Amazon ประกาศขายรถยนต์ผ่านหน้าเว็บไซต์ในปี 2024 โดยเริ่มจาก Hyundai เป็นพาร์ทเนอร์รายแรก
เราอาจเคยเห็นเว็บอีคอมเมิร์ซฝั่งจีนขายรถยนต์ออนไลน์มาก่อนแล้ว แต่กรณีของ Amazon เพิ่งขายรถยนต์ผ่านหน้าเว็บเป็นครั้งแรก ตอนนี้ยังไม่มีหน้าจอตัวอย่างออกมาให้เห็น แต่ Amazon ระบุว่าลูกค้าสามารถเลือกรุ่น สี ตัวเลือกอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงการจ่ายเงินและวิธีการผ่อนชำระ ได้ผ่านหน้าเว็บ Amazon ทั้งหมด ส่วนวิธีการส่งมอบเลือกได้ทั้งรับที่ศูนย์บริการใกล้บ้านหรือจะนัดเวลามาส่งที่บ้านก็ได้เช่นกัน
การซื้อรถยนต์ออนไลน์อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในตลาดสหรัฐ เพราะ Tesla ทำมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่การที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ซึ่งมีฐานลูกค้ามหาศาล หันมาเจาะตลาดนี้บ้างย่อมถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา
Alibaba และ JD.com สองอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในจีน เปิดเผยสถิติยอดขายเทศกาลลดราคาวันคนโสดจีน หรือ 11.11 ประจำปี 2023 โดยต่างบอกว่ามียอดขายเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดตัวเลข
โดย Alibaba บอกว่ายอดขายสุทธิ GMV ของ Taobao และ Tmall เติบโตเพิ่มขึ้น มีแบรนด์สินค้า 402 แบรนด์ ที่ทำยอดขายมากกว่า 100 ล้านหยวน และกว่า 38,000 แบรนด์ที่ยอดขายเติบโตมากกว่า 100%
ส่วน JD.com ใช้คำว่าตัวเลขหลายอย่างทำสถิติสูงสุด เช่น ปริมาณธุรกรรม จำนวนคำสั่งซื้อ และการเข้าชมของผู้ซื้อ มีมากกว่า 60 แบรนด์ที่ยอดขายสูงกว่า 1,000 ล้านหยวน และกว่า 20,000 แบรนด์ ที่ยอดขายเติบโตสามเท่า
ธนาคารกสิกรไทย ออกฟีเจอร์ระดับโปรสำหรับผู้ค้าออนไลน์ที่ใช้แอพ K Shop (หรือ KPLUS Shop เดิม) โดยเป็นฟีเจอร์แบบเสียเงินในราคา 299 บาท/เดือน สามารถกดซื้อได้จาก K Shop โดยตรง
K Shop Pro เป็นชุดของฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาจาก K Shop รุ่นฟรี ดังนี้
กูเกิล, Temasek และ Bain & Company เผยแพร่รายงาน e-Conomy SEA ประจำปี 2023 โดยปีนี้หัวข้อคือ Reaching new heights: navigating the path to profitable growth เพื่อฉายภาพของอุตสาหกรรมดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน 6 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
ภาพรวมเฉพาะส่วนที่เป็นรายได้ของธุรกิจดิจิทัลจะแตะ 1 แสนล้านดอลลาร์ ในปีนี้ ขณะที่ปริมาณเงินในธุรกิจรวมหรือ GMV จะเพิ่มเป็น 2.18 แสนล้านดอลลาร์ ที่น่าสนใจคือส่วนที่เป็นรายได้นั้นเติบโต 1.7 เท่าของ GMV สะท้อนภาพธุรกิจที่มั่นคงขึ้น
Amazon เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการช้อปปิ้งผ่านแอปมือถือ Amazon Shopping ซึ่งเรียกว่า Consult-a-Friend หรือปรึกษาเพื่อน
ที่มาของฟีเจอร์นี้ Amazon บอกว่า สำหรับผู้ซื้อนั้น คำแนะนำจากเพื่อนหรือคนในครอบครัวมีผลสูงต่อการตัดสินใจซื้อ Consult-a-Friend จึงลดความยุ่งยากที่ต้องสลับไปมาเพื่อเปิดแอปอื่นสำหรับแชทปรึกษาขอความเห็นกับเพื่อนนั่นเอง
