YouTube ประกาศผ่านช่อง Creator Insider บอกว่าจะมีการเปลี่ยนในโฆษณาที่แสดงบนวิดีโอของผู้ผลิตเนื้อหา โดยจากเดิมโฆษณาประเภทกดข้ามไม่ได้ จะมีให้เลือกเฉพาะผู้ที่เป็นระดับพาร์ทเนอร์เท่านั้น แต่จากนี้ YouTube จะเปิดให้ผู้ผลิตเนื้อหาทั้งหมด สามารถเลือกโฆษณาประเภทนี้ได้แล้ว

ในประกาศดังกล่าว YouTube บอกว่าผู้ลงโฆษณาต้องจ่ายเงินสูงกว่า หากลงโฆษณาแบบกดข้ามไม่ได้ ซึ่งแปลว่าผู้ผลิตเนื้อหาก็จะได้ส่วนแบ่งเงินที่มากขึ้นจากการเลือกโฆษณาประเภทนี้ แต่ในทางกลับกัน ก็หมายความว่าผู้ชม YouTube ก็น่าจะเห็นโฆษณาแบบนี้มากขึ้นด้วย

ทั้งนี้โฆษณาแบบกดข้ามไม่ได้ YouTube กำหนดความยาวเอาไว้ไม่เกิน 15-20 วินาที ส่วนโฆษณาแบบกดข้ามได้นั้น จะสามารถกดข้ามได้เมื่อเล่นไปแล้ว 5 วินาที

หลายคนอาจคิดว่ามือถือไหนก็ดูวิดีโอ YouTube ได้เทียบเคียงกัน แต่ประสบการณ์การดูวิดีโอมีหลากหลายมากกว่านั้น ล่าสุด YouTube ทำการจัดอันดับมือถือที่ดู YouTube อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หรือ YouTube Signature Devices

ซึ่งมือถือที่ติดหมวด YouTube Signature Devices ที่มี 19 อุปกรณ์ เช่น Samsung Galaxy Note9, Galaxy Note8, Galaxy S9, G7 ThinkQ, Xiaomi Mi 8, Mi Mix 2, Nokia 8 Sirocco, Xperia XZ2 Premium และในจำนวนนี้มี Pixel2 กับ Pixel2 XL รวมอยู่ด้วย

กูเกิลจัดงาน Google for Nigeria (คล้ายกับ Google for Thailand ที่เพิ่งจัดไป) มีประกาศของใหม่ที่น่าสนใจคือแอพ YouTube Go จะสามารถดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอออกมาได้ด้วย โดยจะเป็นฟอร์แมตของตัวเองชื่อ .yt

ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอ .yt มาเก็บไว้ในเครื่องได้ และมองเห็นไฟล์ในแอพ Gallery ของเครื่องได้ สามารถส่งต่อให้คนอื่นๆ และลบไฟล์ได้เหมือนไฟล์วิดีโอปกติ แต่จำเป็นต้องเปิดดูด้วยแอพ YouTube Go เท่านั้น

ประกาศสำคัญอีกอย่างคือแอพ Google Go จะเพิ่มฟีเจอร์อ่านข้อความในเว็บเพจให้เราฟังได้ และไฮไลท์ข้อความที่กำลังอ่านให้เห็นบนหน้าจอด้วย ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้ 28 ภาษา (ยังไม่บอกว่ามีภาษาใดบ้าง) และจะเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้ YouTube อัพเดตฟีเจอร์ดูวิดีโอแนวตั้งแบบเต็มจอบนมือถือแอนดรอยด์ไปแล้ว ล่าสุดเวอร์ชั่นเดสก์ทอปมีปรับปรุงด้วย คือสามารถรองรับการดูวิดีโอในสัดส่วนต่างๆ เช่นถ้าวิดีโอทำมาในสัดส่วน 4:3 เวอร์ชั่นใหม่ก็จะดูได้เต็มๆ แบบไม่มีแถบดำขนาบข้าง (ดูรูปภาพประกอบ)

การถ่ายวิดีโอในแนวตั้งก็เป็นที่นิยมมาก แต่เมื่อมาลง YouTube จะเห็นเป็นแถบดำขนาดใหญ่อยู่ทั้งซ้ายขวา เวอร์ชั่นใหม่นี้จะไม่มีแถบดำ กลายเป็นสีขาว (แต่ของเดิมอาจเหมาะสำหรับคนตั้งโหมดกลางคืนตลอดเวลามากกว่า)

