จุดขายสำคัญของ Vista คืออินเทอร์เฟสชุดที่เรียกว่า Aero Glass ซึ่งใช้พลังของการ์ดสามมิติมาช่วยประมวลผลเอฟเฟคต์พิเศษต่างๆ แน่นอนว่าต้องการการ์ดที่อย่างต่ำต้องใช้ DirectX 9.0c ได้
แต่ผลการวิจัยระบุว่า คอมพิวเตอร์กว่าครึ่งของที่มีอยู่ในตอนนี้ จะไม่สามารถเปิดโหมด Aero Glass ได้ เนื่องจากใช้การ์ดจอแรงไม่พอนั่นเอง 63% ของพีซี 200 ล้านเครื่องนั้นใช้การ์ดจอออนบอร์ด และจำเป็นต้องยอมใช้แค่โหมด Aero (เฉยๆ ไม่มี Glass) ที่กินพลังการ์ดจอน้อยกว่าแทน
ถ้าใครซื้อการ์ดจอใหม่ในปีที่แล้ว มีโอกาสใช้ Aero Glass ได้เยอะ เพราะ 72% ของการ์ดที่ขายในปีที่แล้ว สามารถทำงานกับ DirectX 9.0 ได้ครับ
หลังจากโดนเอเอ็มดีทิ้งค่อนข้างห่างในตลาดชิปหลายคอร์ ซึ่งเป็นสมรภูมิใหม่ที่จะมาฟาดฟันกันแทนสัญญาณนาฬิกา อินเทลก็เตรียมเปิดตัวชิป quad-core (4 คอร์) สองตัวภายในปลายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปีหน้า คือ Clovertown สำหรับตลาดล่าง และ Tigerton สำหรับตลาดบน เมื่อเอามาต่อกันแบบมัลติโปรเซสเซอร์ 2 ตัว ก็จะได้การทำงานเสมือนซีพียู 8 ตัวเชียว
กูเกิลเตรียมออกบริการใหม่ ให้บริษัทต่างๆ สามารถเอาท์ซอร์สเมลเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง มาใช้ Gmail แทนได้
ลองคิดว่าเมลบริษัท ที่หน้าเว็บเมลสามารถใช้ได้สะดวกแบบเดียวกับ Gmail แถมยังมีเนื้อที่อีกคนละ 2G กว่าๆ คงหาคู่แข่งได้ยากพอตัว นอกจากนี้บริการ calendar ของ Gmail ก็ออกข่าวแล้วว่าอยู่ในช่วงพัฒนาอยู่ เมื่อครบแล้วคงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Exchange หรือ Lotus Notes ได้เลย
บริการสำหรับองค์กรแบบนี้ Yahoo! กับ MSN ได้ออกมาก่อนหน้ากูเกิลแล้ว โดย Windows Live Custom Domains ของไมโครซอฟท์นั้นมีให้เลือกทั้งแบบให้บริการฟรีแต่มีโฆษณา และแบบจ่ายเงินแล้วไม่ต้องดูโฆษณาด้วย
หลังจากประกาศเปิดตัวมาได้เกือบเดือน ก็มีคนเจอบั๊กตัวเบ้อเริ่มในไอแมคตัวใหม่ เป็นบั๊กเรื่องการแสดงผล โดยมีคนพบว่าหน้าของไอแมคใหม่นี้ จะมีเส้นขาวๆ โผล่ขึ้นมาเมื่อลากหน้าต่างไปมาในบางเงื่อนไข เช่นการใช้ Front Row จะทำให้โอกาสพบมั๊กนี้มีมากขึ้น
ผู้พบบั๊กดังกล่าวได้ไปโพสแจ้งแอปเปิลไว้ที่ เว็บบอร์ดของแอปเปิลเองแล้ว และทางแอปเปิลระบุว่ากำลังตรวจสอบบั๊กนี้ต่อไป
ที่ว่าบั๊กใหญ่ผมหมายถึงว่ามันพบได้ง่ายๆ (บนหน้าจอ) ไม่ได้หมายถึงบั๊กซีเรียสนะ แต่ถ้าใครคิดจะซื้อตอนนี้แล้วไม่ได้รีบใช้ รอแอปเปิลออกแพตซ์ออกมาแก้ก็น่าจะสบายใจกว่าเนาะ
