กูเกิลประกาศบริจาคโครงการ AMP (Accelerated Mobile Page) เข้าเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิ OpenJS Foundation เพื่อให้เป็นโครงการโอเพนซอร์สอิสระ ไม่ขึ้นกับกูเกิลอีกต่อไป

OpenJS Foundation เป็นโครงการลูกของมูลนิธิ Linux Foundation โดยมีซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สสาย JavaScript อยู่ในสังกัดทั้งหมด 32 ตัว ที่ดังๆ ก็อย่างเช่น Dojo, jQuery, Node.js เป็นต้น

กูเกิลอธิบายว่าโครงการ AMP เปิดเป็นโอเพนซอร์สแต่แรกอยู่แล้ว ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาก็มีนักพัฒนาเกือบ 1,000 รายเข้ามาช่วยพัฒนา และตอนนี้ก็ได้เวลาที่ AMP จะหาโมเดลโครงสร้างองค์กรที่เปิดกว้างมากขึ้น ไม่ขึ้นกับกูเกิลเพียงรายเดียว ซึ่ง OpenJS Foundation ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

หลังเปิดตัว AMP Stories มาตั้งแต่ปีที่แล้ว วันนี้ Google ประกาศเตรียมนำฟีเจอร์ดังกล่าวมาใช้งานจริงแล้วในหน้า Google Search บนมือถือ

AMP Stories จะแสดงบนเป็นแถบแยกของตัวเอง โดยช่วงแรกจะแสดงผลเฉพาะการค้นหาที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวก่อน ขณะที่หมวดอื่นๆ จะตามมาในภายหลัง

ที่มา - Android Police

ฟีเจอร์ใหม่ของ Gmail ที่ประกาศวันนี้คือ Dynamic Email ที่ทำให้ตอบสนองอีเมลได้โดยตรง เช่น กดปุ่มจองโรงแรมได้จากอีเมลโปรโมชั่นส่วนลดได้เลย

เบื้องหลังฟีเจอร์นี้คือเทคโนโลยี AMP for Email ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าผู้ให้บริการอีเมลรายแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้คือ Gmail ของกูเกิลเอง

แต่เวลาผ่านไปหนึ่งปี AMP for Email สามารถหาพันธมิตรเพิ่มได้สำเร็จ โดยผู้ให้บริการอีเมลรายใหญ่ๆ ของโลกคือ Yahoo Mail (ปัจจุบันเป็นของ Verizon), Outlook.com และ Mail.ru ของรัสเซีย ก็ประกาศรองรับ AMP for Email แล้วเช่นกัน

ในโอกาสครบรอบ 20 ปี Google นอกจากจะปรับโฉมใหม่ใน Google Chrome ที่มีอายุครบ 10 ปีแล้ว ฟีเจอร์การค้นหาบน Google Search ก็ยกเครื่องใหม่หลายอย่าง

โครงการ Accelerated Mobile Page (AMP) ของกูเกิลถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีเว็บไซต์เข้ามาใช้งานมากมาย ตัวโครงการเป็นโอเพนซอร์สมาตั้งแต่แรก จึงมีตัวแทนจากบริษัทอื่นๆ เข้ามาช่วยพัฒนาด้วยหลายราย

สถิติของกูเกิลระบุว่ามีคนเข้ามาร่วมพัฒนา AMP ทั้งหมดถึง 710 คน และมีเพียง 22% ที่เป็นคนของกูเกิลเอง ความนิยมเหล่านี้ทำให้กูเกิลประกาศว่าจะใช้โมเดลเปิดกว้างมากขึ้นในการดูแลโครงการ AMP

ที่ผ่านมา ทิศทางของ AMP ขึ้นกับ tech lead ซึ่งเป็นคนของกูเกิลเพียงอย่างเดียว แต่ในอนาคต กูเกิลจะตั้งคณะกรรมการทางเทคนิค (Technical Steering Committee) และคณะกรรมการที่ปรึกษา (Advisory Committee) ที่มีตัวแทนจากบริษัทอื่นๆ ด้วย ส่วนในอนาคตระยะยาวจะตั้งมูลนิธิขึ้นมาเป็นองค์กรกลางเพื่อดูแล AMP ต่อไป

