Biz Stone อดีตหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ได้โพสต์ใน Medium ส่วนตัว (ข่าวเก่า) แนะนำให้ Facebook ควรมีระบบเก็บเงินผู้ใช้บริการเพื่อแลกกับการงดแสดงโฆษณาในหน้าเว็บ โดยน่าจะอยู่ที่ $10/เดือน ซึ่งถ้าเป็นผู้ใช้งานเป็นประจำก็ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับการจ่ายเงินจำนวนนี้
หาก Facebook ทำตามแนวคิดนี้ เพียง 10% ของผู้ใช้งานที่ยอมจ่ายเงิน จะทำให้ Facebook มีรายได้จำนวนมากถึง 1 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน ทั้งนี้เอง Biz Stone ยังยอมรับว่าตอนนี้เขาหยุดใช้งาน Facebook แล้วหลังจากที่ทาง Facebook เพิ่งมีการเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ มากมาย
คุณจะยอมจ่ายไหมครับ $10/เดือน (300 บาท/เดือน) ?
เว็บไซต์ข่าวในเยอรมนี Horizont รายงานว่า Google และบริษัทอื่นอีกจำนวนหนึ่งได้จ่ายเงินให้บริษัท Eyeo ผู้พัฒนา AdBlock Plus ปลั๊กอินกรองโฆษณาชื่อดังบนเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox เพื่อไม่ให้โฆษณาบางส่วนของตนถูกบล็อค แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Google จ่ายเงินเป็นจำนวนเงินเท่าไร
เว็บไซต์ The Verge ได้อีเมลสอบถาม Google และ Eyeo แต่ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างไร
ในขณะที่ Steve Ballmer ให้สัมภาษณ์กับ BusinessWeek เรื่องการปรับโครงสร้างองค์กรนั้น มีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
Panasonic เปิดเผยว่าสถานีโทรทัศน์หลายแห่งในญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะออกอากาศโฆษณาผลิตภัณฑ์สมาร์ททีวี Smart VIERA ของตน ซึ่งเบื้องลึกเชื่อว่าเป็นเพราะสถานีเหล่านั้นเกรงว่าโฆษณาตัวนี้จะทำให้ความนิยมในระบบ IPTV เพิ่มมากขึ้น และส่งผลเสียต่อธุรกิจของสถานีเองในท้ายที่สุด
Panasonic ระบุว่า บรรดาสถานีโทรทัศน์ที่ปฏิเสธงานโฆษณาของพวกเขานั้น อ้างเหตุผลว่าเกรงจะทำให้ผู้ชมทีวีทางบ้านเกิดความสับสนในตัวผลิตภัณฑ์ เพราะมีภาพในโฆษณาที่แสดงให้เห็นฟังก์ชันการแบ่งหน้าจอทีวีเพื่อรับชมสัญญาณภาพตามปกติ ควบคู่กับการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ต
Sony แทรกข้อความโฆษณาเล็กจิ๋วบนร่างกายและเสื้อผ้าของ Anne Keothavong นักกีฬาผู้เข้าร่วมแข่งขันเทนนิส Wimbledon โดยข้อความโฆษณาดังกล่าวจะมองเห็นได้ผ่านการรับชมด้วยทีวีที่หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ 4K เท่านั้น
ข้อความโฆษณาของ Sony นั้นมีขนาดเล็กจิ๋วจนสามารถที่จะเพ้นท์ข้อความทั้งหมดลงบนเล็บนิ้วมือได้ ซึ่งการที่จะมองเห็นข้อความเหล่านั้นได้นอกเหนือจากการมองไปที่ตัวของ Anne Keothavong โดยตรงในระยะประชิด ก็คงต้องใช้การมองผ่านทางการถ่ายทอดสดบนหน้าจอทีวี 4K เท่านั้น