อะไรๆ ก็ต้องมีปุ่ม Explore อย่างใน Instagram มีแท็บ Explore ค้นหารูปตาม topic ล่าสุด YouTube ทดลองทำแท็บ Explore ด้วยในผู้ใช้ iOS บางส่วน ราว 1%

ฟีเจอร์นี้อาจช่วยให้คลิปจากช่อง YouTube เล็กๆ ได้มีโอกาสเข้าถึงการมองเห็นของคนดูมากขึ้น ผ่านการค้นหาแบบหัวข้อ ปุ่ม Explore จะอยู่ด้านล่างแทนปุ่ม Trending โดยคลิปต่างๆ ใน Trending จะกระจายไปตามหัวข้อต่างๆ บน Explore

จากที่ YouTube ระบุใน help forum บอกว่า Explore จะเสนอเนื้อหาตามพฤติกรรมความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละราย ต่างจากฟีเจอร์แนะนำแบบเดิม โดย Explore จะแนะนำคลิปที่คนดูอาจพลาดไป หรือ YouTube ไม่ได้แนะนำมาให้

คนใช้ Twitter จะคุ้นเคยการใช้ Hashtag ค้นหาข้อมูลเป็นอย่างดี เพราะช่วยให้เจอข้อมูลมากมายภายใต้เรื่องนั้นๆ โซเชียลอื่นอย่าง Instagram และ Facebook ก็ใช้การค้นหาแบบ Hashtag ด้วย ล่าสุด YouTube ก็เพิ่มฟีเจอร์ให้สามารถเขียน Hashtag ตอนอัปโหลดคลิป เพื่อให้สะดวกเวลาค้นหาได้

ฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์แอนดรอยด์และบนเว็บไซต์ และยังไม่ได้เปิดใช้แพร่หลาย ผู้ใช้สามารถคลิกเข้าไปที่ Hashtag เพื่อเข้าถึงเนื้อหาอื่นที่เป็นเรื่องเดียวกันได้

ในงาน Google for Thailand กูเกิลประกาศจะจัด YouTube Pop-Up Space สนับสนุนครีเอเตอร์ให้เข้าไปถ่ายรายการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกครั้งในไทยช่วงเดือนพฤศจิกายน (ยังไม่ระบุสถานที่) นอกจากนี้ยังมี "YouTube Next Up" โปรแกรมที่ YouTube ทำขึ้นเพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์ที่มีศักยภาพอยู่แล้ว ให้ได้มา workshop กับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตคอนเทนต์ และทีมงาน YouTube

ในปีนี้ YouTube ประเทศไทย จะมีโครงการ Creator for Change เป็นโครงการเพื่อสังคมของ YouTube ที่ใช้ครีเอเตอร์มาสร้างผลงานเพื่อพัฒนาสังคม โดยกิจกรรมในประเทศไทยจะมุ่งเน้นไปที่ปัญหาของความอคติโดยไม่รู้ตัว ความเกลียดชังในสังคม และการตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์

วงการคนดังบน YouTube อาจต้องสั่นคลอนเมื่อเจอ ยูทูเบอร์เสมือนจริง หรือ VTuber ที่มาในคาแรกเตอร์อนิเมะน่ารัก โดย VTuber หรือ virtual YouTuber เริ่มเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในญี่ปุ่นเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ กิจกรรมที่เหล่า VTuber ก็ไม่มีอะไรมาก คือเล่นเกม ร้องเพลง เต้น คุยกับแฟนๆ ที่มาคอมเม้น แน่นอนว่าการทำงานเบื้องหลังคือมนุษย์นี่เอง โดยตั้งค่าใช้กล้องถ่ายวิดีโอและนำภาพที่ได้มาทำ motion แบบสามมิติ ใส่คาแรกเตอร์ลงไปจนกลายเป็นตัวละครอวตาร ที่มีการเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติ

User Local Inc. บริษัทวิจัยข้อมูลในโตเกียวระบุว่า จำนวน VTuber มีจำนวนประมาณ 4,000 คน จากที่ประมาณ 2 เดือนก่อนมีเพียง 2,000 รายเท่านั้น Kizuna Ai คือ VTuber ทีมีแฟนๆ ติดตามมากที่สุดคือกว่า 2 ล้านราย รองลงมาเป็น Kaguya Luna มีคนติดตาม 750,000 ราย และ Mirai Akari มีคนติดตาม 625,000 ราย

