เมื่อปีที่แล้ว Discord ทดสอบระบบ Membership ให้เจ้าของเซิร์ฟเวอร์สามารถเก็บค่าเข้าร่วมได้ โดย Discord หักส่วนแบ่ง 10% แต่ยังทดสอบในวงจำกัด ล่าสุด Discord ประกาศขยายรองรับรูปแบบสมาชิกนี้ให้กับครีเอเตอร์มากขึ้น
โดยรูปแบบดังกล่าวที่เรียกว่า Server Subscription จะขยายไปยังครีเอเตอร์ในอเมริกาทุกคน โดยเจ้าของเซิร์ฟเวอร์สามารถเรียกเก็บค่าสมาชิกได้ตั้งแต่ 2.99 ดอลลาร์ ไปจนถึง 199.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
นอกจากนี้ครีเอเตอร์ยังสามารถกำหนดเทียร์ของสมาชิก โดยให้สิทธิที่แตกต่างกันในแต่ละราคาได้อีกด้วย
ที่มา: Discord
Discord ประกาศเพิ่มแผนสมัครใช้งาน Nitro แบบใหม่เรียกว่า Nitro Basic ราคาอยู่ที่ 2.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งมาแทนที่ Nitro Classic ราคา 4.99 ดอลลาร์ โดยสามารถใช้งานอิโมจิปรับแต่งข้ามเซิร์ฟเวอร์ได้, อัปโหลดไฟล์ใหญ่สุด 50MB, ปรับแต่งโปรไฟล์ แต่ไม่ได้ Server Boost
ผู้สมัครใช้ Nitro Classic อยู่แล้ว จะยังใช้งานแผนเดิมได้ต่อไปจนกว่าจะครบกำหนด
นอกจากนี้ Discord ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เรียกรวมว่า Activities โดยในห้อง Voice จะเพิ่มไอคอนรูปจรวดสำหรับใช้งาน ซึ่งมีกิจกรรมให้ทำร่วมกันเช่น มินิเกมต่าง ๆ, รองรับการเชื่อมต่อเพื่อชม YouTube ด้วยกัน
Discord เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Forum Channels อธิบายง่ายๆ มันคือ "เว็บบอร์ด" ที่เปิดให้พูดคุยตามหัวข้อสนทนา (topic of discussion) เพื่อเปิดให้คนกล้าตั้งกระทู้สนทนาใหม่ๆ แทนการเข้าไปร่วมพูดคุยในห้องสนทนาเดิมๆ (ที่แชทอาจไหลเร็วมาก)
ฟีเจอร์เว็บบอร์ดของ Discord มีหน้าตาคล้ายกับของ Reddit มีฟีเจอร์สามารถใส่แท็กที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อสนทนาได้ ค้นหากระทู้เก่าได้ มีฟีเจอร์การจัดการกระทู้สำหรับสมาชิกแยกตามระดับชั้น และใช้ร่วมกับ AutoMod รวมถึงบ็อตอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วได้ด้วย
Discord บอกว่าเพิ่มฟีเจอร์ Forum มาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการพูดคุย นอกเหนือจาก Text และ Voice ที่มีอยู่แล้ว ผู้ใช้เลือกได้เองตามความเหมาะสม ถ้าเป็นการคุยเล่นทั่วๆ ไปก็อาจยังใช้ Text แชทแบบเดิมได้เสมอ
Discord ประกาศปรับปรุงการชำระเงินสมาชิก Nitro ใหม่ให้รองรับค่าเงินท้องถิ่นเพื่อให้ราคาของสมาชิก Nitro ได้สอดคล้องกับค่าเงินในประเทศนั้น ๆ โดยประเทศที่ได้มีการปรับเปลี่ยนแล้วมีดังนี้บราซิล ตุรกี โปแลนด์ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ เปรู อาร์เจนตินา โคลอมเบีย ชิลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม
สำหรับไทยราคาใหม่ที่จะได้ Nitro จาก 9.99 USD เป็น 215.99 บาท Nitro Classic จาก 4.99 USD เป็น 107.99 บาท ราคา Server Boost จาก 4.99 USD เป็น 116.89 บาท สำหรับรายปี Nitro 99.99 USD เป็น 2159.99 บาท Nitro Classic จาก 49.99 USD เป็น 1079.99 บาท
Discord ประกาศปรับปรุงแอปเวอร์ชันบน Android ครั้งใหญ่ โดยเปลี่ยนมาพัฒนาบน React Native ทำให้การปล่อยฟีเจอร์ใหม่ต่าง ๆ ผู้ใช้บน Android จะได้รับอัพเดตไปพร้อมกับเดสก์ทอปและ iOS จากก่อนหน้านี้ Discord ใช้คำว่า Android จะได้อัพเดตไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น มาตลอด
นอกจากนี้ Discord ยังบอกว่าในแง่ดีไซน์จะไม่เปลี่ยนไปมากสำหรับ Android แต่องค์ประกอบหลักในแอป จะเหมือนกันมากขึ้นระหว่าง เดสก์ทอป, iOS และ Android ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกกำหนดได้ในการตั้งค่า
การเปลี่ยนแปลงของ Discord บน Android จะมีผลกับผู้ใช้งานในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา: Discord
ไมโครซอฟท์ประกาศผนวกฟีเจอร์สนทนาด้วยเสียง Discord Voice ลงในระบบปฏิบัติการของ Xbox Series X|S และ Xbox One ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่นิยมคุยกันผ่าน Discord มากขึ้นเรื่อยๆ
Xbox มีฟีเจอร์ voice chat ของตัวเองอยู่แล้ว แต่จำกัดเฉพาะผู้เล่น Xbox ด้วยกัน (หรือคุยผ่านแอพ Xbox ในพีซี) เท่านั้น ในขณะที่โลกของเกมยุคหลังเน้นการเล่นแบบ cross-play เกมเดียวกันข้ามแพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ Discord กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดของเกมเมอร์
การอัพเดตของไมโครซอฟท์รอบนี้ส่งผลให้ Discord กลายเป็นช่องทางคุยเสียงอีกทางนอกจากของ Xbox เอง (สลับไปมาได้ตามต้องการ) ฟีเจอร์นี้ยังอัพเดตให้เฉพาะกลุ่ม Xbox Insiders และคงต้องรออีกสักระยะกว่าจะปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ทั่วไป
Discord ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ AutoMod เพื่อลดภาระของแอดมินและผู้ดูแลเซิร์ฟเวอร์ ที่สามารถตรวจจับและบล็อกข้อความหรือคำที่ไม่เหมาะสม โดยผู้ดูแลสามารถเพิ่มเติมคำที่ต้องการได้ที่เมนู Server Settings และกำหนดกฎที่ต้องการ
ในช่วงแรกฟีเจอร์ AutoMod รองรับเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่กำหนดค่าเป็น Community Server เท่านั้น สามารถดักจับข้อความไม่เหมาะสมได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มกดส่ง รวมทั้งแจ้งเตือนหรือจำกัดเวลาผู้ใช้งานคนนั้นได้ทันที
นอกจากนี้ Discord ยังประกาศขยายการรองรับ Premium Membership ระบบเก็บเงินค่าเข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ มีผลกับเซิร์ฟเวอร์ของผู้ใช้งานในอเมริกาทุกคน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Discord แชนแนลทางการของ OpenSea แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT ขนาดใหญ่โดนฟิชชิ่ง โดยมีบอทอันตรายโพสต์ข้อความปลอมบนแชนแนลพร้อมลิงก์ไปยังเว็บฟิชชิ่งหลอกให้คนคลิกเพื่อขโมย NFT
เหตุการณ์ที่เกิดบน Discord ของ OpenSea คือมีบอทโพสต์ข้อความประกาศ OpenSea ปลอมว่า OpenSea ร่วมมือกับ YouTube พร้อมลิงก์ให้ผู้ใช้คลิก YouTube Genesis Mint Pass เพื่อรับ NFT ฟรี 100 รายการ พร้อมแปะลิงก์ youtubenft[dot]art ซึ่งเป็นเว็บไซต์ฟิชชิ่ง และในเวลาไม่นานนัก ทาง OpenSea ก็จัดการลบลิงก์นี้ออก
โครงสร้างการทำงานของ Discord นับตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบันคือ ผู้ใช้ทุกคนสามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์ (ชุมชนผู้สนใจเรื่องต่างๆ) ได้เอง สร้างได้ฟรี ชวนผู้ใช้คนอื่นๆ มาเข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ได้ฟรี โดย Discord หาเงินจาก 2 ทางคือ ค่าสมาชิกแบบพรีเมียม (Nitro) ที่จ่ายรายเดือนแล้วได้ฟีเจอร์พิเศษเพิ่ม และการซื้อ Boost เพื่อสนับสนุนเซิร์ฟเวอร์ที่ชอบให้เลื่อนชั้น และมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่ม
Discord ประกาศรับเงินลงทุนซีรี่ส์ I เพิ่มอีก 500 ล้านดอลลาร์ มีผู้ลงทุนหลักคือ Dragoneer Investment และมีผู้ลงทุนร่วมได้แก่ Baillie Gifford & Co, Coatue Management, Fidelity Management และ Franklin Templeton
ตัวแทนของ Discord ยืนยันตัวเลขเงินลงทุนดังกล่าว แต่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อมูลค่ากิจการจากการเพิ่มทุนล่าสุด ซึ่งมีรายงานว่าสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นตัวเลขที่สูงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ที่มีข่าวว่าไมโครซอฟท์ยื่นข้อเสนอและบริษัทได้ปฏิเสธการขาย
Discord มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มากกว่า 150 ล้านคน ผลการดำเนินงานในปี 2020 เทียบกับปี 2019 มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว และมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว
เกม Genshin Impact เปิดเซิร์ฟเวอร์ Discord เพื่อให้ผู้เล่นมาพูดคุยกัน ความนิยมของเกมทำให้เจอปัญหา "ห้องเต็ม" ลิมิตของเซิร์ฟเวอร์ Discord จำนวน 800,000 คนในเวลาไม่นาน
ทีมงาน Genshin Impact จึงต้องแก้ปัญหาโดยการเปิดเซิร์ฟเวอร์ที่สองชื่อ Genshin Impact Tavern ขึ้นมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ขณะที่เขียนข่าวมีสมาชิกราว 145,000 คน (เท่ากับว่า 2 เซิร์ฟเวอร์รวมกันเกือบแตะล้าน)
Discord ประกาศเพิ่มคุณสมบัติใหม่ Threads เพื่อให้การสนทนาโดยเฉพาะประเด็นที่อาจไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลักของห้อง ดำเนินต่อไปได้ภายในห้องนั้น ๆ โดย Threads จะถูกเก็บ (archived) ออกไปจากห้อง หากไม่มีการสนทนาต่อใน 24 ชั่วโมง
การสร้าง Thread ทำได้โดยไปที่ข้อความที่ต้องการขยายต่อประเด็นสนทนา เลือกปุ่ม # และสร้าง Thread พร้อมกำหนดหัวเรื่องขึ้นมา ซึ่งจะแสดงเป็นส่วนย่อยของห้องสนทนานั้น สำหรับห้องที่เป็น Level 2 จะสามารถสร้าง Private Threads ได้ด้วย
ฟีเจอร์ Threads เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานแล้วในทุกแพลตฟอร์ม
ที่มา: Discord
Discord ประกาศฉลองครบรอบ 6 ปี ด้วยการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ซึ่งสัญลักษณ์ปัจจุบันเป็นคาแรกเตอร์ที่ Discord เรียกชื่อว่า Clyde โดยปรับเปลี่ยนรูปร่างให้ดูเรียบง่ายมากขึ้น รวมทั้งนำ Clyde ออกจากกล่องคำพูด ที่เรียกว่า Home ออก ทำให้เกิดความสมมาตรและนำไปต่อยอดในงานออกแบบได้มากกว่าเดิม
นอกจากคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไป ฟอนต์ของ Discord ก็ปรับรูปแบบด้วยเช่นกัน รวมทั้งสีพื้นหลังที่เรียกว่าสี Blurple ก็ปรับเฉดให้สว่างสดใสมากขึ้น (จาก 7289DA เป็น 5865F2)
Discord บอกว่าฟังก์ชันการทำงานทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ผู้ใช้งานอาจรู้สึกว่าสีโลโก้ดูสว่างตามากขึ้น
Sony Interactive Entertainment (SIE) ประกาศนำ Discord เชื่อมต่อกับบริการของ PlayStation Network เริ่มต้นในช่วงต้นปี 2022 ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งาน PSN กับ Discord ทั้งบนพีซีและมือถือ ติดต่อหากันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
SIE บอกว่าข้อตกลงในดีลนี้ บริษัทได้ลงทุนส่วนหนึ่งใน Discord รอบการเพิ่มทุนซีรี่ส์ H ด้วย แต่ไม่ได้เปิดเผยมูลค่า บอกเพียงเป็นการลงทุนส่วนน้อย
ปัจจุบัน Xbox รองรับการเชื่อมต่อกับ Discord อยู่แล้ว แต่จำกัดการแสดงข้อมูล อย่างไรก็ตามดีล PSN นี้จะทำให้ผู้ใช้ Discord เชื่อมต่อหากันระหว่าง PlayStation, Xbox, พีซี และสมาร์ทโฟนได้ดีมากขึ้น
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า Discord กำลังเจรจาขายกิจการให้ไมโครซอฟท์ ที่มูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ แต่ล่าสุด The Wall Street Journal ระบุว่า Discord ได้ยุติการเจรจากับไมโครซอฟท์แล้ว รวมทั้งบริษัทอื่นที่สนใจซื้อกิจการด้วย
ข้อมูลจาก Bloomberg บอกว่า Discord ได้มีการพูดคุยเรื่องขายกิจการกับบริษัทใหญ่อื่นอย่างน้อย 3 แห่ง โดยบริษัทที่ระบุถึงมี Amazon และ Epic Games
Discord ออกรายงานความโปร่งใสประจำครึ่งหลังของปี 2020 โดยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งปิดบัญชีหรือเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงรายงานคำขอข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับมาตลอดช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ในรายงานของ Discord ระบุว่า ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทางบริษัทมีผู้ใช้แอคทีฟ 140 ล้านคน เพิ่มจาก 100 ล้านคนในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ซึ่งจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้ ทางแพลตฟอร์มก็ได้รับรายงานการฝ่าฝืนนโยบายของชุมชนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่ง Discord Trust & Safety ได้รับรายงานกว่า 355,633 ครั้งในรอบ 6 เดือนนี้ เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
Discord ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Stage เป็นช่อง (channel) ชนิดใหม่ มีฟีเจอร์จัดการได้ว่าให้ใครเป็นคนพูด จัดคิวพูดได้ในลักษณะเดียวกับ Clubhouse
Discord มีระบบเซิร์ฟเวอร์สนทนาด้วยเสียงมานานแล้ว แต่ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมเป็นหลัก ทุกคนในห้องมีสิทธิพูดเท่ากัน จึงขาดฟีเจอร์หลายอย่างสำหรับงานประเภทสัมภาษณ์แขก หรือชมรมคนอ่านหนังสือที่สลับคิวกันอ่าน ที่คนพูดหลักจะมีสิทธิพูดสูงกว่าคนอื่นๆ ในห้อง
ฟีเจอร์ของ Stage เปิดให้แอดมินสามารถเพิ่มคนพูด ลบ ปิดไมค์คนที่กำลังพูดอยู่ ส่วนคนฟังก็สามารถ "ยกมือ" เพื่อขอพูดได้แบบเดียวกับ Clubhouse
ฟีเจอร์ Stage สามารถใช้งานได้แล้วบน Discord ที่เป็น Community server (เปิดให้ใครก็ได้เข้าร่วม) บนแอพทุกแพลตฟอร์ม
หลังมีข่าวลือว่า Discord อาจขายกิจการที่มูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ และมีข่าวอีกว่าผู้ซื้ออาจเป็น Microsoft ล่าสุดเว็บไซต์ The Verge ได้วิเคราะห์เพิ่มเติมไว้ว่าสาเหตุในการซื้อครั้งนี้ อาจมีสามส่วน คือ Microsoft ต้องการฐานผู้ใช้และชุมชนจาก Discord รวมถึงอยากนำ Discord ไปอยู่บนบริการ Azure และอาจเตรียมนำมารวมเป็นระบบบน Xbox หากดีลนี้สำเร็จ
ท่าทีของ Microsoft ในอดีตชี้ว่า ชุมชนและการสร้างคอนเทนต์นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ตั้งแต่การซื้อ Linkedin (ชุมชนคนทำงาน) และ GitHub (ชุมชนนักพัฒนา) รวมถึงการซื้อบริการสตรีมเกม Beam มาเปลี่ยนเป็น Mixer (แม้เจ๊งไม่เป็นท่า) โดย Satya Nadella ซีอีโอคนปัจจุบัน เพิ่งให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ไว้ก่อนหน้านี้ ว่าการสร้างคอนเทนต์และชุมชนผู้ใช้จะมีความสำคัญอย่างมากในอีก 10 ปีข้างหน้า
จากรายงานข่าวเมื่อเช้าว่า Discord แอปแชตยอดนิยมในกลุ่มเกมเมอร์ กำลังพิจารณาขายกิจการที่มูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ล่าสุด Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่าบริษัทที่เสนอซื้อกิจการก็คือไมโครซอฟท์
Matthew Kanterman นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence มองว่าดีลนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูง เนื่องจากไมโครซอฟท์สามารถนำ Discord มาต่อยอดธุรกิจเกมของบริษัท โดยเฉพาะตัวบริการเสียเงิน Discord Nitro ที่สามารถนำมารวมกับบริการ Game Pass ของ Xbox ได้
เว็บไซต์ VentureBeat อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า Discord แอปแชทและสนทนาเสียงกำลังพิจารณาขายกิจการ ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ โดยตอนนี้ได้รับข้อเสนอแล้วจากหลายบริษัท ซึ่งไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ
Discord ได้รับเงินเพิ่มทุนรอบล่าสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา 140 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้มูลค่ากิจการล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์
การเติบโตของ Discord เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้คนอยู่บ้านเล่นเกม และใช้ Discord เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างกันมากขึ้น
ที่มา: VentureBeat
นอกจากโซเชียลมีเดียที่พร้อมใจกันแบน Donald Trump เพื่อไม่ให้แสดงออกผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงจากการจลาจลอีกระลอก
ล่าสุดเว็บบอร์ด Reddit ได้แบนห้องย่อย r/donaldtrump แล้ว เช่นเดียวกับ Discord ที่แบนแชนแนล The_Donald ด้วยเหตุผลคล้าย ๆ กันคือมีการปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง
คณะกรรมการการค้าของสหรัฐ (FTC) สั่งให้บริษัทด้านโซเชียลและวิดีโอออนไลน์ยอดนิยม 9 ราย ได้แก่ Amazon (Twitch), ByteDance (TikTok), Discord, Facebook, Reddit, Snapchat, Twitter, WhatsApp, YouTube รายงานวิธีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ ตามรอย วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล ตัดสินใจเลือกแสดงโฆษณา วัดผล ฯลฯ แล้วส่งกลับมายัง FTC ภายใน 45 วัน
FTC ไม่ได้ระบุชัดว่าข้อข้อมูลนี้ไปทำอะไรแบบเจาะจง แต่ก็แสดงให้เห็นว่า FTC กำลังเข้ามาสอบสวนพฤติกรรมทางธุรกิจของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่เหล่านี้ ซึ่งท่าทีของ FTC ช่วงหลังชัดเจนว่าต้องการเข้ามากำกับดูแลในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิดกว่าเดิม ดังที่เห็นจากคดีล่าสุดที่ FTC ฟ้องร้อง Facebook ว่าผูกขาดตลาดโซเชียล
Apptopia บริษัทวิจัยข้อมูลแอปมือถือเปิดเผยยอดดาวน์โหลดของแอป Discord ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าช่วงวิกฤติ COVID แรก ๆ ด้วยซ้ำซึ่งสาเหตุก็หนีไม่พ้นเกมที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง Among Us
ยอดดาวน์โหลด Discord บนสมาร์ทโฟนทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ และทำลายสถิติแทบทุกวันนับตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา โดยยอดดาวน์โหลดต่อวันล่าสุดที่ Apptopia เก็บได้อยู่ที่ราว 800,000 ครั้ง (ช่วงโควิดต้นปีอยู่ที่ราว 450,000 ครั้งเท่านั้น) ซึ่งสอดคล้องกับความนิยมของ Among Us ที่เพิ่มขึ้นที่ยอดดาวน์โหลด ณ ตอนนี้อยู่ที่ราว 3.6 - 3.7 ล้านครั้ง
ที่มา - Apptopia
ต่อจากข่าว ตำรวจสหรัฐจับ Graham Ivan Clark วัยรุ่นอายุ 17 ปีในรัฐฟลอริด้าต้องสงสัยแฮกทวิตเตอร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐยังเผยข้อมูลผู้ต้องสงสัยอีก 2 คนที่ร่วมขบวนการกัน คือ Nima Fazeli อายุ 22 ปีอยู่ในฟลอริด้าเช่นกัน และ Mason Sheppard อายุ 19 จากสหราชอาณาจักร
เอกสารคำฟ้องของกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า Clark แฮ็กเข้าไปในเครือข่ายภายในของ Twitter ได้ก่อน จากนั้นสื่อสารกับแฮ็กเกอร์อีก 2 คนที่เหลือผ่านฟอรั่ม OGUsers ใน Discord โดยอ้างว่าเขาทำงานที่ Twitter และยืนยันด้วยการโพสต์ข้อความลงบัญชีทวิตเตอร์ของทั้งสองคนโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
Discord ชูโรงด้านการเป็นบริการติดต่อสื่อสารระหว่างเกมเมอร์มาตั้งแต่จุดประสงค์แรกเริ่มโดยมีจุดเด่นที่ใช้งานง่ายและฟรี ทั้งยังมีดีเลย์ในขณะเล่นเกมน้อยกว่าคู่แข่งอย่าง TeamSpeak
ล่าสุดสิ่งนี้เปลี่ยนไปแล้วเมื่อ Discord ตอนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สำหรับชาวเกมเมอร์ ทาง Discord จึงรีแบรนด์เพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ของแอปในตอนนี้ด้วย Tagline ใหม่อย่าง Your place to talk สำหรับเป็นพื้นที่พูดคุยอิสระ ไม่ว่าจะเป็นที่ๆ สำหรับการพูดคุยกันของกลุ่มเพื่อน และชุมชนต่างๆ จากยอดผู้ใช้งานต่อเดือนกว่า 100 ล้าน มีการสนทนาต่อวัน 4 พันล้านนาที ใน 6.7 ล้านเซิฟเวอร์ที่ยังใช้งานอยู่