ถึงแม้จะปิดบริการและสำนักงานทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอีกหลายประเทศในยุโรป แต่ล่าสุดดูเหมือน Rakuten ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซจากญี่ปุ่นกำลังเตรียมจะกระโดดเข้าไปทำตลาดในประเทศอินเดีย

The Economic Times รายงานว่า Rakuten ได้จากอดีตผู้บริหารของบริษัทอีคอมเมิร์ซท้องถิ่นของอินเดียไว้แล้ว รวมถึงกำลังมองหาที่ตั้งของโกดังเก็บสินค้า บริเวณตอนเหนือของประเทศ

Rakuten บริษัทอีคอมเมิร์ซจากญี่ปุ่นที่ประกาศปิดเว็บไซต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปเมื่อต้นปี ได้ประกาศระงับการขายและปิดเว็บไซต์ในสหราชอาณาจักรรวมถึงสำนักงานในเมืองแคมบริดจ์ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

อย่างไรก็ตามทาง Rakuten ได้ส่งจดหมายไปยังผู้ค้าว่าบริการหลังบ้านสำหรับผู้ค้า (backend) บนเว็บไซต์จะยังคงให้บริการต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ เผื่อกรณีลูกค้าต้องการขอคืนเงินหรือค้นหารายการสินค้าที่เคยซื้อย้อนหลัง รวมถึงแจ้งเตือนผู้ค้าให้ระงับการเปิดพรีออเดอร์บนเว็บไซต์ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

นอกจากในสหราชอาณาจักรแล้ว Rakuten ยังประกาศปิดบริการในสเปน รวมถึงสำนักงานในเมืองบาร์เซโลนาด้วย

ในวันนี้ นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชนในประเด็นภาพรวมตลาดออนไลน์ และการจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางชำระเงินของธนาคารกสิกร 4 ช่องทาง โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 มีมูลค่ารวม 200,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2559 นี้ จะสูงกว่าปีที่แล้ว 20% หรือรวมมูลค่า 230,000-240,000 ล้านบาท

วันนี้ Amazon ฟ้องร้องผู้ขายที่ใช้บัญชีปลอมมารีวิวสินค้าของตนเองถึงสามราย หลังจากที่มีการควบคุมเรื่องรีวิวปลอมมาก่อนหน้านี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่เกิดการฟ้องร้องโดยตรงถึงคนขาย

Amazon ระบุว่า รีวิวปลอมแพร่ขยายไปมากกว่า 30% ของรีวิวสินค้าหนึ่งๆ สำหรับกรณีนี้ Amazon จะแบนบัญชีของผู้ถูกฟ้อง รวมถึงเรียกร้องค่าเสียหายเป็นกำไรและค่าธรรมเนียมจากการขายของ Amazon เป็นจำนวนเงินกว่า 25,000 เหรียญฯ (ประมาณเกือบ 9 แสนบาท)

eBay ประกาศความร่วมมือกับ Myer ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของออสเตรเลีย ประกาศเปิดตัวห้างสรรพสินค้าแบบ virtual reality (VR) เป็นครั้งแรก พร้อมเทคโนโลยี "Sight Search" ที่ใช้การมองสินค้าก็สามารถสั่งซื้อได้

Ensogo เว็บดีลรายใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ก่อตั้งโดยคนไทย ภายหลังขายให้ LivingSocial ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทในเครือ iBuy มีสำนักงานอยู่ที่สิงคโปร์ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ASX ของออสเตรเลีย) ระบุว่าปลดพนักงานไปเกินครึ่ง จาก 600 คนเหลือต่ำกว่า 300 คน สะท้อนสภาวะการเงินที่ย่ำแย่ของบริษัท

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพิ่งมีข่าว พ่อค้าบน Ensogo มาเลเซียโวย ไม่ได้รับเงินหลังขายสินค้าไปแล้ว ล่าสุด Ensogo ส่งงบการเงินต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของออสเตรเลีย ระบุว่าไตรมาสแรกของปีนี้ มีรายได้ 22.6 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หักค่าใช้จ่ายแล้วขาดทุน 11.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือ 17.6 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป และบริษัทไม่สามารถระดมทุนเพิ่มได้ ก็คงอยู่ไม่รอดไปจนถึงสิ้นปี