Amazon เปิดตัวระบบหุ่นยนต์ใหม่ที่ใช้ในศูนย์กระจายสินค้าของตัวเอง 2 แบบ ได้แก่ Digit และ Sequoia
Digit เป็นหุ่นยนต์ที่หน้าตาคล้ายมนุษย์ (humanoid robot) เป็นผลงานพัฒนาของบริษัท Agility Robotics ที่ Amazon เคยไปลงทุนเอาไว้ และนำหุ่นยนต์มาใช้งานจริง โดยทำหน้าที่ยกของ จัดของ ได้เหมือนกับมนุษย์จริงๆ ซึ่ง Amazon ระบุว่านำมาช่วยสนับสนุนการทำงานของมนุษย์ ในงานที่ต้องทำซ้ำๆ เช่นการยกกล่องบรรจุสินค้า (สีเหลืองในภาพ) มาจากชั้นแล้วยกกล่องเปล่านำไปเก็บคืน
Amazon เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Supply Chain by Amazon จัดการซัพพลายเชนสินค้าให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ครบกระบวนการ (end-to-end supply chain management) ตั้งแต่นำสินค้าออกจากโรงงาน ไปจนส่งถึงมือลูกค้าทั่วโลก และไม่ใช่แค่ผ่านอีคอมเมิร์ซอย่างเดียว แต่ยังช่วยกระจายสินค้าไปยังหน้าร้านสาขาให้ได้ด้วย
ก่อนหน้านี้ Amazon มีบริการชื่อ Fulfillment by Amazon (FBA) รับจัดการสต๊อกสินค้า แพ็กเกจ และส่งสินค้ามาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งผู้ขายสินค้าสามารถฝากของไว้ในโกดังของ Amazon โดยไม่ต้องจัดการเรื่องการแพ็กของและส่งเอง
Bloomberg รายงานว่า Amazon ออกนโยบายล่าสุด จะเก็บค่าธรรมเนียมกับผู้ขายบนแพลตฟอร์มเพิ่ม หากผู้ขายไม่ได้ใช้บริการจัดส่งสินค้าของ Amazon
การเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มมีผลเฉพาะกับผู้ขายที่เข้าโปรแกรม Seller Fulfilled Prime ของ Amazon เท่านั้น ส่วนผู้ขายทั่วไปจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งหากเลือกจะใช้บริการส่งสินค้าอื่นที่ไม่ใช่ Amazon ผู้ขายจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นจำนวน 2% ต่อการขายแต่ละครั้ง
มีประเด็นน่าสนใจในยุโรป เมื่อ Amazon ปรับนโยบายการจ่ายเงินให้ร้านค้า โดยดึงเงินไว้บนแพลตฟอร์มเป็นเวลา 1 สัปดาห์ (นับจากวันที่สินค้าส่งถึงมือลูกค้า) "เผื่อว่า" ลูกค้าขอคืนเงิน จะได้นำเงินส่วนนี้ไปจ่ายคืนลูกค้า
นโยบายใหม่ทำให้ร้านค้าได้รับเงินช้าลงหลังขายสินค้าไปแล้ว ซึ่งร้านบางแห่งบอกว่าต้องรอนานถึง 2 สัปดาห์ และร้านไม่มีเงินหมุนเพราะปกติได้รับเงินเป็นรายวัน พอเปลี่ยนนโยบายทำให้มีช่วงที่เงินขาดมือ
ปัญหานี้ทำให้หน่วยงานภาครัฐของสหราชอาณาจักรเข้ามาสนใจ และ Kevin Hollinrake รัฐมนตรีที่ดูแลธุรกิจขนาดเล็กได้เขียนจดหมายขอคำอธิบายเรื่องนี้จาก Amazon และขอให้มีมาตรการเยียวยา
น่าจะเป็นภาพที่ไม่ค่อยคุ้นตามากนักกับการที่ Apple ทำตลาดผ่านการไลฟ์สดบนอีคอมเมิร์ซ แต่เหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นแล้วในประเทศที่การไลฟ์สินค้า เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงอย่างจีน
Reuters รายงานว่าการไลฟ์สดของ Apple ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และมีคนรับชมมากกว่า 1.3 ล้านคนภายใน 1 ชม. และกดไลค์กว่า 3 แสนราย
