ปกติแล้วเรามักเห็นข่าวการต่อคิวรอซื้อของใช้ไฮเทครุ่นใหม่ล่าสุด จับตลาดบนๆ อย่าง PS3 หรือ iPhone แต่ในอินโดนีเซีย เค้าไปเข้าคิวรอซื้อ Nokia C3 มือถือรุ่นกลาง-ล่างของโนเกียกันอย่างล้นหลาม
Nokia C3 เป็นมือถือ S40 ตัวแรกที่มีคีย์บอร์ด QWERTY (ทรงเดียวกับ E71-E72) มีฟีเจอร์ครบครันอย่าง Wi-Fi, Bluetooth 2.1, กล้อง 2 ล้านพิกเซล (แต่ไม่มี 3G) ตามข่าวบอกว่าราคาประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 4,000 บาท
การเปิดตัวครั้งนี้มีขึ้นใน 10 เมืองใหญ่ของอินโดนีเซีย ข้อมูลจากบล็อกของโนเกียบอกว่ามีคนมาเข้าคิวหลัก "หลายพัน" (ไม่ระบุว่าทั้งหมดหรือเฉพาะเมือง) แถมฝนตกอีกต่างหาก
โปรแกรมจัดการเพลงแบบโอเพนซอร์ส Songbird ออกรุ่นใหม่ 1.7 แล้ว ของใหม่มีดังนี้
แม้ว่า กทช. ชุดใหม่นี้จะมีความต้องการในการประมูลคลื่นความถี่ที่เอกชนต้องการในการเปิดให้บริการ 3.9G ให้เร็วที่สุดก็ตาม แต่ล่าสุดสมาชิกวุฒิสภาไทยได้ออกมาเรียกร้องว่าสภาควรจะมีส่วนร่วมในขั้นตอนการประมูล
ไทยโพสต์รายงานว่า นายวิทวัส บุญญสถิตย์ ส.ว. รายหนึ่ง ได้ออกมาบอกว่าการประมูลคลื่นความถี่ 3.9G นั้นมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ทำให้เข้าข่าย พรบ. ร่วมทุน จึงเห็นว่าสภาควรจะเป็นผู้พิจารณากรอบการประมูลก่อนที่จะยินยอมให้ กทช. ลุย โดยได้อ้างว่า "การที่ กทช. อ้างว่าเป็นหน่วยงานอิสระและไปวางกรอบไลเซนส์เองเพื่อให้เอกชนมาใช้คลื่นความถี่ที่เป็นของรัฐนั้นไม่ถูกต้อง..."
หากสนใจโปรดอ่านต่อจากที่มาที่ไทยโพสต์ครับ แต่ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าปัญหาอำนาจของ กทช. นี่ยังไม่เคลียร์อีก?
แม้ว่าสตีฟ จ็อบส์ได้ออกมาพูดในงาน WWDC10 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ว่าจากสายตาของแอปเปิลพวกเขาเห็นจอ IPS เป็นเทคโนโลยีที่เหนือกว่า OLED แต่จากผู้ผลิตจอรายใหญ่ยักษ์ของโลกอย่างซุมซังแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องจริง
โดยซํมซุงได้ออกมาบอกว่า จอ IPS ความละเอียดสูงที่แอปเปิลได้ตั้งชื่อให้ว่า Retina Display นั้นมีความคมชัดมากกว่าจอภาพของ Samsung Galaxy S Super AMOLED เพียงแค่ 3-5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่กลับใช้พลังงานมากกว่าถึง 30% ด้วยกัน
นอกจากนี้ซัมซุงยังเชื่อว่าจอ AMOLED ของพวกเขามี Contrast และ Viewing-angle ที่ดีกว่า และบอกตามหลักของเทคโนโลยีแล้ว IPS LCD ไม่มีทางสู้กับ AM-OLED ได้อย่างแน่นอน
ปล่อยให้ค่ายอื่นส่งเน็ตบุ๊กใช้ระบบปฏิบัติการ Android อยู่นาน ล่าสุดก็มีข่าวว่า Toshiba กำลังพัฒนาเน็ตบุ๊กใช้ Android เช่นกัน มีชื่อรุ่นในสายการผลิตว่า AC100-114 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
