ถึงแม้ว่า AMD จะมาช้าในตลาด netbook/ultraportable (ข่าวเก่า: เอเอ็มดีเตรียมส่ง Conesus ลงตลาด netbook) แต่บทจะมาก็มาพร้อมกันเป็นชุด นอกจาก Conesus ที่เป็นตัวซีพียูแล้ว AMD ยังเปิดเผยข้อมูลของแพลตฟอร์ม Yukon กับ Congo สำหรับตลาดนี้ด้วยเช่นกัน
Congo เป็นแพลตฟอร์มที่จับตลาดบน (ของ netbook/ultraportable) ประกอบด้วย
Yukon เป็นแพลตฟอร์มระดับรองลงมา
AMD Fusion โครงการ CPU+GPU ซึ่งเป็นความหวังของค่าย AMD นั้นถูกเลื่อนออกไปเป็น "อย่างเร็วที่สุดปี 2011"
นักวิเคราะห์มองว่าการเลื่อนครั้งนี้มีสาเหตุมาจากเทคโนโลยีการผลิต ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ระดับ 45 นาโนเมตรในปัจจุบันนั้นเป็นไปได้ยากที่ Fusion จะถูกและเร็วพอต่อการเป็นไม้เด็ดของ AMD ดังนั้นถ้ายืดเวลาไปถึงช่วงปี 2011 ที่การผลิตระดับ 32 นาโนเมตรเริ่มใช้กันแล้ว อาจส่งผลดีต่อ AMD มากกว่าก็เป็นได้
แผนการระยะยาวคร่าวๆ ของ AMD ถ้าไม่รวม Fusion มีดังนี้
งานนี้คงต้องบอกกับแฟนๆ เอเอ็มดีว่า "มาช้ายังดีกว่าไม่มา" เมื่อทางเอเอ็มดีได้ประกาศซีพียูสำหรับ netbook อย่างเป็นทางการแล้วในชื่อ Conesus ที่จะวางตลาดในไตรมาสแรกของปี 2009
ไม่มีรายละเอียดอะไรมากนัก โดยในตอนนี้สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับมันคือ
เอเอ็มดีวางแพลตฟอร์ม Yukon ใช้คู่กับ Conesus โดยจะมีชิปเซ็ต RS780M และ SB710 จากทาง ATI
ถ้าไม่ใช่โรงงานผลิตเครื่องอย่างเอเซอร์หรือเอชพี ผมว่าเราคงไ้ด้เห็นชิปตัวนี้กันกลางปีหน้า ระหว่างนี้อินเทลคงขายได้อีกสักสองสามล้านชุด
AMD ออกซีพียูตระกูล Opteron แบบ 4 คอร์ที่ใช้การผลิตขนาด 45 นาโนเมตร หรือที่เรารู้จักกันในรหัส Shanghai (เป็นตัวต่อจาก Barcelona ซึ่งผลิตที่ 65 นาโนเมตร)
นอกจาก 4 คอร์กับ 45 นาโนเมตรแล้ว มีของใหม่เพิ่มเติมดังนี้
ตัวเลขของ AMD เทียบกับซีพียูของอินเทลแล้ว บอกว่า
หลังจากการประกาศแยกบริษัทเอเอ็มดีออกเป็นสองบริษัทแบ่งหน้าที่กันระหว่างการออกแบบและการผลิตได้ไม่กี่ชั่วโมง ทางอินเทลก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่าการแยกบริษัทครั้งนี้อาจจะเป็นการละเมิดข้อตกลงการใช้งานสิทธิบัตรที่อินเทลขายสิทธิให้กับเอเอ็มดีไว้ก่อนหน้านี้
เอเอ็มดีจ่ายเงินเพื่อซื้อสิทธิในการใช้งานชุดคำสั่ง x86 ไว้นานนับสิบปีแล้ว
ส่วนทางเอเอ็มดีก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงการสวนกลับทันทีเช่นกันว่าบริษัทเชื่อมั่นว่าการแยกบริษัทครั้งนี้ไม่มีการละเมิดสัญญากับทางอินเทลแน่นอน โดยให้คำมั่นว่าเอเอ็มดีเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของทางอินเทลมาตลอด และหวังว่าทางอินเทลจะเคารพในเอเอ็มดีในแบบเดียวกัน