ช่วงหลังคนเข้ามาอ่านเยอะขึ้นเรื่อยๆ เลยคิดว่าเรามีความเป็น Community ในระดับหนึ่งแล้วคิดว่าก็ได้เวลาที่เราจะมานั่งคุยกันบ้างนอกจากมานั่งอ่านข่าวกันอย่างเดียว เลยคิดว่าต่อไปนี้จะมีคอลัมน์บรรณาธิการมาพูดคุยกันเรื่องในช่วงนั้นหรือความเปลี่ยนแปลงของ Blognone
เรื่องแรกคือการเปลี่ยนธีมของ Blognone เรื่องนี้เป็นฝีมือของ mk เต็มๆ ถ้าใครสังเกตก็จะเห็นว่าธีมใหม่นี้มันเร็วขึ้นด้วย ส่วนเรื่องมีปัญหาการใช้การอะไร ก็ช่วยกันรายงานเข้ามาได้ ส่ง Screen Capture อย่าง iannnnn ก็ได้ จะได้ช่วยกันแก้บั๊กต่อไป ยังไงเว็บเราก็คงมีเรื่องให้เปลี่ยนแปลงปรับปรุงและแก้ไขกันไปเรื่อยๆ
ผมไม่แน่ใจว่านี่เป็นโปรแกรมตัวแรกของกูเกิลรึเปล่าที่เลขเวอร์ชันวิ่งไปถึง 3.0 แต่ฟีเจอร์ใหม่ใน GDS ที่เป็นที่กล่าวถึงกันมาก คือ Search Across Computers ซึ่งทำให้เราสามารถค้นหาข้อมูลในเครื่องตัวเองได้ ถึงแม้จะไม่อยู่หน้าเครื่อง
หลังจากเปิดตัว iPod G5 เรื่องหนึ่งที่หลายคนสงสัยกันคือทำไมแอปเปิลถึงไม่ยอมเรียกมันว่า iPod video เรื่องนี้คำตอบอาจจะได้จากแหล่งข่าวของ ThinkSecret รายหนึ่งที่รายงานถึงโครงการของแอปเปิล ที่จะสร้าง iPod video ตัวจริงที่มีขนาดจอ 3.5 นิ้ว พร้อมกับการจากไปของ Click-Wheel ที่อยู่กับเรามานาน
ThinkSecret เคยถูกแอปเปิลฟ้องให้เปิดเผยแหล่งข่าว แต่ไม่สำเร็จ และข่าวจากแหล่งข่าวของ ThinkSecret ก็ค่อนข้างแม่นใช้ได้ แต่ข่าวลือก็ยังคงเป็นข่าวลือ
ราคาไม่แจ้ง แต่ถ้าไม่แพงกว่า iPod G5 มากนักก็น่าสน
ไมโครซอฟท์ได้บอกว่าจะไม่รวมผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัสเข้ามาใน Vista (มีแต่ Windows Defender หรือ AntiSpyware เดิม)เนื่องจากมีแผนจะทำตลาดนี้แยกต่างหาก
และตอนนี้ก็เปิดเผยรายละเอียดของ Microsoft OneCare Live แล้ว โดยชุดโปรแกรมนี้จะรวมเอาแอนตี้ไวรัส ไฟร์วอลล แบ็คอัพเข้าด้วยกัน โดยวางขายทั้งแบบเป็นกล่องและออนไลน์ ราคาสมาชิกรายปีต่อพีซีสามเครื่องอยู่ที่ 49.95 เหรียญ
Songbird เป็น media player ที่มีจุดเด่นคือ
ไมโครซอฟท์ยุโรปและตะวันออกกลาง (EMEA) ได้เปิดให้ทายวันวางจำหน่ายของ Vista ชิงรางวัล เมื่อทายไปแล้ว ก็จะมีวิดีโอคำใบ้ขำๆ ออกมาให้ดู แต่ก็มีคนช่างสังเกตพบว่า วิดีโอเหล่านี้มาจากเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ในสวิส และใน URL ของไฟล์นั้นมาจากแค่สองไดเรคทอรี คือ /early และ /late
