คณะกรรมการจัดเรตติ้งของออสเตรเลียออกเรตติ้ง MA15+ ให้เกม Grand Theft Auto IV (GTA IV) เวอร์ชันวินโดวส์พีซีที่วางจำหน่ายเมื่อวานนี้ (2 ธันวาคม) โดยที่ไม่มีการเซนเซอร์เนื้อหาภายในเกมแต่อย่างใด
เกม GTA IV เวอร์ชัน Xbox 360 และ PlayStation 3 ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ต้องเซนเซอร์เนื้อหาเกมไปจำนวนมาก จึงจะผ่านการออกเรตติ้งให้จำหน่ายในออสเตรเลียได้
ยังไม่ทราบเหตุผลว่า ทำไมบอร์ดเรตติ้งจึงออกเรตติ้งให้แตกต่างกัน และทาง Rockstar จะปลดเซนเซอร์ของเวอร์ชันคอนโซลหรือไม่ เพราะตามกฎของการออกเรตติ้งในออสเตรเลีย เมื่อเกมผ่านการออกเรตติ้งใดบนแพลตฟอร์มหนึ่งแล้ว แพลตฟอร์มอื่นที่มีเนื้อหาเกมเดียวกันก็สามารถใช้เรตติ้งนั้นในการวางจำหน่ายได้ทันที
เกม F.E.A.R. 2: Project Origin ของ Warner Bros. มีกำหนดจะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) ถูกคณะกรรมการจัดเรตติ้งของออสเตรเลียแบนเสียแล้ว
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งประเทศที่เข้มงวดกับการจัดเรตติ้งที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เรตติ้งของออสเตรเลียจะถูกกำหนดโดย Office of Film and Literature Classification (OFLC) ซึ่งเรตติ้งที่ใช้กับเกมมีดังนี้
ตำรวจออกเตรเลียออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในวันนี้ ว่าเกมแข่งรถนั้นส่งผลต่อความประมาทในการขับขี่ โดยอ้างถึงคนขับรถอายุน้อยที่มีพฤติกรรมในการขับขี่เสี่ยงสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดนั้นตัวเลขการยึดใบขับขี่ของนักขับอายุน้อยนั้นอยู่ที่ 104 ใบต่อวันแล้ว
เคยมีรายงานจากฝั่งเยอรมันมาก่อนหน้านี้ว่าผู้ชายที่เล่นเกมแข่งรถนั้นจะมีผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ ขณะที่ผู้หญิงนั้นไม่มีผลเช่นนี้
ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษหลายประเทศเช่น ออสเตรเลีย หรือแคนาดานั้นระบุให้นักขับมือใหม่ต้องแสดงป้าย "มือใหม่หัดขับ" เป็นตัวอักษร P หรือ L ไว้ในบริเวณที่มองเห็นได้ โดยเมื่อแสดงป้ายนี้แล้วจะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมเช่น ความเร็ว, ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด, และความแรงเครื่องยนต์ เพิ่มเข้ามาจากใบขับขี่ปรกติ
บริษัท โคแกน เทคโนโลยีส์ เป็นผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายหนึ่งในเมลเบอร์น ออสเตรเลีย ซึ่งเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าที่คล้ายคลึงกันเพื่อตัดราคากับสินค้าประเภทแบรนด์เนมต่างๆ ประกาศที่จะนำเครื่องโทรศัพท์มือถือใช้แอนดรอยด์ (Android-powered handset) ออกจำหน่ายในออสเตรเลีย
นาย Ruslan Kogan กล่าวว่าจะนำเครื่องมือถือดังกล่าวออกจำหน่ายในออสเตรเลียวันที่ 5 ธันวาคม นี้ในราคาประมาณ 199 เหรียญ ในขณะที่ชาวออสซีกำลังสั่งซื้อเครื่อง G1 บนอีเบย์ในราคาสูงถึง 1,000 เหรียญ
จากการสำรวจโดย Baker Heart Institute ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในออสเตรเลียเมื่อปี 2005 พบว่า 70% ของผู้ชาย และ 60% ของผู้หญิงที่มีอายุในช่วง 45-65 ปี มีดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 25 (>25 = น้ำหนักเกิน, >30 = โรคอ้วน) ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าในอนาคตจะมีจำนวนผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากความอ้วน ทั้งโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเข่าเสื่อม นี้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
จากรายงานนี้ทำให้มีการรณรงค์ให้มีการลดน้ำหนักในระดับชาติ และให้งบประมาณสนับสนุนสำหรับสถานที่ออกกำลังกายอีกด้วย