ทุกวันนี้ AMP ระบบเว็บโหลดเร็วเพื่อให้เป็นมิตรกับอุปกรณ์พกพาซึ่งเป็นมาตรฐานจาก Google นั้นช่วยในการปรับปรุงประสบการณ์เข้าชมเว็บ แต่ปัญหาของระบบนี้คือสามารถทำงานได้ดีเฉพาะในกรณีที่มีการรองรับ (เช่นใน Google Search) แต่วันนี้ Google ประกาศว่าเป้าหมายสูงสุดของคือทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นมาตรฐานของเว็บแบบที่ทุกคนใช้งานได้ และพร้อมผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่

นอกจาก AMP Stories แล้ว กูเกิลยังเปิดตัวฟอร์แมต AMP for Email มาพร้อมๆ กัน

AMP for Email คือฟอร์แมตใหม่สำหรับการสร้างอีเมลให้ interactive มากขึ้นกว่าอีเมล HTML ในปัจจุบัน ผู้อ่านอีเมลสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ส่งผ่านอีเมลได้เลย เช่น กดยืนยันนัดหมาย กดสั่งซื้อของ ตอบแบบสอบถาม ฯลฯ ได้จากหน้าจออ่านอีเมลโดยตรง

โดยหลักๆ แล้ว สิ่งที่ AMP for Email เพิ่มเข้ามาให้คือฟอร์มประเภทต่างๆ และรูปแบบการนำเสนอที่ใช้บ่อยๆ เช่น แถบ sidebar, การแสดงรูปภาพแบบ lightbox, การแสดงรูปภาพเลื่อนได้ carousel เป็นต้น

Google ได้เปิดตัวส่วนเสริมใหม่ของ AMP ชื่อว่า AMP Stories เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เจ้าของเนื้อหาสร้างสรรค์บทความให้น่าสนใจและโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ โดยเน้นไปที่แพลทฟอร์มมือถือเป็นหลัก

AMP Stories จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาของ AMP ที่ปัจจุบันไม่สามารถสร้างเนื้อหาให้แปลกใหม่และสะดุดตาได้ จุดเด่นของมันอยู่ที่การสร้างเนื้อหาให้สวยงาม หรูหรา, ปรับปรุงการแสดงผลของรูปภาพและวิดีโอให้ดีขึ้น, มีการเล่าเรื่องราวที่โต้ตอบกับผู้ใช้และเปิดใช้งานได้ในทุกๆ แพลทฟอร์ม โดยเน้นที่มือถือเป็นหลัก

ส่วนเสริมนี้ถูกพัฒนาด้วยพื้นฐานของ AMP เป็นหลัก ฉะนั้นนักพัฒนาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโค้ดแต่อย่างใด รวมไปถึงยังคงประสิทธิภาพการเข้าชมที่โหลดได้อย่างรวดเร็วและมีการแคชข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งเนื้อหาแก่ผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น

ตอนนี้สถานะของ AMP Stories ยังอยู่ในช่วงการทดลองใช้งาน หากต้องการทดลองใช้งานต้องลงทะเบียนก่อนที่ http://bit.ly/amp-story-signup ส่วนคู่มือและตัวอย่างสามารถดูได้ที่ https://www.ampproject.org/docs/tutorials/visual_story

ที่มา : designmodo

ปัจจุบัน ระบบ AMP เพื่อการอ่านหน้าเว็บที่เร็วกว่าของ Google นั้นจะใช้วิธีการใส่ URL เป็น google.com/amp ตามด้วย URL ของเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อให้ดาวน์โหลดข้อมูลจากแคชของ Google โดยตรง แต่ปัญหาคือการใช้ URL ลักษณะดังกล่าวทำให้แทนที่ผู้ใช้เห็นเป็น URL จริง ๆ ของสำนักข่าวที่ผู้ใช้อ่านข่าว ก็จะเห็นเป็น Google อย่างเดียว และพอแชร์ไป URL ของ Google ก็จะติดไปด้วย

