Meta ทำข้อตกลงกับ Tencent เพื่อให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเฮดเซต VR ในประเทศจีนแบบเอ็กคลูซีฟรายเดียว โดยแหล่งข่าวบอกว่าเฮดเซตนี้จะเริ่มขายได้ในปี 2024 หลังจากสองฝ่ายเจรจาร่วมกันมาเกือบหนึ่งปี ซึ่งลักษณะดีลน่าจะคล้ายกับที่ Tencent เป็นตัวแทนจำหน่าย Nintendo Switch ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก่อน
รายงานบอกว่าเฮดเซต VR ที่ Meta จะขายในจีนนั้น เป็นเวอร์ชันใช้ชิ้นส่วนซึ่งมีต้นทุนถูกลง ทำให้ราคาต่ำกว่า Quest 3 แต่สเป็กโดยรวมดีกว่า Quest 2 โดยเฮดเซตนี้ก็วางแผนจะขายในประเทศอื่นด้วย
แพลตฟอร์มโชเชียลมีเดียชื่อดังในจีน เช่น WeChat, Weibo, Douyin, Bilbili ตลอดจนเว็บค้นหา Baidu และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช Xiaohongshu พากันปรับนโยบายการใช้งานพร้อมกัน ว่าจะบังคับให้บัญชีที่มีผู้ติดตามเกิน 500,000 บัญชีต้องแสดงชื่อจริงไม่เช่นนั้นจะถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ
นโยบายนี้กระทบคนดังในโลกออนไลน์นับพันคน ก่อให้เกิดความกังวลว่าคนดังเหล่านี้จะถูกติดตามตัว ทางด้าน Bytedance นั้นระบุว่าจะจำกัดเฉพาะผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนแล้ว จึงจะมองเห็นชื่อจริงของบัญชีเหล่านี้ ขณะที่ Weibo ก็สัญญาว่าจะไม่ขยายนโยบายไปบัญชีที่เล็กกว่านี้แล้ว
มาตรการบังคับของแพลตฟอร์มต่างกันไป บางแพลตฟอร์มระบุว่าหากไม่ยอมลงชื่อจริงจะเริ่มบีบการมองเห็น หรือบางแพลตฟอร์มก็บีบรายได้
รัฐบาลสหรัฐฯ แจ้ง NVIDIA ว่าคำสั่งแบนการส่งออกชิปที่ประกาศก่อนหน้านี้ ให้มีผลทันทีจากเดิมที่ให้เวลาประกาศล่วงหน้า 30 วัน ส่งผลให้ไม่สามารถส่งชิป A100, A800, H100, H800, และ L40S ไปยังจีนก่อนได้รับอนุญาต
ทาง NVIDIA ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ไม่ได้มีผลต่อการเงินบริษัทอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
การประกาศแบนของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้หุ้น NVIDIA ตกลงไประยะหนึ่ง แต่ก็กลับขึ้นมาได้ ราคาล่าสุดอยู่ที่ 436.63 ดอลลาร์ มูลค่าตลาดยังคงเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์อยู่
ที่มา - SEC
กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกคำสั่งควบคุมการส่งออกแกรไฟต์ ทั้งในรูปสารตั้งต้นและในรูปแบบอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยรายละเอียดกำหนดให้ห้ามส่งออกแกรไฟต์ที่มีค่าความบริสุทธิ์ (Purity) เกิน 99.99% ค่าแข็งแกร่งแรงอัด มากกว่า 30Mpa และความหนาแน่นมากกว่า 1.73 กรัม/ลบ.ซม. ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นกรณี
คำสั่งนี้ยังมีผลกับการส่งออกเกล็ดแกรไฟต์ และผลึกแกรไฟต์ในรูปแบบอื่นด้วย โดยมีผลตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2023 เป็นต้นไป
กระทรวงพาณิชย์ของจีนบอกว่าคำสั่งนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคง ทั้งซัพพลายเชนในอุตสาหกรรม รวมถึงปกป้องผลประโยชน์ของประเทศด้วย
กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนออกประกาศบังคับให้อุปกรณ์ Wi-Fi ที่จะขอรับรองให้ใช้งานต้องรองรับ IPv6 และเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น พร้อมกับอธิบายวิธีการคอนฟิก IPv6 ไว้ในคู่มือ
