คณะกรรมการข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุพบอีเมลการเจรจาขายพื้นที่โฆษณาบน Twiiter แก่สื่อรัสเซียหรือ RT โดย Twitter เสนอราคาพื้นที่โฆษณาแบบ SOV หรือ share of voice ในสัดส่วนมากกว่า 15% บนแพลตฟอร์มคิดเป็นเงิน 3 ล้านดอลลาร์
จากเนื้อหาอีเมล พบว่า Twitter เสนอราคาโฆษณาให้ RT ในระดับราคาต่างๆ ตั้งแต่ในจำนวนเงิน 1 ล้านดอลลาร์ จะได้สัดส่วน SOV 4%, 2 ล้านดอลลาร์ ได้สัดส่วน SOV 10% และ 3 ล้านดอลลาร์ ได้ SOV 15% แต่อย่างไรก็ตาม Twitter ยังต้องให้พื้นที่ SOV แก่สื่อหลักในสหรัฐฯคือ CNN และ Fox ในสัดส่วน 56% และ 32% ตามลำดับ ซึ่ง RT ปฏิเสธข้อเสนอ
Google เผยผลการสืบสวนโฆษณาหวังผลทางการเมืองจากรัสเซีย จากที่ก่อนหน้านี้เคยเผยข้อมูลคร่าวๆ ว่ามีโฆษณารันกระจายตัวบนแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Google คิดเป็นมูลค่า 4,700 ดอลลาร์ ในเอกสารล่าสุดมีตัวเลขเพิ่มเติมจาก YouTube
โดยพบ 18 ช่องที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญโฆษณาการเมือง มีวิดีโอที่อัพโหลด 1,108 ตัว ระยะเวลารวมแล้ว 43 ชั่วโมง มียอดรับชมจากผู้ใช้ในสหรัฐฯ 309,000 ครั้ง ช่วงเดือนมิถุนายน 2015 - พฤศจิกายน 2016 และจากการวิเคราะห์ของ Google ระบุว่า ยอดรับชมอยู่ในระดับต่ำ มีเพียง 3% ของวิดีโอทั้งหมดที่มียอดดูเกิน 5,000
Twitter ออกประกาศถอดโฆษณาจากสำนักข่าวสัญชาติรัสเซีย RT และ Sputnik ออกจากแพลตฟอร์ม พร้อมระบุจะนำเงินที่เคยได้จากการโฆษณาจากทั้งสองบริษัทตั้งแต่เริ่มลงโฆษณารวมเป็นเงิน 1.9 ล้านดอลลาร์ไปบริจาคทั้งหมด โดยนโยบายใหม่นี้มีผลทันที
Twitter ระบุว่าการตัดสินใจเป็นผลจากการสอบสวนโฆษณาแฝงจากรัสเซีย ที่มีเป้าหมายแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 และได้ข้อสรุปจากสำนักข่าวกรองว่าโฆษณาจาก RT และ Sputnik มีความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้ง
การตัดสินใจนี้ยังไม่มีผลกับผู้ลงโฆษณารายอื่น และบัญชีผู้ใช้ของ RT และ Sputnik จะยังคงสามารถอยู่บนแพลตฟอร์มต่อไปได้
Twitter ออกนโยบายด้านการโฆษณาใหม่โดยเน้นโฆษณาการเมืองโดยเฉพาะ เพิ่มสัญลักษณ์ระบุว่าโฆษณาถูกโปรโมทโดยพรรคใดใต้โพสต์ และเพิ่มข้อกำหนดต่อโฆษณาการเมือง เปิดเผยข้อมูลว่าซื้อโฆษณาไปจำนวนเท่าไร ระบุข้อมูลบุคคลและหน่วยงานที่ซื้อโฆษณา ทำกราฟิกตัวเลขกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน รวมทั้งข้อมูลประวัติการซื้อโฆษณาของบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ
จากนโยบายโดยรวมสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของฝ่ายรัฐบาล ที่ออกมาเรีียกร้องให้บริษัทโซเชียลมีเดียเปิดเผยข้อมูลโฆษณาโดยเฉพาะโฆษณาการเมืองสู่สาธารณะ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอให้บรรจุเป็นกฎหมาย และวันที่ 1 พ.ย. นี้ Twitter Facebook และ Google ต้องเข้าพบรัฐบาลเพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น