วันศุกร์นี้ (11 มิ.ย.) ผมจะไปเข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นเรื่อง การอนุญาตประกอบกิจการสื่อสารความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไร้สาย (Broadband Wireless Access : BWA) (แปลง่ายๆ ว่ามันคือเรื่อง WiMAX นั่นล่ะครับ) ดังนั้นเป็นโอกาสอันดีที่ใครอยากฝากคำถามถึง กทช. เรื่อง WiMAX (เรื่อง 3G/3.9G ไม่รับเพราะคนละงานกัน) สามารถใส่ไว้ในคอมเมนต์ได้เลย แล้วจะเอาไปถามให้เท่าที่ถามได้ครับ
หมายเหตุ: ก่อนถามลองอ่านข่าวที่เกี่ยวข้องก่อน จะได้ไม่ถามซ้ำ เช่น
กระทู้ในเว็บไซต์ Mobile-Review ได้แผนผังแสดงแผนการของโนเกียมาเป็นภาษาฝรั่งเศส ในแผนภาพอันนี้ไม่มีรูปของมือถือใดๆ แต่มี "ชื่อรุ่น" ของมือถือโนเกียที่ยังไม่ขายในท้องตลาด
ที่น่าสนใจคือโนเกียได้แยกตลาดของมือถือตระกูล C (ทั่วไป) E (ธุรกิจ) และ X (บันเทิง) อย่างชัดเจน โดยทั้งสามซีรีส์จะออกรุ่นที่ลงด้วย 7 อันได้แก่ C7, E7 และ X7 ในไม่ช้านี้
สำหรับมือถือตระกูล N ที่เป็นรุ่นท็อป และส่ง N8 ลงมาทำตลาดแล้ว จะยังมี N9 ตามมาอีกด้วย โดยมันจับตลาดสูงกว่า N8 และคาดกันว่ามันอาจเป็นมือถือตัวแรกที่ใช้ MeeGo ก็เป็นได้
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Motorola จะออกมือถือตระกูล Droid อีกสองรุ่นในเดือนกรกฎาคม และเราเห็นภาพหลุดของ Droid Xtreme กันไปตัวหนึ่งแล้ว
ล่าสุดเว็บ Droid Life เจ้าเดิมได้เปิดเผยภาพหลุดของมือถืออีกตัว ตามข่าวบอกว่าชื่อของมันคือ Droid 2
เรายังมีข้อมูลของ Droid 2 น้อยมาก จากภาพที่หลุดออกมา บอกได้แค่ว่ามันมีขอบโลหะสีเงิน (คล้ายๆ iPhone) และมีเลขรุ่นว่า A955 เท่านั้น ภาพแบบเบลอๆ อยู่ด้านในครับ เดือนหน้าคงรู้กันว่าจะเป็นอย่างไร (เผลอๆ อาจหลุดหมดภายในเดือนนี้ด้วยซ้ำ)
ที่มา - Droid Life
หลังจาก โนเกียโชว์วิดีโอส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Nokia N8 (ซึ่งเป็นคลิปแรกในทั้งหมด 3 คลิปที่ใช้โปรโมท N8)
ทางโนเกียได้ปล่อยคลิปที่สองออกมา และช่วงเวลาดูเหมือนจะเหมาะเหม็งมาก (ไม่รู้ตั้งใจหรือเปล่า) เพราะคลิปนี้โชว์ความสามารถตัดต่อวิดีโอของ N8 แถมเหนือกว่า iPhone 4 ตรงที่ N8 สามารถต่อกับ flash drive ได้โดยตรง (ต้องมีสายเคเบิลเชื่อม) สามารถตัดต่อวิดีโอที่เก็บอยู่ใน flash drive ได้ทันที
ผมดูแล้วพบว่า หน้าตาของโปรแกรมตัดต่อวิดีโอของโนเกีย ดูสวยงามและน่าจะใช้ง่ายดี (ผิดวิสัย) ถ้าโนเกียโปรโมทได้เก่งๆ แบบแอปเปิลคงขายดีกว่านี้อีกเยอะ
คู่แข่งอย่าง iPhone 4 นำหน้าไปแล้วกับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p แต่เอาเข้าจริงแล้ว มือถือที่เปิดตัวมานาน 5 เดือนอย่าง Nexus One ก็ทำได้???
