ผลิตภัณฑ์ด้านแบตเตอรี่ของ Tesla มีตั้งแต่ Powerwall ที่เป็นแบตเตอรี่สำหรับบ้านเรือน และ Powerpack สำหรับระดับโรงงานขนาดใหญ่หรือเมือง ล่าสุด Tesla เปิดตัว Megapack แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก
Tesla Megapack เป็นแบตเตอรี่ขนาด 3 เมกะวัตต์ชั่วโมง และนำมาต่อกันเป็นเครือข่ายจนมีขนาดรวมใหญ่กว่า 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงได้ ซึ่ง Tesla ระบุว่าความจุระดับนี้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้บ้านทุกหลังในเมืองซานฟรานซิสโกได้นานถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว
อีกหนึ่งฟีเจอร์เล็กๆ แต่มีประโยชน์บน iOS 13 และไม่ได้ถูกพูดถึงในคีย์โน้ต คือ iOS 13 จะช่วยรักษาระดับแบตเตอรี่บน iPhone ขณะชาร์จทิ้งไว้ตอนกลางคืนไม่ให้เกิน 80% และจะใช้อัลกอริทึมเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้ว่าปกติตื่นประมาณกี่โมง ก่อนจะปล่อยให้ชาร์จจนเต็มในช่วงใกล้ตื่นนอน
ปัจจัยสำคัญที่ใช้วิธีนี้ ก็เพราะหลักการทำงานของแบตเตอรี Lithium-ion ที่จะนับอายุการใช้งานเป็น cycle ขณะที่ปริมาณแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดที่ควรรักษาเอาไว้คือไม่ควรต่ำกว่า 40 และเกิน 80 ดังนั้นแอปเปิลจึงกำหนดให้การชาร์จในตอนกลางคืนไม่เกิน 80% เพื่อรักษาอายุแบตเตอรีและไม่เปลือง cycle โดยใช่เหตุ
ปัญหา iPhone กำหนดค่าให้ซอฟต์แวร์ทำงานช้าลง เพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่ กลายเป็นประเด็นใหญ่โตเมื่อปีที่แล้ว จนนำมาสู่โปรแกรมลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ และเพิ่มเงื่อนไขใน iOS เวอร์ชันอัพเดต ล่าสุดมีความคืบหน้าอีกแบบเป็นทางการ เมื่อหน่วยงานกำกับดูแลผู้บริโภคของอังกฤษ ประกาศว่าแอปเปิลได้ยอมรับเงื่อนไข ที่จะแจ้งผู้ใช้งานให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งข้อมูลแบตเตอรี่ การอัพเดตซอฟต์แวร์
แอปเปิลออกรายงานประจำปีด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีประเด็นสำคัญเรื่องความก้าวหน้าของโครงการรีไซเคิลวัสดุ เพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแอปเปิลนำ iPhone ที่ลูกค้านำมาแลกเปลี่ยนในโครงการเทรดอิน ไปแยกชิ้นส่วนเพื่อหมุนเวียนวัสดุไปผลิตใหม่ โดยหุ่นยนต์ Daisy สามารถแยกชิ้นส่วน iPhone ที่แตกต่างกันถึง 15 รุ่น ได้ถึง 1.2 ล้านเครื่องต่อปี
พัฒนาการสำคัญที่แอปเปิลนำเสนอคือการนำแร่โคบอลต์ในแบตเตอรี่ มาผ่านกระบวนการเพื่อผลิตเป็นแบตเตอรี่ใหม่ได้ ทำให้ลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ตะกั่วในเมนบอร์ดของผลิตภัณฑ์แอปเปิลทั้งหมด ก็ใช้ตะกั่วจากการรีไซเคิล ส่วนอะลูมิเนียมที่ใช้ผลิตฝา MacBook Air ก็มาจากการรีไซเคิลทั้งหมดเช่นกัน
สืบเนื่องจากข่าว Tesla และ Panasonic ชะลอแผนการลงทุนขยายโรงงานแบตเตอรี่ใน Gigafactory เนื่องจากทำการผลิตออกมาไม่ได้ตามเป้า โดยทาง Panasonic ยืนยันว่ายังทำได้ตามแผน ล่าสุดซีอีโอ Elon Musk ออกมาทวีตชี้แจงเพิ่มเติมเอง โดยบอกว่ากำลังผลิตของไลน์แบตเตอรี่ Panasonic ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 24 GWh ต่อปีเท่านั้น ทำให้กระทบต่อการผลิต Model 3 ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