คณะกรรมการการพนัน (Gambling Commission), กรรมการด้านมาตรฐานโฆษณา (Advertising Standards Authority) และ Remote Gambling Association ออกกฎร่างเป็นบันทึกข้อความให้เกมพนันออนไลน์ นำโฆษณาที่มีรูปตัวการ์ตูนซึ่งอาจดึงดูดเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีออก
บันทึกข้อความดังกล่าวถูกส่งไปยังผู้ให้บริการเกมพนันออนไลน์ 450 แห่ง ในจดหมายมีเตือนบริษัทที่ฝ่าฝืนกฎว่าอาจโดนแบน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อกรณีแคมเปญโฆษณาจากรัสเซียบนโซเชียลมีเดียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 ขณะนี้ออกกฎหมายการโฆษณาออนไลน์ออกมาโดยมีเนื้อหาคร่าวๆ คือ โซเชียลมีเดียนั้นๆ ต้องเปิดเผยสำเนาการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ข้อมูลผู้ใช้ที่ถูกกำหนดเป็นเป้าหมายของโฆษณาเหล่านี้ ข้อมูลองค์กรที่ซื้อโฆษณา และค่าใช้จ่าย เปิดเผยให้สาธารณชนทราบ
Facebook ประกาศเตรียมปรับปรุงระบบการโฆษณาใหม่ ซึ่งจะระบบบางอย่างที่กำลังปรับปรุงอยู่นะพัฒนาให้เสร็จก่อนหน้าการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปีหน้า หลังจากทางบริษัทตรวจพบบัญชีปลอมจากรัสเซียเป็นจำนวนมากก่อนการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ Facebook ก็เคยแจ้งกับผู้โฆษณาไปแล้วว่าต่อไปนี้ Facebook จะเพิ่มความเข้มงวดในการโฆษณาสำหรับกลุ่มเป้าหมายอิงตามศาสนา, การเมือง, เชื้อชาติ และหัวข้อทางสังคมอื่น ๆ ซึ่งจะต้องใช้คนตรวจโฆษณาก่อนทุกครั้ง
The Washington Post รายงานว่า ตอนนี้ Google กำลังตรวจสอบรายละเอียดเรื่องนี้ในขั้นต้น โดยทางบริษัทกำลังอยู่ในกระบวนการแยกโฆษณา โดยพบว่าโฆษณาเหล่านี้แพร่ไปทั้ง Gmail, YouTube และ Google Search
โฆษกของ Google ให้รายละเอียดกับ The Verge ว่าทางบริษัทได้ตั้งกฎเกี่ยวกับการโฆษณา ซึ่งมีการจำกัดเป้าหมายการโฆษณาทางด้านการเมือง และการปิดกั้นการตั้งเป้าหมายโฆษณาตามเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งทางบริษัทกำลังจะตรวจสอบรายละเอียดให้ลึกลงไปอีกเกี่ยวกับความพยายามในการใช้ระบบในทางที่ผิด โดยจะทำงานร่วมกับนักวิจัยและบริษัทอื่น ๆ ในการสืบสวนหารายละเอียดต่อไป
Facebook ได้ส่งอีเมลแจ้งยังผู้ลงโฆษณาหลายราย ระบุว่าต่อจากนี้ Facebook จะเพิ่มความเข้มงวดสำหรับโฆษณาที่ระบุกลุ่มเป้าหมายอิงตาม การเมือง, ศาสนา, เชื้อชาติ และหัวข้อทางสังคม โดยใช้คนตรวจเนื้อหาโฆษณาก่อนทุกครั้ง (human review) ซึ่งจะส่งผลให้การอนุมัติโฆษณาประเภทนี้ช้าลงด้วย
ปัจจุบันโฆษณาของ Facebook ใชระบบอัตโนมัติในการตรวจสอบ แต่จากปัญหาโฆษณาจากบัญชีปลอม ทำให้ Facebook เตรียมจ้างคนเพิ่มราว 1 พันคน เพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม Facebook บอกว่าแม้จะเปลี่ยนมาใช้คนตรวจสอบ แต่ก็จะพยายามปรับปรุงขั้นตอนให้เร็วขึ้นต่อไป