ถ้าหากใครได้ติดตามดูโฆษณาผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลอยู่เป็นประจำก็จะพบว่า แอปเปิลมักใช้รูปแบบเดิมๆ ในการนำเสนอมาตลอด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการใช้พื้นหลังสีขาวล้วนในทุกๆ ครั้ง และเหล่าผู้บริหารระดับสูงแต่ละฝ่ายก็จะออกมาพูดถึงประสบการณ์การใช้งานอันสุดยอด ในที่สุดก็จะปิดด้วยประโยคสวยหรูว่า “มันน่าทึ่งมาก” หรือไม่ก็ “มันเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา” จนช่วงหลังมานี้มีคนนิยมทำคลิปล้อเลียนกันมากขึ้น ลองชมหนึ่งในคลิปล้อเลียน iPhone 5 ที่มียอดชมสูงสุด
เว็บไซต์ Engadget รายงานว่าทาง Facebook จะถอดระบบ Sponsored Result ออกภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เนื่องจากระบบทับซ้อนกับระบบโปรโมตแอพที่เชื่อมกับ Facebook ใน App Center (ซึ่งระบบโปรโมตแอพสามารถสร้างรายได้มากกว่า)
แต่อย่างไรก็ตาม เราก็คงไม่มีทางที่เห็นระบบโฆษณาของ Facebook หายไปเป็นอันขาด และระบบโฆษณาของ Facebook ก็ยังจะอยู่กับเราไปอีกนานอย่างแน่นอน
ที่มา: Engadget
หลังจากที่ไมโครซอฟท์กัด iPad ไปแล้วรอบแรก คราวนี้ไมโครซอฟท์กลับมากัด iPad อีกรอบด้วยโฆษณาชุดใหม่ชื่อว่า iPad vs. Windows โดยชูฟีเจอร์ที่ iPad ไม่มี เช่น รองรับพรินเตอร์หลายรุ่น (ไม่ใช่แค่ AirPrint), น้ำหนักที่เบากว่าและบางกว่า, รองรับ Microsoft Office หรือแม้แต่การทำงานพร้อมกัน 2 ตัว เป็นต้น
ในคลิปนำ ASUS VivoTab RT มาใช้ในการนำเสนอ และไม่ได้พูดถึงแอพใน Windows Store แม้แต่น้อย
ที่มา: Windows Phone Central
ไมโครซอฟท์ได้เลือกใช้ Siri ในการแขวะ iPad ในโฆษณาแท็บเล็ต Windows 8 ชุดล่าสุด โดยในโฆษณาได้มีการเปรียบเทียบการใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ระหว่าง iPad กับแท็บเล็ต Windows 8 ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับโฆษณา iPad mini ที่แอปเปิลได้เอา iPad mini มาวางไว้ข้างกับ iPad รุ่นปกติ
Siri แขวะ iPad อย่างไรบ้าง กดอ่านต่อเข้ามาชมตัวโฆษณาได้เลยครับ
ที่มา - 9to5Mac
โฆษณา iPad mini:
ที่งาน Google I/O กูเกิลประกาศยกเครื่องแพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือ AdMob (ที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2010) ใหม่หมด เพื่อให้ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มโฆษณาของกูเกิลได้ดีขึ้น
การปรับปรุง AdMob ครั้งใหญ่ยังเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาอีกหลายอย่าง เช่น Conversion Optimizer ช่วยโปรโมทแอพผ่านโฆษณาได้ละเอียดแม่นยำกว่าเดิม, ควบคุมหมวดเนื้อหาการแสดงโฆษณาได้ละเอียดขึ้น, แสดงตัวเลขและจ่ายเงินด้วยสกุลท้องถิ่นมากขึ้น, ปรับอินเทอร์เฟซหน้ารายงานผลการโฆษณาให้ใช้ง่ายและมีข้อมูลเยอะกว่าเดิม เป็นต้น