Google ได้แก้ปัญหานี้มาสักพักโดยการสั่งให้แสดง URL ที่แท้จริงบนแอพ Google Search ทั้ง iOS และ Android แต่ล่าสุด Google จะไปไกลกว่านั้นคือการร่วมมือกับผู้พัฒนาเบราว์เซอร์เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง

Google ประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการใช้งาน AMP ของเจ้าของเว็บไซต์ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นต้นไป เนื้อหาบนหน้า AMP จะต้องเหมือนกับในหน้าเว็บไซต์เต็มทุกประการ

การเปลี่ยนนโยบายดังกล่าวก็เพื่อแก้ปัญหาที่บางเว็บใช้ AMP เป็นคลิ๊กเบทหรือทีเซอร์ (teaser) ให้เนื้อหามาเพียงส่วนเดียว เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้กดเข้าไปอ่านจากหน้าเต็ม ซึ่งผิดจุดประสงค์ของ Google ในการออกฟีเจอร์ AMP ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ใช้งานเว็บของผู้ใช้มากขึ้น

Google ระบุว่าหากพบเว็บไหนแสดงผลเนื้อหาในหน้า AMP ไม่เหมือนกับหน้าเต็มอย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อผู้ใช้กดเข้าชมคอนเทนท์ที่เป็น AMP ก็จะลิงก์ไปยังหน้าเว็บโดยตรงแทน โดยจะไม่ส่งผลต่ออันดับการแสดงผลการค้นหาโดยรวมบน Google แต่เว็บนั้นๆ จะไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเว็บ AMP แทน

Google ได้เข้าซื้อบริษัท Relay Media ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับแปลงหน้าเว็บทั่วไปให้อยู่ในรูปแบบ AMP เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจากดีลการเข้าซื้อคาดว่า Google น่าจะปิดบริการของ Relay Media และนำเทคโนโลยีมาให้บริการเป็นแพลตฟอร์มของ Google โดยตรงเอง ซึ่งระหว่างที่กำลังนำระบบเข้าสู่แพลตฟอร์มของ Google ลูกค้าที่ยังใช้บริการอยู่จะยังใช้ได้ต่อไป

ปัจจุบัน ระบบดาวน์โหลดเว็บแบบเร็วบนมือถือของ Google นั้นใช้ชื่อว่า AMP และชื่อนี้อาจดูเป็นเทคนิคไปเล็กน้อย ตอนนี้ก็เริ่มมีผู้สังเกตว่า Google ได้เปลี่ยนชื่อระบบแบบเงียบ ๆ จาก AMP เป็น Instant และตอนนี้น่าจะกำลังอยู่ในช่วงทดสอบอยู่ และยังไม่ได้เปิดให้ใช้โดยทั่วกัน โดยมี @Jonny_J_ เป็นผู้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

โลโก้ AMP ภายใต้ Google Search นั้น จากเดิมจะเป็นรูปสายฟ้าสีเทาและมีคำว่า AMP อยู่ด้านข้าง เปลี่ยนเป็นโลโก้รูปสายฟ้าสีฟ้าและมีคำว่า Instant อยู่ด้านข้างแทน เพื่อให้สีเป็นที่โดดเด่นและสังเกตได้

ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Google จะเริ่มใช้การเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้จริง ๆ เมื่อไร

Federico Viticci แห่ง MacStories พบฟีเจอร์ใหม่ใน Safari บน iOS 11 เวอร์ชันสำหรับนักพัฒนา beta 7 โดยเมื่อเราแชร์เว็บจาก Safari ไปยัง iMessage (หรือแอพอื่น) หากเว็บนั้นแสดงผลแบบ AMP ซึ่งอาจมี url รูปแบบพิเศษ ตัว Safari จะทำการแปลง url แบบ AMP คืนเป็น url แบบปกติแทน