ปัจจุบันเพลงที่ทำยอดได้พันล้านวิวบน YouTube ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่คนทั่วโลกรู้จักและมักจะเป็นเพลงใหม่ ล่าสุดเพลงยุค 90 ก็สามารถทำหลักไมล์พันล้านวิวบน YouTube แม้จะเป็นเพลงเก่ามากแล้วก็ตาม ซึ่งก็คือเอ็มวี November Rain ของ Guns N’ Roses เป็นเพลงเดียวจากยุคเดียวกันที่ทำได้

เพลงที่สามารถทำยอดกดดูได้ถึงพันล้านครั้งบน YouTube ปัจจุบันมีเพียง 46 เพลงเท่านั้น ซึ่ง Gangnam Style สามารถทำยอดพันล้านได้เป็นครั้งแรก ปัจจุบันยอดวิวกว่า 2,000 ล้านครั้งแล้ว หลังจากนั้นก็ถึงคราวเพลงประกอบหนังดังคือเพลง See You Again ซึ่งไม่ง่ายเลยที่เพลงเก่าอย่าง November Rain จะทำได้ ที่สำคัญ เพลงเปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 ก่อนที่จะมี YouTube 13 ปี

YouTube ประกาศเพิ่มเครื่องมือใหม่สำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์ เพื่อช่วยค้นหาว่าวิดีโอของตนถูกขโมยไปอัพโหลดซ้ำหรือไม่ เรียกว่า Copyright Match

โดย YouTube บอกว่าที่ผ่านมาเจ้าของคอนเทนต์อาจต้องค้นหาวิดีโอที่ถูกนำไปอัพโหลดซ้ำเอง และเครื่องมือที่ YouTube มีให้ก็ยังไม่สะดวกพอ จึงออกมาเป็น Copyright Match ซึ่งมีขั้นตอนการทำงานคือ หลังจากมีการอัพโหลดวิดีโอตัวที่ถูกต้องเข้ามา YouTube จะสแกนวิดีโออื่นที่ถูกอัพโหลดว่าเหมือนหรือคล้ายกับวิดีโอที่มีอยู่หรือไม่ และแจ้งเตือนมายังเจ้าของคอนเทนต์ในแถบ Matches เพื่อให้ตัดสินใจดำเนินการต่อไป

YouTube เริ่มทำเซกชั่น Top News เสนอบทความข่าวสั้น และคลิปข่าวที่สามารถเชื่อมลิงก์ไปยังบทความข่าวต้นทางได้ เมื่อผู้ใช้เข้าแอป YouTube จะเห็นไฮไลต์ข่าว Breaking News ปรากฏขึ้นมาแรกๆ และเมื่อค้นหาหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งโดยเฉพาะ ก็จะปรากฏคลิปข่าวจากสำนักข่าวใหญ่หลายสำนักด้วย

ฟีเจอร์ Top News และ Breaking News เริ่มเปิดใช้งานใน 17 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลีญี่ปุ่น อินเดีย เม็กซิโก บราซิล แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ภายในเดือนถัดไป

ผู้ใช้งาน YouTube ยังจะเห็นเนื้อหาจากเว็บไซต์ third party อย่างเช่น Wikipedia ด้วย เพื่อจะได้ตรวจสอบเนื้อหาไปด้วยพร้อมๆ กัน

update (18:00): ช่องกลับมาแล้ว

มีรายงานในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ว่าช่อง YouTube ของสถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ WorkpointOfficial ไม่สามารถเข้าชมทุกคลิปวิดีโอได้ โดยแสดงข้อความว่า ไม่มีวิดีโอนี้เนื่องจากผู้อัปโหลดได้ปิดบัญชี YouTube ของตนแล้ว

หลังจากเคยมีข้อมูลหลุดออกมาผ่านโค้ดเกี่ยวกับโหมด Incognito หรือโหมดล่องหนที่ไม่บันทึกข้อมูลการค้นหาและ history บน YouTube ล่าสุด YouTube ปล่อยอัพเดตบนแอนดรอยด์เวอร์ชัน 13.25.56 เพิ่มโหมดใหม่นี้แล้วว

