ใครยังจำได้กรณีที่ไอโฟนไหม้บนเครื่องบินจนทำให้เครื่องบินต้องลงจอดเมื่อปลายปีที่แล้วในออสเตรเลีย ล่าสุด Australian Transport Safety Bureau หรือหน่วยงานดูแลความปลอดภัยทางการคมนาคมของออสเตรเลีย ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้ไอโฟนเครื่องดังกล่าวปล่อยควันออกมา เกิดขึ้นเพราะว่าแบตเต
จากเหตุการณ์ม็อบชุดดำประท้วงหน้าร้าน Apple Store ในออสเตรเลีย ที่ทำให้คนสงสัยว่าเป็นของซัมซุงแต่ปรากฏว่าไม่ใช่ จนมีคนสะกดรอยหลักฐานและสงสัยว่าอาจเป็น RIM ที่ทำแคมเปญนี้ ล่าสุดตัวแทนของ RIM ได้ทำเอกสารชี้แจงยอมรับความเป็นเจ้าของแคมเปญแล้ว
เรายืนยันว่าแคมเปญ "Wake Up" ในออสเตรเลียซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมนอกสถานที่หลายอย่างทั้งในเมืองซิดนีย์ และเมลเบิร์นนั้นเป็นของ RIM ประเทศออสเตรเลียจริง โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้เพื่อสื่อสารถึงคุณค่าในทางธุรกิจสำหรับคนออสเตรเลีย
ใครที่เคยอาศัยอยู่ในออสเตรเลียอาจจะสงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่า แม้ว่าค่าเงินของออสเตรเลียจะสูงกว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมาระยะหนึ่งแล้ว ทำไมราคาสินค้าประเภทซอฟต์แวร์ในประเทศออสเตรเลียถึงยังมีราคาสูงกว่าในสหรัฐอเมริกาอยู่มาก เช่น ราคา Office 2010 Professional อยู่ที่ 849 ดอลลาร์ (27,000 บาท) ในขณะที่ราคาขายในสหรัฐอยู่ที่ 349 ดอลลาร์สหรัฐ (10,700 บาท) เท่านั้น หรือชุดเพลง Greatest hits of Richard Clapton ที่วางขายบน iTunes ที่มีราคาขายในออสเตรเลียที่ 24 ดอลลาร์ (768 บาท) ในขณะที่ราคาขายที่สหรัฐที่ราคา 9.99 ดอลลาร์สหรัฐ (307 บาท) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ซื้อซอฟต์แวร์จาก Adobe ในออสเตรเลียจะต้องจ่ายแพงกว่าผู้ที่ซื้อในสหรัฐฯ ถึง 1,400 ดอลลาร์
สืบเนื่องจากเหตุการณ์คนใส่ชุดดำไปยืนถือป้ายประท้วงว่า "WAKE UP" หน้าร้าน Apple Store ซึ่งตอนแรกคาดเดาว่าเจ้าของแคมเปญนี้คือซัมซุง แต่ต่อมาซัมซุงได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับแคมเปญนี้ จึงคาดเดาว่าเจ้าของแคมเปญอาจเป็นธนาคาร National Australia Bank แต่ล่าสุดผู้อยู่เบื้องหลังอาจไม่ใช่คนไกลจากวงการสมาร์ทโฟนนี้
ทีมงานเว็บ MacWorld ได้ดูซอร์สของเว็บ Wake Up Australia และพบบรรทัดหนึ่งเป็นลิงก์ของ Doubleclick แสดงค่าดังนี้
http://fls.doubleclick.net/activityi;src=2215527;type=black822;);
หลังจากที่ได้มีข่าวว่าทาง Samsung ออสเตรเลียส่งคนไปหน้า Apple Store วันนี้ทาง Samsung ออสเตรเลียได้ออกมาบอกกับทาง SlashGear ว่า Samsung ออสเตรเลีย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแคมเปญ "Wake Up" นี้ใด ๆ ทั้งสิ้น
ฉะนั้นตอนนี้เป้าสายตาก็ตกไปที่ธนาคาร National Australia Bank หรือ NAB ที่คาดการณ์กันว่าจะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่ใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ และแน่นอนว่าถ้า Samsung ยืนยันแบบนี้ Samsung ก็คงไม่ผิดแล้วครับ