ข้อบังคับนี้บังคับกับอุปกรณ์ Wi-Fi ที่ใช้คลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz พร้อมกับระบุแนวทางการตรวจสอบว่าอุปกรณ์รองรับ IPv6 จริงก่อนที่จะอนุญาตให้ใช้งานอุปกรณ์แต่ละรุ่น
รัฐบาลจีนมีแนวทางจะปรับอินเทอร์เน็ตทั้งประเทศไปใช้งาน IPv6 ภายในปี 2030 โดยที่ผ่านมาบังคับกับเว็บไซต์ภาครัฐ, อุปกรณ์ระดับ backbone สำหรับประกาศนี้จะมีผลวันที่ 12 ธันวาคมที่จะถึงนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศขยายเกณฑ์การขออนุญาตส่งออกสินค้าเทคโนโลยีสูงไปยังบริษัทจีน จากเดิมอาศัยเกณฑ์แบนวิดท์การส่งข้อมูลเข้าออกชิป มาเป็นเกณฑ์ประสิทธิภาพรวม ทำให้กระทบบริษัทอย่าง NVIDIA ที่เคยสามารถออกชิปรุ่นพิเศษสำหรับขายในตลาดจีนได้
นอกจากการปรับหลักเกณฑ์สินค้าที่ต้องขออนุญาตก่อนส่งออกแล้ว ยังกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับบริษัทที่ห้ามขายสินค้าให้ ครอบคลุมไปถึงบริษัทใดๆ ก็ตามที่บริษัทแม่อยู่ในจีน แม้ตัวบริษัทที่ซื้อสินค้าจะอยู่ในประเทศอื่น นอกจากนี้ยังมีรายชื่อประเทศเฝ้าระวังที่ต้องแจ้งเตือนรัฐบาล หรือการขายสินค้าที่ไม่เข้าเกณฑ์ห้ามส่งออกอย่างการ์ดจอเล่นเกมก็ต้องแจ้งรัฐบาลเพื่อตรวจสอบการใช้งานสำหรับ AI เช่นกัน
บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research ประเมินยอดขาย iPhone 15 ในประเทศจีน พบว่าลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับ iPhone 14 ในช่วง 17 วันแรกหลังขาย ด้วยเหตุผลหลายอย่างประกอบกัน ทั้งสภาพเศรษฐกิจจีนย่ำแย่ ทำให้กำลังซื้อลดลง และการวางขาย Huawei Mate 60 Pro ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในจีน เบียดบังยอดขายมือถือระดับพรีเมียมจากแอปเปิลได้สำเร็จ
Edison Lee นักวิเคราะห์จากบริษัท Jefferies ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกัน โดยประเมินว่ายอดขาย iPhone 15 ลดลงระดับเลขสองหลัก (double-digit percentage) เลยด้วยซ้ำ
กลุ่มสส./สว. สหรัฐฯ จากทั้งพรรครีพับลิคกันและเดโมแครตเสนอให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่มมาตรการแบนการส่งออกเทคโนโลยีชิปให้รวมไปถึงเทคโนโลยีโอเพนซอร์สอย่าง RISC-V ด้วย เนื่องจากพบว่าจีนอาศัยช่องทางนี้ในการหลบเลี่ยงมาตรการแบนการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
กลุ่มสส./สว. ที่แสดงท่าทีครั้งนี้ เช่น สว. Marco Rubio รีพับลิคกัน, สว. Mark Warner เดโมแครต, สส. Mike Gallagher รีพับลิคกัน
มีรายงานว่าแอปเปิลได้เริ่มแจ้งนักพัฒนาถึงการปรับข้อกำหนดของแอปที่จะอยู่ใน App Store ประเทศจีน เพื่อให้เป็นไปตามกฎใหม่ของทางหน่วยงานกำกับดูแลจีนแล้ว ที่ระบุว่าผู้พัฒนาแอปจะต้องส่งรายละเอียดข้อมูลการทำงานให้กับรัฐบาลก่อน จึงจะได้รับใบอนุญาตให้แอปอยู่ในสโตร์ได้
ก่อนหน้านี้ CAC หรือหน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของจีน ประกาศรายชื่อแอปพลิเคชันสโตร์ที่ลงทะเบียนให้ข้อมูลกับหน่วยงาน แต่ไม่ปรากฏ App Store ของแอปเปิล