ตัวเลือก Turn on Incognito จะอยู่ในหน้าแอคเคาท์แทนที่ปุ่ม Sign Out เมื่อกดเปิดตัวแอปจะแจ้งตลอดแทบทุกหน้าด้วยคำว่า You're Incognito พร้อมเปลี่ยนอวาตาร์ขวาบนเป็นสัญลักษณ์ Incognito ส่วนการปิดโหมดก็สามารถกด Turn off Incognito ได้ทั้งจากอวาตาร์ขวาบนหรือจากแท็บ Subscriptions, Inbox และ Library

ที่มา - 9to5Google

YouTube ประกาศเพิ่มวิธีการสร้างรายได้ให้บรรดา creators เจ้าของช่องต่างๆ นอกเหนือจากการโฆษณา โดยมีวิธีการหาเงินหลากหลายวิธี ดังนี้

Channel Memberships หรือชื่อเดิมคือ Sponsorship ที่เคยทดลองนำร่องไปแล้ว ผู้ชมสามารถจ่ายเงินค่าสมาชิก 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษของทางช่องได้ เช่น วิดีโอเฉพาะสมาชิก แบดจ์-อีโมจิพิเศษ

ฟีเจอร์นี้เปิดให้ช่องที่มีผู้ติดตามมากเกิน 100,000 คนใช้งานได้แล้ว รายได้จะแบ่งกับ YouTube ในสัดส่วน 70:30 แต่ของประเทศไทยยังใช้งานไม่ได้ครับ

ปัญหาข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดียทำให้ความพยายามตรวจสอบข้อเท็จจริง และการทำฟีเจอร์ให้คนรวจสอบข่าวได้เป็นสิ่งจำเป็น และแน่นอนว่าแพลตฟอร์มที่คนรู้จักและใช้กันเป็นประจำอย่างวิกิพีเดียก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คนใช้ตรวจสอบเนื้อหากัน YouTube เองก็แสดงลิงก์วิกิพีเดียใต้คลิปเนื้อหาสมคมคิด ให้ผู้รับข่าวสารได้รับข้อมูลอย่างเท่าเทียมด้วย

Wired เผยแพร่บทความของ Katherine Maher กรรมการบริหารของมูลนิธิวิกิมีเดีย เจ้าของวิกิพีเดีย ว่า Facebook และ Google ควรทำอะไรมากกว่านี้เพื่อสนับสนุนวิกิพีเดียในฐานะที่เป็นแหล่งตรวจสอบข้อมูล เธอบอกด้วยว่า ในแง่หนึ่ง ทีมงานวิกิพีเดียรู้สึกยินดีที่โซเชียลมีเดียตระหนักถึงคุณค่าของวิกิพีเดีย อย่างไรก็ตาม แม้วิกิพีเดียจะเป็นรูปแบบอาสา ให้คนเข้ามาสร้างและแก้ไขเนื้อหาได้ แต่การดำเนินการหลายอย่างใช้ทั้งแรงงาน และเวลา และทรัพยากรอื่นๆ

มีงานวิจัยใหม่จาก Pew Research Center ที่คอยสำรวจพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตบ่อยๆ สำรวจวัยรุ่นอเมริกาว่าใช้โซเชียลมีเดียอะไร ผลปรากฏว่า จากที่ Facebook เคยครองโซเชียลอันดับหนึ่งที่วัยรุ่นเข้าใช้ ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะโดน YouTube แซง

ในการสำรวจปี 2014 - 2015 วัยรุ่น 71% ใช้ Facebook บ่อย รองลงมา 52% ใช้ Instagram และ 41% ใช้ Snapchat จนกระทั่งการสำรวจปี 2018 สามอันดับแรกไม่มี Facebook แต่เป็น YouTube (85%), Instagram (72%) และ Snapchat(ุ69%) ส่วน Facebook ลงไปอยู่อันดับที่สี่ โดยผู้ใช้วัยรุ่นที่ใช้บ่อยคิดเป็น 51% และ Twitter อยู่อันดับที่ห้า 32%

ปีที่แล้ว YouTube เคยเพิ่มฟีเจอร์แชทคุยกับเพื่อนระหว่างชมวิดีโอ แต่ยังจำกัดเฉพาะแอพบนมือถือเท่านั้น เวลาผ่านมาเกือบปี ฟีเจอร์นี้ขยายมายัง YouTube เวอร์ชันเว็บบนเดสก์ท็อปแล้ว