หลังเฟซบุ๊กประสบปัญหาใหญ่จากโฆษณาจากบัญชีปลอมที่อาจส่งผลต่อการเมืองสหรัฐ ตอนนี้เฟซบุ๊กเพิ่มมาตรการใหม่ด้วยการจ้างคนเพิ่มราว 1,000 คน เพื่อตรวจสอบและลบโฆษณาโดยเฉพาะ
โฆษกเฟซบุ๊กชี้แจงด้วยว่าจะลงทุนด้าน Machine Learning สำหรับการตรวจสอบและลบโฆษณามากขึ้นด้วย รวมถึงขยายกรอบของนโยบายโฆษณาให้ครอบคลุมโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงผ่านสื่อสารและแสดงออกอย่างเป็นนัย (subtle) และหากเป็นโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ผู้โฆษณาก็จะต้องเตรียมเอกสารต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย
จากประเด็นบัญชี Facebook ปลอมรันโฆษณาช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ จุดกระแสประเด็นข่าวปลอมช่วยให้โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งให้กลับมาอีกครั้ง และดูเหมือนว่าสายตาเพ่งเล็งไปที่ Facebook มากเป็นพิเศษ
ล่าสุดทวิตเตอร์ออกมาเผยว่า ได้เข้าเจรจากับคณะกรรมการรัฐสภา เรื่องการสืบสวนหาหลักฐานการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 โดยวันนี้ Colin Crowell รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะของทวิตเตอร์ เข้าพูดคุยกับคณะกรรมการด้านข่าวกรอง หรือ House Permanent Select Committee on Intelligence รวมทั้งเผยข้อสงสัยการผลการสืบสวนภายในเป็นตัวเลขคร่าวๆ
ทวิตเตอร์เผยว่า จากบัญชีน่าสงสัยใน Facebook ประมาณ 450 บัญชี มีประมาณ 22 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับทวิตเตอร์ด้วย บัญชีเหล่านั้นถูกระงับเรียบร้อยแล้ว และจากการสอบสวนต่อ พบว่ามีอีกประมาณ 179 บัญชีที่เชื่อมโยงกันและละเมิดกฎของทวิตเตอร์ แต่ทวิตเตอร์ระบุว่าบัญชีกลุ่มดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม
พื้นที่โฆษณาบน Facebook สร้างรายได้ให้ Facebook มหาศาล ด้วยพลัง machine learning ทำให้โฆษณาเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม ในขณะเดียวกันก็เป็นดาบสองคม เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา Facebook เจอปัญหามีบัญชีปลอมจากรัสเซียรันโฆษณาจำนวนมากช่วงก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดี 2016 มีการใช้เพจและบัญชีปลอมกว่า 470 บัญชีในการเข้าซื้อโฆษณาทั้งหมด 3,000 โฆษณา คิดเป็นเงิน 1 แสนดอลลาร์ ตั้งแต่ช่วงมิถุนายน 2015 - พฤษภาคม 2017
ความเคลื่อนไหวล่าสุดต่อกรณีนี้คือ สมาชิกพรรคเดโมแครต Amy Klobuchar และ Mark Warner เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายเพิ่มความโปร่งใสในการโฆษณาการเมืองผ่านโซเชียลมีเดีย
Facebook ออกข้อกำหนดและมาตรฐานเนื้อหาที่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทำรายได้บน Facebook ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอ, Instant Article, Ad Breaks (แสดงโฆษณาใน Facebook Live) พร้อมระบุชัดเจนว่าคอนเทนต์ที่มีลักษณะเนื้อหาดังต่อไปนี้จะไม่สามารถทำรายได้บนแพลตฟอร์มได้