หลังจากมีอาการน่าเป็นห่วงมาได้สักระยะ (ข่าวเก่า) AMD เตรียมประกาศวันนี้ว่าบริษัทกำลังจะแบ่งครึ่งบริษัทเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งดูแลเรื่องการออกแบบหน่วยประมวลผลโดยเฉพาะ และอีกส่วนหนึ่งดูแลเรื่องการผลิต เพื่อที่จะต่อสู้กับ Intel อย่างเต็มที่
AMD ยังกล่าวอีกด้วยว่า บริษัท Advance Technology จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะมาร่วมอัดฉีดเงินลงทุนเป็นจำนวนกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐในการแบ่งบริษัทเป็นสองส่วนดังกล่าว โดยส่วนใหญ่จะลงทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิพที่กำลังจะเปิดในนิวยอร์ก และปรับปรุงโรงงานผลิตเดิมในประเทศเยอรมนี
ปีที่ผ่านมานี้นับว่าไม่ใช่ปีของเอเอ็มดีเอาซะเลย หลังจากการเปิดตัว Barcelona ที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนกระทั่งไม่น่าสนใจเท่าใหร่ ซ้ำร้ายชิปล็อตแรกๆ นั้นยังมีปัญหาเรื่องของเสถียรภาพใน Phenom แต่ทางเอเอ็มดีก็เชื่อว่าการเปิดตัวซีพียูในชุด Shanghai นี้จะแก้ความผิดพลาดที่ผ่านๆ มาได้
เอเอ็มดีระบุว่า หลังจากเกิดความผิดพลาดกับ Barcelona บริษัทได้ปรับเปลี่ยนระบบตรวจสอบคุณภาพใหม่ทั้งหมดเพื่อจะได้ไม่พลาดซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง
Shanghai เป็นการอัพเดตย่อยของชิปในตระกูล K10 รุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ โดยชิปในตระกูลนี้ที่เป็นรุ่นเดสก์ทอปก็คือ Phenom นั่นเอง
ปล่อยให้แฟนๆ รอกันจนเหนื่อยไปหน่อย ตอนนี้ทางเอเอ็มดีก็เริ่มส่งสัญญาณชีวิตอีกครั้งด้วยการปล่อยโฆษณาแรกของ AMD Fusion ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ตอนปี 2006
โฆษณาใหม่นี้นับเป็นการเปลี่ยนแนวทางการโฆษณาไปทั้งหมด โดยแทนที่จะโชว์สเปคของซีพียูว่ามีอะไรดีบ้าง เอเอ็มดีกลับพยายามย้ำกว่าตนเองคือผู้ออกแบบชิปชั้นนำของโลก และกล่าวถึง Fusion ว่าจะเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ใช้ได้อย่างไรบ้าง
เชื่อกันว่า Fusion ตัวแรกที่จะวางจำหน่ายจริงคือตัวที่มีชื่อรหัสว่า Swift ที่มีจุดเด่นคือ
สงครามน้ำลายระหว่าง Nvidia และอินเทลดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่าย ๆ ล่าสุด จาก PC Pro ทาง Nvidia ได้ออกมาวิจารณ์ว่าเทคโนโลยี CPU/GPU มัลติคอร์จากอินเทลภายใต้โค้ดเนม Larrabee ที่จะออกมาในปี 2010 นั้นจะมีความสามารถพอ ๆ กับ GPU ขอ Nvidia หรือ ATI เมื่อปี 2006 เท่านั้น
นอกจากนี้ Nvidia ได้ออกมาชมเชย ATI มากมาย เริ่มด้วยการยอมรับว่าทาง Nvidia จะต้องไล่ตาม GPU จาก AMD และยังได้พูดว่า "เราประเมิน ATI ต่ำไปหน่อย"
ที่มา - Slashdot
หลังจากที่ปล่อยให้อินเทลครองตลาดไปได้เป็นเวลานานด้วยชิป Atom แล้ว ตอนนี้เอเอ็มดีกำลังกลับมาอย่างน่าสนใจด้วย Athlon 2000+ พร้อมกับชิปเซ็ต 780G โดยที่ตัวชิปกินไฟ 8 วัตต์ แต่ชิปเซ็ตนั้นประสิทธิภาพสูงกว่าในแทบทุกด้าน
