ซีอีโอ Pavel Durov ของ Telegram กล่าวผ่าน Durov’s Channel โดยเผยว่า Apple ไม่รับการอัพเดตใหม่ของ Telegram และมีผลกับ App Store ทั่วโลก ซึ่งหมายความว่า Telegram ไม่สามารถออกอัพเดตแอพใหม่ได้ ซึ่งน่าจะมาจากการที่รัสเซียสั่งบล็อกแอพ Telegram
Durov กล่าวว่าผลกระทบจากที่แอพ Telegram ไม่สามารถส่งอัพเดตเวอร์ชันใหม่ได้ ก็มีตั้งแต่ฟีเจอร์บางอย่างเช่นสติ๊กเกอร์มีปัญหาใน iOS 11.4 ซึ่งเป็นอัพเดตล่าสุด รวมถึง Telegram ไม่สามารถอัพเดตแอพให้ปฏิบัติตามกฎคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของยุโรปหรือ GDPR ได้ด้วย ซึ่งตอนนี้ GDPR มีผลบังคับใช้ไปแล้ว
แม้รัสเซียจะบล็อค Telegram ไปแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่สำเร็จเท่าที่ควร เพราะรัสเซียกำลังติดต่อ Apple เพื่อขอความช่วยเหลือในการปิดกั้นการบริการแอพ Telegram แอพส่งข้อความที่เป็นที่นิยมในประเทศ เพราะสื่อสารแบบเข้ารหัส end-to-end
อย่างไรก็ตาม Telegram ปฏิเสธรัฐบาลรัสเซียในการเข้าถึงระบบแบบลับๆ หน่วยงานความมั่นคง Federal Security Service หรือ FSB อ้างว่า อาชญากรที่ก่อเหตุก่อการร้ายใช้ Telegram เป็นช่องทางสื่อสาร จึงเป็นสาเหตุให้รัสเซียบล็อคคนรัสเซียไม่ให้เข้าถึง Telegram ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
แต่การบล้อคก็ไม่สามารถปิดกั้นได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อ Roskomnadzor หน่วยเฝ้าระวังความปลอดภัยในประเทศบอกว่ารัฐบาลปิดกั้นการใช้งานได้เพียง 15 - 30% เท่านั้น รัฐบาลจึงยื่นเรื่องไปยัง Apple ให้หยุดบริการ Telegram บน App Store แก่คนรัสเซีย และยังขอให้หยุดการแจ้งเตือนจาก Telegram ด้วย
Alexander Zharov ผู้อำนวยการ Roskomnadzor ระบุในแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า Apple มีเวลาหนึ่งเดือนในการลบแอพออกจาก App Store "เราส่งจดหมายที่มีผลผูกพันตามกฎหมายและรอการตอบกลับที่ถูกต้องตามกฎหมาย"
จากประเด็นที่ Steam ออกมาบอกว่าแอปแคสต์เกม Steam Link ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้น App Store ของแอปเปิล ก็มีคนอีเมลไปสอบถามเรื่องนี้กับ Phil Schiller รองประธานฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ซึ่งเขาชี้แจงมาว่าเป็นเรื่องจริง
Schiller อธิบายว่าทีมตรวจสอบแอปพบว่าแอปดังกล่าว ละเมิดข้อกำหนดหลายอย่าง อาทิ เนื้อหาที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นมา (UGC), การซื้อของภายในแอพ (In-App Purchase) และอีกหลายข้อ ซึ่งแอปเปิลกำลังพูดคุยกับ Valve เพื่อหาทางออกให้แอปนี้เป็นไปตามข้อกำหนดของ App Store
ถึงแม้ Schiller จะไม่ได้อธิบายปัญหาทั้งหมด แต่ก็พอจะทำให้เข้าใจได้ว่าเรื่องขัดแย้งทางธุรกิจ ก็น่าจะเป็นการซื้อสินค้าภายในแอปนั่นเอง
ถึงแม้ Steam จะประกาศเปิดตัวก่อนหน้านี้ว่าแอป Steam Link ที่ใช้แคสต์เกมจากพีซีไปบนสมาร์ทโฟน จะมีให้ใช้งานบน iOS ด้วย (ตอนนี้มี Android เวอร์ชันเบต้า) แต่ล่าสุด Steam แถลงว่าแอปเปิลได้ปฏิเสธที่จะให้แอปดังกล่าวขึ้น App Store แล้ว
Steam อธิบายลำดับเหตุการณ์ว่า ในวันที่ 7 พฤษภาคม แอปเปิลได้อนุมัติให้แอป Steam Link พร้อมดาวน์โหลด ซึ่ง Valve ก็แถลงข่าวในวันที่ 9 พฤษภาคม แต่จากนั้นแอปเปิลก็แจ้งถอดแอป โดยให้เหตุผลว่าแอปนี้มีข้อขัดแย้งในทางธุรกิจ ซึ่งเป็นไปตามกฎของ App Store ส่วนที่ตอนแรกแอปผ่านการตรวจสอบ ก็เพราะทีมเดิมนั้นไม่ได้คิดถึงประเด็นนี้
