ฟีเจอร์ใหม่ของ Android รอบอัพเดตเดือนพฤษภาคม 2024 คือความสามารถในการควบคุมบ้านสมาร์ทโฮมบนแพลตฟอร์ม Google Home ที่สะดวกขึ้น ทั้งบนสมาร์ทโฟนและนาฬิกา Wear OS
ฝั่งของสมาร์ทโฟนจะได้ Google Home Favorites widget สำหรับวางอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ใช้บ่อยๆ บนหน้าโฮม เพื่อดูรายละเอียดและกดสั่งงานเปิด-ปิดได้จากหน้าโฮมทันที
ฝั่งของนาฬิกา Wear OS ได้ฟีเจอร์แบบเดียวกันบนหน้าปัดนาฬิกา เลือกเปิดปิดไฟ ปลดล็อคประตู ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวกเช่นกัน
ข้อมูลนี้มาจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม โดยพบว่าแอปเปิลประกาศรับสมัครงานตำแหน่งนักพัฒนาแอปบน Android ที่ระบุรายละเอียดของงานว่าเพื่อพัฒนาแอปที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคน สำหรับการชมคอนเทนต์ทีวีและรายการกีฬา ซึ่งน่าจะหมายถึงแอป Apple TV นั่นเอง
ปัจจุบัน Apple TV มีแอปบน Android เฉพาะการลงผ่าน Android TV เท่านั้น กรณีคนสมัครใช้งานสตรีมมิ่ง Apple TV+ และต้องการดูผ่านสมาร์ทโฟน Android วิธีการคือเข้าผ่านเว็บ tv.apple.com เมื่อมีแอปบนสมาร์ทโฟนก็อาจช่วยให้ขยายกลุ่มผู้ใช้งานได้กว้างมากขึ้น
Chrome for Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Minimized Custom Tabs เปิดให้ "ย่อ" แท็บที่อ่านอยู่ขณะนั้นให้มีขนาดเล็กลงได้ ลักษณะคล้ายๆ กับการย่อวิดีโอเป็นแบบ Picture-in-Picture
ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาสำหรับ Custom Tabs หรือการใช้เอนจิน Chrome เปิดลิงก์จากแอพตัวอื่น เช่น กดเปิดลิงก์จากอีเมล จากนั้นเราจะเห็นหน้าเว็บถูกเปิดขึ้นมาเต็มจอในแอพอีเมล ซึ่งมีปัญหาว่าบังทั้งจอ สลับกลับไปอ่านเนื้อหาอีเมลได้ยาก (ปัจจุบันต้องปิดหน้าเว็บเพื่อกลับไปอ่านเมล) กูเกิลจึงเปิดทางให้ "ย่อ" แท็บที่เปิดอันนี้ให้เล็กลงได้ ย้ายตำแหน่งไปมาได้ ช่วยให้การ multi-tasking คล่องตัวมากขึ้น
มีความคืบหน้าจากคดีที่ Epic Games ชนะการฟ้องกูเกิล เรื่องการผูกขาดระบบสโตร์บน Android และศาลอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาบทลงโทษ โดยเริ่มจากใน Epic เป็นฝ่ายเสนอสิ่งที่ต้องการให้กูเกิลทำ เพราะการฟ้องนี้ไม่มีการเรียกค่าเสียหาย ซึ่งข้อเสนอขอ Epic นั้น ทำให้กูเกิลต้องออกมาตอบโต้ว่ามากเกินไป และจะส่งผลเสียกับทุกฝ่าย
โดยผู้พิพากษา James Donato ยังไม่สรุปคำสั่ง แต่บอกให้กูเกิลไปคำนวณต้นทุนทั้งแรงงานที่ต้องใช้ และต้นทุนด้านเศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากต้องปฏิบัติตามข้อเสนอขอ Epic ในหน้าที่ 7
Daylight สตาร์ตอัพหน้าจอเหมือน E-Ink เปิดตัวแท็บเล็ต Daylight DC-1 แท็บเล็ตแอนดรอยด์หน้าจอแบบ Live Paper ที่ไม่มีแสงสะท้อนแบบเดียวกับ E-Ink แต่รีเฟรชเรตสูงถึง 60fps
จอ Live Paper พัฒนาจาก RLCD ที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่มีข้อจำกัดหลายด้าน เช่น มุมมองภาพ, ความละเอียด, และแสงสะท้อนหน้าจอ ทำให้ได้คุณภาพใกล้เคียง E-Ink ขณะที่รองรับการแสดงภาพเคลื่อนไหวได้ไหลลื่น แม้ว่าบางประเด็นนั้น E-Ink ยังดีกว่า