หลังจากมีข่าวว่า Zalora ขายกิจการในไทยและเวียดนาม วันนี้เว็บไซต์ TechCrunch รายงานว่า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการเว็บไซต์ Zalora ในประเทศไทย และเวียดนามจาก Rocket Internet แล้ว มูลค่าของดีลอยู่ราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 350 ล้านบาท และยังอยู่ในช่วงขั้นแรกของการซื้อขายกิจการ

เดิมทีกลุ่มเซ็นทรัลมีกิจการที่คล้ายกับ Zalora อยู่สองกิจการ คือเซ็นทรัลออนไลน์ช้อปปิ้ง (www.central.co.th) และโรบินสันออนไลน์ช้อปปิ้ง (shopping.robinson.co.th) ที่ให้บริการโดยกลุ่มออฟฟิศเมท (บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน)) ร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลดีพาร์ทเม้นท์สโตร์

ทั้ง Zalora และกลุ่มเซ็นทรัล ปฏิเสธการให้ความเห็นเกี่ยวกับดีลดังกล่าวทั้งคู่ครับ

ที่มา - TechCrunch

Builk สตาร์ตอัพด้านซอฟต์แวร์ก่อสร้าง ประกาศความร่วมมือเชิงธุรกิจกับ Millcon Steel บริษัทผู้ค้าเหล็กรายใหญ่ของไทย และ Tarad.com เว็บไซต์ด้านอีคอมเมิร์ซ เพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติม จากการเป็นแค่ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บริหารโครงการก่อสร้าง มาเป็นธุรกิจ B2B ขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์ โดยมีเป้าหมายระยะไกลที่การ disrupt ระบบซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

ในสัปดาห์ที่แล้วข่าว Lazada ขายกิจการให้ Alibaba ได้ด้วยมูลค่าถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ อาจจะเป็นข่าวสร้างความสนใจไม่น้อย แต่ก็มีข่าวข้างเคียงออกมาในเวลาใกล้กัน นั่นคือ Zalora เว็บอีคอมเมิร์ซที่เน้นสินค้าแฟชั่นในเครือ Rocket Internet เจ้าของเดียวกับ Lazada นั่นเอง ได้ประกาศขายกิจการในสองประเทศ คือไทยและเวียดนาม เนื่องจากเป็นสองประเทศที่ไม่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ (Zalora ปัจจุบันมีอยู่ 11 ประเทศ)

ผลประกอบการ Zalora ในปีที่ผ่านมา มีรายได้ 234 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 78% แต่ก็ขาดทุนเพิ่มมากขึ้นถึง 105 ล้านดอลลาร์ ทำให้ Zalora ต้องเลือกขายกิจการในบางประเทศที่ไม่มีแนวโน้มจะทำกำไรออกไป นั่นคือไทยกับเวียดนาม

Jon Russell แห่ง TechCrunch ระบุว่า Zalora ในไทยนั้นคาดว่าจะถูกขายให้กลุ่มธุรกิจแห่งหนึ่งไปที่ราคา 10 ล้านดอลลาร์ แต่ดีลยังไม่สิ้นสุด ส่วนที่เวียดนามยังไม่มีข้อมูลของผู้ซื้อกิจการไป ขณะที่ Global Fashion Group ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่เป็นเจ้าของ Zalora มีมูลค่ากิจการจากการเพิ่มทุนครั้งล่าสุด 3 พันล้านดอลลาร์

Instagram เริ่มเป็นตลาดขายสินค้าออนไลน์ที่มีร้านค้ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความง่ายในการเลือกดูสินค้าและเข้าถึงรายละเอียดได้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อเสียของการค้าขายบน Instagram หลักๆ คือการชำระเงินที่ดูทุลักทุเลพอสมควร หากไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็ไม่สามารถชำระผ่านระบบบัตรเครดิตหรือ Paypal ได้อีก