ทาง Toms Hardware ทดสอบเมนบอร์ดของทั้งคู่แล้วพบว่าระบบรวมของ Athlon 2000+ นั้นกินไฟเพียง 41 วัตต์ภายใต้โหลดสูงสุด น้อยกว่า Atom อยู่สามวัตต์ ขณะที่ความร้อนของบอร์ดนั้น เอเอ็มดีทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความร้อนเพียงครึ่งเดียวของ Atom ทำให้ความร้อนขณะที่ไม่ใช้พัดลมเลยนั้นสูงเพียง 55 องศาเซลเซียส ขณะที่ความเร็วนั้นอยู่ที่ประมาณ 1.5 เท่าของ Atom
แม้ฝั่ง CPU จะเชียร์ไม่ขึ้นนัก แต่ AMD/ATI ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ก็นับว่าปล่อยหมัดได้โดนใจคอกราฟิกกันทีเดียว เริ่มจากการปล่อย RV770 ที่เอาชนะ 9800 GTX ไปได้ในหลายๆ ส่วนที่ราคาเดียวกัน ส่วน Radeon HD 4870 นั้นราคาต่ำกว่าชิประดับเดียวกันจาก NVIDIA คือ GTX 260 อยู่ 100 ดอลลาร์ (299 กับ 399) แต่กลับทำได้ดีกว่าในหลายๆ กรณี
ได้ยินกันหนาหูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ สำหรับ Open Computing Language (OpenCL) ซึ่งตอนนี้ทาง Raja Koduri, CTO ของ ATI เดิม, ได้ออกมาบอกว่า AMD จะยกเลิกการพัฒนาแพลตฟอร์ม GPGPU เดิมของตนเองที่ชื่อ Close-to-Metal เพื่อไปทุ่มการพัฒนาสำหรับ DirectX 11 และ OpenCL แทน ซึ่งน่าจะกลายเป็นมาตรฐานในอนาคต คุณ Koduri ยังได้พูดถึงทิศทางของตลาดซอฟต์แวร์ที่มีหลายบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ประโยชน์จากความสามารถของ GPU อยู่ อย่างเช่น CyberLink, ImageScan, RapidMind, RougeWave, CAPS ซึ่งเขาคิดว่า การเปลี่ยนมาพัฒนาบน OpenCL นี่ น่าจะเข้าถึงได้ง่ายกว่าเพราะใช้มาตรฐานเดียวกัน
ทางอินเทลนั้นหลังการเปิดตัว Atom ออกมาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนผู้ผลิตหลายต่อหลายรายเริ่มมีเสียงบ่นว่าอินเทลส่งมอบชิปให้ไม่ทันความต้องการ แต่กับทางเอเอ็มดีแล้วดูเหมือนข่าวชิปประหยัดไฟสำหรับใช้งานในเครื่อง Nettop นั้นจะไม่มีอยู่ในแผนการแต่อย่างใด นอกจากข่าวลืออย่างไม่เป็นทางการก่อนหน้านี้
ช่วงเปลี่ยนไตรมาสเช่นนี้ก็เป็นเรื่องปรกติที่บริษัทต่างๆ ต้องออกมาแถลงตัวเลขขาดทุน/กำไรให้กับผู้ถือหุ้นกัน
เริ่มจากกูเกิลกันก่อน ที่ไตรมาสนี้เติบโตขึ้นมาร้อยละ 39 รายได้รวม 5.37 พันล้านดอลลาร์ แต่กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 คิดเป็น 4.63 ดอลลาร์ต่อหุ้น ผิดจากประมาณการที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 4.74 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้หลังการแถลงราคาหุ้นก็ตกลงไปร้อยละ 8
ไมโครซอฟท์ยังคงทำได้ดีต่อไป โดยไตรมาสที่ผ่านมาเป็นไตรมาสที่สี่ของปีงบประมาณของไมโครซอฟท์ ผลกำไรที่เติบโตขึ้นร้อยละ 42 ไปอยู่ที่ 4.3 พันล้านดอลลาร์เทียบกับ 3 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนรายได้นั้นอยู่ที่ 15.8 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับ 13.4 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