ผมเข้าใจว่าแถวนี้มีนักพัฒนาแอพที่หารายได้ด้วย AdMob อยู่บ้างพอสมควร ถ้าใครมีประสบการณ์ก็มาแชร์ข้อมูลกันได้ครับ
รวมข่าวที่เกี่ยวข้องกับยาฮูและธุรกิจ search มาทีเดียวเลยนะครับ
ข่าวแรก Reuters ไปค้นพบข้อมูลในเอกสารของยาฮูที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของอเมริกา (SEC) ว่ายาฮูต่อสัญญาส่วนแบ่งรายได้จากการค้นหากับไมโครซอฟท์ไปอีก 1 ปี นั่นคือระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2013 ไปจนถึง 1 เมษายน 2014
เรื่องนี้ต้องย้อนไปถึงความร่วมมือช็อคโลกไอทีเมื่อปี 2009 ที่ยาฮูยอมเลิกใช้ระบบค้นหาของตัวเอง เปลี่ยนมาใช้ Bing ของไมโครซอฟท์เป็นเอนจิน โดยแบ่งรายได้จากโฆษณา (revenue per search) ระหว่างกัน แต่ก็มีเงื่อนไขว่าถ้ารายได้จากโฆษณาไม่เข้าเป้า ไมโครซอฟท์จะการันตีรายได้ขั้นต่ำให้ (ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยเข้าเป้าเลย)
ซัมซุงเปิดตัวโฆษณา Galaxy S4 ใหม่ โดยเน้นไปที่ซอฟต์แวร์เพิ่มเติมที่นำมาเป็นจุดขาย สำหรับครั้งนี้เนื้อเรื่องว่าด้วยงานเลี้ยงฉลองจบการศึกษา แต่ก็ยังแอบพาดพิงถึง iPhone อยู่เล็กน้อยเหมือนโฆษณา ตัวที่หนึ่ง
ขออนุญาตรวมข่าวจากไมโครซอฟท์ และ Windows Phone 8 เป็นข่าวเดียวนะครับ
ข่าวแรก ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Windows Phone 8 ชาวไทยครับ เมื่อไมโครซอฟท์ได้อัพเดตแอพ Facebook Beta แล้วในวันนี้ โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาหลักๆ คือการสนับสนุนภาษาท้องถิ่น และการปรับปรุงการแสดงผลให้ถูกต้องครับ
ดาวน์โหลด - Windows Phone Store
ไมโครซอฟท์ออกโฆษณาชุด Three smartphones and a wedding กล่าวถึงงานแต่งงานที่ญาติฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวใช้มือถือคนละค่ายกันคือ iPhone กับ Samsung Galaxy และทั้งสองฝ่ายก็เปิดศึกกันในงานแต่งงาน ก่อนจะปิดท้ายด้วยพนักงานเสิร์ฟสองคนยืนดูเหตุการณ์ด้วย Lumia 920
โฆษณาชิ้นนี้ใช้คำพูดหรือประเด็นที่สาวกแอปเปิลและซัมซุงใช้โจมตีอีกฝ่ายกันอย่างมาก เช่น หน้าจอที่ใหญ่เกินไป iPhone มีแต่เด็กๆ เท่านั้นที่ใช้งาน พวกขี้ลอก ฯลฯ หรือล้อฟีเจอร์เด่นๆ ของทั้งสองค่าย เช่น S Beam หรือ Siri
เป้าหมายของไมโครซอฟท์คงเป็นการนำเสนอว่า Windows Phone นั้นเป็น "อีกทางเลือกหนึ่ง" ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่ดีไม่แพ้สองค่ายใหญ่ครับ
ในความพยายามโฆษณาครั้งใหม่ของ Microsoft มีผู้ค้นพบเราท์เตอร์ต่อ Wi-Fi ถูกยัดลงมาในหน้ากลางของนิตยสาร Forbes บางเล่มที่วางขายตามแผงหนังสือ
ภายในหน้ากลางซึ่งตีพิมพ์โฆษณาของ Microsoft ไว้นั้น ด้านในมีเราท์เตอร์ Wi-Fi ของ T-mobile ถูกติดกาวแปะเอาไว้ ซึ่งหลังจากเปิดใช้งานแล้ว ตัวอุปกรณ์สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยรองรับการต่ออุปกรณ์สูงสุดได้ 5 ชิ้นพร้อมกัน ทั้งนี้ระยะเวลาการใช้งานของเราท์เตอร์ดังกล่าวอยู่ที่ 15 วันโดยปราศจากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
วันนี้แอปเปิลได้ปล่อยโฆษณาตัวใหม่ออกมาในชื่อ "Photos Every Day" โดยโฆษณาตัวนี้อาจจะแตกต่างจากโฆษณาแอปเปิลอื่น ๆ ที่เราเคยเห็นมากอยู่พอสมควรตรงที่มันให้ความสำคัญกับผู้คนที่ใช้ไอโฟน มากกว่าตัวไอโฟนเอง
ในตัวโฆษณายังบอกอีกว่า "ทุกวันนี้ มีภาพที่ถูกถ่ายด้วยไอโฟน มากกว่ากล้องอื่นใด" (Everyday, more photos are taken with the iPhone than any other camera) ซึ่งชัดเจนว่าแอปเปิลพยายามกล่าวถึงสถิติจาก Flickr ที่ชี้ให้เห็นว่าไอโฟน กลายเป็นกล้องถูกใช้ถ่ายรูปที่ถูกอัพโหลดขึ้นไปบน Flickr มากที่สุด
กดอ่านต่อเพื่อเข้ามาชมโฆษณาครับ
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มโฆษณาแบบใหม่บนเว็บเมล Outlook.com โดยใช้ชื่อว่า "versaTiles" ในประเทศกลุ่มยุโรป-อเมริกาเหนือ-บราซิล
รูปแบบของมันก็ตามชื่อนั่นคือโฆษณาเป็นกรอบสี่เหลี่ยม tile ตามสมัยนิยมของไมโครซอฟท์บน Windows 8 และ Windows Phone นั่นเอง (ดูคลิปประกอบ)
โฆษณาแบบ versaTiles จะแสดงในแถบด้านขวาของหน้าเว็บ Outlook.com โดยเป็นกรอบสี่เหลี่ยมสีเทาพร้อมข้อความโฆษณา เมื่อผู้ใช้นำเมาส์ไปชี้ กรอบสี่เหลี่ยมจะกลายเป็นภาพแบนเนอร์ของโฆษณาชิ้นนั้นๆ และถ้าคลิกแล้วแบนเนอร์นั้นจะขยายขึ้นตามมา
ข้อมูลเพิ่มเติมของ Facebook Home ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อคืนครับ
ในขณะที่ Xperia Z กำลังจะวางขายในหลายๆ ประเทศ ก็เริ่มมีการยิงโฆษณาชุดใหญ่เพื่อโปรโมทมือถือเรือธงของโซนี่ตัวนี้ และหนึ่งในค่ายโทรศัพท์มือถือที่ขอส่งโฆษณาด้วยก็คือ Three UK นั่นเองครับ แต่ประเด็นคือมันไม่ใช่โฆษณาที่ใช้คนธรรมดาแสดง แต่เป็นเด็กทารกครับ น้องคนนี้ชื่อน้อง Anya ที่ทาง Three เอามาเป็น User Testing คนแรก ก็ลองดูได้ที่หลังเบรคครับ
จุดประสงค์ของโฆษณานี้ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็เพื่อทดสอบความคงทนและการกันน้ำกันกระแทกของตัวเครื่องนั่นเอง
ที่มา - Three UK - YouTube
Amazon เดินหน้าเปิดตัวบริการใหม่ๆ สำหรับแอพมือถือบนแพลตฟอร์ม Kindle/Android อย่างต่อเนื่อง (ข่าวก่อนหน้านี้: In-App Purchasing, GameCircle, Maps API)
บริการตัวล่าสุดคือ Amazon Mobile Ads API หรือระบบโฆษณาแบบแบนเนอร์ภายในแอพนั่นเอง ในแง่การใช้งานคงไม่ต่างกับระบบโฆษณาอื่นๆ (เช่น AdMob) มากนัก แต่ Amazon ก็โฆษณาว่าระบบของตัวเองมีอัตราการจ่าย (eCPM) ที่ดีกว่า โฆษณาคุณภาพสูงกว่า และติดตามผลได้ง่ายกว่า
การประชาสัมพันธ์ผ่าน Promoted Tweet เป็นช่องทางทำเงินที่ทวิตเตอร์เลือกใช้ และมั่นใจว่าได้ผลดี แต่จนทุกวันนี้ช่องทางการซื้อโฆษณาเหล่านี้ต้องติดต่อกับทวิตเตอร์โดยตรงเท่านั้น ไม่สามารถซื้อผ่านเอเจนซี่ หรือเชื่อมต่อกับระบบบริหารโฆษณาอื่นๆ ได้ จนวันนี้ที่ทวิตเตอร์ประกาศ Twitter Ads API
ในช่วงแรกผู้ที่จะเข้าถึง API ชุดนี้ได้จะมีเพียงผู้ให้บริการ 5 รายเท่านั้น คือ Adobe, HootSuite, Saleforce, SHIFT, และ TBG Digital ส่วนรายอื่นๆ สามารถส่งใบสมัครเพื่อรอรับการพิจารณาในรอบต่อไปได้
ด้วยแนวทางเช่นนี้ผู้ซื้อโฆษณาจะสามารถเลือกซื้อโฆษณาจากผู้ให้บริการภายนอกที่มีเครื่องมือต่างๆ กันไป เพื่อให้ยิงโฆษณาไปยังผู้ชมได้ตรงจุดมากขึ้น
David Fischer รองประธานฝ่ายธุรกิจของ Facebook ไปพูดที่งาน Future Of Media Conference ยอมรับว่าเราอาจได้เห็นโฆษณาบน newsfeed ของผู้ใช้ ที่มีลักษณะเป็นวิดีโอแบบเล่นอัตโนมัติ (auto-play)
Fischer ระบุว่าปัจจุบันเจ้าของเพจสามารถโพสต์วิดีโอบน newsfeed ได้อยู่แล้ว แต่ธุรกิจจำนวนมากก็เรียกร้องมายัง Facebook ให้มีวิธีการโชว์วิดีโอที่เรียกความสนใจจากผู้ใช้มากกว่าปกติ ซึ่งก็คือการให้วิดีโอเล่นอัตโนมัตินั่นเอง
Opera Mediaworks บริษัทลูกของ Opera Software ที่ทำธุรกิจด้านโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา รายงานส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์พกพาประจำไตรมาสที่สี่ของปี 2012
กูเกิลปรับฟีเจอร์ของ AdWords เสียใหม่ โดยเพิ่มฟีเจอร์ชื่อ enhanced campaign เข้ามา
enhanced campaign จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดมากขึ้น โดยไม่ต้องแยกเป็นหลายๆ แคมเปญแบบเดิมอีก รูปแบบการทำงานได้แก่ โฆษณาสินค้าเดียวกันแต่กำหนดว่าคนคลิกบนพีซีกับมือถือจะเห็นข้อความโฆษณาที่ต่างกัน (เช่น ค้นคำว่า pizza บนคอมจะเจอเว็บสั่งพิซซ่า บนมือถือเจอเบอร์โทรร้าน) หรือ เลือกประมูลคีย์เวิร์ดราคาสูงเฉพาะบางช่วงเวลา (เช่น ร้านขายอาหารเช้าสู้ราคาคีย์เวิร์ดคำว่า breakfast เฉพาะก่อน 11 โมง)
กูเกิลจะทยอยเปิดให้ใช้ enhanced campaign แก่ลูกค้า AdWords ในเร็วๆ นี้ในฐานะ "ทางเลือก" ส่วนในอนาคตมันจะกลายเป็นโหมดมาตรฐานของ AdWords แทนระบบปัจจุบัน
ยาฮูประกาศความร่วมมือกับกูเกิล เพื่อนำโฆษณาของกูเกิลทั้ง AdSense และ AdMob มาแสดงบนเว็บไซต์และบริการของยาฮู มีผลกับบริการของยาฮูทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความร่วมมือแบบ non-exclusive นั่นคือยาฮูยังมีพันธมิตรโฆษณารายอื่นๆ เช่นเดิม แค่เพิ่มกูเกิลมาเป็นพันธมิตรอีกรายเท่านั้น (ถ้ามองว่ากูเกิลเป็นบริษัทโฆษณาออนไลน์รายใหญ่ ก็คงมีผลต่อรายได้จากโฆษณาของยาฮูไม่น้อย)
สำหรับผู้ใช้ของยาฮูคงไม่เห็นความแตกต่างมากนัก เพราะเห็นโฆษณาเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนผู้ให้บริการเท่านั้น แต่นี่เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายุคสมัยที่สองบริษัทนี้แข่งขันกันโดยตรงนั้นจบลงแล้ว
ไม่รู้จะมีใครบอกว่า Marissa Mayer เป็นคนที่กูเกิลส่งเข้ามาคุมยาฮูหรือเปล่า?