DC-1 มีขนาดหน้าจอ 10.5 นิ้ว ความละเอียด 1600x1200 พิกเซล หรือ 190dpi มีไฟส่องหลังจอสีเหลืองนวล ซีพียู MediaTek Helio G99 แรม 8GB แบตเตอรี่ 8000mAh พร้อมปากกา Wacom EMR Passive ซอฟต์แวร์เป็น Android 13 ที่ปรับแต่งหน้าจอเพื่อการโฟกัสกับการอ่านชื่อว่า Sol:OS
กูเกิลอัปเดตช่วงการตั้งราคาแอปและ In-App บน Play Store สำหรับนักพัฒนา จากเดิมจำกัดสูงสุดที่ 400 ดอลลาร์ หรือ 13,370 บาท แต่ล่าสุดได้ขยายเพิ่มเป็น 999.99 ดอลลาร์ สำหรับสหรัฐอเมริกา ส่วนในไทยเพิ่มเป็น 37,000 บาท
ถึงแม้ความนิยมในโมเดลซื้อแอปขาดราคาแพง (ในระดับตัวเลขนี้) จะมีไม่มาก และส่วนใหญ่เกิดขึ้นบน In-App ในรูปแบบฟรีเมียมมากกว่า แต่การปรับราคานี้อาจเพื่อรองรับ In-App ของบริการสำหรับลูกค้าองค์กรที่มักคิดค่าบริการสูงนั่นเอง
ก่อนหน้านี้กูเกิลแพ้คดีที่ Epic Games ฟ้องข้อหาผูกขาดระบบสโตร์บน Android จากการลงคะแนนของลูกขุน ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ศาลจะกำหนดบทลงโทษ
Epic Games ได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา โดยบอกว่าการฟ้องร้องนี้ไม่ได้เรียกค่าเสียหาย แต่ต้องการให้กูเกิลเปิดอิสระกับนักพัฒนามากขึ้น โดยออกแถลงการณ์เสนอให้ศาลพิจารณาออกคำสั่งหลายอย่าง (ดูทั้งหมดที่นี่) คราวนี้กูเกิลเลยออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อเรียกร้องของ Epic Games บ้าง
นายณัฐพล ลือพร้อมชัย รองผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ เจนนี่ เชง รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Google Wallet ประกาศเปิดให้บริการผูกบัตรเครดิตวีซ่ากสิกรไทยเข้ากับ Google Pay ในแอปพลิเคชัน Google Wallet รองรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android เวอร์ชัน 7.0 ขึ้นไป
วิธีการผูกบัตรเครดิตวีซ่ากสิกรไทยเข้ากับ Google Wallet ทำได้ดังนี้
เมื่อกดยืนยันเสร็จก็พร้อมใช้บริการได้ทันที โดยผู้ใช้สามารถใช้สมาร์ทโฟนแตะจ่ายได้ทุกร้านที่มีสัญลักษณ์ Google Pay หรือ Contactless ได้ทั่วโลก
ในงาน Google I/O 2024 ของใหม่อย่างหนึ่งที่เรียกเสียงฮือฮาในงานคือการโชว์โมเดล Gemini Nano รันในมือถือแอนดรอยด์โดยตรง ทำงานออฟไลน์ แล้วสามารถตรวจสอบการสนทนาที่เป็น scam หลอกหลวงได้ เป็นการโชว์ประโยชน์ของการรันโมเดลในมือถือให้เห็นชัดๆ ว่าทำอะไรได้บ้าง
หลังจากนั้นกูเกิลยังได้ออกวิดีโอเซสชัน Android on-device AI under the hood มาอธิบายรายละเอียดของการรันโมเดลในมือถือแอนดรอยด์เพิ่มเติม มีรายละเอียดดังนี้
กูเกิลออกระบบปฏิบัติการ Wear OS 5 รุ่นทดสอบ Developer Preview โดยอิงมาจากแกนของ Android 14
ธีมหลักของ Wear OS 5 ประกาศตัวชัดเจนว่าต้องการยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ตัวอย่างที่กูเกิลยกมาคือการใช้อุปกรณ์ Wear OS กับการวิ่งมาราธอน สามารถลดการใช้แบตเตอรี่ลงได้สูงสุด 20% เมื่อเทียบกับ Wear OS 4 (แต่ก็ไม่มีรายละเอียดมากนักว่าลดอย่างไร)
กูเกิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Android TV เวอร์ชัน 14 สำหรับสมาร์ททีวี มีของใหม่ดังนี้
ฝั่งของการพัฒนาแอพบน Android TV กูเกิลได้ออกไลบรารี Compose for TV เวอร์ชัน 1.0.0-beta01 เพื่อให้นักพัฒนาสาย Android นำ Compose มาช่วยสร้าง UI สำหรับทีวีได้สะดวกกว่าเดิม มีคอมโพเนนต์สำเร็จรูปสำหรับทีวีให้ด้วย
