ปล่อยให้ GeForce 8 เป็นการ์ดจอตัวแรกที่สนับสนุน DirectX 10 มานาน ฝั่ง AMD/ATI ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายการ์ด DirectX 10 ฝั่งตัวเองบ้าง จากที่รู้จักกันในรหัส R600 ก็ได้ชื่อจริงเป็น Radeon HD 2000 (เปลี่ยน X เป็น HD แต่ยังนับเลขรุ่นต่อ)

HD 2000 นี้เป็น GPU สายพันธุ์เดียวกับ Xenos ที่ใช้ใน Xbox 360 ซึ่งมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ AMD หลายอย่าง เช่น unified shader architecture (USA) และ hardware tesselator รายละเอียดไปอ่านตามลิงก์กันเองนะครับ

หลังจากปล่อยให้อินเทลถลุงมานานหลายเดือน ทางเอเอ็มดีก็เริ่มแย้มถึงซีพียูรุ่นต่อไปที่จะมานำเอเอ็มดีขึ้นแท่นไปแข่งกับอินเทลที่ตลาดระดับสูงอีกครั้งหลังจากตกอันดับมาเป็นเวลานาน ในชื่อตระกูลว่า Phenom

ชิปตระกูลนี้จะมาแบ่งออกเป็นสามระดับย่อย ได้แก่ Phenom X2, Phenom X4 และ Phenom FX สองรุ่นแรกคงเดาได้ไม่ยากว่าเป็นชิปสองและสี่คอร์ตามลำดับ ส่วนรุ่นสุดท้ายนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการความแรงเหนือธรรมดาเท่านั้น (แน่นอนว่าแพงเหนือธรรมดาด้วย)

หลังจากชิปตระกูลนี้ออกมาแล้ว สิ่งที่เราจะพบความเปลี่ยนแปลงคือแบรนด์ Athlon นั้นจะหายไปจากตลาดแล้ว ส่วน Sempron นั้นยังคงอยู่ไปอีกระยะเพื่อทำตลาดล่างต่อไป

งาน RedHat Submit ปีนี้น่าตื่นเต้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา เมื่อนาย Henri Richard รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของเอเอ็มดีได้ขึ้นพูดและประกาศให้คำมั่นว่าจะบริษัทกำลังดำเนินการเปิดซอร์สไดร์เวอร์การ์ดแสดงผลในตระกูล ATI อย่างแน่นอน

ประเด็นการเปิดซอร์สนี้เป็นประเด็นที่ถูกคาดหวังตั้งแต่เมื่อทางเอเอ็มดีประกาศซื้อ ATI เป็นครั้งแรก งานนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจแต่อย่างใด แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข่าวลือนี้ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ

การแถลงยังไม่ยืนยันช่วงเวลาที่จะมีซอร์สออกมา ดังนั้นชาวลินุกซ์อาจจะต้องรอกันอีกหน่อย

ที่มา - Enterprise Linux Log

สงครามซีพียูรอบใหม่ใกล้เริ่ม เมื่อ AMD ออกมาบลัฟอินเทลว่าซีพียู Quad-core รหัส Barcelona ของตัวเองนั้น มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Xeon 5300-series (รหัส Clovertown ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Mac Pro Quad) ที่สัญญาณนาฬิกาเท่ากัน

เอเอ็มดียังระบุอีกว่าถ้าเอาเฉพาะ floating point จะเร็วกว่าถึง 50% แต่ถ้าเป็น integer ก็ 20% โดยเทียบกับ "รุ่นสูงสุด" ของคู่แข่ง ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ ต้องรอจนกว่า Barcelona จะออกในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้

ข้อแตกต่างของ Barcelona กับ Clovertown คือ Barcelona มี 4 คอร์บน die แผ่นเดียว ส่วน Clovertown เป็น 2 คอร์มาประกบกัน (อ่านเพิ่มเติมเรื่องสถาปัตยกรรม K10)

เอเอ็มดีออกประกาศเตือนผู้ถือหุ้นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะไม่สามารถทำรายได้ได้ตามที่คาดการไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขล่าสุดเอเอ็มดีคาดว่าจะมียอดขายเพียง 1.225 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขคาดการเมื่อปลายปีที่แล้วอยู่ที่ 1.6 ถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขที่แน่นอนจะได้รับการประกาศในวันที่ 19 นี้ เอเอ็มดีให้เหตุผลการลดลงของรายได้ว่าเกิดจากการลดทั้งราคาขายและปริมาณที่ขายได้

หลังอินเทลโชว์ชิป Terascale ไปก่อนหน้านี้โดยระบุว่าจะวางจำหน่ายในอีกห้าปีข้างหน้า เอเอ็มดีอาศัยความได้เปรียบที่มีเทคโนโลยี GPU จากทาง ATI อยู่ในมือ สร้างคอมพิวเตอร์จากชิปออปเทอรอน และการ์ดจอ ATI R600 ที่กำลังจะวางจำหน่ายในไม่นานนี้ สามารถเดโมให้ผู้สื่อข่าวเห็นถึงพลังประมวลผลขนาด 1 เทราฟลอปได้เป็นผลสำเร็จ ที่สำคัญคือเครื่องที่เดโมนี้รัน Windows XP Professional ธรรมดาๆ ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน

เครื่องเดโมนั้นใช้การ์ด R600 ถึงสองใบ แต่การเดโมครั้งนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าความแรงระดับเทราฟลอปไม่ใช่อะไรที่เราต้องรอไปอีกหลายปี แม้เครื่องจะแพงมหาศาลแต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่เราจะมีเครื่องแรงระดับนี้ในบ้านกันเร็วๆ นี้

AMD เปิดตัวชิปเซ็ตตัวแรกฝีมือ ATI หลังควบกิจการ

ชิปเซ็ต AMD 690G เดิมใช้รหัสว่า RS690 แต่เปลี่ยนมาใช้ชื่อทางการค้าตามแบบ AMD แทน ชิปเซ็ตตัวนี้จับกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป ใช้การ์ดจอออนบอร์ด ATI X1250 (ซึ่งผลการทดสอบถือว่าโอเค) ยังไม่สนับสนุน DirectX 10 แต่เป็นการ์ดจอออนบอร์ดตัวแรกที่ได้รับรองจาก Vista

องค์ประกอบอย่างอื่นก็ตามมาตรฐาน PCIe x16, SATA2, Gigabit Ethernet เราคงได้เห็นชิปเซ็ตตัวนี้บนเมนบอร์ดจากผู้ผลิตทั่วไปเร็วๆ นี้ อ่านรายละเอียดชิปเซ็ตอื่นๆ ในตระกูล 690 ได้ที่ Wikipedia

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าเอเอ็มดีตามหลังอินเทลเสมอมาคือเทคโนโลยีการผลิตชิปชั้นพื้นฐานที่ทางเอเอ็มดีตามหลังอินเทลเสมอมา เช่นเทคโนโลยี 65 นาโนเมตรที่อินเทลใช่้งานมาปีกว่าๆ แล้วนั้นทางเอเอ็มดีเพิ่งนำเข้าสายการผลิตได้เมื่อไม่นานมานี้เอง และเทคโนโลยี 45 นาโนเมตรก็น่าจะซ้ำรอยเดิม เมื่อทางอินเทลระบุว่าชิป Penryn ของอินเทลนั้นพร้อมจะเข้าสายการผลิตแล้วในช่วงต้นปีนี้ ส่วนทางเอเอ็มดีนั้น ถ้าเป็นไปตามกำหนดการ เราคงได้เห็นเทคโนโลยีระดับเดียวกันในปี 2008

ชิป Penryn โดยทั่วไปแล้วคือ Core 2 Duo ที่จะเพิ่ม SSE4 เข้าไป แต่ด้วยเทคโนโลยี 45 นาโนเมตร จะทำให้ชิปตัวนี้กินพลังงานน้อยลง จำนวนผลิตที่ได้ต่อแผ่นเวเฟอร์สูงขึ้น ซึ่งกระทบโดยตรงกับต้นทุนการผลิตและส่วนต่างกำไร

ถ้าติดตามข่าวเก่าๆ ของ Blognone กันมานาน จะเห็นว่าเวลาเปิดตัว Gadget แต่ละทีก็มักจะมีการใช้ชิปรุ่นแปลกๆ ให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ เช่น ARM7/ARM9 ใน Nintendo DS หรือ Cell ใน PS3/Wii/Xbox360 เรื่องน่าสงสัยเล็กๆ คือทำไมไม่ค่อยมีใครใช้ x86 กันทั้งๆ ทีั่เป็นชิปตระกูลที่ราคาต่อประสิทธิภาพค่อนข้างถูกมาก

ถ้าใครเล่นหุ้นก็จะรู้ว่าช่วงนี้เป็นฤดูการประกาศผลประกอบการ ต่างประเทศก็ประกาศออกมาเหมือนกัน ที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นเอเอ็มดีที่มีผลประกอบการขาดทุนถึง 574 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียว นับเป็นการขาดทุนเป็นครั้งแรกนับแต่ต้นปี 2005 ที่เอเอ็มดีทำตลาดตีตื้นอินเทลได้เรื่อยมา เอเอ็มดีอธิบายว่าการขาดทุนนี้เกิดจากทางการเข้าซื้อบริษัท ATI เป็นเงินถึง 550 ล้านดอลลาร์ แต่นั่นก็หมายถึงส่วนอื่นๆ ของเอ็มดีแทบไม่ทำกำไรเลยในไตรมาสที่แล้ว

ในขณะที่ฝั่งอินเทลเตรียมยัดจำนวนคอร์ลงในซีพียูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ AMD กลับมองว่ามันไม่ต่างอะไรกับแข่ง MHz เหมือนสมัยก่อน และเตรียมหาแนวทางพัฒนาซีพียูของตัวเอง

แนวทางของ AMD มีชื่อเรียกว่า Accelerated Processing Units (APU) โดยใน APU จะประกอบด้วยซีพียูที่ทำหน้าที่ประมวลผลทั่วไป และ xPU ซึ่งทำหน้าที่เฉพาะทาง AMD ไม่ได้เปิดเผยว่าสนใจทำ xPU แบบไหน แต่ก็พอคาดการณ์กันได้ว่าเป็นตัวเร่งความเร็วฟิสิกส์, encode/decode หรือแม้กระทั่งเร่งความเร็วการประมวลผล AI

เราข้ามพ้นยุค Dual core และกำลังจะก้าวเข้าสู่ Quad core กันเร็วๆ นี้ หลังจากเปิดตัว 4x4 (หรืออีกชื่อ Quad FX) ซึ่งเป็น Quad core หลอกๆ (เอา Dual core สองอันมาเสียบบนบอร์ดเดียวกัน) อย่างน่าผิดหวัง AMD ได้โชว์ Quad core ของจริง โดยมีรหัส Barcelona หรือ K8L

K8L เป็นซีพียู Quad core แบบที่คอร์ทั้ง 4 อยู่บน die เดียวกัน ซึ่งต่างจาก 4x4 (dual core สองตัวบนบอร์ดเดียวกัน) และ Kentfield ของอินเทล (dual core สองตัวบนแพกเกจซีพียูเดียวกัน) ซึ่ง AMD โฆษณาว่าแบบนี้ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเยอะ

หลังจากปล่อยอินเทลนำหน้าไปเป็นเดือน เอเอ็มดีก็ออกตัวไล่อินเทลด้วยชิปตระกูล FX-70 ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสถาปัตยกรรม 4x4 ของเอเอ็มดีเอง โดยสถาปัตยกรรมใหม่นี้จะรองรับซีพียูสองตัว เชื่อมต่อกันผ่านบัส HyperTransport โดยในตอนนี้มีชิปเซ็ตของทาง nVidia เท่านั้นที่รองรับสถาปัตยกรรมนี้

แต่งานนี้แฟนๆ เอเอ็มดีอาจจะออกเสียงเฮกันไม่ได้เต็มปาก เพราะชิปตัวใหม่นี้กลับทำความเร็วต่ำกว่า QX6700 ของทางอินเทลแทบทุกการทดสอบ แถมการกินพลังงานก็สูงกว่าพอสมควร โดยเฉพาะในงานที่ต้องการพลังคำนวณจากคอร์เดียวเช่นเกม เอเอ็มดีกลับทำได้แย่กว่าอย่างเห็นได้ชัด

บริษัท Appro ได้เปิดตัวซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ลินุกซ์ตัวแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตัว ที่จะทำให้กับ ศูนย์วิจัยแห่งชาติ Lawrence Livermore (LLNL) โดยได้ตั้งชื่อว่า Rhea (อีกสามตัวชื่อ Zeus, Atlas และ Minos) ระบบที่ว่านี้ ใช้โพรเซสเซอร์ของเอเอ็มดี รุ่น Opteron 8000 Series (ุสนับสนุน 64 บิตด้วย) จำนวน 576 ตัว มีความสามารถในการประมวลผลถึง 22 TeraFLOPS ต่อวินาที หรือประมาณ 22 ล้านล้าน ชุดคำสั่งต่อวินาที ซึ่งจำเป็นต่องานวิจัยของ LLNL เช่น การจำลองสภาพอากาศ, การจำลองวัสดุ, การจำลองเหตุการณ์แผ่นดินไหว, การจำลองการเคลื่อนไหวแบบไม่แน่นอน (Dislocation Dynamics) เป็นต้น

ก่อนหน้าโครงการ OLPC จะเป็นที่รู้จักกันนั้น เอเอ็มดีเคยพยายามแสดงท่าทีสนับสนุนเครื่องพิซีขนาดเล็กกันมาก่อนแล้วในชื่อว่า PIC ที่เป็นคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีจอ โดยใช้ชิ Geode เช่นเดียวกับ OLPC แต่มีฮาร์ดดิสก์ 10 กิกะไบต์ และราคาอยู่ที่ 250 ดอลลาร์

หลังจากผ่านไปสองปี โครงการนี้ได้รับการตอบรับพอประมาณในประเทศเม็กซิโก บราซิล และจีน แต่ในประเทศอื่นๆ (เช่นไทย) นั้นกลับไม่ได้รับการตอบรับกันเท่าใหร่ ผลของการประกาศครั้งนี้คือเอเอ็มดีจะแทงบัญชีเครื่อง PIC ในสต็อกทั้งหมดให้กลายเป็นยอดขาดทุนไป

เอามาเลเมืองไทยเครื่องละสองพันจะไปซื้อมาเล่น..

ที่มา - ArsTechnica

เหล่าสาวกเอเอ็มดีคงได้เฮกันยกใหญ่ เมื่อผู้ผลิตพีซีอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และอันดับสองของโลกอย่างเดลล์ยอมใช้ชิปเอเอ็มดีในโน้ตบุ๊กของตนในที่สุด โดยรุ่นแรกที่ถูกวางจำหน่ายนี้คือ Inspiron 1501 โน้ตบุ๊กจอภาพขนาด 15.4 นิ้ว

โดยปรกติแล้วโน้ตบุ๊กของทางเดลล์จะสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ซื้อ งานนี้ก็เช่นเดียวกัน Inspiron 1501 จะเริ่มต้นจาก AMD Sempron 3500+, แรม 512MB, HDD 60GB และที่สำคัญ ATI Radeon Xpress1150 256MB ด้วยราคา 549 ดอลลาร์ (ประมาณสองหมื่นบาท) ส่วนถ้าอยากเห็นราคาเวลาปรับแต่งแล้ว ของเข้าไปปรับเล่นกันได้ที่เว็บของทางเดลล์เองโดยตรง

หลังการรวมตัว AMD+ATI เสร็จสิ้น สงครามที่คาดการณ์กันว่าจะเกิดขึ้นแน่ก็เริ่มเปิดฉาก เมื่อเอเอ็มดีประกาศว่าภายในสองปี เอเอ็มดีจะวางตลาดชิปรุ่นใหม่ ที่มีชื่อไม่เป็นทางการในตอนนี้ว่า Fusion โดยมันจะเป็นการรวมตัวระหว่าง CPU และ GPU เข้าด้วยกันในชิปตัวเดียว และจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2008 ถึงต้นปี 2009 ที่น่าสนใจคือเอเอ็มดีประกาศว่าชิปตระกูล Fusion นี้จะมีครบทุกสายการผลิตตั้งแต่โน้ตบุ๊กไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์

วันนี้มีหลายเรื่อง เลยขอรวบๆ มาไว้เป็นข่าวเดียวเลย เริ่มจากอินเทลเริ่มส่งมอบชิปควอร์ดคอร์ชุดแรกให้กับผู้ผลิตพีซีแล้ว เชื่อกันว่าในช่วงนี้เป็นช่วงของการทดสอบระบบก่อนที่จะมีการวางจำหน่ายชิปตัวนี้ในช่วง กลางเดือนหน้า ส่วนชิปที่ส่งมอบได้เป็นตัวแรกนี้คือ Core 2 Extreme QX6700 หรือที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ในชื่อ Kentsfield ทำงานที่สัญญาณนาฬิกา 2.67 กิกะเฮิร์ต และกินไฟ 110 วัตต์ เทียบกับ Core 2 Duo E6700 ที่กินไฟ 65 วัตต์

ที่มา - TGDaily

Hector Ruiz ซึ่งเป็น Chief executive ของ AMD กล่าวเมื่อวันพุธว่า ในที่สุดแล้วแอปเปิลก็จะมาใช้ CPU ของเรา ควบคู่ไปกับอินเทล โดยที่ Ruiz ได้พูดให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ระหว่าการปาถกฐาที่ Commonwealth Club ใน San Francisco เอามาให้อ่านเลยดีกว่า

"Everybody wants choice,'' he said, adding that rival Intel Corp's practices have stifled the PC industry's growth. "Knowing Apple, why would they want to be held hostage like everyone else has been?"

แฟนๆ เอเอ็มดีคงชื่นใจกันไม่น้อย เมื่อในที่สุดผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเดลล์ก้เปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปที่ใช้ชิปเอเอ็มดีอย่างเป็นทางการ โดยการเปิดตัวครั้งนี้เดลล์เปิดตัวพร้อมๆ กันสองรุ่นคือ C521 และ E521 โดยทั้งสองรุ่นเป็นเครื่องในระดับเริ่มต้น ทั้งสองรุ่นจะเริ่มเปิดให้ลูกค้าเข้าสั่งซื้อผ่านทางเว็บของเดลล์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

แบรนด์ Centrino ของอินเทลนับว่าเป็นกลยุทธทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จสูงมาก ถึงแม้ AMD จะกินส่วนแบ่งตลาดเดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์ไปเยอะขนาดไหนก็ตาม ลำพังซีพียู Turion อย่างเดียวแทบจะต่อกรกับแบรนด์ Centrino ไม่ได้เลย

เมื่อ AMD ได้จิ๊กซอชิ้นสำคัญอย่าง ATI มาอยู่ในมือแล้ว การสร้างแพลทฟอร์มแบบเดียวกับ Centrino ในโค้ดเนมว่า "Yokohama" จึงเริ่มขึ้น Yokohama จะใช้ซีพียู Turion กับชิปเซ็ตของ ATI และชิป WiFi ของบริษัทอื่นๆ เช่น Broadcom หรือ Atheros เป็นต้น

เพื่อเป็นการตอบโต้ Xeon Woodcrest ทางฝั่ง AMD ก็ได้เปิดตัว Opteron รุ่นใหม่ แถมยังใช้ระบบตัวเลขรุ่นแบบใหม่ 4 ตัว แทน 3 ตัวแบบเดิมด้วย

Opteron ใหม่ชุดแรกจะมี 3 แบบ คือ ตระกูล 1200 สำหรับซ็อกเก็ต AM2 และ 2200 กับ 8200 สำหรับซ็อกเก็ต F ทางด้านฟีเจอร์ใหม่ๆ ก็สนับสนุนเทคโนโลยี virtualization ของ AMD เองที่ชื่อ Pacifica และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย Presidio รวมไปถึงเป็นซีพียูรุ่นแรกของ AMD ที่สนับสนุน DDR2 ในแร็คของเซิร์ฟเวอร์ นอกจากนี้ AMD ก็ยังสัญญาว่ารุ่นซ็อกเก็ต F จะสามารถอัพเกรดเป็น Opteron แบบ quad-core ที่จะออกมากลางปีหน้าได้เลย

จากการเข้าซื้อ ATI ของ AMD นั้น ก็ได้มีข่าวออกมาว่า AMD กำลังพิจารณาว่าจะปล่อยไดรเวอร์ของชิปกราฟิก ATI ออกมาเป็น Open source (ในนั้นเขียนว่า strongly consider ซะด้วย) โดยอย่างน้อยก็คงปล่อยออกมาในส่วนของ functional subset (ต่อไปอาจจะทั้งหมดก็ได้)

ซึ่งเรื่องนี้น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าส่วนหนึ่งอย่างแน่นอนไม่มากก็น้อย

จากข่าวข้างล่าง intel ก็เปิด Open source กราฟิกไดรเวอร์แล้ว ทีนี้ nVidia จะตามกระแสหรือไม่

จาก ข่าวลือเก่าว่า AMD จะเลิกใช้แบรนด์ ATI (AMD Radeon64 X2?) ตอนนี้ทางเว็บไซต์ Ars Technica ได้ติดต่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ AMD และได้รับการยืนยันว่า AMD ไม่ทางทิ้งแบรนด์ ATI รวมถึง Radeon ด้วยแน่นอน เพราะผู้บริหารรู้ค่าของแบรนด์ ATI เป็นอย่างดี

เป็นอันว่าเรื่องนี้จบไป

ที่มา - Ars Technica

จากข่าว AMD ซื้อ ATI สำเร็จ ตอนนี้มีนักวิเคราะห์ออกมาวิเคราะห์กันว่า AMD จะทิ้งแบรนด์ ATI แล้วเรียกรวมเป็น AMD อย่างเดียวเลยรึเปล่า

ข่าวจากทาง AMD นั้นมีทั้งที่บอกว่าบริษัทใหม่จะใช้ชื่อ AMD อย่างเดียว นั่นคือ VGA ตัวต่อไปจะเป็น AMD Radeon แทน และมีทั้งที่ออกมาปฏิเสธ โดยบอกว่ายังอยู่ในช่วงการตัดสินใจ เพราะเป็นการซื้อไม่ใช่การรวมกิจการ การที่แต่ละฝ่ายยังใช้แบรนด์ของตัวเองต่อไปน่าจะดีกว่า ส่วนทาง ATI ก็บอกว่าจะแบรนด์อะไรไม่สำคัญรีบร่วมมือกันสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมออกมาก่อนดีกว่า