บริษัท L2 ทำวิจัยธุรกิจ สำรวจ 89 แบรนด์ที่ใช้ช่องทาง Story ใน Snapchat และ Instagram พบว่า มีการโพสต์โฆษณาลง Instagram มากกว่า Snapchat เป็นเท่าตัว โดยโพสต์ใน Instagram 1,347 ครั้ง และโพสต์ใน Snapchat 614 ครั้ง เป็นการสำรวจในช่วงสัปดาห์เดียวในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ไม่เพียงแต่รายได้ในอุตสาหกรรมเกมบนมือถือเท่านั้นที่แซงหน้าพีซีและคอนโซล จำนวนเงินที่ถูกอัดฉีดให้กับโฆษณาสำหรับวิดีโอบนมือถือก็ถูกคาดว่าจะแซงหน้าโฆษณาบนวิดีโอที่ถูกเล่นผ่านพีซีและทีวีในปีหน้านี้แล้ว
Zenith บริษัทวิจัยตลาดได้เผยการคาดการณ์ว่าปีหน้า เม็ดเงินที่ถูกใช้จ่ายสำหรับโฆษณาบนวิดีโอสำหรับมือถือจะเพิ่มขึ้นถึง 49% อยู่ที่ราว 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ สวนทางกับจำนวนเงินสำหรับโฆษณาสำหรับวิดีโอบนอุปกรณ์ non-mobile (พีซี, แล็บท็อปและทีวี) ที่จะลดลงเป็นครั้งแรกที่ 1.5% อยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
เรื่องการแสดงโฆษณาเพื่อหารายได้ของผู้ให้บริการต่างๆ เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ แต่พื้นที่การแสดงโฆษณาเป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการควรให้ความสำคัญเพราะมีผลต่อประสบการณ์การใช้งาน แต่ที่แน่ๆ หนึ่งในพื้นที่แสดงโฆษณาไม่น่าจะเป็นบนเวอร์ชวลคีย์บอร์ดสมาร์ทโฟนแน่นอน
อย่างกรณีที่ผู้ใช้ HTC หลายคนเริ่มแสดงความไม่พอใจเมื่อคีย์บอร์ด TouchPal ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดนอก (3rd-party) ที่ถูกนำมาเป็นดีฟอลต์ แสดงโฆษณาบริเวณด้านบนของคีย์บอร์ด ซึ่งเกิดขึ้นหลังการอัพเดตคีย์บอร์ดรอบล่าสุด ขณะที่แอคเคาท์ของ HTC ชี้แจงว่าให้ลบการติดตั้ง (uninstall) อัพเดตรอบล่าสุดออกเพื่อแก้ปัญหานี้ ซึ่งทาง Android Police คาดว่าดูจากการตอบของ HTC แล้วดูเหมือนบริษัทเองก็ไม่ได้ตั้งใจหรือรู้เรื่องการโฆษณาดังกล่าวบนคีย์บอร์ดด้วยซ้ำไป
Pinterest เจอปัญหากับแบรนด์ต่างๆ ว่าทำโฆษณายากกว่า Facebook และ Google เพราะพฤติกรรมผู้ใช้มีความหลากหลาย ไม่เจาะจงสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ ทำให้ทำโฆษณาเจาะกลุ่มผู้ใช้ Pinterest ที่มีอยู่ประมาณ 175 ล้านคนได้ยาก Pinterest จึงพยายามทำระบบให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้มากขึ้น โดยเพิ่มฟังก์ชั่นเล่นวิดีโอบนไทม์ไลน์อัตมัติให้บรรดาพาร์ทเนอร์
Mike Bidgoli หัวหน้าด้านผลิตภัณฑ์ของ Pinterest ระบุว่า ผู้ใช้จำนวนหนึ่งดูเนื้อหาผ่านไทม์ไลน์หน้าแรกของ Pinterest กันมากขึ้น การมีวิดีโอโฆษณาช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้มากขึ้น และวิดีโอช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจแบรนด์มากขึ้นด้วย