แอปเปิลเริ่มส่งอีเมลแจ้งเตือนนักพัฒนา ที่มีแอพอยู่ใน App Store ประเทศจีน และมีการใช้งาน CallKit ที่ให้ใช้ฟังก์ชันโทรเข้า-รับสายได้เหมือนกับโทรศัพท์ โดยบอกว่าแอพที่อยู่ในจีนจะต้องปิดการเชื่อมต่อนี้ เนื่องจากข้อบังคับจากกฎหมาย หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องถอดแอพออกไปจาก App Store จีนเลย
ก่อนหน้านี้แม้แต่ WeChat แอพยอดนิยมของจีนก็รองรับ CallKit แต่ต่อมาได้ถอดคุณสมบัตินี้ออกไป ส่วนสาเหตุที่จีนห้ามนั้นไม่ชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าจีนต้องการควบคุมการใช้แอพโทรศัพท์แบบ VoIP เพราะแอพที่มีฟังก์ชันแบบนี้ชัดเจน ก็ล้วนถูกถอดออกจาก App Store ไปแล้ว
ก่อนหน้านี้แอปเปิลก็ได้ถอดแอพ VPN ทั้งหมดออกไปจาก App Store จีน ด้วยเหตุผลทางกฎหมายเช่นเดียวกัน
บริษัทวิจัย Sensor Tower รายงานผลการศึกษาหลังจากแอปเปิลได้ยกเครื่อง App Store ใหม่ทั้งหมดใน iOS 11 โดยพบว่าอัตราการลงแอพผ่านหน้าหลัก (Browse) มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ไม่ถึง 10% มาเป็นมากกว่า 15% โดยเฉลี่ย
อย่างไรก็ตามช่องทางการดาวน์โหลดแอพของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ยังคงเป็นการเสิร์ช โดยคิดเป็น 65% ของการดาวน์โหลดแอพทั้งหมด
ตัวเลขที่น่าสนใจคือเมื่อแยกหมวด เป็นแอพเกม และแอพอื่นๆ พบว่าคนดาวน์โหลดแอพเกมผ่าน Browse ที่ 24% ส่วนแอพอื่นๆ อยู่ที่ 9% นั่นแปลว่าวิธีการตัดสินใจเลือกดาวน์โหลดเกมนั้น การคัดเลือกของบรรณาธิการเพื่อนำขึ้นหน้าแรกของ App Store มีผลมากทีเดียว
แอปเปิลได้ออกอัพเดต iMovie เวอร์ชันบน iOS เมื่อคืนนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มเติมคือรองรับการแสดงผลบนหน้าจอ Super Retina ของ iPhone X (และติ่งสองข้าง) รวมทั้งรองรับการประมวลผลกราฟิก Metal
ปัจจุบัน iMovie เป็นแอพที่พัฒนาโดยแอปเปิล ซึ่งตัดสินใจปล่อยให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี จากที่เดิมเคยเสียเงิน ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัว iPhone X มา แอพหลายตัวของแอปเปิลก็ยังมีปัญหาในการรองรับการแสดงผลบนจอ iPhone X
ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด iMovie เวอร์ชันล่าสุดได้ที่ App Store
ที่มา: Apple Insider
Appfigures รายงานข้อมูลแอพประจำปี 2017 ทั้ง App Store และ Google Play โดยมีสถิติที่น่าสนใจหลายประการ
Appfigures พบว่าในปีที่ผ่านมานั้น App Store มีจำนวนแอพน้อยลง 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จาก 2.2 ล้านแอพเหลือเพียง 2.1 ล้านแอพ ส่วนฝั่ง Google Play เติบโตขึ้น 30% โดยมีจำนวนมากกว่า 3.6 ล้านแอพ ส่วนการปล่อยแอพใหม่นั้น Appfigures รายงานว่า App Store มีจำนวนแอพใหม่อยู่ที่ 755,000 แอพ ลดลงถึง 29% ในขณะที่ฝั่ง Google Play เพิ่มขึ้น
แอปเปิลได้แจ้งข่าวสารไปยังนักพัฒนาแอพถึงการเปลี่ยนแปลงใน App Store โดยในหน้ารายละเอียดของแอพ สามารถเพิ่มภาพหน้าตาของแอพได้เป็น 10 ภาพแล้ว มีผลกับแอพบน iPhone, iPad, Apple Watch และ Apple TV (อุปกรณ์ละ 10 ภาพ) เพื่อให้สามารถแสดงข้อมูลได้มากขึ้น