ความน่าสนใจคือคนทำกลับไม่ใช่กูเกิล แต่เป็นชุมชนนักพัฒนาจากเว็บไซต์ xda-developers ซึ่งฟีเจอร์นี้รวมอยู่ในรอม CyanogenMod รุ่นล่าสุด 5.0.8test3 มีวิดีโอยืนยันความสำเร็จให้ดูอยู่ด้านใน ใครมี Nexus One ในครอบครองอาจพิจารณาลง Cyanogen กันแทน
ความน่ากลัวของ Android อาจอยู่ที่กองทัพนักพัฒนาภายนอก มากกว่านักพัฒนาจากบริษัท?
ที่มา - Engadget
ข่าวนี้จะคล้ายๆ กับ สั่งซื้อสินค้าจาก Amazon ด้วยการพยักหน้าหนึ่งครั้ง? เพียงแต่เปลี่ยนจากหน้าเป็นมือ และใช้บนมือถือแทน
บริษัท eyeSight Mobile Technologies จากอิสราเอล ได้เดโมการสั่งงานโทรศัพท์มือถือด้วยการโบกมือผ่านกล้อง เช่น การโบกมือไปทางนึงเพื่อรับสาย โบกมือไปอีกทางเพื่อส่ง SMS รวมถึงการใช้เล่นเกม อธิบายยากเอาเป็นว่าดูวิดีโอง่ายกว่า
ตอนนี้ยังไม่มีผลิตภัณฑ์จริงที่ใช้เทคโนโลยีนี้ แต่ทาง eyeSight ได้ขายไลบรารีสำหรับนักพัฒนานำไปใช้ต่ออีกทีหนึ่ง โดยมันทำงานได้บน Android ดังนั้นมือถือ Android รุ่นที่มีกล้องหน้าอย่าง HTC EVO 4G น่าจะได้ใช้ก่อนใครเพื่อน
ท่ามกลางข่าวการเปิดตัว iPhone จากฟากแอปเปิล ไมโครซอฟท์ก็ได้ปล่อยบริการบางตัวของ Windows Live Wave 4 ออกมาเงียบๆ แล้ว บริการที่เปิดตัวแล้วประกอบด้วย Windows Live Web Messenger (ดูรีวิว Windows Live Web Messenger ได้ที่นี่), Office Web Apps, Windows Live SkyDrive และ Windows Live Photos ปรับปรุงใหม่ รวมถึง Windows Live Mobile ปรับปรุงใหม่ด้วย
ในตอนที่ 1 จะขอกล่าวถึง Office Web Apps, Windows Live Photos และ Windows Live SkyDrive ก่อนครับ
Rich Dellinger อาจจะไม่ใช่ชื่อที่ใคร ๆ ในวงการก็รู้จัก แต่เขาเป็นผู้ที่ให้กำเนิดระบบ Notifications หรือระบบแจ้งเตือนบน webOS ซึ่งถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่มีระบบแจ้งเตือนที่ไม่รบกวนการใช้งานของผู้ใช้ดีอันดับต้น ๆ ของวงการ
ล่าสุด เขากลายเป็นหนึ่งในพนักงานของแอปเปิลไปแล้ว โดยได้นั่งเก้าอี้ Senior UI Designer ที่แอปเปิลแทน หลังจากที่ Palm ได้ถูกซื้อไปโดย HP
คงเดาไม่ยากแล้วใช่ไหมครับ ว่า iOS 5 จะมีอะไรใหม่
ที่มา - Engadget
อาจเป็นข่าวร้ายของกูเกิล เพราะในวันที่คู่แข่งอย่างแอปเปิลเปิดตัว iPhone 4 แบบยิ่งใหญ่ ฝ่ายตัวเองกลับมีข่าวด้านลบที่ทำให้นักพัฒนาไม่พอใจ
เรื่องมีอยู่ว่า นักพัฒนาจำนวนหนึ่งที่ส่งโปรแกรมรุ่นอัพเดตลงไปใน Android Market ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน พบว่าโปรแกรมของพวกเขาหายไปจาก Android Market ซะอย่างนั้น
ปัญหายิ่งเลวร้ายกว่าเดิมเมื่อนักพัฒนาพยายามติดต่อไปยังกูเกิลในช่องทางต่างๆ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากกูเกิลแม้แต่น้อย ทำให้นักพัฒนาจำนวนไม่น้อยเริ่มไม่พอใจกูเกิลบ้างแล้ว