Google ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์สำหรับการตลาดและการโฆษณาใหม่ ได้แก่ Attribution เครื่องมือวิเคราะห์ที่รวมข้อมูลจากบริการต่าง ๆ และใช้งานได้ง่ายขึ้น และปรับปรุงระบบวัดผลของการโฆษณาต่อยอดขายและการเข้าร้าน
ฟีเจอร์แรกคือ Google Attribution จากปัจจุบัน นักการตลาดต้องดูข้อมูลจาก Google Analytics และเครื่องมืออย่าง AdWords, DoubleClick การเข้ามาของ Attribution จะเป็นการรวมข้อมูลจากเครื่องมือต่าง ๆ ให้อยู่ที่เดียวกัน และจะวิเคราะห์ข้อมูลให้อัตโนมัติ โดยมีจุดประสงค์หลักในการแสดงข้อมูลที่มีประโยชน์ว่า การโฆษณาและการตลาดที่ลงไปนั้นได้ผลหรือไม่
ปัจจุบัน Google Attribution ยังคงอยู่ในช่วงการทดสอบ และจะเปิดให้นักโฆษณาเริ่มทดสอบเป็นจำนวนมากขึ้นในเดือนหน้า
โฆษณาตามติดเราไปทุกที่ในแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ช่วยในบ้านอย่าง Amazon Alexa บริษัท third party ของ Amazon หรือ Voicelabs ที่เข้ามาดูแลเรื่องข้อความโฆษณาได้แทรกข้อความเสียงโฆษณาจากแบรนด์ต่างๆ ที่เข้าร่วมลงใน Amazon Alexa เวลาเริ่มต้นที่ 6 ไปจนถึง 15 วินาที ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อของจากโฆษณานั้นได้ผ่าน Alexa เลย
Adam Marchick ซีอีโอ Voicelabs เคยให้สัมภาษณ์ว่าทางบริษัทจะทำตามนโยบายโฆษณาของ Amazon ทุกประการ ทำโฆษณาให้สั้นและกระชับ โดยตัวโฆษณาจะอยู่ตอนเริ่มต้นและปิดท้ายการสนทนาระหว่างผู้ใช้กับ Alexa
ผลกระทบจากแบรนด์บอยคอต YouTube ไม่ลงโฆษณา ส่งผลรายได้บรรดายูทูบเบอร์หดหาย ส่งผลกระทบกันถ้วนหน้าทั้งคนทำเนื้อหาการเมืองไปจนถึงเนื้อหาตลกขำขัน แม้แต่ PewDiePie บล็อกเกอร์บนยูทูบที่ดังที่สุดยังได้รับผลกระทบ
PewDiePie โพสต์วิดีโอใหม่วันนี้ เขาบอกว่าจากนโยบายการจัดการโฆษณาใหม่บนยูทูบทำให้เขาเสียรายได้ โดยหนึ่งในสามของวิดีโอทั้งหมดของเขาถูกถอนโฆษณาออกไป เขาจำเป็นต้องแก้ไขเนื้อหาใหม่ เพื่อให้รายได้กลับมาเหมือนเดิม
Twitter เปิดตัวโฆษณาประเภทใหม่บนแอพถ่ายทอดสด Periscope นั่นคือวิดีโอโฆษณาก่อนจะถ่ายทอดสด (Pre-roll Ads)
ทีมงานของ Periscope เปิดเผยว่า โฆษณาประเภทนี้จะเป็นวิธีใหม่สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาที่ต้องการสร้างรายได้ด้วยการถ่ายทอดสด โดยผู้เผยแพร่โฆษณาจะมีตัวเลือกว่าก่อนผู้ใช้จะเริ่มดูถ่ายทอดสดหรือก่อนดูย้อนหลัง ให้เล่นวิดีโอโฆษณาสั้นๆ ก่อนหรือไม่ ส่วนผู้ลงโฆษณาก็สามารถสร้างแคมเปญโฆษณาที่ผู้เผยแพร่โฆษณามีการถ่ายทอดสดได้เช่นกัน
โฆษณาประเภทนี้จะเตรียมเปิดให้ผู้ลงโฆษณาและผู้เผยแพร่โฆษณาได้ใช้งานได้ในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ที่มา : Twitter Blog
บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกทั้งในสหรัฐและอังกฤษ รวมกันนับร้อยบริษัท ประกาศบอยค็อตยกเลิกการโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Google และบน YouTube โดยบางบริษัทยกเลิกโฆษณาทุกแพลตฟอร์มทั่วโลก บางบริษัทยกเลิกเฉพาะบางแพลตฟอร์มในบางประเทศเท่านั้น
สาเหตุสำคัญของการบอยคอตมาจากโฆษณาของบริษัทเหล่านั้น ไปปรากฎอยู่บนวิดีโอและเว็บไซต์ที่ส่งเสริมการก่อการร้ายจากกลุ่ม IS และความรุนแรงจากกลุ่ม Ku Klux Klan กลุ่มต่อต้านคนผิวสีหัวรุนแรงในสหรัฐ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่พูดไปในทางเดียวกันว่า ที่ผ่านมา Google ไม่ค่อยจริงจังกับการจัดการเว็บไซต์และคอนเทนท์เหล่านี้พอสมควร
มีผู้ใช้ Google Home จำนวนหนึ่งรายงานบน Reddit ว่า ช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เมื่อถามถึงสภาพอากาศและข่าวซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว เมื่อพูดจบ Google Home ก็โฆษณาภาพยนตร์ Beauty and The Beast ว่าได้ออกฉายที่โรงภาพยนตร์แล้ววันนี้ พร้อมเรื่องย่อสั้น ๆ ซึ่งนอกจากผู้ใช้ Google Home แล้ว ก็มีผู้ใช้ Google Assistant บางรายได้รายงานด้วยว่าพบการโฆษณาดังกล่าวเช่นกัน
เมื่อสอบถามไปที่ Google ทางบริษัทกล่าว่าสิ่งที่ Google Home พูดออกมานั้นคือความสวยงามของ Assistant ที่จะมีการเชิญพาร์ทเนอร์มาแชร์เรื่องเล่าด้วย นี่ไม่ใช่โฆษณา แต่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ My Day เพื่อช่วยให้ข้อมูลที่มีประโยชน์แก่ผู้ใช้ในแต่ละวัน ซึ่ง Google จะคอยทดสอบหนทางในการหาคอนเทนต์ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคน
ปกติแล้ว Tesla ไม่ค่อยโฆษณารถยนต์ของตนมากนัก ทำให้เด็กหญิง Bria Loveday วัย 10 ขวบสังเกตเห็นข้อนี้ จึงเสนอไอเดียให้ Tesla จัดโครงการประกวดโฆษณาจากคนทางบ้าน หรือที่เรียกว่า fan-made พร้อมรับรางวัลเข้าร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Tesla ฟรี
ที่มาที่ไปของเรื่องนี้คือ Bria Loveday ได้เขียนจดหมายหา Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ใจความคือเธอสังเกตว่า Tesla ไม่โฆษณารถยนต์เลย แต่กลับมีคนทำโฆษณา fan-made ดีๆ ออกมามากมาย เธอจึงคิดว่า Tesla ควรจัดโครงการประกวดโฆษณาเหล่านี้ แล้วให้รางวัลคนที่ทำได้ดีที่สุด พร้อมนำโฆษณาดังกล่าวไปออกอากาศจริงๆ
YouTube นั้นมีโฆษณาหลากหลายรูปแบบ และรูปแบบหนึ่งในนั้นที่หลายคนไม่พึงประสงค์นักคือโฆษณาแบบ 30 วินาทีที่กดข้ามไม่ได้ ซึ่งล่าสุด Google เตรียมจะหยุดการโฆษณาในรูปแบบนี้แล้ว
โฆษกของ Google กล่าวว่า ทางบริษัทตัดสินใจจะหยุดการโฆษณารูปแบบ 30 วินาทีกดข้ามไม่ได้ในปี 2018 และจะเน้นไปที่ฟอร์แมตโฆษณาที่ยอมรับด้วยกันทั้งฝั่งผู้ใช้และฝั่งผู้โฆษณา
ส่วนความเห็นของฝั่งนักโฆษณาโดย Callum McCahon จาก Born Social กล่าวว่านี่เป็นสิ่งที่ YouTube จ่ายออกไปเพื่อทำให้ผู้ใช้ยังคงรับชม YouTube ต่อไป ตัวเขาให้ความเห็นว่าเป็นสัญญาณว่า YouTube กำลังกังวล Facebook เพราะว่าวิดีโอเป็นส่วนสำคัญในโร้ดแมปของ Facebook และตอนนี้วิดีโอของ Facebook น่าดึงดูดสำหรับแบรนด์มากกว่า