Reuters รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ว่าสำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซจีน Cyberspace Administration of China (CAC) เปิดเผยรายชื่อแอปพลิเคชันสโตร์บนสมาร์ทโฟนชุดแรก ที่ยื่นข้อมูลธุรกิจไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแล้ว ซึ่งถือว่าจีนกำลังเริ่มใช้กฎใหม่ที่ต้องการให้แอปพลิเคชันสโตร์และแอปบนมือถือส่งรายละเอียดธุรกิจให้รัฐบาล
CAC แจ้งให้ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันสโตร์ส่งเอกสารให้กับหน่วยงาน โดยรายชื่อบริษัทที่ยื่นข้อมูลชุดแรกมีทั้งหมด 26 บริษัท เช่น Tencent, Huawei, Ant Group, Baidu, Xiaomi และ Samsung ได้ส่งเอกสารลงทะเบียนให้กับหน่วยงาน ตามที่ CAC ร้องขอ แต่ยังไม่มี App Store ของ Apple อยู่ในรายชื่อที่ยื่น
TrueMoney จับมือ Alipay+ เปิดบริการใหม่ให้คนไทยที่เดินทางไปยังประเทศจีนสามารถใช้แอป TrueMoney ชำระเงินได้แล้ว
แอป TrueMoney จะใช้ชำระเงินได้ตามร้านค้าในจีนที่รองรับ Alipay+ โดยผู้ใช้สามารถสแกน QR Code ของ Alipay+ ได้ตามหน้าร้านค้า หรือหากร้านค้าไม่มี QR Code สามารถกดเข้าหน้าชำระเงินในแอป เลือกแท็บ Alipay+ และประเทศที่เดินทางไป แอปจะเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินหยวนและหน่วยเงินอื่นให้อัตโนมัติโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงว่า รัฐบาลจีนไม่ได้ออกกฎหมาย ข้อกำหนด หรือคำสั่งใด ๆ ที่ห้ามซื้อหรือใช้งานโทรศัพท์มือถือจากผู้ผลิตต่างประเทศเช่นแอปเปิล
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่าทางการจีนมีคำสั่งอย่างไม่เป็นทางการ ห้ามบุคลากรของรัฐใช้งาน iPhone ตลอดจนอุปกรณ์ไอทีของบริษัทต่างชาติ ซึ่งต่อมาก็มีรายงานเพิ่มเติมว่าคำสั่งนี้อาจขยายไปถึงรัฐวิสาหกิจ หรือบริษัทเอกชนที่รัฐร่วมลงทุนด้วย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยังพูดถึงรายงานข่าวเกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยของ iPhone ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหลักในการห้ามใช้งาน โดยบอกว่ารัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและเครือข่ายอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือจาก Wall Street Journal ว่ารัฐบาลจีนมีคำสั่งห้ามบุคลากรของรัฐใช้งาน iPhone หรืออุปกรณ์ไอทีแบรนด์ต่างชาติในการทำงาน และทาง Bloomberg ก็รายงานว่า รัฐบาลจีนเริ่มขยายคำสั่งดังกล่าวไปยังหน่วยงานของรัฐและบริษัทที่ทำงานเกี่ยวข้องกับรัฐหลายแห่งแล้ว
ล่าสุดมีข่าวลืออีกว่า China Mobile บริษัทยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของจีน จะไม่วางขาย iPhone15 ท่ามกลางสถานการณ์การแบนไม่ให้ใช้ iPhone ในหน่วยงานทางการของจีน ซึ่งอาจสร้างผลกระทบกับ Apple เนื่องจากจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของบริษัท
Wall Street Journal รายงานข่าวที่ยังไม่ยืนยันว่า รัฐบาลจีนมีคำสั่งห้ามบุคลากรของรัฐใช้งาน iPhone หรืออุปกรณ์ไอทีแบรนด์ต่างชาติในการทำงาน โดยห้ามแม้กระทั่งนำเครื่องส่วนตัวมาใช้งานที่ออฟฟิศ
ตามข่าวบอกว่านโยบายนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการแจ้งเตือนผ่านห้องแชทและการประชุมต่างๆ ของเหล่าข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และลดโอกาสถูกจารกรรมข้อมูล
ที่มา - Wall Street Journal, Engadget
