวอลเปเปอร์ที่ใช้ในวินโดวส์ 7 ตัวจริง

สำหรับภาพขนาดเล็กของวอลเปเปอร์สำหรับหน้าล็อกอินและเดสก์ทอปตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงภาพที่ได้ใช้งานจริง ดูได้จากข้างล่าง

Wzor.net เว็บไซต์ที่ให้ข่าวและปล่อยรั่ววินโดวส์ 7 และซอฟท์แวร์ตัวอื่นๆ ของไมโครซอฟท์ ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาจนถึงปัจจุบัน ได้ให้ข่าวว่า ไมโครซอฟท์จะปล่อยชุดอัพเดตวินโดวส์ 7 SP1 เบต้าให้กับเหล่านักทดสอบ (tester) ในเดือนธันวาคมปีนี้ และออกสู่สาธารณะในเดือนมกราคมปีหน้า โดยจะมีตัวเบต้า 2 ครั้งและ RC อีก 2 ครั้งก่อนปล่อยตัวจริง (RTM) ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนปีหน้า ส่วนการปล่อยตัวจริงผ่านเว็บไซต์ (RTW) น่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีเดียวกัน

ที่มา: Wzor.net (ต้องล็อกอินก่อน) ผ่าน Ars Technica

ก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวประเมินยอดขายของ Windows 7 ด้วยข้อมูลจากเว็บเบราว์เซอร์ ล่าสุดมีตัวเลขอย่างเป็นทางการออกมาแล้วครับ เป็นข้อมูลที่ประเมินโดยบริษัท NPD บอกว่ายอดขายของ Windows 7 ในวันแรกๆ ดีกว่า Vista ถึง 234%

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ข่าวดีเสียทั้งหมด แม้ว่ายอดขายเป็นจำนวนชุดจะเยอะ แต่ยอดขายเป็นจำนวนเงินกลับไม่มากนัก เหตุผลคือการลดราคา ทำให้รายได้ของไมโครซอฟท์จาก Windows 7 สูงกว่า Vista เพียง 82% เท่านั้น ส่วนยอดขายพีซีใหม่ในช่วงเดียวกัน Vista กลับทำได้ดีกว่า คือ พีซีขายดีขึ้น 170% ในช่วงที่ Vista วางขาย ส่วน Windows 7 ขายดีขึ้น 95% แต่อาจมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจของสหรัฐเข้ามาเกี่ยวด้วย

ในโปรแกรมตระกูล virtualization บนแมคอินทอช Parallels ถือได้ว่าเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาด ล่าสุดบริษัทได้ออก Parallels Desktop 5 for Mac ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างการรองรับ Windows 7 แล้ว

หนึ่งในฟีเจอร์ของ Parallels รุ่นก่อนๆ คือ seamless desktop หรือการรันโปรแกรมจากวินโดวส์เสมือนว่าเป็นโปรแกรมอีกตัวของแมคอินทอช ในรุ่นนี้ยังสนับสนุนขอบหน้าต่างใส Aero และการสลับหน้าต่างแบบ Flip 3D อีกด้วย ส่วนเรื่องเกมนั้นรองรับ DirectX 9Ex กับ OpenGL 2.1 แล้ว นอกจากนี้ยังใช้ทัชแพดแบบมัลติทัชกับรีโมทของแอปเปิลกับโปรแกรมที่เป็นวินโดวส์ได้ด้วย

Windows 7 วางขายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ส่วนเมืองไทยก็เปิดตัวไล่เลี่ยกันคือ 31 ตุลาคม วิธีการหนึ่งในการวัดว่า Windows 7 ดังหรือดับ ก็คือการดูจากจำนวนคนที่ใช้ OS นั้นๆ เข้าชมเว็บบนอินเทอร์เน็ต

ในช่วงการพัฒนาวินโดวส์ 7 นั้น ได้มีการพูดถึงฟีเจอร์ Virtual Wi-Fi ที่จะทำให้การ์ดไวร์เลสทำตัวเสมือนเป็นจุดเชื่อมต่อไร้สาย (wireless hotspot) แต่ในที่สุดก็เงียบหายไปเนื่องจากไม่มีไดร์เวอร์ที่รองรับฟีเจอร์ดังกล่าว มาวันนี้ก็มีคนอื่นมาพัฒนาต่อจนเสร็จสิ้นในชื่อ Connectify

ฟังชื่อไมโครซอฟท์กับ Eclipse อาจไม่ค่อยเชื่อมโยงด้วยกันนัก แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์จับมือบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดย่อม สร้างปลั๊กอินของ Eclipse ที่ทำงานกับเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ได้ดีขึ้น

อย่างแรกคือไมโครซอฟท์จ่ายเงินสนับสนุนบริษัท Soyatec จากฝรั่งเศส (และมีออฟฟิศอยู่ในประเทศจีนด้วย) สร้างปลั๊กอินของ Eclipse สำหรับ Windows Azure และ Silverlight ในชื่อ windowsazure4e และ eclipse4sl ตามลำดับ ทั้งสองโครงการเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ใช้สัญญาอนุญาตแบบ Apache และเริ่มออกรุ่นจริงในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้

ในโอกาสวันเริ่มขาย Windows 7 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เปิดร้าน Windows Café แล้วที่ใจกลางกรุงปารีส ร้านกาแฟดังกล่าวเป็นร้านแรกและร้านเดียวในโลกของผู้ผลิตระบบปฏิบัติการหมายเลขหนึ่งของโลก