เงื่อนไขเดิมนักพัฒนาสามารถใส่ภาพแอพได้ 5 ภาพ โดยนับรวมกับวิดีโอความยาวไม่เกิน 30 วินาที ไม่เกิน 3 วิดีโอ ซึ่งในเงื่อนไขใหม่นี้ยังจำกัดวิดีโออยู่ที่ 3 วิดีโอเท่าเดิม อย่างไรก็ตามการแสดงผลยังคงเห็น 3 ภาพแรกก่อน แอปเปิลจึงแนะนำให้ 3 ภาพแรกควรเป็นภาพที่สำคัญที่สุด
แอปเปิลปรับการออกแบบหน้าแอพบน App Store เมื่อเข้าชมบนเว็บ โดยปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ให้มีรูปแบบเหมือนกับเวลาดูผ่านแอพ App Store บน iOS 11 ซึ่งดูสะอาดตามากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือรายละเอียดของแอพ ซึ่งเดิมอยู่ด้านบนถัดจากชื่อแอพ จะถูกย้ายลงไปอยู่ด้านล่างของ Screenshots (ซึ่งมีการจัดตำแหน่งใหม่เช่นกัน)
อย่างไรก็ตาม หน้าแอพบนเว็บนั้นเดิมมีจุดประสงค์เพื่อให้เชื่อมต่อการดาวน์โหลดแอพผ่าน iTunes แต่เมื่อ iTunes ตัดส่วนการดาวน์โหลดของแอพ iOS ออกไป หน้าเว็บจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้บล็อกระบบให้ทิป ในแอพ WeChat ซึ่งผู้ใช้จ่ายเงินโดยตรงให้กับผู้ผลิตเนื้อหาผ่านแอพ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่นิยมกันมากในกลุ่มชาวเน็ตประเทศจีน โดยเหตุผลของแอปเปิลก็คือเงินส่วนนี้ควรถูกหัก 30% จ่ายให้กับแอปเปิลด้วย ขณะที่ Tencent บริษัทแม่ของ WeChat ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามทั้ง 2 บริษัทได้เจรจาหาข้อยุติเรื่องนี้ได้แล้ว
แอปเปิลประกาศสถิติของ App Store ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา โดยมีการซื้อผ่าน App Store เฉพาะช่วงวันปีใหม่ถึง 300 ล้านดอลลาร์ และในตลอดช่วงสัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันคริสต์มาสอีฟ มียอดซื้อรวมกว่า 890 ล้านดอลลาร์
Phil Schiller หัวหน้าฝ่ายการตลาดแอปเปิลกล่าวว่า เฉพาะในปี 2017 นักพัฒนามีรายได้รวมมากกว่า 26,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากปี 2016 และหากนับตั้งแต่ App Store เปิดตัวในปี 2008 แอปเปิลก็จ่ายเงินให้นักพัฒนาไปแล้วกว่า 86,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อตอนเปิดตัว iOS 11 นั้น Apple ได้เปิดตัวเฟรมเวิร์ค ARKit เพื่อส่งเสริมให้นักพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ AR ให้กับแอพบน iOS แต่ล่าสุดข้อมูลจาก Apptopia เผยว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ง่ายนัก เพราะจนถึงตอนนี้มีแอพเพียงแค่ 825 แอพจากทั้งหมดที่ใช้เฟรมเวิร์ค ARKit
Apptopia รายงานว่า แอพบน iOS นั้นมีเพียงแค่ 300 แอพที่ใช้งานเฟรมเวิร์ค ARKit ตั้งแต่เปิดตัว iOS 11 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากนั้นตัวเลขนี้ก็ลดลงมาเรื่อย ๆ อยู่ที่ 205 แอพ ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม และ 152 แอพในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน จากนั้นจึงเริ่มเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยที่ 168 แอพในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาแอปเปิลปรับปรุงเกณฑ์ข้อบังคับสำหรับแอพบนสโตร์ของแอปเปิล หนึ่งในเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นมาคือ แอพพลิเคชันที่มีการเสี่ยงรางวัล (loot boxes) จะต้องบอกโอกาสการเปิดได้สิ่งของภายในแอพระดับต่างๆ (โอกาสได้สิ่งของระดับปกติ และระดับหายาก) เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อของผู้ใช้