หมอนี่ทำการตรวจสอบต่อไป ก็พบว่าวิดีโอจาก early จะเล่นเมื่อทายก่อนวันที่ 30 พ.ย. ส่วน late ก็เริ่มตั้งแต่ 1 ธ.ค. เป็นต้นไป ไมโครซอฟท์กำลังแอบบอกอะไรเรารึเปล่านะ
BluRay กำลังเตรียมจะวางตลาดล็อทแรก แน่นอนครับว่าช่วงแรกนั้น แผ่นจะต้องมีราคาสูงและขายในวงจำกัดเหมือนผลิตภัณฑ์ลองตลาดอื่นๆ ส่วนราคานั้นทาง Sony Picture ได้เปิดเผยว่าหนังขายส่งจะมีราคาที่ 17.95 เหรียญ และ 23.45 เหรียญสำหรับหนังใหม่ เมื่อบวกค่าขนส่ง กำไรระหว่างทางแล้ว ราคาขายปลีกน่าจะอยู่ที่ 23-39 เหรียญ
โซนี่ยังได้เทียบกับสมัย VHS ว่าราคาเริ่มต้นที่ 55 เหรียญตอนออกใหม่ๆ (แต่โซนี่ใช้ BetaMax มิใช่รึ?) แต่ไม่ได้บอกเพิ่มเติมว่า พอยุค DVD นั้น โซนี่อยากให้นิยมเร็วที่สุด จึงใช้ราคาที่ต่ำกว่านี้พอสมควร การกลับมาของ BluRay ราคาแพง จึงเป็นเรื่องน่าคิดสำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
Borland ประกาศขายแผนก IDE ซึ่งประกอบด้วย Delphi, C++Builder, C#Builder และ JBuilder รวมไปถึงโปรแกรมตระกูล Turbo ที่เราเคยใช้เรียนกัน จุดมุ่งหมายคือให้บริษัทใหม่มุ่งเป้าหมายอย่างชัดเจนสำหรับธุรกิจ IDE ส่วนตัว Borland เองจะไปเน้นธุรกิจด้าน ALM (Application Lifecycle Management) และมิดเดิลแวร์อย่างพวก application server แทน
ช่วงหลัง IDE ของ Borland ตกไปมาก อาจเป็นเพราะโดน VS.NET ตีกระหนาบด้วยฝั่งโอเพนซอร์สอย่าง Eclipse หรือ NetBeans ก็มีฟีเจอร์ที่ไม่น้อยหน้าก็เป็นได้
แอปเปิลเคยมีแคมเปญฉลองรับเพลงที่ 100 ล้าน (และ 500 ล้านด้วยถ้าจำไม่ผิด) ที่ขายผ่าน iTunes Music Store ไปหลายรอบ ตอนนี้ถึงคิวของเพลงที่ 1 พันล้านซะที แต่เสียดายงานนี้ คนไทยไม่มีสิทธิ์
ตอนที่ผมเขียนนี้ตัวเลขอยู่ที่ 953 ล้าน ทุกๆ 1 แสนเพลงจะออกรางวัลย่อยคือ iPod nano สีดำแบบ 4GB และคูปองซื้อเพลงมูลค่าร้อยเหรียญ นั่นหมายความว่ามีโอกาสออกประมาณ 500 รางวัล ส่วนรางวัลใหญ่ เพลงที่พันล้าน จะได้รับรางวัลดังนี้
หลังจากเปลี่ยนโลโก้ และคำขวัญบริษัทแล้ว อินเทลก็เดินหน้าสร้างแบรนด์เต็มตัว ล่าสุดก็จ้าง Mariah Carey มาเป็นพรีเซนเตอร์ โดยโฆษณาชุดแรกจะเริ่มออกอากาศในช่วงงานแกรมมี่อวอร์ดในปีนี้
การรีแบรนด์ฺครั้งนี้ของอินเทลมีการเตรียมงบโฆษณากันขนาดมหาศาลถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับสมัยเซนทริโนที่ใช้เงินไป 300 ล้านดอลลาร์ (เท่านั้น...)
ต่างประเทศเป็นไงไม่รู้แต่ผมว่าโฆษณาในไทยนี่ ของ DTAC ดีกว่าของอินเทลเยอะ
ได้เปรียบเรื่องความขาว.......