บริษัทวิจัยตลาด Bernstein Research ออกรายงานประเมินส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ Arm มีข้อมูลน่าสนใจดังนี้
สำนักข่าว Financial Times รายงานถึงสภาพตลาดชิปกราฟิกประสิทธิภาพสูงที่เน้นใช้งานสำหรับงานด้านปัญญาประดิษฐ์ว่าเหล่าบริษัทจีนยังคงกวาดซื้อชิป NVIDIA A800 แม้จะเป็นรุ่นลดประสิทธิภาพลง
กลุ่มลูกค้าหลักของชิปตัวนี้ ได้แก่ Baidu, ByteDance, Tencent, และ Alibaba สั่งซื้อชิปรวมไปแล้วกว่าแสนชุด มูลค่ารวมพันล้านดอลลาร์ แหล่งข่าวยังระบุกับทาง Financial Times ว่ายอดสั่งซื้อของปี 2024 สูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว
เมื่อวันอังคาร Cyberspace Administration of China (CAC) หน่วยงานกำกับดูแลบริการออนไลน์ของจีน ได้เสนอร่างกฎหมายควบคุมเทคโนโลยีจดจำใบหน้า หลังเทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศ เช่น การสแกนใบหน้าเพื่อชำระสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต การสแกนใบหน้าเพื่อเข้าออกอาคาร หรือแม้แต่การยืนยันตัวตนที่สนามบิน จนผู้คนจำนวนมากแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
CAC ได้กำหนดให้การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าจะต้องมีวัตถุประสงค์เฉพาะ หรือมีความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีที่มากพอ และต้องได้รับการอนุมัติรายบุคคล หรือความยินยอมในรูปแบบลายลักษณ์อักษร ภายใต้ร่างกฎหมายควบคุมนี้ CAC ยังระบุว่า
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เซ็นคำสั่งบริหารสั่งห้ามไม่ให้บริษัทอเมริกันเข้าไปลงทุนในจีน ฮ่องกง มาเก๊า ในอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศควอนตัม และปัญญาประดิษฐ์ โดยจะเริ่มมีผลในปี 2024
เป้าหมายของคำสั่งนี้คือป้องกันไม่ให้ต่างชาตินำเงินลงทุนของสหรัฐไปสร้างเทคโนโลยีด้านการทหาร ข่าวกรอง การสอดส่อง และความปลอดภัยไซเบอร์ คำสั่งนี้ยังออกแบบมาให้ใช้ควบคู่ไปกับคำสั่งห้ามส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐไปยังประเทศจีนที่ออกมาก่อนหน้านี้
Cyberspace Administration of China (CAC) หน่วยงานกำกับเนื้อหาออนไลน์ของจีน ออกกฎใหม่ให้ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตเช่น Apple และ Xiaomi ปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับการใช้งานโหมดสำหรับผู้เยาว์ (Minor mode) บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดรวมถึงแอปพลิเคชันด้วย
กฎนี้ปรับปรุงจากกฎเดิมที่มีอยู่แล้ว ที่ทุกแอปจะต้องมีโหมดสำหรับเด็กเพื่อควบคุมเนื้อหาที่เหมาะสมและที่ปักกิ่งมีการควบคุมวิดีโอเกมออนไลน์สำหรับเด็ก โดยผู้เล่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้เล่นเกมออนไลน์เพียง 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันบริการดังกล่าว ก็สร้างความกังวลให้กับหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกรวมถึงในประเทศจีน
เมื่อวันพฤหัสบดี Cyberspace Administration of China (CAC) หน่วยงานกำกับดูแลบริการออนไลน์ของจีน ได้ประกาศกฎหมายควบคุมการให้บริการ Generative AI ฉบับชั่วคราว ซึ่งกำหนดให้บริษัทที่ให้บริการ Generative AI แก่ประชาชน จะต้องประเมินความปลอดภัยในการให้บริการ และตรวจสอบความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ส.ค
CAC ยังเน้นย้ำว่าเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นจาก AI จะต้องสอดคล้องกับ“คุณค่าสังคมนิยมของประเทศ” ผู้ให้บริการจะต้องไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยแหล่งที่มาของข้อมูลจะต้องมาจากแหล่งที่ถูกกฎหมาย
Youku แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งที่มี Alibaba เป็นเจ้าของ ปล่อยซีรี่ส์เรื่องใหม่ 我的中国芯 หรือชื่อภาษาอังกฤษ The Best Chip ซึ่งออกอากาศตอนแรกเมื่อวานนี้
The Best Chip พูดถึงบริษัทเทคโนโลยีชื่อ Kai Tian Hui Zhi ซึ่งโฟกัสที่การวิจัยพัฒนาเครื่องจักรเทคโนโลยี DUV ที่ใช้ในการผลิตชิป โดยประธานบริษัทถูกควบคุมตัวระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ภรรยาต้องมาบริหารงานบริษัทแทนท่ามกลางความท้าทายทั้งสถานการณ์การเงิน และปัจจัยภายนอก ซีรี่ส์ยังเล่าถึงสถานการณ์ลำบากของการถูกคว่ำบาตร ทำให้บริษัทชิปในจีนต้องพัฒนาเครื่องจักรขึ้นเองด้วย
ธนาคารกลางของประเทศจีน (The People’s Bank of China) สั่งปรับ Ant Group ในเครือ Alibaba และ Tencent Holdings ในข้อหาทำผิดกฎหมายการเงินจีนหลายข้อ เช่น การคุ้มครองผู้บริโภค, การฟอกเงิน, การชำระเงิน หลังเข้าสอบสวนบริษัททั้งสองรายมาเป็นเวลานาน 2 ปี
Ant Group โดนปรับเงิน 7.12 พันล้านหยวน (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) และ Tencent โดน 2.99 พันล้านหยวน (ราว 1.5 หมื่นล้านบาท)
การสั่งปรับเงินบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองราย ซึ่งเป็นเจ้าของระบบจ่ายเงินออนไลน์ยอดนิยมของจีน (Alipay และ WeChat Pay) เป็นสัญญาณว่าการปราบปรามของรัฐบาลจีนสิ้นสุดลงแล้ว ส่งผลให้หุ้นของทั้ง Alibaba และ Tencent ดีดตัวขึ้นทันที เพราะนักลงทุนมองว่าช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดผ่านไปแล้ว
หน่วยงานกำกับเนื้อหาออนไลน์ของจีน (CAC) เตรียมออกกฎหมาย ให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ควบคุมการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ (cyberbullying) ทั้งบนโซเชียลมีเดียและไลฟ์ หลังมีประเด็น ที่ผู้หญิงคนหนึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะถูกชาวเน็ตรุมวิจารณ์เกี่ยวกับการแต่งตัวของเธอที่ดูดีเกินกว่าคนที่เพิ่งสูญเสียลูกชายไป ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นตัวจุดประกายเกี่ยวกับภัยจากการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ในจีน
Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าสหรัฐฯ กำลังออกมาตรการใหม่เพื่อบีบบริษัทจีนไม่ให้เข้าถึงชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับการฝึกปัญญาประดิษฐ์ โดยข้อกำหนดใหม่นี้จะห้ามแม้จะเป็นการซื้อผ่านบริการคลาวด์
รัฐบาลสหรัฐฯ ห้ามส่งออกชิปกราฟิกระดับ NVIDIA A100 ขึ้นไปไปยังประเทศจีนและรัสเซียตั้งแต่ปี 2022 อย่างไรก็ดีบริษัทจีนที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงเหล่านี้สามารถเช่าใช้งานผ่านคลาวด์ ข้อกำหนดใหม่นี้หากออกมาจริงก็ปิดช่องโหว่ทำให้บริษัทจีนพัฒนาปัญญาประดิษฐ์บนชิปประสิทธิภาพสูงได้ยากขึ้น