ซัมซุงออสเตรเลียออกแคมเปญโฆษณาต้อนรับ Galaxy S III ชื่อว่า "WAKE UP" โดยส่ง "คนชุดดำ" ไปยืนประท้วงหน้าร้าน Apple Store ในซิดนีย์ พร้อมป้ายเขียนข้อความว่า "WAKE UP" หรือ "ตื่นได้แล้ว" (ดูคลิปประกอบ)
นอกจากนี้ แคมเปญยังขึ้นป้ายบิลบอร์ดข้อความ WAKE UP ตามสถานที่ต่างๆ ในออสเตรเลียด้วย ส่วนเว็บไซต์ของแคมเปญ ถ้ากดเข้าไปแล้วจะเป็นนาฬิกานับถอยหลัง (ถึงวันเปิดตัวของ S III?) เจ้าของโดเมนเป็นเอเยนซีโฆษณาชื่อ Tongue ครับ
ก่อนหน้านี้ ACCC หรือหน่วยงานรักษาการแข่งขันและสิทธิของผู้บริโภคของออสเตรเลีย ต้องการจะฟ้องแอปเปิลกรณีทำการตลาด iPad รุ่นล่าสุดว่ารองรับเครือข่าย 4G แม้ว่า iPad รุ่นดังกล่าวจะไม่สามารถใช้งานกับเครือข่าย LTE ของ Telstra ผู้ให้บริการเครือข่าย LTE รายเดียวของออสเตรเลียในตอนนี้ได้ โดยแอปเปิลได้ถูกศาลบังคับให้แอปเปิลให้ข้อมูลกับลูกค้าก่อนการขาย และเสนอให้ลูกค้าสามารถนำ iPad มาคืนได้หากเข้าใจผิดจริง ๆ
ยังคงไม่จบสำหรับประเด็น iPad รุ่นใหม่ในออสเตรเลียที่คณะกรรมการดูแลด้านการแข่งขันและผู้บริโภคได้ออกมาประกาศว่าชื่อของ iPad รุ่นใหม่นี้สื่อสารกับลูกค้าไม่ชัดเจนเนื่องจากใช้ชื่อว่า "iPad Wifi+4G" ทั้งๆ ที่เครือข่ายในออสเตรเลียทุกค่ายไม่สามารถใช้งาน 4G กับ iPad รุ่นใหม่นี้ได้ และเตรียมฟ้องศาล หลังจากนั้นไม่นานแอปเปิลก็ถูกศาลบังคับให้คืนเงินแก่ลูกค้าที่คิดว่าใช้งาน 4G ได้
แม้ว่าจะคืนเงินไปแล้ว แต่ท่าทางเรื่องคงจะไม่จบง่ายๆ หลังการไกล่เกลี่ยกับแอปเปิลจบลงด้วยการหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งเป้าหมายของหน่วยงานดังกล่าวต้องการให้แอปเปิลเปลี่ยนชื่อของ iPad รุ่นใหม่ให้ลูกค้าไม่สับสน
โครงการต้นแบบของการแจกคอมพิวเตอร์ให้เด็กทุกคนอย่าง OLPC นั้นแม้จะไม่น่าประทับใจนักในเปรู แต่ดูเหมือนในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างออสเตรเลียจะไปได้ดี โดยหนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ คือ โรงเรียนรัฐ Doomadgee ที่มีนักเรียน 350 คนและครูอีก 31 คน เริ่มใช้ OLPC ตั้งแต่สองปีที่แล้ว
ครูใหญ่ของโรงเรียนนี้ระบุว่าการเริ่มใช้ OLPC ครั้งแรกเริ่มกับชั้นป.2, ป.4, และป.5 โดยที่ต้องเริ่มที่ป.2 ก็เพื่อให้เด็กที่เข้าร่วมโครงการผ่านการทดสอบระดับประเทศมาก่อน หลังจากใช้ OLPC เป็นเครื่องมือการเรียนการสอนไปหนึ่งปี พบว่าผลทดสอบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตัวครูใหญ่เองแน่ใจว่าเครื่อง OLPC-XO นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ สามารถผ่านทดสอบได้ดีขึ้น
หลังจากที่หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศออสเตรเลีย (ACCC) ได้ออกมาบอกว่าการโปรโมท iPad ใหม่ของแอปเปิลที่ไม่รองรับการใช้งาน 4G LTE ในออสเตรเลียว่า "iPad with Wi-Fi + 4G" ถือว่าเป็นการพยายามที่จะทำให้ลูกค้าสับสน ล่าสุด แอปเปิลได้ออกมาบอกว่าลูกค้าที่เข้าใจผิด สามารถนำ iPad มาคืนกับแอปเปิลได้
คณะกรรมการดูแลด้านการแข่งขันและผู้บริโภคออสเตรเลียออกมาระบุว่าจะทำการยื่นเรื่องต่อศาล เพื่อขอให้มีคำสั่งไปยังแอปเปิลโดยต้องการให้แอปเปิลสื่อสารกับลูกค้าชัดเจนมากกว่านี้ในประเด็นการใช้งาน iPad รุ่นใหม่ ซึ่งแอปเปิลโฆษณาว่า iPad รุ่นใหม่ที่เป็น Wifi+4G นั้นสามารถใช้งานเครือข่าย 4G ในออสเตรเลียได้เลยเมื่อใส่ซิมการ์ดทั้งที่ความจริงแล้วใช้งานไม่ได้ สาเหตุเพราะผู้ให้บริการเครือข่าย 4G ในออสเตรเลียนั้นมีเพียง Telstra รายเดียว แต่ทว่า 4G ของ Telstra นั้นไม่รองรับกับ iPad รุ่นใหม่นี้
ดูเหมือนแผนการบุกตลาดโลกของยักษ์วงการไอทีจากจีนอย่างหัวเหว่ยจะมีอุปสรรคขัดขวางอยู่ร่ำไป หลังจากที่เคยถูกสหรัฐปฏิเสธไม่ใช้อุปกรณ์หัวเหว่ยในเครือข่ายในประเทศ จนตอนหลังต
ช่วงหลังมานี้ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง ในฝั่งเบราว์เซอร์เองก็มีความพยายามจะดันฟีเจอร์ Do Not Track จากค่ายผู้ผลิตเบราว์เซอร์รายใหญ่แทบทุกเจ้า (ไมโครซอฟท์ถึงกับจะดันให้เข้าไปอยู่ใน W3C)
ฟังความเห็นจากฝั่งผู้ผลิตเบราว์เซอร์มาเยอะแล้ว ลองมาฟังความเห็นของฝั่งผู้ใช้กันบ้างว่าคิดอย่างไรกับ Do Not Track โดยทีมสำรวจจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียได้ทำการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในออสเตรเลีย 1,100 รายเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนตัวบนเว็บไซต์ ผลคือมากกว่า 90% เห็นด้วยกับแนวทางของ Do Not Track ที่ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลที่จะถูกเก็บ และถูกใช้ได้
บริการ Google Street View นั้นขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ ในเมืองใหญ่หลายเมือง จากการอาศัยคนเดินไปตามซอกซอยหรือจักรยานไปตามถนนขนาดเล็ก เพื่อเก็บภาพให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จากเดิมที่ใช้เพียงรถสำรวจ แต่การสำรวจที่ออสเตรเลียครั้งใหม่จะไปไกลกว่าเดิมเมื่อกูเกิลร่วมมือกับมหาวิทยาลัยควีนแลนด์เพื่อสำรวจโลกใต้ทะเลใน Great Barrier Reef ซึ่งเป็นแนวปะการังขนาดใหญ่ในทวีปออสเตรเลีย
การสำรวจครั้งนี้นักประดาน้ำจะบังคับกล้องรอบทิศทางลงไปสำรวจใต้ทะเลแบบเดียวกันที่กูเกิลใช้ในรถ แต่กูเกิลต้องเจอปัญหาใหม่ๆ เช่น แสงที่น้อยกว่าบนบก, มุมภาพที่เปลี่ยนไปจากการหักเหแสงในน้ำ
ต่อเนื่องจากข่าว ผู้บริหารซัมซุงออสเตรเลียบอก "การถูกแอปเปิลฟ้องทำให้ Galaxy Tab ยิ่งดัง" ซัมซุงออสเตรเลียตามน้ำทันที โดย
Tyler McGee รองประธานฝ่ายโทรคมนาคมของซัมซุงออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Sydney Morning Herald ว่าการถูกแอปเปิลฟ้องและศาลสั่งห้ามขาย Galaxy Tab 10.1 ไปช่วงหนึ่ง ไม่ได้มีแต่ผลลบกับบริษัทเท่านั้น
McGee บอกว่า Galaxy Tab กลายเป็นศูนย์กลางความสนใจของสื่อมวลชน และส่งผลให้ Galaxy Tab 10.1 กลายเป็น "ชื่อสามัญ" (household name) ที่ใครๆ ก็รู้จัก
ตอนนี้ออสเตรเลียเลิกแบน Galaxy Tab แล้ว และซัมซุงบอกว่าขายดีมากจนของหมดสต๊อก แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขว่าขายได้เท่าไร
ซัมซุงออสเตรเลียจะทำตลาด Galaxy Tab 7.7 ภายในปีนี้ และ Galaxy Tab 8.9 ช่วงต้นปีหน้า ตอนนี้ซัมซุงเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับหนึ่งของออสเตรเลียแล้ว
อีกหนึ่งความคืบหน้าของการต่อสู้ระหว่างซัมซุงและแอปเปิล ขอเรียงลำดับก่อนเริ่มจากที่ศาลออสเตรเลียสั่งแบน Galaxy Tab 10.1 จากนั้นซัมซุงก็ยื่นอุทธรณ์แล้วก็กลับมาขายได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วตอนนั้น Galaxy Tab 10.1 ก็กลับมาขายไม่ได้ในทันที เพราะว่าแอปเปิลตัดสินใจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงของออสเตรเลียให้พิจารณาคำตัดสินใหม่อีกครั้ง ทำให้ Galaxy Tab ต้องหยุดวางขายไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 ธันวาคม
เราเห็นร้าน Apple Store, Microsoft Store หรือแม้แต่ Google Store กันมาเยอะแล้ว คราวนี้เป็นคิวของ Android Store บ้าง
เป็นหนึ่งในคดีจำนวนมากที่ฟ้องกันไปมาระหว่างแอปเปิลกับซัมซุง โดยในส่วนของคดีที่แอปเปิลขอให้แบนการจำหน่าย Galaxy Tab 10.1 ในออสเตรเลียนั้นมีความคืบหน้าแล้วครับ แรกเริ่มศาลสั่งห้ามจำหน่ายสินค้าชั่วคราวและซัมซุงก็
ผู้โดยสารคนหนึ่งของสายการบิน Regional Express ประเทศออสเตรเลียคงจะตกใจไม่น้อย เมื่อตอนที่เครื่องบินร่อนลงจอดนั้น iPhone ของเขาก็เกิดมีควันลอยขึ้นมาพร้อมกับตัวเครื่องที่ร้อนจนเห็นเหมือนเป็นดวงไฟสีแดง เหตุการณ์นี้เกิดบนเที่ยวบินที่กำลังเดินทางจากลิสมอร์ไปยังซิดนีย์โดยเจ้าหน้าที่ของสายการบินได้ปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่า iPhone จะไม่ลุกติดเป็นไฟขึ้นมาจริงๆ ผลสุดท้ายคือไม่มีผู้โดยสารหรือเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บครับ
คดีระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงในออสเตรเลียยังไม่จบง่ายๆ ล่าสุดทนายของซัมซุงยื่นไม้ตายใหม่ต่อศาลแล้ว
ซัมซุงขอให้ศาลออสเตรเลียสั่งให้แอปเปิลเผยข้อมูล 2 อย่าง ได้แก่
ความคืบหน้าของคดีแอปเปิลฟ้องซัมซุงในออสเตรเลีย ซึ่งจบลงโดย ศาลออสเตรเลียสั่งแบน Galaxy Tab 10.1
ทางซัมซุงก็เดินหน้าตามกระบวนการกฎหมายที่เปิดให้ทำได้ นั่นคือยื่นอุทธรณ์ต่อไป โดยศาลจะตัดสินว่ารับคำอุทธรณ์หรือไม่ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ระหว่างนี้ซัมซุงก็จะยังขาย Galaxy Tab 10.1 ในออสเตรเลียไม่ได้ครับ
ไม่รู้ว่า Galaxy Tab 8.9 จะขายดีขึ้นจากคดีนี้หรือเปล่า
หลังจากมีข่าวคดีความกันมานาน ศาลออสเตรเลียก็อนุมัติคำขอของแอปเปิล สั่งห้ามซัมซุงขาย Galaxy Tab 10.1 จนกว่าคดีจะสิ้นสุด (ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนาน)
ตัวแทนของซัมซุงแสดงความผิดหวังต่อคำตัดสินของศาล แต่ก็บอกว่าจะเดินหน้าตามกระบวนการกฎหมายต่อไป และมั่นใจว่าซัมซุงจะชนะคดีสิทธิบัตรอีกคดี ที่ซัมซุงฟ้องแอปเปิลกลับในออสเตรเลีย
นักวิเคราะห์ในออสเตรเลียประเมินว่า การที่แอปเปิลชนะศึกเล็กๆ ในรอบนี้ ส่งผลต่ออัตราการเติบโตของ Android ในออสเตรเลียไม่น้อย เพราะซัมซุงถือเป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาด Android นั่นเอง
ที่มา - ZDNet