AMD อัพเดตโร้ดแมพซีพียูใหม่สำหรับปี 2010 โดยเปิดตัวซ็อกเกตสำหรับซีพียูแบบ 8 คอร์ โค้ดเนม Sao Paolo และซีพียูแบบ 12 คอร์ โค้ดเนม Magny-Cours โดยซีพียูทั้งสองตัวจะเป็นซีพียูแบบ MCM (Multi-Chip Modules) ซึ่งเหมือนกันกับซีพียู Core 2 Quad ของอินเทลในปัจจุบัน โดย Sao Paolo นั้นจะใช้ die ของซีพียู Shanghai และ Magny-Cours นั้นจะใช้ die ของซีพียู 6 คอร์ Istunbul 2 ตัวเชื่อมต่อกัน
เมื่อปี 2005 ทาง Dreamwork SKG ได้ตกลงกับทางเอเอ็มดีเป็นสัญญาสามปีที่จะใช้งานซีพียูของเอเอ็มดีในเรนเดอร์ฟาร์ม นับว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอินเทลในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี แต่เวลาผ่านไปสามปีเมื่อสัญญาฉบับนั้นได้สิ้นสุดลง ทาง Dreamwork SKG ก็ได้ทำข้อตกลงฉบับใหม่กับทางอินเทลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อต้นปี NVIDIA เข้าซื้อ AGEIA รวบเทคโนโลยีชิปฟิสิกส์ และพอร์ต PhysX ไปลงบน GeForce 8 ตอนนี้มีคนแฮ็กเอา PhysX ไปลงบน Radeon ได้แล้ว
นาย Eran Badit แห่งเว็บไซต์ NGOHQ.com ได้ประกาศความสำเร็จหลังจากทดลองเล่น CUDA SDK และ PhysX SDK โดยระบุว่าวิธีการนั้นไม่ยากมากนัก (not particularly difficult) และเขาเตรียมเปิดให้ดาวน์โหลดโปรแกรม PhysX บน ATI บนเว็บไซต์ในเร็วๆ นี้
หลังจาก AMD เปิดตัว Puma สำหรับ UMPC ขนาดเล็กราคาถูก ตอนนี้ก็มีข่าวหลุดออกมาว่า AMD จะทำ "Shrike" ชึ่งเป็น AMD Fusion สำหรับ UMPC รุ่นที่มีความสามารถสูง โดยมี 2 core, GPU, Memory Controllers, PCIe, Display Controller, Northbridge และที่มากกว่า Swift คือ Southbridge รวมอยู่ในชิพเดียว
AMD Fusion นั้นเปิดตัวตั้งแต่ปี 2006 ในชื่อ Falcon โดยวางแผนว่าจะขายกลางปี 2007 จากนั้นก็เปลี่ยนชื่อเป็น Swift จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะวางขาย (ภาพประกอบดูได้ด้านใน)
ที่มา - Engadget
ชาว Blognone เป็นแฟนคลับของเอเอ็มดีค่อนข้างเยอะ (แต่เห็นซื้อใช้กันน้อยแฮะ) หลังจากที่โดนอินเทลอัดหนักไปหลายหมัด งานนี้เลยต้องมารายงานกันบ้างว่าทางเอเอ็มดีจะพอมีดีอะไรไปต่อกรกับอินเทลบ้างไหม
เริ่มจากการเปิดตัวชิปกราฟิก FireStream 9250 ที่สามารถนำมาใช้ประมวลผลในอัลกอลิธึมพิเศษบางอย่างเพิ่มความเร็วให้เครื่องทะลุ 1 เทราฟลอปกันไปได้ผ่านทางการเรียกใช้งานจาก Stream SDK ที่น่าสนใจคือราคา 999 ดอลลาร์เทียบกับรุ่นก่อนหน้าคือ FireStream 9170 นั้นราคาอยู่ที่ 1,990 ดอลลาร์
ตีความให้ฟังอีกทีคือเราจะมีเครื่องราคาห้าหกหมื่นที่ความแรงเกิน 1 เทราฟลอปใช้งานกันแล้ว!!!
ข้อดีหลักของ USB ในทุกวันนี้เราคงเห็นว่าอุปกรณ์แทบทุกตัวทำงานร่วมกับพอร์ต USB ได้แบบครอบจักรวาล การที่ USB 3.0 จะเร่งความเร็วขึ้นไปถึงสิบเท่าตัวเป็น 5 กิกะบิตต่อวินาทีนั้นหลายๆ คงก็อาจจะคาดว่ามันจะทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้เหมือนเดิม
แต่ปัญหาอาจจะกำลังเกิดขึ้นเมื่อทาง C|Net ได้รายงานข่าวว่ามีแหล่งข่าวภายใน AMD และ NVIDIA ออกมาระบุว่าอินเทลกำลังพยายามถ่วงเวลาที่จะปล่อยสเปคของ USB 3.0 ของทางอินเทลออกมา ซึ่งจะสุดท้ายแล้วจะสร้างความได้เปรียบให้กับอินเทลที่จะมีอุปกรณ์มาวางขายล่วงหน้าคู่แข่งอยู่หลายเดือน และสุดท้ายแล้วอาจจะเป็นการบีบให้ทาง AMD และ NVIDIA ต้องพัฒนามาตรฐานของตัวเองมาใช้กันเอง
ปัญหานี้ยังไม่มีการแถลงการอย่างเป็นทางการจากทุกบริษัททั้ง AMD, อินเทล, และ NVIDIA
AMD เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์ม Puma สำหรับโน้ตบุ๊ก และซีพียู Turion Ultra ในงาน Computex 2008 ที่ไต้หวัน วันที่ 3 มิถุนายนนี้
ส่วนประกอบสำคัญในแพลตฟอร์ม Puma คือซีพียูแบบดูอัลคอร์รหัส Griffin ซึ่งได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Turion Ultra โดยมันใช้สถาปัตยกรรมเดียวกับซีพียูตระกูล Phenom มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาเริ่มต้นที่ 2.0 GHz
ส่วนตัว Puma เอง มีสเปกดังนี้ครับ
AMD ออกสเปกพีซีมาตรฐานสำหรับเกมเมอร์ ภายใต้แบรนด์ "AMD Game!" กับ "AMD Game! Ultra" โดยมีผู้ผลิตพีซีอย่าง Acer และ Alienware รวมถึงผู้ผลิตพีซีสำหรับตลาดเกมเมอร์โดยเฉพาะเข้าร่วมโครงการ
ตรา "AMD Game!" นี้จะคล้ายๆ กับสัญลักษณ์ Vista Ready ของไมโครซอฟท์หรือแบรนด์ Centrino ของอินเทล คือใช้ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ตามมาตรฐานที่ AMD กำหนด เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อพีซีสำหรับเล่นเกม ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น (ถ้าลูกค้าเชื่อในแบรนด์ AMD Game! เหมือนกับ Centrino)
สเปกขั้นต่ำของทั้งสองระดับมีดังนี้
แม้จะซวนเซไปบ้าง แต่เอเอ็มดียังมีหมัดเด็ดออกมาเรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆ ได้บ้างด้วยการเปิดตัว Opteron HE (High Efficient) ที่ปล่อยความร้อนเพียง 55 วัตต์ โดยปล่อยออกมาเป็นสองตระกูลคือ Opteron HE 2300 และ Opteron HE 8300
ผู้บริหาร AMD ยังยืนยันว่าบริษัทจะสามารถปรับสายการผลิตไปยังเทคโนโลยี 45 นาโนเมตรภายในกลางปีนี้ และน่าจะทำกำไรได้หลังไตรมาสที่สามของปี หลังจากขาดทุนต่อเนื่องมาถึงหกไตรมาส
ที่มา - ChannelWeb
เอเอ็มดีเผยแผนการผลิตโพรเซสเซอร์ Opteron สำหรับเซิร์ฟเวอร์จำนวน 6 และ 12 คอร์ รหัส Sao Paulo และ Magny-Cours โดยจะใช้สถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Maranello ซึ่งจะมาแทนที่ Barcelona ที่ดูเหมือนว่าจะถูกยกเลิกแผนการผลิตไปแล้ว
สาเหตุที่ชิป Bacelona จำนวน 8 คอร์ถูกยกเลิกการผลิตไปนั้นเป็นเพราะว่าเอเอ็มดีสามารถชิปจำนวน 12 คอร์ได้ง่ายกว่านั่นเอง โดย Maranello มีแผนจะออกสู่ตลาดในปี 2010
มีรายงานถึงปัญหาการใช้งานชิป Phenom X4 รุ่นล่าสุดของเอเอ็มดีที่ปล่อยความร้อนออกมาถึง 125 W TDP โดยแม้ตัวชิปเซ็ตเช่น AMD 780G ของเอเอ็มดีจะรองรับชิปเหล่านี้ได้ แต่ด้วยปัญหาบางประการทำให้เมนบอร์ดจำนวนมากกลับไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับการใช้พลังงานระดับสูงที่ Phenom X4 ต้องการ ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานไม่เสถียร
ArsTechnica ชี้ประเด็นปัญหาเช่นนี้ไว้ว่าผู้ผลิตเมนบอร์ดเองก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกัน โดยรายการซีพียูที่เมนบอร์ดรองรับนั้นไม่น่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมนบอร์ดบางรุ่นอ้างว่ารองรับซีพียู Phenom FX ซึ่งไม่มีอยู่จริง และแน่นอนว่าผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่ได้ทดสอบซีพียูเหล่านี้ก่อนจะอ้างลงในรายการซีพียูที่รองรับแต่อย่างใด