Windows Café เป็นร้านกาแฟ กล่าวคือ ไม่มีการขายอุปกรณ์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือไม่มีการให้คำแนะนำหลังการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ (ซึ่งนักข่าวฝรั่งเศสวิจารณ์ในเรื่องนี้ว่าไมโครซอฟท์พลาดโอกาสเพราะเปิด Microsoft Store ในสหรัฐฯ แต่ทำไมไม่ทำที่ฝรั่งเศสเพื่อให้เป็นแห่งแรกในยุโรป) แต่จะขายเครื่องดื่มและของทานเล่น

เมื่อวันพฤหัสที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ คุณสตีฟ บัลเมอร์ได้ไปเปิดตัววินโดวส์ 7 ในรายการ Today Show ทางสำนักข่าว NBC ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรนะ แต่หากใครสังเกตดีๆ จะเห็นฉากหลังรายการเป็นเครื่อง MacBook Pro มีโลโก้วินโดวส์ 7 อยู่บนหน้าจอ (รูปดูได้จากท้ายข่าว)

ที่มา: CrunchGear

หลังจากไมโครซอฟท์ประเทศไทยสร้างความฮือฮา เปิดให้จอง Windows 7 Home Premium ราคา 2,777 บาท แล้วก็หมดลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดเตรียมเปิดให้จองผ่าน Windows 7 Thailand อีกครั้ง ในวันจันทร์ที่ 26 ต.ค. ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ราคาขยับขึ้นมา 1,000 บาท เป็น 3,777 บาท จำนวนเพียง 1,000 กล่องเท่านั้น ไลเซนส์คงเป็นแบบกล่อง (Product Package (FPP)) ที่มีทั้งแผ่นติดตั้ง 32 และ 64 บิทครับ

ที่มา: Windows 7 Thailand

หลาย ๆ คนอาจจะทราบกันแล้วว่าหนึ่งในการโปรโมทวินโดวส์ 7 ของไมโครซอฟท์ในประเทศญี่ปุ่น คงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากอีกแล้ว คลิกเข้ามาชมวีดีโอได้เลยครับ

ที่มา - Engadget

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 7 วันที่ 22 ตามกำหนดพร้อมกันทั่วโลก สำหรับอเมริกาเลือกเปิดตัวที่นิวยอร์ก รูปแบบของงานไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เป็นการโชว์ฟีเจอร์ของ Windows 7 ตามปกติ ซึ่งผู้อ่าน Blognone คงรู้กันหมดแล้ว (ถ้าไม่รู้? อ่านได้จากรีวิว Windows 7)

สำหรับผมไฮไลท์อยู่ที่ MC ของงานครับ เธอคือ Kylie สาวลูกครึ่งเอเชียอายุ 5 ขวบครึ่งซึ่งโด่งดังมาจากโฆษณาชุด I'm PC งานของ Kylie คือแนะนำตัวสตีฟ บัลเมอร์ต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งบัลเมอร์ก็รับบทเป็นคุณลุงใจดี มอบโน้ตบุ๊กสีชมพู (ดูยี่ห้อไม่ออก) ให้ซึ่งทำให้ Kylie ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยทีเดียว

ไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถอัพเกรดจากวินโดวส์เอ็กซ์พีหรือวิสต้าไปเป็นวินโดวส์ 7 ผ่านธัมบ์ไดรฟ์ (ในข่าวเรียก USB stick) ได้ โดยไมโครซอฟท์จะเปิดให้ดาวน์โหลด Windows 7 USB/DVD Download Tool (WUDT) เครื่องมือในการสร้างธัมบ์ไดรฟ์ที่บู๊ตได้หรือแผ่นดีวีดีผ่าน Microsoft Download Center และ Microsoft Online Store ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ

อัพเดต ไมโครซอฟท์เปิดให้ดาวน์โหลด WUDT แล้วที่ Microsoft Online Store รายละเอียดและลิงก์ดาวน์โหลดดูได้จากลิงก์ดังกล่าว

ที่มา: ZDNet

หลังจากที่ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 7 ไปหมาดๆ แอปเปิลนั้นก็ได้เปิดหน้าสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้ Boot Camp ว่าแอปเปิลนั้นจะสนับสนุนการบูต Windows 7 ผ่านการอัพเดตซอฟต์แวร์ Boot Camp สำหรับ OSX Snow Leopard ภายในก่อนสิ้นปีนี้ครับ

อันนี้ไม่รู้จะพูดยังไงเลย ผมเห็นแล้วอึ้งไปสามวินาที กับการโฆษณาเปิดตัววินโดวส์ 7 ที่ประเทศญี่ปุ่น

ไมโครซอฟท์ได้ร่วมกับเบอร์เกอร์คิงส์ (Burger King) ออกรายการส่งเสริมการขายชื่อ "Windows 7 Whopper" เป็นแฮมเบอร์เกอร์ที่มีความสูงประมาณ 13 ซม. มีชิ้นเนื้อถึง 7 ชิ้น ราคาที่ 777 เยน (ราว 290 บาท) เริ่มตั้งแต่ 22-28 เดือนนี้ แต่ราคาพิเศษนี่เฉพาะ 30 คนแรกต่อวันเท่านั้น (รูปป้ายโฆษณาดูได้จากเว็บที่มา)

เพิ่มเติม เลข 13 ดูเหมือนคนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยให้ความสำคัญว่าเป็นเลขอัปมงคลของฝรั่งมากนัก แต่เลข 4 กับ 9 เป็นเลขอัปมงคลของชาวญี่ปุ่นครับ

ทำไมไม่ทำกับแมคโดนัลด์ล่ะเนี่ย แมคโดนัลด์ดังมากในญี่ปุ่นมิใช่หรือ หึหึ

ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Windows 7 รอบสื่อมวลชนช่วงสายของวันนี้ มีข้อมูลที่หลายๆ คนอยากรู้เช่น ราคาขาย

ผมไม่ได้ไปงานแต่เท่าที่ติดตามจาก Twitter ได้ข้อมูลดังนี้ครับ