แต่ที่น่าสนใจคือแนวทางการไลฟ์ขายของของ Apple ยังคงใช้วิธีการซอฟท์เซลส์ตามสไตล์ตัวเอง คือเน้นไปที่เรื่องราวของผลิตภัณฑ์แทน อย่างการเล่าเรื่องการสร้างหนังด้วย iPhone หรือการใช้ Apple Watch ช่วยออกกำลังกาย ซึ่งแตกต่างจากวิธีการไลฟ์ขายของทั่วไป ที่เราจะคุ้นเคยกับการลดแลกแจกแถมส่วนสด ฮาร์ดเซลส์กันอย่างหนักหน่วง
Alibaba และ JD.com สองยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซในจีน ประกาศสถิติยอดขายในเทศกาลช้อปปิ้งกลางปี 6.18 ซึ่งจัดมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม จนถึงวันที่ 18 มิถุนายน โดยถือเป็นเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก 11.11 หรือเทศกาลลดราคาวันคนโสด
โดย Alibaba ไม่ได้ให้ข้อมูลตัวเลขยอดขายสุทธิหรือ GMV แต่บอกว่าภาพรวมเติบโต 2-3 เท่า เมื่อเทียบกับตัวเลขปี 2022 และทันทีที่เข้าสู่เที่ยงคืนวันที่ 18 มิถุนายน มี 305 แบรนด์ ที่ทำยอดขายมากกว่า 100 ล้านหยวน สินค้าขายดีที่น่าสนใจคือ รองเท้าลุยน้ำ (Watersports Shoes) มีผู้ซื้อ 1.8 แสนคน และกระเป๋าเดินทางมีคนซื้อ 1.65 ล้านคน
Shou Zi Chew ซีอีโอ TikTok เปิดเผยในงานสัมมนาที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ว่าบริษัทเตรียมลงทุนเป็นวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในอีกหลายปีข้างหน้า ทั้งในอินโดนีเซียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากภูมิภาคนี้เป็นหนึ่งตลาดใหญ่ที่สุดของ TikTok ในแง่จำนวนผู้ใช้งาน
อย่างไรก็ตาม TikTok ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าเงินลงทุนนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง แต่บอกว่าเป็นการลงทุนทั้งด้านการฝึกอบรม โฆษณา และโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็ก ให้เข้าร่วมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ TikTok Shop ซึ่งตอนนี้เฉพาะอินโดนีเซียมีมากกว่า 2 ล้านร้านค้าที่อยู่ในแพลตฟอร์ม
Venture Builder บริษัทให้คำปรึกษาสตาร์ทอัพและวิจัยตลาด รายงานภาพรวมอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2022 ยังคงเติบโตในอัตราสูง มูลค่าการซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์มรวม (GMV - Gross merchandise value) เพิ่มขึ้นเป็น 9.95 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.8 เท่าตัว เทียบกับปี 2020 ถึงแม้มีความท้าทายหลายปัจจัยทั้งสถานการณ์หลังโควิด เงินเฟ้อ การขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
GMV ถึง 52% ของทั้งภูมิภาคอยู่ในอินโดนีเซีย ขณะที่หากวัดด้วย GMV ต่อประชากร ตัวเลขของสิงคโปร์และมาเลเซียจะสูงสุดที่สุด
หลายคนคงเคยประสบปัญหาซื้อเสื้อผ้าออนไลน์แต่พอลองใส่แล้วดันไม่เหมาะกับตัวเอง Google จึงเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Google Shoping อย่างโหมดทดลองใส่แบบเสมือนจริง โดยใช้ Generative AI สร้างแบบโมเดลเสมือนจริงขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพว่าเสื้อผ้าจากแบรนด์เหล่านี้จะมีลักษณะอย่างไรเมื่อสวมใส่จริง
ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งโมเดลนางแบบได้ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะสีผิว ชาติพันธุ์ เส้นผม และรูปร่างตั้งแต่ขนาด XXS ถึง 4XL เพื่อหาแบบที่ใกล้เคียงกับตัวเองที่สุด โดยเบื้องต้น Google ร่วมมือกับแบรนด์ Anthropologie, Everlane, H&M และ Loft ก่อน และจะมีเฉพาะเสื้อของผู้หญิงก่อนเท่านั้น และจะเพิ่มเสื้อของผู้ชาย รวมถึงเครื่องแต่งกายชิ้นอื่นๆ จะตามมาภายในปีนี้
Mozilla ประกาศซื้อกิจการ Fakespot เครื่องมือตรวจสอบและให้คะแนนรีวิวสินค้าในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีทั้ง extension ของเบราว์เซอร์ และแอปในมือถือ ทั้งนี้หลังซื้อกิจการเสร็จสิ้น Fakespot จะยังมีให้ใช้งานต่อไปในทุกแพลตฟอร์มตามเดิม
Fakespot เป็นบริการตรวจสอบความน่าเชื่อของสินค้าที่ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้วย AI โดยอาศัยข้อมูลรีวิวประกอบการตัดสินใจ เพื่อแยกทั้งรีวิวแบบปกติ รีวิวปลอม หรือรีวิวที่ปั่นเพื่อทำคะแนน จากนั้นจึงให้คะแนนความน่าเชื่อถือของรีวิวในสินค้านั้น ๆ ซึ่ง Mozilla บอกว่าแนวทางดังกล่าวตรงกับเป้าหมายองค์กร ที่นำ AI มาใช้งานอย่างมีจริยธรรม และช่วยสร้างระบบโฆษณาที่มีความรับผิดชอบ
Amazon ประกาศปิดร้านหนังสือ Book Depository ร้านหนังสือในอังกฤษที่ซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2011 โดยตอนนี้ยังไม่ประกาศกับลูกค้าแต่เริ่มส่งอีเมลประกาศสายส่งหนังสือและสำนักพิมพ์ต่างๆ
Book Depository นั้นมีจุดเด่นที่ส่งหนังสือไปทั่วโลกโดยไม่คิดค่าส่ง ตัวบริษัทเองก่อตั้งโดย Stuart Felton และ Andrew Crawford อดีตพนักงานของ Amazon เมื่อปี 2004 และสุดท้าย Amazon ก็ซื้อบริษัทเข้ามา
อีเมลจาก Book Depository ระบุว่าลูกค้าจะสั่งหนังสือได้วันสุดท้ายวันที่ 26 เมษายนนี้
ที่มา - The Guardian
อาจถือเป็นก้าวสำคัญของวงการอีคอมเมิร์ซ (ต่างประเทศ) ที่สามารถคืนสินค้าได้ง่าย ล่าสุด Amazon เริ่มขึ้นป้ายเตือน "Frequently returned item" ในหน้ารายการสินค้าที่มีปัญหาบ่อยๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูลครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ
ป้ายเตือนของ Amazon อยู่ในหน้ารายการสินค้าเลย โดยแนะนำให้ผู้บริโภคดูข้อมูลสินค้าและรีวิวของลูกค้าคนอื่นๆ ให้ถี่ถ้วนก่อน ตัวอย่างคือ เครื่องเล่นแผ่นเสียงยี่ห้อ Pro-Ject Automat A1 ซึ่งในรีวิวมีคนพูดถึงปัญหาเครื่องพังจากการแพ็คสินค้าไม่ดี และปัญหามอเตอร์มีเสียงรบกวน เป็นต้น
JD Central ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ออกประกาศยุติการให้บริการ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยระบุสาเหตุว่าเป็นไปตามนโยบายของบริษัทแม่ JD.com ที่เน้นการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยสร้างเครือข่ายซัพพลายเชนสำหรับการกระจายสินค้า และขนส่งสินค้าเป็นหลัก