ผู้ใช้ YouTube จะเห็นไอคอนรูปข้อความแชท (Messages) เพิ่มเข้ามาตรงมุมขวาบน เมื่อกดแล้วสามารถคุยกับ Contact ของเราในระบบ YouTube ได้ (ต้องแอด Contact กันเองก่อน) หน้าตาของกล่องแชทจะคล้ายกับ Hangouts ที่ลอยขึ้นมาตรงมุมขวาล่างของหน้าจอ ทับหน้าเว็บปกติอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ในปุ่ม Share วิดีโอก็ถูกรวมเข้ากับฟีเจอร์แชทตัวนี้ด้วย

ผมลองของบัญชีตัวเองพบว่าได้ฟีเจอร์นี้แล้ว

Vevo ผู้เผยแพร่คลิปมิวสิควิดีโอรายใหญ่ประกาศเลิกทำแอพของตัวเองอย่างเป็นทางการ ทั้งบน iOS, Android และ Windows รวมถึงเว็บไซต์ฝั่งผู้ใช้ทั่วไป และไปเน้นช่องทางการเผยแพร่คอนเทนต์ผ่าน YouTube เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ Vevo

Vevo จะยังคงโฟกัสที่กลุ่มผู้ชมขนาดใหญ่และช่องทางการเติบโตต่อไป โดยปัจจุบันแค็ตตาล็อกของเพลงระดับพรีเมียมของ Vevo รวมถึง original content มีผู้รับชมผ่านทาง YouTube เป็นจำนวนมาก และ Vevo กำลังหาช่องทางทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อหาช่องทางการเติบโตของคอนเทนต์บน Vevo ต่อไป

นอกจาก YouTube Music แล้ว YouTube ยังประกาศเปลี่ยนชื่อบริการ YouTube Red เป็น YouTube Premium ด้วยตรงตามข่าวลือ

บริการของ YouTube Premium จะเหมือน YouTube Red ทุกอย่างคือออริจินัลคอนเทนท์, ไม่มีโฆษณา, ดาวน์โหลดและฟังเพลงเบื้องหลังได้ โดยคิดค่าบริการ 11.99 ดอลลาร์ต่อเดือนซึ่งจะได้บริการ YouTube Music Premium พ่วงมาให้ด้วยในแพ็คเกจ โดยสมาชิก YouTube Red ก็จะเขาถึงคอนเทนท์ YouTube Premium ได้อัตโนมัติ

ไม่ทันจะข้ามสัปดาห์ก็มาตามข่าวลือแล้ว สำหรับบริการสตรีมมิงเพลงตัวใหม่ในชื่อ YouTube Music ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมาแทน Google Play Music หรือไม่ เพราะตอนนี้ยังให้บริการควบคู่กันไป

YouTube Music จะมีแอปแยกเฉพาะบนมือถือและบนเดสก์ท็อป (ยังไม่ชัดว่าเป็นแอปหรือบนเว็บ) ซึ่งก็จะมีเหมือนกับบริการสตรีมมิงอื่นๆ ทั้งเพลง อัลบั้ม วิทยุ รีมิกซ์ คัฟเวอร์และไลฟ์สด โดย YouTube Music มีให้บริการแบบฟรี แต่มีโฆษณา ดาวน์โหลดไม่ได้และฟังเพลงแบบเบื้องหลังไม่ได้ หากต้องการฟีเจอร์เหล่านี้และตัดโฆษณา ต้องจ่ายค่าบริการเดือนละ 9.99 เหรียญกับ YouTube Music Premium

Recode รายงานว่า ตอนนี้ Google เตรียมปรับปรุงบริการสตรีมมิ่งแบบเสียเงินบน YouTube ใหม่ ซึ่งแผนครั้งนี้คือปรับปรุง YouTube Music ใหม่ และ YouTube Red จะเปลี่ยนเป็น YouTube Premium ซึ่งทั้ง Music และ Premium จะเป็นแพลน 2 แบบแยกเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการฟังเพลงอย่างเดียว กับผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย

สำหรับ YouTube Music โฉมใหม่จะเน้นการฟังเพลงเป็นหลัก ฟีเจอร์คล้ายเดิม (ของเดิมเป็นส่วนหนึ่งของ YouTube Red) โดยเพิ่มส่วนสำคัญคือเพลย์ลิสต์ที่จัดโดยขึ้นกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ ซึ่ง YouTube Music คิดค่าบริการที่ 10 ดอลลาร์ต่อเดือน มีช่วงให้ทดลองใช้งานฟรี และบริการใหม่นี้จะมาแทนที่ Google Play Music ด้วย

YouTube Red เว็บไซต์ดูคอนเทนต์แบบพรีเมี่ยมของ YouTube เตรียมขยายเนื้อหาเพิ่มขึ้นอีกระดับ โดยได้สารคดีเกี่ยวกับ AI มาลงฉาย ผลิตรายการโดยRobert Downey Jr. และภรรยา Susan Downey โดย Downey Jr. รับหน้าที่เป็นคนเล่าเรื่องสารคดีด้วย

เรียกได้ว่าเลือกผู้ดำเนินรายการได้เหมาะสม เพราะ Downey Jr. รับบท Iron Man ผู้สร้างปัญญาประดิษฐ์ที่แสนฉลาดอย่าง Jarvis ขึ้นมา และตัว Susan Downey เองก็เป็นโปรดิวเซอร์อยู่แล้ว ทั้งคู่มีโปรดักชั่นของตัวเองในชื่อว่า Team Downey

ตัวซีรีส์สารคดีมี 8 ตอน ยังไม่ระบุชื่อเรื่อง เป็นการเล่าเรื่องราว AI และสำรวจผลกระทบของ AI ว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อวิถีชีวิตคนในด้านใดบ้าง นอกจาก Downey Jr. จะมาเป็นผู้เล่าเรื่องหลักแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญสาขาอื่นทั้งเทคโนโลยี ปรัชญา อนาคต ความบันเทิง การแพทย์ ศิลปะ ด้วย กำหนดการฉายคือปี 2019

Google ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ YouTube โดยเป็นฟีเจอร์ในกลุ่มเพื่อสวัสดิภาพทางดิจิทัล (digital wellbeing) ให้ผู้ใช้เป็นทางเลือกในการป้องกันการติดหน้าจอจนเกินไป ได้แก่

สำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า ปัจจุบันมีบริษัทที่โปรโมตบริการเขียนบทความผ่านวิดีโอจำนวนมากบนเว็บไซต์ YouTube ซึ่งบริการเขียนบทความนี้เป็นบริการที่เน้นช่วยให้ผู้เรียนทุจริตงานที่ได้รับมอบหมายจากสถาบันการศึกษา

BBC พบช่องบน YouTube กว่า 250 ช่องที่คอยโปรโมตบริการ EduBirdie ซึ่งจะคอยขายบทความให้ผู้เรียนที่ต้องการเอางานไปส่งที่สถาบันการศึกษาเป็นทางลัดให้ผ่านวิชาเรียนนั้น ๆ โดยวิดีโอโปรโมตบริการทั้งหมดนี้มีผู้รับชมแล้วกว่า 700 ล้านครั้ง ซึ่ง EduBirdie เคลมว่าบทความที่ซื้อไปนี้ไม่ใช่งานคัดลอกและแปะ ดังนั้นจะปลอดภัยจากการตรวจสอบด้วยซอฟต์แวร์ตรวจจับการคัดลอกงานต่าง ๆ (แต่การนำงานที่คนอื่นทำไปส่งก็ผิดกฎอยู่ดี)

Susan Wojcicki ซีอีโอ YouTube กล่าวในงาน Brandcast โดยเผยว่า YouTube มีผู้ใช้งานแบบล็อกอิน ต่อเดือนถึง 1.8 พันล้านคน ซึ่งแปลว่าตัวเลขนี้ยังไม่รวมผู้ใช้ที่ไม่มีการล็อกอินด้วย

นอกจากนี้ Wojcicki ยังเปิดเผยสถิติน่าสนใจหลายอย่าง อาทิ ไลฟ์สตรีมของ Beyoncé มีผู้ชมพร้อมกันสูงสุดถึง 41 ล้านคน ส่วนวิดีโอ Despacito ก็มียอดวิวทะลุ 5 พันล้านไปแล้วเมื่อเดือนก่อน

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว YouTube บอกว่ามีผู้ใช้งานแบบล็อกอิน 1.5 พันล้านคน

ที่มา: The Verge