ถ้าใครเคยใช้ Twitter ในรุ่นแรกๆ อาจจะพอจำได้ว่า Twitter จะย่อลิงก์ยาวๆ ให้เราโดยอัตโนมัติ ในกรณีโพสต์ผ่านหน้าเว็บ โดยใช้บริการของ tinyurl และ bit.ly แต่ภายหลังฟีเจอร์นี้ถูกถอดออกไป ถ้าอยากให้ย่อลิงก์อัตโนมัติ เราจำเป็นต้องใช้ Twitter client แทน
ตอนนี้ฟีเจอร์ย่อลิงก์อัตโนมัติกำลังจะกลับมาสู่หน้าเว็บของ Twitter อีกครั้ง แต่เป็น Twitter ทำเองในชื่อ t.co
เมื่อปีก่อนผมเคยเขียนเกี่ยวกับ Caffeine ระบบดัชนีเว็บ (web index) รุ่นใหม่ของกูเกิลไปบ้าง (ข่าวเก่า กูเกิลเปิดให้ทดสอบ Caffeine ระบบดัชนีเว็บรุ่นใหม่)
ตอนนี้ Caffeine เสร็จสมบูรณ์แล้ว และกูเกิลก็นำมันมาใช้งานจริงแล้วในศูนย์ข้อมูลทุกแห่ง และกูเกิลทุกภาษา
กูเกิลบอกว่าระบบดัชนีแบบเก่า เก็บข้อมูลเว็บเป็นเลเยอร์ที่มีความถี่ในการอัพเดตไม่เท่ากัน (ดูภาพประกอบ) ส่วนของเลเยอร์หลักมีขนาดใหญ่มาก และการอัพเดตข้อมูลทั้งหมดของเลเยอร์หลักต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ ทำให้ข้อมูลในดัชนีของกูเกิลเก่าเกินไป เริ่มล้าสมัยสำหรับความต้องการของผู้ใช้ยุคนี้แล้ว
หนึ่งในเทคโนโลยีที่อยู่ค้ำฟ้าในโลกคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้คือ BIOS ที่มีการใช้งานมาตั้งแต่ช่วงต้นยุค 1990 หรือเกือบ 20 ปีแล้ว และทาง MSI ก็เตรียมย้ายเมนบอร์ดของตัวเองไปใช้งานระบบ UEFI ภายในสามปีข้างหน้า เริ่มต้นด้วยเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต Sandy Bridge ของอินเทล
จุดต่างในเชิงเทคนิคของ UEFI นอกจากมาตรฐานที่ต่างกันแล้ว UEFI ยังพัฒนาด้วยภาษา C แทนที่ภาษา Assembly ที่ใช้ใน BIOS
มีคำถามกันมากว่าการเข้ามาของ iAd จะส่งผลอย่างไรต่อกูเกิลที่เพิ่งซื้อ AdMob ไป และผลล่าสุดนั้นคือการปรับข้อตกลงสำหรับนักพัฒนาโดยเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมเช่นตำแหน่งของเครื่อง iPhone ไปยังบริษัทโฆษณาได้โดยการขออนุญาตจากแอปเปิลเป็นกรณีไป ยกเว้นแต่บริษัทโฆษณานั้นๆ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถืออื่นๆ
ข้อตกลงข้อ 3.3.9 ที่เพิ่มเข้ามาในการพัฒนาแอพลิเคชั่นบน iOS4 นี้อาจจะมองได้ว่าเป็นการมุ่งโจมตีกูเกิลและ AdMob โดยเฉพาะ เพราะบริษัทโฆษณาบนโทรศัพท์ใหญ่ๆ ในตอนนี้ก็คงมีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นในตอนนี้
เมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยอัพเดทด้านความปลอดภัยและการปรับปรุงเสถียรภาพประจำเดือนมิถุนายนออกมาหลายรายการ แต่มีอัพเดทอยู่กลุ่มหนึ่งสำหรับ Windows 7 คือ KB2028551, KB2028560 และ KB2120976 ที่ระบุว่าเป็น "Install this update to support features in Internet Explorer 9 Beta" จึงมีความไปได้หรือไม่ว่าไมโครซอฟท์กำลังจะปล่อย Internet Explorer 9 Beta ในเร็ววันนี้?