ต่อมา Malte Ubl หัวหน้าทีม AMP ของกูเกิลออกมาเปิดเผยว่ากูเกิลเองที่เป็นฝ่ายขอให้แอปเปิล รวมทั้งผู้ผลิตเบราว์เซอร์รายอื่นเพิ่มคุณสมบัตินี้ เพราะเมื่อเราดูเนื้อหาแบบ AMP เวลาแชร์ต่อออกไป url ก็ควรเปลี่ยนกลับเป็นแบบเดิมจึงจะเหมาะสมกว่า

ที่มา: 9to5Mac

Facebook เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ภายใต้โครงการ Facebook Journalism Project เพื่อให้บริการผู้ทำข่าวและผู้อ่านข่าวบนแพลตฟอร์ม คือ ส่วนขยายของ SDK สำหรับสร้าง Instant Articles ที่รองรับการสร้างโค้ดบนแพลตฟอร์มอื่นคือ Google AMP และ Apple News

ด้วยส่วนขยาย SDK ใหม่นี้ ผู้ทำคอนเทนต์สามารถสร้างคอนเทนต์สำหรับ Instant Articles เพียงครั้งเดียว จากนั้นก็สามารถสร้างโค้ดในฟอร์แมตอื่นได้ทันที เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากรไปกับการทำให้รองรับแพลตฟอร์มจำนวนมาก รวมถึงเครื่องมือใหม่นี้ยังรองรับ markup เฉพาะของผู้ทำคอนเทนต์แต่ละราย และเครื่องมือจากนักพัฒนาภายนอกอีกด้วย

กูเกิลประสบความสำเร็จอย่างมากกับ AMP และก้าวต่อไปของกูเกิลถัดจากการแปลงเว็บเพจเป็น AMP คือการแปลงโฆษณาเป็น AMP ด้วย (ทุกอย่างโหลดเร็วขึ้นแบบไม่มีข้อยกเว้น)

ในงาน Google Marketing Next เมื่อวานนี้ กูเกิลประกาศข่าว AMP สองเรื่อง

อย่างแรกคือ โฆษณารูปแบบแบนเนอร์ที่เป็น HTML5 จะถูกแปลงเป็นฟอร์แมตเป็น AMP ด้วย หน้าตาของโฆษณาจะเหมือนเดิม แต่โหลดเร็วขึ้นกว่าเดิม (สูงสุดคือโหลดเร็วขึ้น 5 วินาที) ผลคือการโหลดทั้งเพจที่เป็น AMP จะเร็วขึ้นเพราะไม่ต้องรอโหลดโฆษณาแยกต่างหาก ทุกอย่างเป็น AMP หมดและถูกแคชไว้บนเซิร์ฟเวอร์กูเกิลแล้ว

ตอนนี้โฆษณาบางส่วนในระบบ Google Display Network ถูกแปลงเป็น AMP เรียบร้อยแล้ว

กูเกิลแถลงความสำเร็จของโครงการ AMP ว่ามีเว็บเพจที่ใช้งาน AMP แล้วเกิน 2 พันล้านเพจ ถ้าคิดตามจำนวนโดเมนคือ 900,000 โดเมน

กูเกิลยังประกาศรายชื่อพันธมิตรร่วมใช้งาน AMP อีกมาก ฝั่งเอเชียมี Tencent Qzone, Weibo, Aliexpress, Rakuten และเว็บสายอีคอมเมิร์ซอีกหลายรายทั่วโลกก็เริ่มใช้ AMP กันแล้ว

นอกจากนี้ กูเกิลยังประกาศความสำเร็จในเชิงเทคนิคว่า การเรียกเพจ AMP จากหน้า Google Search เร็วกว่าการเรียกเพจ HTML ปกติถึง 2 เท่า ด้วยเทคนิคหลายอย่าง เช่น Google AMP Cache, การเรนเดอร์เพจไว้ล่วงหน้าที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์, เทคนิคการลดขนาดไฟล์ และอัลกอริทึมการบีบอัดแบบใหม่ Brotli