ก่อนหน้านี้รัฐบาลของประเทศจีนบังคับใช้กฏลักษณะเดียวกันแต่เข้มงวดกว่ากันมาก เกมออนไลน์ในจีนต้องแจกแจงโอกาสการเปิดได้สิ่งของภายในเกมทุกชิ้นที่เป็นไปได้ ประกาศปูม (log) การเปิดสิ่งของว่าเป็นไปตามโอกาสที่ให้รายละเอียดไว้ และเก็บประวัติการเปิดสิ่งของภายในเกมไว้เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 90 วัน
Mark Gurman นักเขียนสายแอปเปิลของ Bloomberg (สมัยก่อนอยู่กับ 9to5mac) อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า แอปเปิลเตรียมผนวก App Store ของฝั่ง iOS และ macOS เข้าด้วยกัน เพื่อให้แอพ iOS สามารถทำงานบน macOS ได้ด้วย
แนวคิดของแอปเปิลจะคล้ายกับ UWP ของไมโครซอฟท์ หรือฝั่งกูเกิลมี ChromeOS ที่รันแอพจาก Android ได้ด้วย โดยนักพัฒนาจะสามารถออกแอพตัวเดียว ที่รองรับทั้งจอสัมผัส และเมาส์-คีย์บอร์ดสำรหับทำงานบนแมค
โจทย์ของแอปเปิลต้องการแก้ปัญหาแอพบน iOS มีมากและได้รับความนิยม ในขณะที่แอพบน Mac App Store มีน้อยและไม่อัพเดต ตัวอย่างเช่น แอพ Twitter บน iOS ได้ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดเสมอ แต่แอพ Twitter บนแมคมีคุณภาพต่ำและไม่ค่อยได้อัพเดต การรวม Store เข้าด้วยกันจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
แอปเปิลประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ App Store โดยนักพัฒนาสามารถเปิด "พรีออเดอร์" ขายแอพใหม่ล่วงหน้าได้แล้ว ลูกค้าสามารถจ่ายเงินซื้อแอพได้ก่อน และเมื่อแอพพร้อมให้ดาวน์โหลดก็จะมีระบบแจ้งเตือน-ดาวน์โหลดอัตโนมัติ
ฟีเจอร์ Pre-Order สามารถเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ลูกค้าสามารถกดยกเลิกการสั่งซื้อได้ระหว่างรอ สามารถใช้งานได้กับทั้งแอพบน iOS, macOS, tvOS แต่จำกัดเฉพาะแอพใหม่หลังจากนี้เท่านั้น
นักพัฒนาจำเป็นต้องส่งแอพตัวเต็มให้แอปเปิลรีวิวก่อน จึงจะสามารถเปิดพรีออเดอร์ได้ แต่ระหว่างนั้นสามารถอัพเดตเวอร์ชันของแอพได้เช่นกัน
ราคา Bitcoin ที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดสูงกว่า 16,000 ดอลลาร์แล้ว อาจทำให้ Bitcoin ไม่ใช่เรื่องเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป โดยล่าสุดอันดับแอพยอดนิยมประเภทฟรีของ App Store ในอเมริกา แอพซื้อขาย Bitcoin ที่ชื่อ Coinbase ได้ขึ้นเป็นแอพยอดนิยมอันดับ 1 ไปเรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยแอพมือถือ App Annie พบว่าเมื่อเดือนที่แล้ว อันดับของ Coinbase ยังอยู่ราวอันดับ 400 แต่ใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จ
ที่มา: Recode
แอปเปิลประกาศผลแอพและเกมบน App Store แห่งปี 2017 (Best of App Store) มีรายละเอียดดังนี้
ผลการจัดอันดับนี้เป็นของ App Store ประเทศไทย ส่วนของอเมริกาต่างไปเล็กน้อย โดย แอพ iPhone เป็นของ Calm และเกม iPad เป็นของ The Witness นอกจากนี้ยังมีการจัดอันดับแอพฟรีและแอพเสียเงินยอดนิยมของ App Store ประเทศไทย ผลเป็นดังนี้
แอปเปิลปรับปรุงข้อมูลในหน้าสนับสนุนเพิ่มเติม โดยผู้ใช้ iOS สามารถดูประวัติการซื้อย้อนหลังของ App Store และ iTunes ได้แล้วใน Settings ผ่านอุปกรณ์ iOS เลย