ไมโครซอฟท์ได้ประกาศนโยบายการส่งโปรแกรมเข้า Windows Phone Marketplace ของ Windows Phone 7 แล้ว โดยรวมๆ เหมือนกับนโยบายของ iPhone App Store ครับ
รองรับการจ่ายเงินด้วยเครดิตการ์ดเป็นหลัก แต่จะมีระบบคิดเงินรวมกับค่าโทรศัพท์ในอนาคต
วันนี้มีซอฟต์แวร์ออกกันหลายตัวนะครับ ฝั่งไมโครซอฟท์ได้ออก Expression Studio 4 ซอฟต์แวร์สำหรับ interaction designer รุ่นล่าสุดมาแล้ว (ผมเคยเขียนถึง Expression Studio รุ่นแรก ไว้เมื่อนานมาแล้ว)
ซอฟต์แวร์ในตระกูล Expression มีทั้งหมด 4 ตัวคือ
กูเกิลได้เพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ แต่น่าจะมีประโยชน์ของ Gmail นั่นคือการพรีวิวแผนที่ ถ้าหากว่าใส่ลิงก์ของ Google Maps ไว้ในอีเมล หรือว่าในอีเมลมีข้อความแสดงที่อยู่ (ตอนนี้รองรับเฉพาะที่อยู่ในสหรัฐเท่านั้น แต่ถ้าเป็นลิงก์ไม่มีปัญหา)
ฟีเจอร์นี้สามารถเปิดใช้ได้จาก Gmail Labs (ก่อนหน้านี้มีฟีเจอร์พรีวิววิดีโอใน YouTube และรูปภาพจาก Flickr/Picasa มาแล้ว)
นอกจาก Gmail แล้ว ถ้าโพสต์ URL ของ Google Maps ลงใน Buzz ก็จะแสดงแผนที่เช่นกัน
ที่มา - Gmail Blog
เป็นเรื่องปกติเมื่อแอปเปิลออกฮาร์ดแวร์ในตระกูล iPod/iPhone/iPad ใหม่ ก็จะออก iTunes รุ่นใหม่ตามเพื่อรองรับฟีเจอร์ของฮาร์ดแวร์ด้วย สำหรับการเปิดตัว iPhone 4 ก็ปรากฎว่าแอปเปิลแอบออก iTunes 9.2 รุ่นเบต้ามาอย่างเงียบๆ ให้นักพัฒนาใช้
ตอนนี้ iTunes 9.2 ยังมีเฉพาะบนแมค และแจกจ่ายเฉพาะช่องทางของนักพัฒนาเท่านั้น ตามข่าวบอกว่ามันจะรองรับฟีเจอร์การ sync ไฟล์ PDF ไปยังโปรแกรม iBooks บน iPhone แล้ว คาดว่ารุ่นจริงน่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดพร้อม iOS 4 ในช่วงปลายเดือนนี้
ที่มา - TechCrunch
Lightroom (หรือจะให้ถูกต้องเรียก Photoshop Lightroom) โปรแกรมจัดการภาพชื่อดังจากค่าย Adobe ได้ออกเวอร์ชัน 3 แล้ว
ฟีเจอร์ใหม่ของรุ่นนี้ดูได้จากหน้าเว็บของ Lightroom ได้แก่
โปรแกรม Pulse News Reader เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่สตีฟ จ็อบส์ได้นำออกมาโชว์ใน Keynote เมื่อคืนที่ผ่านมานี้ที่งาน WWDC ล่าสุดได้ถูกถอดถอนออกจาก App Store แล้ว หลักจาก New York Times ได้แจ้งกับแอปเปิลว่าโปรแกรมนี้มีการละเมิดสิทธิของทาง New York Times แม้ว่าโปรแกรมนี้ใช้วิธีเรียกข้อมูลจาก RSS Feeds มาเท่านั้น
การออกมาทำแบบนี้หมายความว่าโปรแกรมทุกอย่างที่ใช้การเรียกข้อมูลจาก RSS Feeds ผิด Terms of Use ของ New York Times ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็ถือได้ว่าบริษัท New York Times ใช้วิธีเลือกปฏิบัติ
น่าสนใจเหมือนกันว่าหลังจากนี้เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
กดอ่านต่อเพื่อเข้ามาดูคลิปสั้น ๆ โชว์การทำงานของ App ตัวนี้ครับ