สำหรับผลกระทบในส่วนลูกค้า ตัวแพลตฟอร์มจะหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป การสั่งซื้อสินค้าผ่านร้านค้าทางการของ JD Central หรือ JD Central Official Store จะปิดให้บริการตั้งแต่ 23.59น. ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตลาดกลางร้านค้าอื่น ๆ จะปิดให้บริการตั้งแต่ 23.59น. ของวันที่ 3 มีนาคม 2566
การจัดส่งสินค้าที่ทำคำสั่งซื้อเสร็จสมบูรณ์ ก่อนและภายในวันที่ 3 มีนาคม 2566
Alibaba รายงานข้อมูลยอดขายเทศกาลลดราคาวันคนโสดจีน 11.11 ปี 2022 โดยมียอดขายสุทธิ (GMV) ทั้งในวันที่ 11 ร่วมกับแคมเปญอื่นตลอดระยะเวลา 18 วัน 5.4 แสนล้านหยวน ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขในปี 2021 ท่ามกลางความท้าทายในภาพใหญ่ทั้งเศรษฐกิจและปัญหาโควิด 19
หมวดสินค้าที่ขายดีในปีนี้คือสินค้าความงามและอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกลุ่มที่มีการเติบโตน่าสนใจคือสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและกีฬากลางแจ้ง
เนื่องจากแนวทางควบคุมโควิด 19 ในจีน ทำให้ปีนี้ Alibaba ไม่มีการจัดงานอีเวนต์แบบในปีก่อน ๆ ขณะที่คู่แข่งอย่าง JD.com ก็ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขยอดขายในวัน 11.11 ออกมา
Google เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ 3 อย่างให้กับ Chrome เวอร์ชั่น 108 ที่กำลังจะปล่อยให้ผู้ใช้อัพเดตใช้งานกัน โดยมีทั้งระบบติดตามราคาของสินค้าบนร้านค้าออนไลน์, การเพิ่มแถบแสดงผลการค้นหาด้วย Google Search บริเวณด้านข้างของหน้าจอ รวมถึงการซิงก์รหัสผ่านของผู้ใช้จากการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ของบัญชีผู้ใช้คนเดียวกัน
รายละเอียดของฟีเจอร์ใหม่ข้างต้นมีดังนี้
Amazon ปิดเว็บไซต์ Fabric.com เว็บขายผ้าและสินค้าการฝีมือ มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม เป็นต้นไป โดยลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าเป็นประจำจากที่นี่ แนะนำให้ไปซื้อที่หมวดสินค้าผ้าและการฝีมือใน Amazon แทน
Fabric.com ก่อตั้งเว็บในปี 1999 โดย Phoenix Textiles Group ที่เป็นบริษัทค้าส่งผ้า เพื่อเป็นช่องทางในการขายสินค้าโดยตรงกับลูกค้า Amazon มาซื้อกิจการไปในปี 2008 และยังให้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป จนมาถึงการประกาศปิดส่วนเว็บไซต์นี้ในที่สุด
ฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนหนึ่งให้ความเห็นว่า Fabric.com เป็นเว็บที่มีราคาสินค้าที่ถูกกว่า และมีการออกแบบเพื่อการค้นหาผ้าและลวดลายที่สะดวกมากกว่าใน Amazon
TikTok กำลังวางแผนสร้างศูนย์กระจายสินค้าในสหรัฐฯ หลังพบว่ามีการประกาศรับสมัครงานตำแหน่งใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนสร้างศูนย์กระจายสินค้าและวางระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในศูนย์ โดยรับสมัครพนักงานในเมือง Seattle ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมในรัฐวอชิงตัน
TikTok วางแผนที่จะสร้างศูนย์กระจายสินค้าที่มีระบบขนส่งสินค้าสำหรับอีคอมเมิร์ช ครอบคลุมถึงการเก็บสินค้าในคลัง การรวบรวมและขนส่งพัสดุ ระบบซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ทั้งสำหรับในสหรัฐฯ และต่างประเทศ
นอกจากนี้ TikTok ก็ได้วางแผนสร้างบริการการคืนสินค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับที่ Amazon ทำด้วย ทั้งนี้ ยังไม่มีอะไรที่ชี้ว่าบริษัทจะให้บริการขนส่งของตนเองแบบ Amazon แต่จะประสานกับผู้ขายในเรื่องการแพ็คและส่งสินค้าแทน
Konvy แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามสัญชาติไทยระดมทุน Series A มูลค่า 10 ล้านเหรีญสหรัฐฯ หรือราว 380 ล้านบาทจากบริษัททุนสิงคโปร์ Insignia Ventures Partners
บริษัทเปิดเผยว่าการระดมทุนครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างหน้าร้านขายเครื่องสำอางค์และสกินแคร์ร่วมกับการขายผ่านทางออนไลน์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง และขยายตลาดออกสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น
Konvy เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งเมื่อปี 2012 โดยนักธุรกิจชาวจีนที่มีชื่อว่า QingGui Huang ที่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ชด้านแฟชั่นในประเทศจีนมาก่อน Konvy ขายเครื่องสำอางค์และสกินแคร์ของแบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์ เช่น L’Oréal, Sulwhasoo, Eucerin
Naver บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของเกาหลีใต้ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ LINE ประกาศซื้อกิจการ Poshmark แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอเมริกา โดยจะซื้อหุ้นของบริษัททั้งหมดคิดเป็นมูลค่ารวมราว 1,200 ล้านดอลลาร์ จ่ายเป็นเงินสดทั้งหมด
Choi Soo-Yeon ซีอีโอ Naver และ Manish Chandra ซีอีโอ Poshmark มองว่าดีลนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการสร้างรายได้และบริหารต้นทุนให้กับ Poshmark เช่น การปรับปรุงระบบโฆษณา, การขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ ตลอดจนระบบไลฟ์ขายสินค้า
Poshmark เป็นแพลตฟอร์มเน้นสินค้ามือสองประเภทเครื่องแต่งกาย ซึ่งเป็นที่สนใจของบริษัทรายใหญ่มากขึ้น ก่อนหน้านี้ Etsy ก็ซื้อกิจการ Depop
Shopee ได้ประกาศปลดพนักงานในประเทศจีนออก อ้างว่าต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้และเผยว่าจะดูแลช่วยเหลือพนักงานที่ถูกปลดออก South China Morning Post อ้างแหล่งข่าวระบุว่า Shopee ได้ปลดพนักงานออกไม่ถึง 10% ในทุก ๆ ฝ่าย แต่ Shopee ยังไม่ได้ยืนยันตัวเลขแต่อย่างใด
ทั้งนี้ มีผู้ที่อ้างว่าเป็นพนักงาน Shopeeโพสต์ลงในแอปพลิเคชัน Maimai (คล้าย Linkedin แต่เป็นแอปของจีน) ว่าตนเองรู้ข่าวอย่างกระทันหันมาก รวมถึงแต่ละหน่วยธุรกิจก็ปลดคนออกมากกว่า 2 ใน 3 ของพนักงานทั้งหมด โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมาก