จากเหตุกราดยิงที่เท็กซัสและโอไฮโอ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตร่วม 30 ราย โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ก็ออกมาโทษวิดีโอเกมอีกครั้งว่าเป็นสาเหตุของพฤติกรรมความรุนแรง โดยเขาบอกว่า เราต้องหยุดความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมถึงวิดีโอเกมที่น่าสยดสยองต่างๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมไปแล้ว
Twitter ได้ระงับบัญชีที่เผยแพร่คอนเทนต์ในเชิงทฤษฎีสมคบคิด หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์รีทวีตข้อความเมื่อเช้านี้ โดยบัญชี Twitter นี้ใช้ชื่อว่า LYNN THOMAS ถูกสั่งปิดเนื่องจากทำผิดกฎของ Twitter ที่ว่าห้ามใช้บัญชีปลอมหลายบัญชีขยายหรือทำลายบทสนทนา
ข้อความในทวีตที่ทรัมป์รีทวีตมีดังนี้
DEMOCRATS ARE THE ONLY ONES INTERFERING IN OUR ELECTIONS. WHY DO YOU THINK THEY SO STRONGLY OPPOSE VOTER ID?
ในตัวทวีตยังแปะภาพสีสว่างสดใสที่มาพร้อมกับคำว่า “Democrats are the true enemies of America!” อีกด้วย
ประเด็นเรื่อง Mac Pro รุ่นใหม่ (เครื่องขูดชีส) กลับไปผลิตในจีนเหมือนเดิม ถือเป็นการกลับทิศนโยบายจาก Mac Pro รุ่นถังขยะที่ประกอบในสหรัฐอเมริกา
คนที่ไม่พอใจเรื่องนี้มากที่สุดย่อมหนีไม่พ้น Donald Trump ที่ออกมาทวีตเรื่องนี้ โดยเขาบอกว่าแอปเปิลจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีใดๆ สำหรับ Mac Pro ที่ผลิตในจีน และถ้าแอปเปิลไม่อยากโดนภาษี ก็ต้องกลับมาผลิต Mac Pro ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
แอปเปิลปฏิเสธไม่แสดงความเห็นในประเด็นนี้
เป็นประเด็นขัดแย้งมานาน กับโปรเจ็ค Dragonfly เสิร์ชเอนจินที่ Google จะทำในจีนโดยมีรัฐบาลควบคุม ล่าสุดในการให้การกับรัฐสภาเรื่องการผูกขาดของบริษัทไอที ผู้บริหารระดับสูงของ Google ยืนยันแล้วว่าโปรเจ็คดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน Donald Trump ปธน. ทวีตอ้างอิงคำพูดของ Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ที่บอกว่า Google ควรถูกสอบสวนฐานกบฏ จากการไปทำงานร่วมกับรัฐบาลจีนแทนที่จะเป็นกองทัพสหรัฐ โดยรัฐบาลจะเข้ามาดูเรื่องนี้ด้วย
สร้างความเดือดดาลให้ชาวเน็ตเมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ทวิตเตอร์ ให้ สมาชิกสภาคองเกรสหญิง กลับประเทศของตัวเองไป ชาวเน็ตรวมถึงดาราดังก็ออกมาโพสต์ว่านี่คือถ้อยคำเหยียดเกลียดชังอย่างชัดเจน แต่ทวิตเตอร์บอกว่า โพสต์ของทรัมป์ ไม่ผิดกฎแพลตฟอร์ม แต่ก็ไม่ได้บอกว่าทำไมถึงไม่ผิด
โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตถึงเงินคริปโตวันนี้ ระบุว่าเขาไม่ได้ชอบเงินคริปโตทั้งหลายนักเพราะค่าเงินผันผวน และไม่ได้ถูกกำกับดูแลดีพอจนสามารถใช้สนับสนุนกิจการผิดกฎหมาย
เขายังระบุเจาะจงถึง Libra ของเฟซบุ๊กว่า หากเฟซบุ๊กอยากเป็นธนาคารก็ต้องผ่านกระบวนการกำกับดูแลทั้งระดับชาติและนานาชาติ โดยสหรัฐฯ มีเงินเพียงสกุลเดียวคือดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ทั้งไว้ใจได้, เสถียร, และมีการใช้งานอยู่แล้วทั่วโลก
อยู่ๆ Donald Trump ก็เปิดศึกกับสายเหรียญ เมื่อเจ้าตัวทวีตว่าตัวเขาเองไม่ได้ชื่นชอบบิทคอยน์หรือเงินคริปโตเท่าไหร่นัก เพราะเขามองว่าของเหล่านี้ไม่ใช่เงิน มูลค่าของมันขึ้นอยู่กับอากาศธาตุและไม่มีความแน่นอนเลย ขณะที่เงินคริปโตที่ไม่ถูกควบคุมก็มีโอกาสจะถูกนำไปเป็นเครื่องมือของการกระทำที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ยังพูดถึง Libra ของ Facebook ด้วยว่ามันจะมีความน่าเชื่อถือต่ำ หาก Facebook หรือบริษัทอื่นๆ ต้องการจะทำตัวเป็นธนาคาร ก็ควรจะยื่นเรื่องเพื่อขอใบอนุญาตในการเป็นธนาคารและเข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลเหมือนธนาคารอื่นๆ
โครงสร้างของ Libra เองเป็นโครงสร้างสองชั้น ตัวเงิน Libra ไม่ได้ขออนุญาตจากชาติใดชาติหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ตั้งสำนักงานบริหารกองทุนสำรองอยู่ในเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่ตัวบริการที่ผู้ใช้ทั่วไปจะใช้งานได้นั้น ทางเฟซบุ๊กตั้งบริษัท Calibra เป็นบริษัทลูกที่ระบุว่าจะทำตามกระบวนการกำกับดูแลในสหรัฐฯ เต็มที่
จากก่อนหน้านี้ องค์กรสิทธิฟ้องทรัมป์ บล็อคบัญชีทวิตเตอร์ผู้อื่น กระทบเสรีภาพการแสดงออก ต่อศาลชั้นต้นสหรัฐ ณ นครนิวยอร์กและตัดสินให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีความผิดฐานละเมิดบทบัญญัติ First Amendment แห่งรัฐธรรมนูญ จากการปิดกั้น (Block) การเข้าถึงบัญชี Twitter @realDonaldTrump ของโจทก์ทั้ง 7 และต่อมากระทรวงยุติธรรมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์สหรัฐเขต 2 ณ นครนิวยอร์ก
วันนี้ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยผู้พิพากษา Barrington D. Parker ลงความเห็นในคำพิพากษาว่าการกระทำของ ปธน. ที่ปิดกั้นการเข้าถึงบัญชี ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบสองทางระหว่างผู้ใช้งาน เพียงเพราะไม่ชื่นชอบคำตำหนิ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ และละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐตามบทบัญญัติ First Amendment
update: แถลงของกูเกิลระบุจะให้บริการกับอุปกรณ์ Huawei รุ่นปัจจุบันต่อไป
update 2: บริษัทอื่น เช่น Intel, Xilinx, Broadcom, Qualcomm เริ่มมีข่าวเลิกขายสินค้าให้หัวเว่ยเช่นกัน
หลังจากที่ประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งแบนเทคโนโลยีสื่อสารที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็ทราบกันดีว่ามี Huawei เป็นเป้าหมายหลัก
ทวิตของทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน มักกลายเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง และไม่วายถูกเอาไปล้อเลียนในรายการโชว์ต่างๆ ของอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจสร้างสถานการณ์ชวนหัวร่อให้คนดูอยู่ได้บ้าง
แต่จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าเราซื้อหุ้นตามทวิตของทรัมป์?
ความคิดนี้อาจจะดูบ้าบิ่นไปบ้าง แต่ไม่ใช่กับ Max Braun ผู้อำนวยการฝ่ายหุ่นยนต์ของ X บริษัทลูกของ Alphabet ที่แยกตัวออกมาจาก Google ซึ่งสร้างบอทแจ้งเตือนหุ้นที่เกี่ยวกับทวิตของทรัมป์เอาไว้ และตั้งแจ้งซื้อหรือขายเอาไว้ตามทวิตดังกล่าว
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ในระหว่างการประชุมที่ปรึกษานโยบายแรงงานอเมริกัน (American Workforce Policy Advisory Board) ซึ่งมีประธานาธิบดี Donald Trump และ Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลเข้าร่วมประชุมด้วย โดย Trump เรียกชื่อ Tim Cook ว่า Tim Apple จนเป็นประเด็นเล็ก ๆ แต่ดูเหมือนซีอีโอ Tim Cook จะพอใจกับชื่อนี้ด้วย
โดยเขาได้เปลี่ยนชื่อในหน้าโปรไฟล์ของบัญชี Twitter @tim_cook มาเป็น Tim ตามแบบที่ Trump เรียก
ดูเหมือนประธานาธิบดี Trump จะสับสนชื่อของซีอีโอ Apple นิดหน่อย โดยระหว่างการประชุมที่ปรึกษานโยบายแรงงานอเมริกัน (American Workforce Policy Advisory Board) ที่มี Tim Cook เข้าประชุมด้วย ประธานาธิบดี Trump ได้กล่าวขอบคุณ Tim Cook ที่เขาได้ลงทุนอย่างมากในสหรัฐอเมริกา แต่กลับเรียกชื่อว่า Tim Apple
คำพูดเต็มๆ ที่ Trump กล่าวมีดังนี้ "I mean you've really put a big investment in our country, we appreciate it very much, Tim Apple."
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Business Insider ตั้งข้อสังเกตว่าจริงๆ Trump อาจจะต้องการพูดว่า "Tim and Apple" ก็เป็นได้ กล่าวคือเป็นการพูดชมทั้งตัว Tim Cook และบริษัท Apple
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ว่าเขาต้องการผลักดันให้เกิดเครือข่าย 5G ในสหรัฐอเมริกาโดยเร็ว และเรียกร้องให้บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องเร่งมือให้มากกว่านี้ เพื่อไม่ให้อเมริกาต้องล้าหลังประเทศอื่นในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ผู้คนสนใจกลับไปอยู่ที่ข้อความของทรัมป์ที่บอกว่า "6G ด้วยถ้ามี" (I want 5G, and even 6G) ทำให้เกิดคำถามขึ้นตามมาว่า 6G มีแล้วจริงๆ งั้นหรือ โดยบางคนก็ตอบทรัมป์ว่าตอนนี้ยังมีแค่ 5G อยู่เลย หรือบางคนก็มองในแง่ว่า 6G ของทรัมป์หมายถึงว่าอเมริกาต้องรีบลงทุนในเทคโนโลยียุคถัดไปเช่นกัน
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแผน American AI Initiative ที่มุ่งหวังให้หน่วยงานรัฐบาลให้ความสำคัญกับการวิจัยลงทุน AI เป็นลำดับแรก และเพื่อให้มั่นใจว่า นวัตกรรม AI ที่ยอดเยี่ยมจะมาจากผู้สร้างเทคโนโลยีในสหรัฐฯ
Netflix นอกจากจะพยายามลุยสร้างหนังและซีรีส์แบบออริจินัลแล้ว ยังลุยเรื่องรายการโชว์ด้วย ล่าสุดประกาศสร้าง Space Force ที่อ้างอิงจากแผนประกาศจัดตั้งกองทัพที่หก หรือกองทัพอวกาศพร้อมกับการตั้งเป้าว่าจะนำสหรัฐฯสู่ผู้นำการสำรวจอวกาศ
Space Force พูดถึงกลุ่มคนที่ไปทำหน้าที่เป็นหนึ่งในกองทัพ Space Force แสดงนำโดย Steve Carell และเขียนบทโดย Greg Daniels สองคนนี้สร้างชื่อในรายการโชว์ตลก The Office ที่โด่งดังของ NBCUniversal มาแล้ว อาจส่งผลให้แฟนคลับตามมาดูผลงานของเขาทั้งสองใน Netflix ได้
คำถามน่าสนใจที่ Sundar Pichai ซีอีโอ Google ตอบข้อสงสัยต่อหน้าสภาคองเกรสคือ Zoe Lofgren ส.ส.พรรคเดโมแครตถาม Pichai ว่าทำไมเวลาพิมพ์คำว่า idiot ในช่องค้นหาแล้วผลการค้นหาแสดงรูปโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
Pichai ตอบว่า Google คำนวณลำดับการค้นหาจากหลายปัจจัย ทั้ง ความเกี่ยวข้อง, ความสดใหม่, ความนิยม, และการใช้งานของผู้ใช้คนอื่นๆ ดังนั้นในแต่ละช่วงเวลาการแสดงผลจึงให้ลำดับต่างกันไป
สาเหตุที่มีคำถามนี้ผุดขึ้นมาเพราะ ประเด็นที่สมาชิกสภาคองเกรสสนใจใน Google คือ ผลการแสดงการค้นหาที่โน้มเอียง กดเสียงอนุรักษ์นิยมเอาไว้ และ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยโพสต์ Twitter วิจารณ์ Google ว่าแสดงแต่ข่าวที่ไม่ดีและข่าวปลอมเกี่ยวกับเขาด้วย
The New York Times รายงานข่าวโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐ ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกหน่วยข่าวกรองจากจีนและรัสเซีย "ดักฟัง" โทรศัพท์ส่วนตัวของเขา
ทรัมป์มี iPhone ประจำตัวประธานาธิบดีสองเครื่อง แต่เขาก็ยังมี iPhone ส่วนตัวที่ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอีก 1 เครื่อง และนิยมใช้โทรศัพท์เครื่องนี้โทรคุยกับเพื่อนหรือที่ปรึกษาส่วนตัว แม้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวขอให้เขาหยุดใช้งานก็ไม่เป็นผล (เหตุผลหนึ่งเพราะทรัมป์สามารถเก็บเบอร์คนสนิทไว้ใน iPhone ส่วนตัวได้ แต่ทำไม่ได้ใน iPhone ของประธานาธิบดี)
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความถึงแอปเปิลอีกครั้ง โดยบอกว่าสินค้าของแอปเปิลย่อมมีราคาแพงขึ้น หลังรัฐบาลสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนครั้งใหญ่ และหากแอปเปิลต้องการแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ก็เพียงแค่มาตั้งโรงงานผลิตสินค้าในสหรัฐแทนประเทศจีนสิ
ทรัมป์เคยเปิดประเด็นเรื่องแอปเปิลตั้งโรงงานในสหรัฐมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2017 ส่วนแอปเปิลก็เคยประกาศในช่วงต้นปี 2018 ว่าจะจ่ายภาษีและลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเป็นเงินถึง 3.5 แสนล้านดอลลาร์
เรื่องราวของ โดนัลด์ ทรัมป์ และ กูเกิล ยังคงไม่จบง่ายๆ เมื่อทรัมป์โพสต์คลิปลงทวิตเตอร์ระบุว่า กูเกิลโปรโมท State of the Union หรือการแถลงนโยบายสำคัญของประธานาธิบดีสหรัฐฯในสมัยที่ บารัค โอบามา เป็นประธานาธิบดีมาตลอด โดยโปรโมทที่หน้าโฮมเพจของกูเกิลเลย จนกระทั่งทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดี กูเกิลก็หยุดโปรโมท State of the Union ไป ทรัมป์ยังติดแฮชแท็ก #StopTheBias ด้วย (ดูรายละเอียดได้ที่คลิปด้านล่าง)
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ทวิตเตอร์ว่า เมื่อค้นหาข่าวที่เกี่ยวกับเขาในกูเกิล ระบบแสดงแต่ข่าวจากแหล่งข่าวปลอมเกี่ยวกับเขา ซึ่งทรัมป์ใช้คำว่า Fake News เลย เขายังเน้นสำนักข่าว CNN มากเป็นพิเศษอีกด้วย เขายังบอกด้วยว่า กูเกิลและฝ่ายซ้าย ร่วมมือกันซ่อนเรื่องราวดีๆ ของเขา
กูเกิลออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า บริการเสิร์ชของกูเกิลปราศจากความลำเอียงตามที่ทรัมป์กล่าวหา การค้นหาไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการกำหนดวาระทางการเมืองและกูเกิลไม่ได้ให้ผลการค้นหาที่เป็นไปตามอุดมการณ์ทางการเมืองใดๆ
Larry Kudlow ที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาวระบุว่า กำลังดูเรื่องนี้อยู่ว่าจะสามารถจัดการอย่างไรได้บ้าง และบอกนักข่าวว่าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
นับตั้งแต่วิกฤตข่าวปลอมหวังผลการเมือง บรรดาโซเชียลมีเดียเจ้าใหญ่และ Google ต่างก็ปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อโฆษณา ให้แสดงตัวตนและราคาที่ซื้อ รวมทั้งต้องพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นพลเมืองที่มีสิทธิ์ซื้อโฆษณา
ล่าสุด Google เผยรายงานการซื้อโฆษณาการเมืองในสหรัฐฯเป็นครั้งแรกผลคือ ผู้ที่ซื้อมากที่สุดคือแคมเปญสนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หรือ TRUMP MAKE AMERICA GREAT AGAIN COMMITTEE ซื้อโฆษณาผ่านบริการของ Google Ads ไป 1,321 ชิ้น ใช้เงินไป 629,500 ดอลลาร์ โฆษณาที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นคลิปบน YouTube ให้ตอบแบบสำรวจ
Knight First Amendment Institute สถาบันด้านเสรีภาพในโลกดิจิทัลเผยว่า แม้ศาลจะสั่งห้ามประธานาธิบดีทรัมป์บล็อคผู้ใช้บน Twitter แล้ว แต่ตอนนี้ประธานาธิบดียังคงไม่ยกเลิกการบล็อคบัญชี Twitter อีกกว่า 41 บัญชี และเรียกร้องให้ประธานาธิบดีปลดบล็อคกลุ่มคนดังกล่าวด้วย
ประธานาธิบดี Donald trump แห่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศถึงเจตจำนงที่จะให้กระทรวงกลาโหมจัดตั้งกองทัพอวกาศเพิ่มขึ้นมาเป็นกองกำลังเหล่าที่ 6 แห่งสหรัฐอเมริกา
การประกาศแนวคิดในครั้งนี้มีขึ้นในระหว่างที่ Trump ได้เข้าร่วมประชุมกับสภาอวกาศแห่งชาติเมื่อวานนี้ ซึ่งเรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ร่วมประชุมไม่น้อย เนื่องจากวาระหลักของการหารือนั้นแท้จริงแล้วเน้นหัวข้อการกำหนดนโยบายด้านการจราจรในอวกาศ
ต่อจากประเด็น Trump ประกาศจับมือประธานาธิบดีจีน แก้ปัญหา ZTE โดนแบน ล่าสุดประธานาธิบดี Trump ทวีตข้อความว่าเขาเจรจากับ ZTE เสร็จเรียบร้อยแล้ว
รายละเอียดของการเจรจาครั้งนี้ยังมีน้อย Trump บอกเพียงว่า ZTE จะกลับมาทำธุรกิจได้ แต่ต้องแลกกับการตรวจสอบด้านความมั่นคงที่เข้มข้นขึ้น, เปลี่ยนตัวผู้บริหารและบอร์ดบริหาร, จ่ายค่าปรับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ และการันตีซื้อชิ้นส่วนจากสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนหนึ่งด้วย
ข้อมูลจาก Reuters ระบุว่าสหรัฐจะส่งเจ้าหน้าที่ด้าน compliance ไปนั่งที่ ZTE เพื่อตรวจสอบกระบวนการทางธุรกิจ ส่วนตัวเลขค่าปรับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 900 ล้านดอลลาร์ที่ ZTE เคยตกลงจ่ายในช่วงก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้มีประเด็นเรื่องที่ประธานาธิบดีทรัมป์บล็อค Twitter ผู้ใช้หลายคนจนเกิดการฟ้องร้องขึ้นเนื่องจากถือเป็นช่องทางสื่อสารที่ประธานาธิบดีใช้และประชาชนควรจะได้รับรู้ ล่าสุดศาลสหพันธรัฐได้สั่งว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถบล็อคใครก็ตามบน Twitter ได้ รวมถึงต้องปลดบล็อคคนที่เคยบล็อคไปแล้วด้วย
ตุลาการ Reice Buchwald กล่าวว่า บัญชี @realDonaldTrump นั้นเป็นพื้นที่ที่มีการสื่อสารระหว่างกัน ที่ผู้ใช้ Twitter สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์ในทวีตของประธานาธิบดี พื้นที่นี้จะถูกตีความเป็นพื้นที่แสดงความเห็นสาธารณะ (public forum) ซึ่งการบล็อคโจทก์เนื่องจากความเห็นทางการเมืองไม่ตรงนั้นถือว่าผิด