Musk ยังอธิบายสถานการณ์ต่อไปว่า Tesla จะไม่ลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในตอนนี้ จนกว่าไลน์ผลิตปัจจุบันจะทำได้ 35 GWh ต่อปีตามแผน เขาบอกว่าตัวเลข 35 นั้นเป็นกำลังการผลิตตามทฤษฎี แต่ทางปฏิบัติตอนนี้ทำได้เพียง 2 ใน 3 จึงกระทบต่อการผลิตรถยนต์ Model 3 ให้ได้ตามแผน
เมื่อวานสำนักข่าว Nikkei รายงานว่า Tesla และ Panasonic ชะลอแผนการลงทุนขยายโรงงาน Gigafactory หลังจากยอดขายออกมาไม่ถึงเป้า โดยเดิมคือต้องการเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้อีกราว 50% ภายในปีหน้า
นอกจากนี้ Nikkei รายงานด้วยว่า Panasonic ยังระงับแผนการลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ของ Tesla ในเซี่ยงไฮ้ โดยจะสนับสนุนการซัพพอร์ทด้านเทคนิคและคอยป้อนแบตเตอรี่จากโรงงาน Gigafactory แทน ทั้งนี้ Nikkei ไม่ได้ระบุว่าข้อมูลนี้ได้มาจากแหล่งใด
เทคโนโลยีเรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟนที่ยังคงมีพื้นที่ให้ต่อยอดและพัฒนาอีกเยอะ โดยเทคโนโลยีการชาร์จเร็วตัวท็อปที่ออกมาตอนนี้คือ Super VOOC ของ Oppo ที่จ่ายไฟ 50W และ Super Charge ที่จ่ายไฟ 55W ทว่ายังไม่มีในตลาดเพราะจะมาพร้อมกับ Mate X
ล่าสุด Xiaomi โชว์เทคโนโลยีการชาร์จไวที่กระโดดไปอีกขั้นด้วยการจ่ายไฟ 100W ที่ Xiaomi เรียกว่า Super Charge Turbo สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh จาก 0-100 ได้ภายใน 17 นาที อย่างไรก็ตามกว่าที่เทคโนโลยีนี้จะออกมาถึงมือผู้บริโภคจริงคืออีกซักพัก ซึ่งเราก้อาจจะได้เห็น Super Charge Turbo ในเรือธงรุ่นถัดไปอย่าง Mi MIX 4 ก็ได้
อีกหนึ่งคำถามประจำเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าคือ "เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมแล้วจะทำอย่างไรกับมัน?" ล่าสุด Nissan เปิดตัวแบตเตอรี่สำหรับจ่ายไฟให้รถพ่วงแคมเปอร์ในชื่อ Nissan ROAM
แบตเตอรี่ Nissan ROAM มาในรูปแบบกล่อง ด้านในบรรจุเซลล์แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเก่าจากรถยนต์ไฟฟ้า Nissan รุ่นแรก ซึ่งอาจอนุมานได้ว่าคือรถ Nissan LEAF รุ่นแรกนั่นเอง มันจุไฟได้ 700 วัตต์ชั่วโมง และจ่ายไฟได้สูงสุด 1 กิโลวัตต์ ซึ่งก็เพียงพอสำหรับแสงสว่างและฮีทเตอร์ รวมถึงมีปลั๊กไฟสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ และพอร์ต USB 4 พอร์ต กับ USB-C อีก 1 พอร์ต
ต้องบอกก่อนว่าข่าวนี้เป็นการอ้างเอกสารภายในแอปเปิล ที่เว็บ iGeneration ของฝรั่งเศสรายงานออกมา โดยระบุว่าแอปเปิลเปลี่ยนเงื่อนไขสำหรับ Genius Bar และศูนย์บริการ AASP ในการรับซ่อมแซม iPhone จากเดิมหากตรวจพบว่ามีการเปลี่ยนแบตเตอรี่จากผู้ให้บริการข้างนอกที่ไม่ใช่แอปเปิล ก็จะปฏิเสธการให้บริการซ่อมทุกกรณี มาเป็นให้บริการซ่อมแซมไปตามปกติ
แต่ทั้งนี้เงื่อนไขก็คือหลังตรวจสอบปัญหาเพื่อซ่อมแซมนั้น จะต้องไม่เกี่ยวกับข้องกับแบตเตอรี่ เช่น การเปลี่ยนหน้าจอ, เปลี่ยนเมนบอร์ด, ซ่อมไมโครโฟน ส่วนค่าบริการให้คิดตามราคาปกติ กรณีตรวจสอบปัญหาพบว่าเกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ด้วย เอกสารระบุว่าให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนแบตเตอรี่มาใช้ของแอปเปิลก่อน โดยต้องทำให้แบตเตอรี่ของข้างนอกมีระดับลดลงต่ำกว่า 60% ค่อยถอดเปลี่ยน
มีรายงานว่าแอปเปิลได้ดึงตัว Soonho Ahn ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาแบตเตอรี่ของซัมซุง ให้มารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาแบตเตอรี่ให้แอปเปิล โดยเขาเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
หน่วยงานที่ Soonho เคยทำงานอยู่คือ Samsung SDI ซึ่งดูแลการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเทียมสำหรับสมาร์ทโฟน โดยตำแหน่งสุดท้ายของเขาคือรองประธานอาวุโสด้านการพัฒนานวัตกรรมแบตเตอรี่และวัสดุรุ่นใหม่
ในอดีตแอปเปิลใช้วิธีจ้างบริษัทภายนอกในการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ทั้งหมด แต่แอปเปิลก็พยายามจะพึ่งพาการพัฒนาจากภายนอกให้น้อยลง จึงคาดว่าการดึงตัวคนของซัมซุงเข้ามา ก็จะเป็นทิศทางเดียวกับที่ทำในการออกแบบชิปซีพียู
หลังมีข่าวตั้งแต่ปลายปี 2017 ว่า Toyota กับ Panasonic เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ที่จะตั้งธุรกิจผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน ล่าสุดทั้งสองบริษัทได้แถลงแล้วว่าจะร่วมทุนกันตั้งบริษัทใหม่ภายในสิ้นปี 2020 เพื่อการวิจัย, พัฒนา, ผลิต ไปจนถึงจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนทรงกล่อง (prismatic cell), แบตเตอรี่แบบ solid-state รวมถึงแบตเตอรี่ยุคถัดไป
การร่วมทุนครั้งนี้อยู่ในสัดส่วน Toyota 51% และ Panasonic 49% โดยทั้งสองบริษัทจะนำเครื่องมือและบุคลากรเข้ามารวมกันในทุกส่วนของธุรกิจ จะมีโรงงานในญี่ปุ่นและที่เมืองต้าเหลียนประเทศจีนด้วย ซึ่ง Toyota ระบุว่าจะมีบุคลากรมารวมกันที่ราว 3,500 คน และ Panasonic จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านการขายให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นต่อไป
John Gruber เจ้าของและผู้พัฒนา Markdown ได้โพสต์บล็อกบนเว็บ Daring Fireball ของตัวเองระบุว่าได้ข้อมูลมาจากแหล่งข่าววงในของแอปเปิลว่าปีที่แล้ว บริษัทได้เปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone จากโครงการลดราคาเปลี่ยนแบตไปถึงกว่า 11 ล้านเครื่อง จากปกติที่จะอยู่ราว 1-2 ล้านเครื่องเท่านั้น
แหล่งข่าวของ Gruber ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวมาจากปากของ Tim Cook เอง จากการประชุมใหญ่ที่ซีอีโอแอปเปิลจัดขึ้นสำหรับพนักงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อเคลียร์และตอบปัญหาต่างๆ กับพนักงานแอปเปิล หลังออกรายงานต่อนักลงทุน ที่ยอมรับว่าโปรแกรมลดราคาเปลี่ยนแบตกระทบยอดขาย iPhone
ต่อเนื่องจากที่ทิม คุกออกรายงานต่อนักลงทุน ว่าด้วยยอดขาย iPhone ที่ไม่ถึงเป้า โดยในรายงานทิม คุกพูดถึงสาเหตุว่ามาจากช่วงเวลาการออก iPhone รุ่นใหม่, ปัญหาซัพพลายเออร์, สงครามการค้า
อีกหนึ่งปัจจัยที่ซีอีโอแอปเปิลพูดถึงว่าส่งผลกระทบต่อยอดขาย iPhone คือโปรแกรมลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เหลือ 1,000 บาท จากกว่า 3,800 บาทให้กับ iPhone รุ่นเก่าที่หมดระยะประกันจนส่งผลให้ผู้ใช้ iPhone ตัดสินใจไม่ซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งถึงแม้แอปเปิลจะไม่เปิดเผยจำนวนเครื่องที่ถูกเปลี่ยนออกมา แต่ก็น่าจะเยอะอยู่ไม่ใช่น้อย
ถึงแม้จะเป็นช่วงเทศกาลปลายปี แต่ก็ต้องเตือนกันรอบสุดท้ายสำหรับผู้ใช้ iPhone ว่า โครงการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ราคาพิเศษ 1,000 บาท หลังมีประเด็นเครื่องทำงานช้าลงหากแบตเตอรี่เสื่อม กำลังจะสิ้นสุดลงวันสุดท้ายคือวันที่ 31 ธันวาคมนี้ โดยในปีหน้าราคาจะปรับเพิ่มขึ้นเป็นราว 2,000 บาท หรือสูงกว่า
iPhone รุ่นที่สามารถนำมาขอเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ในราคาพิเศษ ได้แก่ iPhone SE, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone 7, iPhone 7 Plus, iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X โดยสามารถขอรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ที่ศูนย์บริการ AASP และ Apple Store ไอคอนสยาม
Qing Tao (Kunshan) Energy Development สตาร์ตอัพด้านพลังงานของจีนประกาศเดินสายการผลิตแบตเตอรี่แบบ solid state ที่ให้พลังงานต่อน้ำหนักสูงกว่าแบตเตอรี่ Li-Ion หลายเท่าตัว ทำให้รถไฟฟ้าสามารถเดินทางไปได้ไกลกว่าเดิมในแบตเตอรี่เท่ากัน
แบตเตอรี่ solid state ของโรงงาน Qing Tao มีความหนาแน่นพลังงาน (energy density) สูงกว่า 400Wh/kg ขณะที่แบตเตอรี่ Li-Ion มีความหนาแน่นพลังงาน 100-265Wh/kg เท่านั้น โดยตอนนี้มีกำลังผลิต 0.1GWh ต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 0.7GWh ในปี 2020
Bloomberg New Energy Finance (BNEF) ออกรายงานคาดการณ์แนวโน้มการใช้งานแบตเตอรี่ Lithium-ion ตั้งแต่ปี 2014 จนถึง 2030 ซึ่งชี้ว่าสัดส่วนของแบตเตอรี่ที่จะถูกใช้บนรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีสัดส่วนถึง 8 ใน 10 ในปี 2030
ขณะที่การใช้งานแบตเตอรี่ Li-ion บนอุปกรณ์แก๊ตเจ๊ทต่างๆ สัดส่วนจะลดลง ไม่ใช่ว่าการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ลดลง แต่เมื่อเทียบปริมาณกับที่ถูกใช้บนรถยนต์ไฟฟ้าแล้วปริมาณมันแตกต่างกันมาก นอกจากนี้รายงานยังบอกด้วยว่าภายในปี 2040 การซื้อรถยนต์คันใหม่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ 55%
ถือเป็นการตลาดแบบที่เฉียบทีเดียว เนื่องจาก iPhone XS และ XS Max เริ่มจำหน่ายวันนี้วันแรก และก็มีกลุ่มคนไปรอต่อคิวซื้อที่หน้า Apple Store ตามปกติของการเริ่มจำหน่ายสินค้าแอปเปิล โดยที่หน้า Apple Store ประเทศสิงคโปร์ มีผู้พบเจ้าหน้าที่สวมเสื้อ Huawei เดินไปแจกของให้กับคนที่นอนรอคิวช่วงประมาณ 5 ทุ่ม
โดยของที่แจกนั้นคือพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อ Huawei ความจุ 10,000 mAh แบบ SuperCharge ราคาขาย 98 ดอลลาร์สิงคโปร์ พร้อมข้อความโปรยบนกล่องว่า "เพราะคุณจำเป็นต้องมีสิ่งนี้" ซึ่งตัวแทนของ Huawei ยืนยันการแจกของครั้งนี้ ระบุว่ามีจำนวน 2,000 อัน แม้ไม่ได้บอกเหตุผลตรง ๆ แต่ก็เดาได้ว่าเป็นการตอกย้ำเรื่องแบตเตอรี่ iPhone ที่ไม่จุมากพอจนต้องใช้พาวเวอร์แบงค์นั่นเอง
Klaus Froehlich หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ BMW Group เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทเกี่ยวกับรถไฟฟ้าว่า บริษัทจะต้องลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะอยู่รอดในสมรภูมินี้ โดยแนวทางของ BMW คือการเป็นพาร์ทเนอร์กับแหล่งวัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่โดยตรงเลย
Froehlich ระบุว่าตอนนี้บริษัทเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทเหมืองโคบอลต์ที่ไม่มีการใช้แรงงานเด็กหรือเอาเปรียบคนงานแล้ว แต่จะมีเพิ่มตามมาอีก ขณะที่ผู้ผลิตแบตเตอรี่ BMW จ้างบริษัท Contemporary Amperex Technology ของจีนและซัมซุง
นอกจากแบตเตอรี่ BMW ยังเล็งจะเป็นพันธมิตรกับบริษัทรถยนต์รายอื่นรวมถึงซัพพลายเออร์ เพื่อสร้างมาตรฐานสำหรับระบบรถไร้คนขับ ซึ่งตอนนี้เริ่มคุยกับบางรายไปแล้ว
แอปเปิลมีประเด็น iPhone ทำงานช้าลงเมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพตั้งแต่ปลายปีก่อน ทำให้ต้องออกโปรแกรมเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่สำหรับ iPhone 6 ขึ้นไป ในราคาที่ลดลงเหลือ 1,000 บาท ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวจะสิ้นสุด 31 ธันวาคมปีนี้ คำถามก็คือหลังจากนี้ราคาจะเป็นอย่างไรต่อไป?
โดยแอปเปิลอัพเดตข้อมูลในหน้าสนับสนุน (เฉพาะอเมริกา) ระบุว่าสำหรับ iPhone ที่หมดระยะประกันแล้ว ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่จากปัจจุบันที่ลดเหลือ 29 ดอลลาร์ จะปรับขึ้นมาเป็น 49 ดอลลาร์ มีผลตั้งแต่ปีหน้า ยกเว้น iPhone X ปรับขึ้นมาเป็น 69 ดอลลาร์ ซึ่งจะเท่ากับราคาของ iPhone Xs, iPhone Xs Max และ iPhone XR
Anker ผู้ผลิตแบตเตอรีสำรองและสายชาร์จได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับนินเท็นโดเปิดตัว PowerCore 13400 Nintendo Switch Edition และ PowerCore 20100 Nintendo Switch Edition แบตเตอรีสำรองที่นินเท็นโดรับรองว่าใช้งานได้สำหรับเครื่อง Switch พร้อมเปิดพรีออเดอร์แล้ว
ทั้งสองรุ่นแตกต่างกันแค่ความจุตามชื่อรุ่น แบตเตอรีเป็น Lithium-ion รองรับการชาร์จทั้งไฟเข้าไฟออกผ่านมาตรฐาน Power Delivery ของ USB-C พร้อม USB-A อีกพอร์ทที่จ่ายไฟแบบ Fast-Charge ด้วย PowerIQ ของ Anker โดยรุ่น 13400 ใช้เวลาชาร์จเติมไฟที่ 3 ชั่วโมง ส่วนรุ่น 20100 ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง
Belkin ออก BoostCharge Power Bank Lightning 10K แบตเตอรี่สำรองขนาดพกพาตัวแรกที่ได้รับการรับรอง MFi (Made for i) จาก Apple มีพอร์ท Lightning ในตัว
ขนาดความจุแบตเตอรี่สำรองของ Belkin ให้มา 10,000 mAh สามารถพกสายชาร์จ Lightning ของ iPhone, iPad เพียงเส้นเดียว ชาร์จทั้งมือถือและแบตเตอรี่สำรองได้ นอกจากนี้ยังมี USB Type-A สองพอร์ท แบ่งเป็นชาร์จเร็วกับชาร์จช้า
BoostCharge Power Bank Lightning 10K เริ่มพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ราคาอยู่ที่ 59.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,990 บาท
ระหว่างที่ Tesla เร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้ส่ง Model 3 ออกสู่มือลูกค้าได้ทันความต้องการ กลับทำให้แบตเตอรี่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีไม่เพียงพอ
Yoshio Ito ประธานฝ่ายยานยนต์ของ Panasonic ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับ Tesla ที่ผลิตเซลล์แบตเตอรี่ให้รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น เปิดเผยในงานประชุมผู้ถือหุ้นว่าการที่ Tesla เร่งการผลิตอย่างมาก ส่งผลให้ Panasonic ผลิตเซลล์แบตเตอรี่ส่งให้ไม่เพียงพอเป็นระยะๆ และ Panasonic กำลังร่วมมือกับ Tesla อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับปรุงการผลิต
แอปเปิลประกาศในหน้าบริการช่วยเหลือ ว่าจะเสนอเครดิตคืนให้เป็นจำนวน 1,900 บาท สำหรับลูกค้าที่จ่ายเงินค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่หมดการรับประกันแล้ว ตั้งแต่ iPhone 6 ขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2017 ถึง 28 ธันวาคม 2017 กับผู้ให้บริการที่ได้รับการแต่งตั้งอนุญาตจากแอปเปิล
ทั้งนี้เครดิต 1,900 บาท แอปเปิลบอกว่าจะเป็นการคืนด้วยการโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือคืนเป็นเครดิตผ่านบัตรเครดิตที่ชำระเงินค่าบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ทั้งนี้แอปเปิลจะแจ้งลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวทางอีเมล ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม 2018 ถึง 27 กรกฎาคม 2018
แอปเปิลประกาศโครงการเปลี่ยนแบตเตอรี่ฟรี สำหรับ MacBook Pro รุ่นจอ 13 นิ้ว ไม่มี Touch Bar ที่ผลิตช่วงเดือนตุลาคม 2016 ถึง ตุลาคม 2017 เนื่องจากแอปเปิลตรวจสอบพบว่า MacBook Pro กลุ่มนี้จำนวนหนึ่ง มีปัญหาชิ้นส่วน ทำให้แบตเตอรี่ภายในอาจขยายตัว โดยปัญหานี้ไม่ใช่ประเด็นเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้แอปเปิลจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ฟรีเฉพาะเครื่องที่มีปัญหาตามหมายเลข serial เท่านั้น
ใครที่ใช้ MacBook Pro รุ่นจอ 13 นิ้ว ไม่มี Touch Bar สามารถตรวจสอบว่าเครื่องของตนเข้าข่ายหรือไม่ได้ที่เว็บไซต์ 13-inch MacBook Pro (non Touch Bar) Battery Replacement Program
หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้านอกจากความทั่วถึงของสถานีชาร์จ ก็เห็นจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ที่ทราบกันดีว่ายังไงก็ต้องเสื่อมลงตามการใช้งาน แต่จากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่ของรถ Tesla นั้นเสื่อมน้อยมาก
กลุ่มผู้ใช้รถ Tesla ในแถบประเทศเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ได้รวบรวมข้อมูลจากรถ Tesla Model S และ X กว่า 350 คันทั่วโลกและทำแผนภาพกระจาย (scatter plot) ออกมา แสดงให้เห็นว่าในการใช้งาน 50,000 กิโลเมตรแรก แบตเตอรี่ส่วนใหญ่เสื่อมไปราว 5% จากความจุเดิม แต่หลังจากนั้นกลับเสื่อมช้าลง คือเสื่อมไปเพียงเกือบ 10% หลังวิ่งไปมากกว่า 250,000 กิโลเมตร