โครงการ AMP ของกูเกิลได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ เราเห็นบริษัทอื่นๆ อย่าง eBay, Pinterest, LinkedIn, WordPress หรือแม้แต่คู่แข่งโดยตรงอย่าง Bing รับไปใช้งาน

บริษัทใหญ่รายล่าสุดที่ร่วมใช้ AMP คือผู้ให้บริการ search engine ยอดนิยมจากเอเชีย ได้แก่ Baidu และ Sogou จากจีน และ Yahoo Japan จากญี่ปุ่น

กูเกิลระบุว่าความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AMP ในเอเชีย เพราะ Baidu กับ Sogou มีส่วนแบ่งตลาดในจีนรวมกัน 90% ส่วน Yahoo Japan มีลูกค้าใช้งาน 58 ล้านรายต่อวัน ส่วนตอนนี้มีเพจ AMP จำนวน 1.7 พันล้านเพจแล้ว

แพลตฟอร์ม AMP หรือแพลตฟอร์มสำหรับการแสดงผลที่ดาวน์โหลดบทความได้จากหน้าค้นหาอย่างรวดเร็ว มีปัญหาอย่างหนึ่งคือ URL สำหรับใช้ในการแชร์นั้นแตกต่างจาก URL ต้นฉบับ ทำให้มีปัญหาในการแชร์อย่างมาก และตอนนี้ Google ก็ได้แก้ปัญหา AMP แล้ว

Google ได้ใช้ URL ใน AMP สามรูปแบบ ได้แก่ URL ดั้งเดิมของบทความ, Google AMP Viewer URL และ AMP Cache URL ซึ่ง URL ส่วนที่แสดงใน address bar ของเบราว์เซอร์คือ Google AMP Viewer URL จะมีลักษณะเป็น https://www.google.com/amp/ ตามด้วย URL แบบดั้งเดิมของบทความ

กูเกิลอธิบายกระบวนการทำงานของ AMP Cache ที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิล ว่าหลังจากเว็บไซต์ทำเพจเวอร์ชัน AMP และเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลมาดูดข้อมูลไปแล้ว ฝั่งกูเกิลเองส่งเพจเหล่านี้ไปยังผู้ใช้อย่างไร ถึงทำความเร็วได้มาก

หลักการทำงานที่สำคัญของ Google AMP Cache คือบีบขนาดของไฟล์ภาพให้เล็กลง โดยใช้เทคนิคหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่

แอพ Bing บริการค้นหาจากไมโครซอฟท์ ออกอัพเดตบน iOS และ Android รองรับการแสดงผลหน้าเว็บแบบ AMP ซึ่งเป็นมาตรฐานโอเพนซอร์สจากทางฝั่งกูเกิล ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนโทรศัพท์เป็นหลัก ทั้งในเรื่องของความเร็วในการโหลดและการใช้ปริมาณข้อมูลเครือข่าย

หน้าเว็บที่รองรับการแสดงผล AMP จะมีไอคอนรูปสายฟ้าปรากฏอยู่ข้างลิงก์ ทั้งนี้การรองรับมาตรฐาน AMP จะไม่ถูกนำมาคิดคำนวณลำดับการแสดงผลการค้นหา

ที่มา - Bing blogs

เมื่อเดือนสิงหาคม Google ได้เริ่มการทดสอบใช้งาน AMP ผ่าน Google Search กับผู้ใช้ไปแล้วนั้น ล่าสุดได้ประกาศว่ารองรับการใช้งาน AMP ผ่าน Google Search อย่างเป็นทางการทั่วโลกแล้ว โดยผู้ใช้สามารถใช้งานได้ผ่าน Google Search บนมือถือไม่ว่าจะเป็นแอพหรือเว็บ เมื่อเว็บไหนที่รองรับการใช้งาน AMP ก็จะแสดงไอคอนรูปสายฟ้าที่ผลการค้นหานั้นๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

Google ได้บอกว่ามีเนื้อหาที่รองรับ AMP แล้วมากกว่า 600 ล้านไซต์ มีเว็บไซต์ดังๆ ที่รองรับแล้วเช่น eBay, Reddit, WikiHow หรือ Skyscanner เป็นต้น และยังมีเว็บไซต์จากทั่วโลกที่รองรับการใช้งานแล้วมากกว่า 232 แห่งและ 104 ภาษา สามารถใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้

ที่มา : Google Inside Search

กูเกิลยังเดินหน้าขยายการใช้งาน AMP ต่อไป เดิมทีนั้น Google Search บนอุปกรณ์พกพา แสดงเพจแบบ AMP เฉพาะเซคชั่นข่าว (Top Stories หรือ News) เท่านั้น แต่ล่าสุดกูเกิลกำลังจะปรับให้แสดง AMP กับผลการค้นหาแบบปกติด้วย

ผลการค้นหาที่รองรับ AMP จะแสดงไอคอนสายฟ้า กดไปแล้วจะเห็นเว็บเพจแบบ AMP แทน HTML ปกติ แต่ถ้าเว็บเพจนั้นไม่มี AMP ก็ยังต้องเปิดเว็บเพจ HTML ขึ้นมาเหมือนเดิม

ตอนนี้ Google Search แบบ AMP ยังมีสถานะเป็นรุ่นพรีวิว ใครสนใจลองเล่น สามารถคลิกได้ที่ https://g.co/ampdemo (ต้องเปิดจากมือถือเท่านั้น)

หลังจากที่แอพ Google บน iOS รองรับการแสดงผลของ AMP ในช่วงเดือนพฤษภาคมไปแล้ว

ล่าสุดแอพ Chrome บน iOS ก็รองรับการแสดงผลบทความแบบ AMP ได้แล้วเช่นกัน เมื่อผู้ใช้ค้นหาด้วยเว็บ Google Search บนแอพ Chrome จะปรากฎผลการค้นหาของเว็บไซต์ที่รองรับ AMP เป็นอันดับแรก และจะมีสัญลักษณ์รูปสายฟ้าและคำว่า AMP อยู่เพื่อแสดงให้ผู้ใช้รับทราบว่าเว็บไซต์นี้รองรับการอ่านแบบ AMP และสามารถอ่านบทความด้วย AMP ได้ทันที

ใช้งานได้แล้ววันนี้โดยอัพเดตแอพ Chrome for iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่ App Store

ที่มา : 9To5Mac

Accelerated Mobile Page หรือ AMP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ Google ที่ทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้นทั้ง Google Search, Google News และอื่น ๆ บนอุปกรณ์มือถือนั้น ทางโครงการได้เผยแผนการพัฒนาใหม่ คือการพัฒนา AMP สำหรับการโฆษณา

ปัจจุบัน โฆษณาที่อยู่ในหน้าเที่ใช้ AMP นั้นยังถือว่าโหลดช้ากว่าตัวหน้าเว็บมาก และการพัฒนา AMP เพื่อให้ใช้งานกับโฆษณานี้ก็เพื่อที่จะช่วยให้ตัวโฆษณาโหลดได้เร็วขึ้น ลดการใช้งานแบนด์วิธ และช่วยประหยัดแบตเตอรี่

กูเกิลยังเดินหน้าผลักดันบริการของตัวเองให้รองรับ AMP ต่อไป บริการตัวล่าสุดคือ Google Play Newsstand แอพอ่านข่าวในซีรีส์ Google Play รองรับการแสดงผลข่าวสารจากฟอร์แมต AMP แทน RSS Feed แบบเดิมแล้ว

ข้อดีของการแสดงเนื้อหาแบบ AMP คือควบคุมฟอร์แมตการแสดงผลได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับหน้าจอมือถือมากขึ้นกว่า RSS Feed ที่มีแต่ text และทำอะไรไม่ได้มากนัก สำหรับเว็บเพจที่อยากแสดงผลเนื้อหาในระบบ Newsstand เป็น AMP แทน Feed ก็สามารถปรับแต่งในหน้า Google Play Newsstand Producer ได้เลย

สำหรับคนที่อยากติดตาม Blognone ใน Google Play Newsstand ก็ตามลิงก์