กูเกิลเพิ่มคุณสมบัติช่วยเหลือการเข้าถึง (Accessibility) ในหลายผลิตภัณฑ์ทั้ง Android, Google Maps ตลอดจนการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการใช้งาน มีรายละเอียดดังนี้
Android เพิ่มความสามารถ Lookout ใช้กล้องสมาร์ทโฟนช่วยระบุตำแหน่งวัตถุ เช่น โต๊ะ ห้องน้ำ สำหรับคนที่มีปัญหาการมองเห็น, Look to Speak ใช้ดวงตามองอีโมจิบนหน้าจอเพื่อส่งเสียงสื่อสาร ไม่ต้องพิมพ์ข้อความ, ใช้ใบหน้าควบคุมเกมบน Android
ส่วน Google Maps มีของใหม่เพิ่มเติมได้แก่ ระบบเสียงแนะนำเส้นทาง เพิ่มการให้รายละเอียดสิ่งที่อยู่โดยรอบมากกว่าเดิม, เพิ่มข้อมูลสถานที่ซึ่งรองรับการเข้าถึงทุกคน (Accessibility) บนเดสก์ท็อป, เพิ่มข้อมูลสถานที่ซึ่งรองรับอุปกรณ์ช่วยการได้ยิน
กูเกิลประกาศว่าระบบปฏิบัติการสำหรับรถยนต์ Android Automotive OS รองรับโปรโตคอล Google Cast แล้ว แปลว่าเราจะสามารถแคสต์หนังจากในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ไปดูในหน้าจอรถยนต์ตอนที่จอดอยู่ได้ เหมือนกับการแคสต์บนจอสมาร์ททีวีหรือทีวีที่ต่อ Chromecast
รถยนต์แบรนด์แรกที่รองรับฟีเจอร์นี้คือ Rivian แต่ยังไม่ระบุว่าจะใช้ได้เมื่อไร
ที่มา - Android Developers Blog
เมื่อคืนนี้กูเกิลเปิดตัว Android 15 Beta 2 ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาหลายอย่าง และเป็นรุ่น Beta ท้ายๆ ที่มีฟีเจอร์ใหม่แล้ว ก่อนเข้าช่วง Platform Stability เน้นแก้บั๊กและเพิ่มเสถียรภาพ เพื่อออกเวอร์ชันสมบูรณ์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี
Android 15 Beta 2 ยังเปิดให้ทดสอบกับมือถือของพาร์ทเนอร์หลายยี่ห้อ เช่น iQoo, Nothing, OnePlus, Lenovo, Sharp, Oppo, Realme, Techno, Vivo, Xiaomi, Honor รายชื่อทั้งหมด
กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยให้กับระบบปฏิบัติการ Android โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะ Android 15 ที่เพิ่งออกอัปเดต Beta 2 เป้าหมายเพื่อปกป้องอุปกรณ์กรณีที่ถูกขโมย
กูเกิลประกาศซัพพอร์ต Kotlin Multiplatform (KMP) แนวทางการเขียนแอพข้ามแพลตฟอร์มด้วยภาษา Kotlin อย่างเป็นทางการในงาน Google I/O 2024
Kotlin Multiplatform เป็นโครงการของ JetBrains ที่พัฒนาให้ภาษา Kotlin เขียนแอพข้ามแพลตฟอร์มได้ทั้ง Android, iOS, Web, Desktop, Server
แนวคิดของมันคือการที่แอพ Android ยุคใหม่เขียนด้วย Kotlin เป็นหลักอยู่แล้ว ก็นำโค้ดส่วนนี้ไปใช้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ จะได้เขียนครั้งเดียวใช้ได้ [เกือบ] ทุกที่ โดยงานฝั่งจัดการ UI ของแต่ละแพลตฟอร์ม ตัวเฟรมเวิร์ค KMP จะช่วยจัดการให้
ในงาน Keynote หลักของ Google I/O 2024 เมื่อคืนนี้เป็นเรื่อง AI ล้วนๆ ทำให้กูเกิลเลิกธรรมเนียมการประกาศข่าวเกี่ยวกับของใหม่ใน Android 15 บนเวทีหลักของงาน มีสไลด์โชว์เพียงหน้าเดียวว่า Android 15 Beta 2 จะเปิดให้ดาวน์โหลดกันในวันพรุ่งนี้