ที่มา - TG Daily
ถ้ายังจำกันได้สมัยสงครามเบราว์เซอร์ สมรภูมิหลักคือไอคอนบนเดสก์ท็อปของคุณ ไมโครซอฟท์โดนคดีผูกขาดอ่วมเพราะไอคอน IE บนเดสก์ท็อปนั้นมันลบไม่ได้ หรือถ้าย้อนกลับไปกว่านั้นหน่อย หลายๆ คนน่าจะจำไอคอน AOL หรือ CompuServ ที่คนไทยใช้ไม่ได้ไม่รู้จะเอามาทำไม ไอคอนพวกนั้นเป็นผลจากบรรดาไอเอสพีจ่ายเงินให้ไมโครซอฟท์ เพื่อให้บริการของตนเด่นสะดุดตากว่าใคร
เมื่อวานนี้แอปเปิลเปิดตัวไอพอดนาโนขนาด 1 กิกะไบต์เงียบๆ บนเว็บของตัวเองหลังจากที่มีแต่ขนาด 2 และ 4 กิกะไบต์ โดยตั้งราคาอยู่ 149 ดอลลาร์ พร้อมกับการเปิดตัวนี้ราคาของไอพอด ชัฟเฟิลที่ขนาดเดียวกันจึงลดลงมาอีก 30 ดอลลาร์ อยู่ที่ 99 ดอลลาร์
ความน่ากลัวของแอปเปิลในตอนนี้คือราคาของเครื่องเล่นเอ็มพีสามขนาด 1 กิกะไบต์นั้น ของแอปเปิลเองราคาไม่ได้ต่างไปจากของไม่มียี่ห้อเท่าใหร่เลย จึงน่าจะทำให้แอปเปิลกินตลาดไปได้อีกมาก
อ้อ ผลทดสอบคุณภาพเสียงในบรรดาไอพอดด้วยกันแล้ว ไอพอดชัฟเฟิลคือรุ่นที่เสียงดีที่สุดนะ
ที่มา - Apple
ตอนนี้เรามีธีมใหม่ชื่อ K2 ซึ่งกำลังจะมาแทน democratica ที่ขาดๆ เกินๆ มานาน (อย่างน้อยแถบของโพลจะไม่ตกแล้ว) ผมแนะนำให้สมาชิกทุกคนเปลี่ยนมาใช้ธีมนี้ได้เลย โดยสามารถเปลี่ยนในหน้า profile ของตัวเอง ธีมนี้ยังมีปัญหากับ IE อยู่ เลยยังไม่เอาเป็นธีมหลัก แต่ถ้าคุณเป็นสมาชิก อยากได้หน้าตาสวยๆ และยังใช้ IE วิธีแก้ก็ง่ายนิดเดียวคือเปลี่ยนเบราว์เซอร์ครับ ผมเตือนแล้วนะจะมาโวยวายตอนเปลี่ยนจริงไม่ได้นา
บริการใหม่ตัวนี้ที่กูเกิ้ลให้ชื่อว่า Gmail Chat นั้น จะเป็นความสามารถใหม่ใน Gmail ที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความให้กับผู้ใช้ Gmail ด้วยกันได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านโปรแกรมสนทนาใดๆ อีกต่อไป นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถมองเห็นเพื่อนของตัวเองที่ออนไลน์อยู่ และสามารถเก็บบันทึกข้อมูลการสนทนาไว้ใน Gmail ได้ด้วย
นับเป็นการปรับกลยุทธอย่างหนึ่งเพื่อจะแย่งลูกค้าจาก AOL,Yahoo และ MSN แต่สงครามนี้กูเกิ้ลยังต้องสู้อีกยาวไกล แต่ที่แน่ๆ เว็บอย่าง gtalkr.com ที่ทำตัวเป็นเว็บให้บริการ GTalk ก็อาจจะถึงคราวซวย เมื่อกูเกิ้ลหันมาทำเองซะงั้น
จากข่าวเก่าที่ผ่านมาเรื่อง วิดีโอเดโม Novell Linux Desktop 10 มีการโชว์การทำงานของ XGL ไปแล้ว โดย Miguel de Icaza บอกให้ติดตามตอนต่อไปในเร็ววัน
ตอนนี้ Novell ปล่อยซอร์สโค้ดออกมาให้นักพัฒนาได้เล่นกันแล้วทั้งส่วนของ XGL และ composition manager ที่มีชื่อเรียกว่า Compiz รวมทั้งมีไฟล์วิดีโอให้ดูกับแบบชัดๆ ด้วย
หลังจากที่ออก Google Talk ที่นอกจากส่วนการพูดคุยที่เสียงค่อนข้างดีแล้ว Google Talk ดูเหมือนจะไร้ความสามารถอื่นๆ ไปจนหมด ที่สำคัญคือมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการค้นหาที่กูเกิลย้ำนักย้ำหนา ว่าเป็นธุรกิจหลักของบริษัท แต่กับ Google Talk นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกันเลย
ตอนนี้ใครใช้ Google Talk ลองเข้า Gmail ดูจะเห็นว่าด้านข้างมีเมนู Chat มาให้แล้ว เพียงกดเลือกให้มันเซฟเอาไว้ คำพูดทุกคำระหว่างคุณและเพื่อนจะถูกรักษาไว้ตลอดกาลใน Gmail
ยังเก็บเสียงไม่ได้ แต่คงอีกไม่นานเกินรอ...