ไม่รู้ว่าต่อไป จะมีประเทศในทวีปเอเชียเข้าแข่งกับเขาด้วยหรือเปล่า
ที่มา Physorg
เว็บไซด์ mactalk.com.au ได้ทำการถ่ายรูปพัสดุลึกลับที่ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายแอปเปิ้ลในออสเตรเลีย โดยข้างกล่องมีฉลากเขียนคำเตือนว่า
วัตถุอยู่ภายใต้เงื่อนไข NDA ห้ามเปิดก่อนวันที่ 10 มิถุนายน 2008
ซึ่งวันที่ 10 มิถุนายน 2008 ในออสเตรเลีย ตรงกับวันที่ 9 ในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นวัน WWDC 2008 พอดี แหล่งข่าวต้นตอคาดการณ์ว่าในกล่องน่าจะเป็น iPhone 3G ตัวที่จะวางโชว์
ปัจจุบันบริษัท Vodafone และ Singtel เป็นผู้ประกาศตนว่าจะนำเข้า iPhone ไปขายใน ออสเตรเลียในปีนี้
อีกไม่กี่วันก็จะถึงงาน WWDC แล้ว โดยสื่อหลาย ๆ แขนงก็ได้พาดหัวข่าวหรือได้ฟันธงไว้ว่าจะมีการเปิดตัวไอโฟน 3G ในงานนี้อย่างแน่นอน ล่าสุดมีข่าวลือว่าไอโฟน 3G อาจจะมีการสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ Evolved HSDPA
ในขณะนี้นั้นจากสเปคที่ "ลือ" กันของไอโฟน ไอโฟนจะสนับสนุน HSPA โดยในขณะนี้ AT&T นั้นยังมีแค่เครือข่าย HSDPA เท่านั้น โดยในตอนนี้ทาง AT&T กำลังพยายามที่จะเพิ่ม HSUPA ให้กับเครือข่าย โดยคาดว่านจะมีการเสร็จสิ้นภายในเดือนหน้านี้ ในเวลาเดียวกันกับที่จะมีการเปิดตัวไอโฟน 3G
เมื่อเช้านี้มีรายงานว่า SingTel บริษัทแม่ของ AIS ได้ประกาศเตรียมตัวเปิดตัวไอโฟนในประเทศต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์ อินเดีย ออสเตรเลียและฟิลิปปินส์ โดยผ่านบริษัทลูกของตัวเองเช่น SingTel Singapore, Bharti Airtel, Optus และ Globe ตามลำดับ
นั่นหมายความว่า อินเดียกับออสเตรเลียนั้นมีผู้ให้บริการไอโฟนแล้วถึงสองราย เช่นเดียวกันกับอิตาลีก่อนหน้านี้ นี่เป็นหลักฐานอย่างชัดเจนว่าแอปเปิลอาจจะปล่อยให้ไอโฟน "เป็นอิสระ" จริง ๆ แล้วก็ได้
แม้ว่า SingTel จะเป็นบริษัทแม่ของ AIS ก็ตาม แต่ในตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับไอโฟนในประเทศไทยแต่อย่างใด แต่คาดว่าไม่นานเกินรอแน่นอนครับ คราวนี้ของจริง
จากการประชุม International WiMax Conference ที่กรุงเทพที่ผ่านมานี้ ซีอีโอของบริษัทที่ให้บริการ WiMax ในออสเตรเลียได้กล่าวว่า WiMax นั้นในทางปฏิบัติไม่ได้ดีอย่างที่คิด
โดยบริษัทของเขา Buzz Broadband นั้นได้เริ่มให้บริการ WiMax เมื่อปีที่แล้ว เขาได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับ WiMax โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อจำกัดของ WiMax ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จริง
เขาได้กล่าวว่าถ้าอยู่ห่างจาก Base Station ประมาณ 2 กิโลเมตรกลางแจ้ง ก็ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว และถ้าหากอยู่ภายในอาคาร ระยะสัญญาณจะลดเหลือเพียง 400 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้แล้วยังมีค่า Latency สูงถึง 1000ms ทำให้การใช้งาน VoIP แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีปัญหาด้านพลังงานมาค่อนข้างยาวนาน ล่าสุดทางรัฐบาลของรัฐวิคตอเรียก็ได้ผู้ชนะการประมูลในโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบใช้โซลาร์เซลล์มูลค่า 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณหนึ่งหมื่นสามพันล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการก่อสร้างนั้นจะเริ่มต้นในปีหน้า
หากโครงการนี้ก่อสร้างสำเร็จจะทำให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้าที่กำลังผลิตไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก ด้วยกำลังผลิต 54 เมกกะวัตต์ แต่ยังไม่มีข้อมูลถึงกำหนดการก่อสร้างแต่อย่างใด