กูเกิลยังมีประกาศของใหม่ของ Android 15 และเครื่องมือพัฒนาในเวทีรองอื่นๆ ของ Google I/O รวมถึงประกาศบนหน้าเว็บและช่องทางโซเชียล (เดี๋ยวรายงานเป็นข่าวแยกกันต่อไป) ส่วนเวทีหลักมีเฉพาะฟีเจอร์ AI ของ Android เท่านั้น แต่ไม่มีเรื่องของระบบปฏิบัติการเลย
กูเกิลโชว์ Gemini Nano โมเดลปัญญาประดิษฐ์สำหรับโทรศัพท์รุ่นใหม่รองรับอินพุตหลายรูปแบบทั้งภาพ, เสียง, และข้อความ พร้อมกับความสามารถของแอป Gemini ที่ผูกเข้ากับระบบของแอนดรอยด์เต็มตัว
Gemini Nano อ่านภาพได้ ทำให้สามารถบรรยายภาพได้โดยไม่ต้องมีข้อมูลล่วงหน้า กูเกิลใส่ความสามารถนี้ในฟีเจอร์ TalkBack ที่ช่วยผู้มองเห็นได้จำกัด ทำให้สามารถบรรยายภาพได้อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังสามารถฟังเสียงได้ ทำให้สามารถฟังเสียงการสนทนาตลอดเวลาและแจ้งเตือนทันทีเมื่อพบว่าบทสนนนาน่าจะเป็นการหลอกลวง ฟีเจอร์นี้จะเป็นแบบ opt-in ต้องเปิดใช้งานเอง และจะเปิดให้ใช้ภายในปีนี้ (ไม่ระบุประเทศที่รองรับ)
Xiaomi เปิดตัว Redmi 13C 5G โทรศัพท์มือถือ 5G ราคาเริ่มต้น 4,999 บาท เริ่มวางจำหน่าย 17 พฤษภาคมนี้ มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้
กูเกิลประกาศปรับนโยบายการออกรุ่น Android Studio ใหม่อีกครั้ง โดยจะแบ่งการออกรุ่นเป็น 2 แบบ ได้แก่ การออกรุ่นตามแพลตฟอร์ม IntelliJ และการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เฉพาะของ Android Studio
ในปี 2020 Android Studio เปลี่ยนมาใช้เลขเวอร์ชันตาม IntelliJ และหันมาใช้โค้ดเนมชื่อสัตว์ โดยใช้แนวทางนี้มาเรื่อยๆ ตลอดเวลา 4 ปี รุ่นเสถียรล่าสุดคือ Jellyfish เลขเวอร์ชัน 2023.3.1
HMD Global ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Nokia เปิดตัวสมาร์ทโฟนแบรนด์ของตัวเองในแบรนด์ HMD จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ HMD Pulse Pro และ HMD Pulse+ จากตระกูล HMD PULSE FAMILY พร้อมจำหน่ายในไทยวันที่ 14 พฤษภาคม 2024 นี้ ราคาเริ่มต้น 3,790 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นมีสเปคคร่าว ๆ ที่เหมือนกันดังนี้
กูเกิลเปิดตัว Google Pixel 8a โทรศัพท์รุ่นกลาง ที่สเปคใกล้เคียงกับ Pixel 8 อย่างมากเพราะใช้ชิปรุ่นเดียวกันและแรมเท่ากัน โดยประกาศใส่ Gemini Nano ตั้งแต่แรก แต่ราคาเปิดตัวถูกกว่า 200 ดอลลาร์ (Pixel 8 ราคาตั้ง 699 ดอลลาร์ Pixel 8a ราคา 499 ดอลลาร์) ตวามแตกต่างของสองรุ่น ได้แก่
Android Studio ออกรุ่นเสถียร Jellyfish เวอร์ชัน 2023.3.1 (โค้ดเนมตัว J) ตามหลัง Android Studio Iguana เพียงไม่ถึง 2 เดือนเต็ม
ฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชันนี้ได้แก่
Rabbit R1 อุปกรณ์ผู้ช่วย AI พกพา ที่ใช้สั่งงาน automate ในสมาร์ทโฟน เพิ่งเคยมีข่าวถูกแฉว่าตกลงแล้วมันเป็นแค่สคริปต์สั่งงานแอพ แม้ทางบริษัทออกมาปฏิเสธ และบอกว่ามี AI ทำงานอยู่จริงๆ
ล่าสุด Mishaal Rahman นักแกะข้อมูลสาย Android ชื่อดัง ประกาศว่าการทำงานของ Rabbit R1 จริงๆ แล้วมันเป็นแค่แอพแอนดรอยด์ตัวหนึ่งเท่านั้น และเขาประสบความสำเร็จในการนำไฟล์ APK ของ Rabbit R1 ไปรันในสมาร์ทโฟน Pixel 6a แล้วพบว่าทำงานได้เหมือนกันทุกประการ
กูเกิลสรุปสถิติการต่อสู้กับแอพประสงค์ร้าย แอพเสี่ยงภัยต่างๆ บน Google Play ในปี 2023 ดังนี้