ที่มา - Gmail
พอมีข่าวแบบนี้ผมใส่หมวดไม่ถูกเลยแฮะ เอาเป็นว่าด้วยสาเหตุอันใดไม่สน แต่รมต. กระทรวงเวทย์มนต์ เอ้ย กระทรวง ICT สรอรรถ กลิ่นประทุมประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วครับ
เดี๋ยวรอดูว่าใครจะเป็น รมต. ICT คนที่สามในรอบ 1 ปี
ป.ล. ที่เอาข่าวนี้มาลงเพราะเป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้องเฉยๆ ขอความร่วมมืออย่ามั่วเรื่อง ความเห็นอาจถูกลบได้นะครับ
ที่มา - กรุงเทพธุรกิจ
วันนี้ข่าวเยอะมากเลยเนาะ ข่าวยังเหลือและที่น่าสนใจพอให้ผมเขียน (มั่ง) ก็คือการต้มไข่ด้วยโทรศัพท์มือถือ
(ผมไม่แน่ใจว่ามันควรจะเรียกต้มดีมั้ย แต่จะใช้คำอื่นอย่างลวกไข่หรืออบไข่ก็ฟังดูแปลกๆ ถ้าใครคิดคำดีกว่านี้ได้ช่วยเสนอมาหน่อยนะครับ)
เครดิตนี้ยกให้ Suzzanna Decantworthy และ Sean McCleanaugh ซึ่งแนะนำวิธีทำอาหารด้วยโทรศัพท์ให้เรา วิธีการก็ง่ายๆ เอาไข่มาวางไว้ระหว่างมือถือสองอัน โทรหากัน เปิดวิทยุทิ้งไว้มันจะได้มีเสียง แค่นี้คุณก็จะได้ไข่สุกพร้อมรับประทานโดยไม่ต้องใช้น้ำหรือไฟให้เปลือง ในเว็บบอกว่าระยะเวลาขึ้นกับความแรงของสัญญาณ ถ้าเป็นมือถือ 2 วัตต์จะใช้เวลาประมาณ 3 นาที
ควันหลงที่คุณ James Gosling มางาน Java Day2006 ที่เมืองไทยของเราครับ
โดยเค้ากล่าวถึงความประทับใจในแง่วิศวกรรมของ "เรือหางยาว" ของไทยที่เราเห็นกันจนชินตา!!
และยังทึ่งต่อความสามารถของผู้ขับเรือหางยาว(น่าจะคำนี้แหละ) ที่บังคับเครื่องยนต์ได้คล่องแคล่วครับ
ผู้กำกับภาพยนต์ชื่อก้องโลกอย่างเจมส์ คาเมรอน ที่เป็นที่รู้จักกันจากเรื่อง Alien, The Termiator, และ Titanic ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงโครงการล่าสุดของเขาชื่อว่า Project 880 ซึ่งเคยถูกคาดการกันว่าเป็นภาพยนต์เรื่องใหม่
ความสัมพันธ์ระหว่างภาพยนต์และเกมแน่นแฟ้นกันมากขึ้นเรื่อง ในหลายปีให้หลังมานี้ ภาพยนต์ดังๆ หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Residental Evil หรือเรื่องล่าสุดอย่าง Doom
ที่น่าสนใจคือผู้กำกับชื่อก้องโลกนี้เรียนเอกฟิสิกส์ และเคยทำงานเป็นบอร์ดของนาซ่ามาก่อน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เขาจะมาบุกโลกไอทีด้วยอีกอย่าง
ไมโครซอฟท์ออกมายอมรับว่าในตอนนี้ำกำลังสนับสนุนให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หันมาใช้แรม ECC กันแทนที่แรมแบบปรกติที่ใช้ๆ กันอยู่ โดยไมโครซอฟท์ฺระบุว่าแรม ECC จะเป็น "Soft-Requirement" ของวิสต้า เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์โดยรวมมีเสถียรภาพมากขึ้น
แรม ECC มีความสามารถในการแก้ไขข้อมูลในแรมโดยอัตโนมัติ ต่างจากแรมทุกวันนี้ที่เมื่อเกิดความผิดพลาดในแรมขึ้นระบบจะแฮงค์โดยไม่สามารถแก้ไขอะไรได้