ในอดีตนั้นหากต้องการดูประวัติการซื้อย้อนหลัง ต้องดูผ่านโปรแกรม iTunes บน Mac หรือพีซีเท่านั้น ส่วนการดูข้อมูลอดีตผ่านตัวแอพ App Store หรือ iTunes Store จะแสดงข้อมูลเพื่อการดาวน์โหลดซ้ำ แต่ไม่ได้ถึงกับระบุวันที่และราคา
ผู้ใช้ iOS สามารถเข้าไปดูประวัติการซื้อได้โดยไปที่แอพ Settings > เลือกชื่อบัญชี > iTunes & App Store จากนั้นเลือกบัญชี Apple ID และเลือก Purchase History
เช้าวันนี้อันดับแอพดาวน์โหลดยอดนิยมใน App Store ประเทศไทย แอพ ARZIO ได้ขึ้นอันดับ 1 ในกลุ่มแอพฟรีแล้ว
โดยผู้ที่เข้าร่วมแสดงวามอาลัยวางดอกไม้จันทน์ในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศเมื่อวานนี้ จะได้รับแผ่นพับที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพ ARZIO (iOS และ Android) เมื่อนำสมาร์ทโฟนมาส่องบนแผ่นพับในภาพต่างๆ ก็จะมีเนื้อหาต่างๆ ปรากฏขึ้น รวมทั้ง AR ของพระเมรุมาศจำลอง 3 มิติ
App Store บน iOS 11 มีการปรับรูปแบบใหม่ โดยเพิ่มแถบแรกที่ชื่อ Today เป็นการแนะนำแอพและเกมประจำวัน ที่คัดสรรโดยกองบรรณาธิการ ซึ่งข้อมูลจากบริษัทวิจัย Apptopia พบว่า แอพที่ได้ลง Today มียอดดาวน์โหลดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยค่าเฉลี่ยจากการศึกษาเป็นเวลา 30 วัน พบว่าแอพทั่วไปที่ได้รับการแนะนำมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นจากปกติ 1,747% ส่วนแอพเกมเพิ่มขึ้น 792% จะเห็นว่ายอดดาวน์โหลดแอพนั้นสูงกว่าเกม นอกจากนี้แอพที่ได้รับการแนะนำในวันธรรมดาจะมีตัวเลขสูงกว่าสุดสัปดาห์ และที่สำคัญคือแอพฟรีถูกดาวน์โหลดมากกว่าแอพเสียเงิน
แอปเปิลอัพเดตเอกสารคำแนะนำในการส่งแอพเพื่อตรวจสอบก่อนขึ้น App Store สำหรับนักพัฒนา มีประเด็นใหม่ที่น่าสนใจดังนี้
เมื่อคืนนี้แอปเปิลออก iTunes 12.7 มาแบบเงียบๆ โดยไม่มีประกาศใดๆ ในงาน แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือเราไม่สามารถใช้ iTunes ดาวน์โหลดหรือจัดการแอพให้อุปกรณ์ iOS ได้อีกแล้ว มันถูกถอดฟีเจอร์กลับมาเหลือแค่เพลง-วิดีโอเท่านั้น
ในเว็บของแอปเปิลระบุว่าต่อจากนี้ไป iPhone, iPad, iPod touch ต้องดาวน์โหลดแอพจาก App Store โดยตรงไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ ฟีเจอร์ดาวน์โหลดริงโทนจะใช้ได้จากตัว iOS โดยตรง และฟีเจอร์ดาวน์โหลดอีบุ๊ก (ของ iTunes for Windows) จะถูกตัดออกไป
จากนี้ไป iTunes โฉมใหม่จะเหลือเพียงเพลง รายการทีวี ภาพยนตร์ พ็อดแคสต์ และหนังสือเสียง (audiobook) เท่านั้น
Apple ส่งแอพพลิเคชั่น Apple Pay เข้าตีตลาด payment ในประเทศจีนมาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ส่วนแบ่งการตลาดยังอยู่ที่ประมาณ 1% เท่านั้น ในขณะที่จีนมี WeChat Pay และ Alipay ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ส่วนแบ่งการตลาด WeChat Pay สูง 39.51% และ Alipay สูง 53.7%
ดังนั้น Apple จึงยอมเพิ่ม WeChat Pay เข้ามาใน App Store และ Apple Music ในจีน ส่วนหนึ่งคือคาดหวังเม็ดเงินการซื้อแอพจากคนจีนที่มักนิยมใช้ WeChat Pay จ่ายเงิน หลังจากช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Apple Music และ iCloud รองรับการจ่ายผ่าน Alipay ไป