เพิ่งมีการค้นพบพืชสายพันธุ์ใหม่ที่กินหนูเป็นอาหารในบริเวณ Cape York ในประเทศออสเตรเลีย
ในบริเวณ Cape York นั้น มีพืชที่กินสัตว์ขนาดเล็กและแมลงเป็นอาหารมากมาย แต่ล่าสุดได้มีการค้นพบพืชลักษณะเดียวกันนี้ที่มีขนาดใหญ่กว่า โดยมันเติบโตในลักษณะเถาวัลย์
พืชสายพันธุ์ใหม่นี้จะถูกเรียกว่า "Tenax" โดยมันสามารถที่จะกินหนูที่มีขนาดเล็กได้
แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ค้นพบจาก James Cook University ตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยแหล่งที่เขาค้นพบพืชใหม่ชนิดนี้ เนื่องจากว่า Tenax ยังมีจำนวนน้อยมาก แม้ว่าจะเพิ่งถูกค้นพบแต่ก็มีสิทธิหายไปจากโลกนี้ได้
ผมกลัวพืชกินคนแบบมาริโอจัง งั่บ ๆ
CrimTrac หน่วยงานของรัฐบาลออสเตรเลียนจะเริ่มการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจสอบและอ่านทะเบียนรถได้ 5-6 คันต่อวินาที
ระบบนี้จะถูกนำไปใช้รวมกับระบบวงจรปิดทั่วไปและระบบกล้องตรวจสอบความเร็วบนท้องถนน เพื่อที่จะนำไปใช้ช่วยในการนำจับรถที่อยู่ใน "Hot List" ในฐานข้อมูล หรือเพื่อที่จะจับปรับรถที่กระทำผิดกฏหมายได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
ระบบเดียวกันนี้ได้ถูกใช้ในสหราชอาณาจักรและได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง โดยระบบเดียวกันนี้จะถูกนำมาใช้ในออสเตรเลียโดยมีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับข้อกฏหมายของออสเตรเลีย แน่นอน เพื่อที่มันจะได้ให้ความปลอดภัยกับสาธารณะในขณะเดียวกันไม่ทำลายความเป็นส่วนตัวของประชาชน
ประเทศออสเตรเลียประกาศความสำเร็จในการนำเครื่องบิน Airbus A319 ลงจอดที่สนามบิน Wilkins (ดูรูป) เป็นครั้งแรก หลังจากเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ช่วงปี 2005 ด้วยค่าก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาทไทย โดยตัวสนามบินมีความยาว 4 กิโลเมตร เป็นพื้นน้ำแข็งหนาถึง 700 เมตร และเคลื่อนตัวไปปีละ 12 เมตรเนื่องจากการเลื่อนตัวของชั้นน้ำแข็ง
การลงจอดในวันนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการทดสอบการลงจอดไปก่อนหน้าและต้องนำเครื่องขึ้นหลังจากแตะพื้นไปหนึ่งกิโลเมตรเนื่องจากผิวทางวิ่งลื่นเกินไป
จากความคิดเรื่อง การโยกย้ายมวลสาร (teleport) จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เพื่อหลีกหนีจากการจารจรอันน่าปวดหัว ทีมนักฟิสิกส์ออสเตรเลียได้ทุ่มเวลาเพื่อให้พัฒนาเครื่องย้ายมวลสารให้ทำงานได้ (ในขนาดเล็ก) พวกเขาไม่ได้หวังว่าเครื่องจะถูกใช้ในอนาคตกับมนุษย์ แต่มันเป็นความหวังสำหรับหลายคนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่โยกย้ายอะตอมจากที่นึงไปที่นึง โดยทำให้มวลสารอะตอมมีค่าเข้าใกล้ศูนย์ โดยใช้ลำแสงเลเซอร์ 2 ลำแสงยิงไปที่อะตอม และใช้ fiber optics ในการนำอะตอมพวกนั้นเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วแสงให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง ให้อนุภาคเหล่านั้นรวมตัวกันและประกอบรูปร่างอะตอมให้เข้าแบบเดิม
ปล. ทางทีมพัฒนาบอกว่าถ้ามาลองกับมนุษย์เมื่อไหร่จะมาป่าวประกาศครับ
National Archives of Austalia แปลภาษาไทยคงประมาณ "หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย" ได้ประกาศว่าจะแปลงข้อมูลทั้งหมดที่เป็นดิจิทัลมาอยู่ในฟอร์แมต OpenDocument
สาเหตุสำคัญก็คือการการันตีว่าอนาคตข้อมูลเหล่านี้จะยังเข้าถึงได้น่ะเอง โดยงานนี้เป็นงานมหาหินยิ่งกว่าของแมสซาชูเซ็ตส์ เพราะว่า NAA ต้องจัดการกับเอกสารเก่าทั้งหมด ทั้งของตัวเองและของคนอื่น รวมถึงไฟล์ที่เก็บนั้นก็หลากหลายประเภทสุดๆ อีกด้วย ทางแก้คือใช้โปรแกรมช่วย convert ที่พัฒนาขึ้นเองชื่อ Xena