ล่าสุดมีผู้คิดไอเดียเจ๋งๆ ออกมาชื่อว่า HeroZebra เค้ามีไอเดียในการเปลี่ยน Instagram ของผู้ใช้ให้เป็นเว็บไซต์ E-commerce ได้ทันที การทำงานของ HeroZebra คือ เมื่อผู้ใช้ผูกบัญชี Instagram กับ HeroZebra แล้ว ระบบจะสร้างเว็บไซต์ของร้านค้าขึ้นมาให้ จากนั้นเจ้าของร้านสามารถนำโดเมนของตัวเองมาผูกกับระบบได้ทันที และจัดหน้าตาของเว็บไซต์ได้ด้วยธีมที่กำหนดให้

วันนี้ Alibaba บริษัทด้านพาณิชยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) รายใหญ่ของจีน ประกาศเข้าซื้อกิจการและลงทุนเพิ่มใน Lazada แพลตฟอร์มด้านพาณิชยกรรมอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ

ในการลงทุนนี้ Alibaba จะใช้เม็ดเงินรวมกันทั้งสิ้น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ครึ่งหนึ่งเป็นการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายเดิม (500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และอีกครึ่งหนึ่งมาจากการเพิ่มทุนของ Lazada ในรูปแบบของหุ้นที่จะขายให้แก่ Alibaba (private placement) ซึ่งจากข้อตกลงนี้ Alibaba จะเป็นเจ้าของ Lazada ในทุกประเทศที่ Lazada เข้าไปดำเนินกิจการอยู่ ประกอบไปด้วย อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย และเวียดนาม

Michael Evans ผู้บริหารของ Alibaba ระบุว่าการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะทำให้ Alibaba มีแพลตฟอร์มที่ดีในการเข้าถึงลูกค้าที่อยู่นอกประเทศจีน และเชื่อว่าผู้บริหารชุดปัจจุบันจะทำให้บริษัทเข้มแข็ง และสนับสนุนกลยุทธ์การขยายตัวเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างดี

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยักษ์อีคอมเมิร์ซญี่ปุ่น Rakuten ปิดเว็บไซต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เตรียมขาย Tarad.com หลายคนก็คงสงสัยกันว่าอนาคตของ Tarad.com จะเป็นอย่างไรต่อไป

วันนี้ข่าวออกมาแล้วว่าคุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้ง Tarad.com ซื้อกิจการคืนกลับมาบริหารเอง โดยจะผนวกรวมเข้ากับธุรกิจกลุ่ม efrastructure (ธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซหลายที่คุณภาวุธเปิดกิจการเพิ่มในช่วงหลัง ซึ่งเป็นของคุณภาวุธเอง) และวางแผนจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2020

ยักษ์อีคอมเมิร์ซ Amazon มีระบบจ่ายเงินของตัวเองชื่อ Amazon Payments ที่ให้บริการลูกค้าบนเว็บไซต์ของตัวเองมานานแล้ว แต่ล่าสุด Amazon เปิดแพลตฟอร์มจ่ายเงินอันนี้ ให้พาร์ทเนอร์บริษัทอื่นๆ ใช้งานได้ด้วย นั่นแปลว่าเว็บหรือแอพด้านคอมเมิร์ซ สามารถเพิ่มปุ่ม Login and Pay with Amazon ฝังลงเว็บตัวเองได้เลย

จุดเด่นของ Amazon Payments คือมีลูกค้าจำนวนมากที่จ่ายเงินผ่าน Amazon อยู่แล้ว ดังนั้นลูกค้าไม่ต้องลงทะเบียนบัญชีใหม่ สามารถใช้บัญชีของ Amazon จ่ายเงินกับเว็บอื่นได้เลย

จากปัญหากรณี สาย USB Type-C ราคาถูก อาจทำให้คอมพิวเตอร์ราคาแพงของคุณพังได้ โดยสายที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้มีขายอยู่บน Amazon มากมาย

ล่าสุด Benson Leung วิศวกรของกูเกิลที่ออกมาจุดประเด็นเรื่องสาย USB คุณภาพต่ำ ออกมาโพสต์อัพเดตว่า Amazon ปรับเงื่อนไขให้เข้มงวดขึ้นแล้ว โดยเพิ่มเงื่อนไขว่าสาย USB-C ที่ไม่ผ่านมาตรฐานของ USB Implementers Forum Inc. ถือเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ห้ามขายบน Amazon

การปรับเงื่อนไขครั้งนี้อาจไม่ทำให้สายคุณภาพต่ำหายไปจาก Amazon ทั้งหมด แต่น่าจะช่วยให้ Amazon แบนผู้ขายที่มีปัญหาได้รวดเร็วกว่าเดิม และน่าจะช่วยลดปัญหาได้ในระยะยาวครับ

LINE ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ LINE Business Account สำหรับภาคธุรกิจ อีก 3 อย่าง ดังนี้

• LINE Reward Cards เอาไว้สะสมแต้มหรือแสตมป์จากร้านค้าต่างๆ เพื่อรับส่วนลด แทนที่จะต้องใช้บัตรสะสมที่เป็นกระดาษ ก็เปลี่ยนมาใช้แอพ LINE แทน ฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้ในไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน
• Coupon Book ใช้เก็บสะสมคูปองส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ มีระบบแนะนำคูปองที่เราน่าจะสนใจ มีระบบเรียงคูปองตามวันหมดอายุ ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั่วโลก
• Commerce ฟีเจอร์ใหม่ของ LINE@ โดยเจ้าของบัญชีสามารถเปิดหน้าร้านขายของได้โดยตรง ไม่เสียค่าใช้งานหรือค่ารายเดือนใดๆ เสียเพียงค่าธรรมเนียม 4.98% จากยอดขาย แต่ตอนแรกยังใช้ได้เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น

สถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีน ได้ออกรายงานพิเศษเปิดเผยว่าแพลตฟอร์ม Taobao ที่เป็นร้านค้าออนไลน์ของ Alibaba มีกระบวนการสร้างคำสั่งซื้อปลอมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยผู้ขายหรือเจ้าของร้าน จะให้เงินกับผู้ซื้อเพื่อทำการส่งคำสั่งซื้อสินค้า จากนั้นก็ส่งกล่องเปล่ากลับไปเพื่อให้จบขั้นตอน จากนั้นผู้ซื้อที่ถูกว่าจ้างก็จะเขียนรีวิวให้คะแนนร้าน เพื่อดันอันดับร้านค้านั้นให้สูงขึ้น

โฆษก Alibaba ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวมีอยู่จริง และบริษัทก็พัฒนาเทคโนโลยีต่อเนื่องเพื่อตรวจจับและป้องกันปัญหานี้ โดยช่วงที่ผ่านมาสามารถตรวจจับร้านที่ทำคำสั่งซื้อปลอมแบบนี้ได้ถึง 220,000 ร้านค้า ซึ่งร้านจำนวนหนึ่งก็ได้ปิดร้านไปเลย ขณะที่บางส่วนยังเปิดขายต่อด้วยอันดับที่ถูกปรับลดลง

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า Alibaba ทราบปัญหานี้มานานแล้ว แต่กระบวนการแก้ปัญหายังไม่ดีนัก ซึ่งส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของตัวเลขยอดซื้อขายบนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ Alibaba ยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากการที่มีร้านขายสินค้าปลอมของแบรนด์เนมต่างๆ อีก ซึ่ง Alibaba ก็พยายามไล่จับอยู่เช่นกัน

สัปดาห์ที่แล้ว ผมไปร่วมงานสัมมนา AEC+3 Business Forum ที่จัดโดยธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับหนังสือพิมพ์ Financial Times

ในงานนี้มีหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับไอทีด้วย คือการสัมภาษณ์คุณ Rohan Mahadevan ตำแหน่ง Senior Vice President ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ PayPal ในประเด็นเรื่องอนาคตของการจ่ายเงินออนไลน์ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย

บริษัทไอทีกลุ่มที่กิจการย่ำแย่ในช่วงหลังคือเว็บขายดีลแบบรวมกลุ่ม ตัวอย่างที่ชัดเจนคือปีที่แล้ว Groupon ปิดสำนักงานในไทยและอีกหลายประเทศ

ล่าสุดคู่แข่งคือ LivingSocial (ที่เคยซื้อ Ensogo ของบ้านเราในปี 2011) ก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน ประกาศปลดพนักงาน 160 คน และเอาต์ซอร์สงานบริการลูกค้าไปให้บริษัทอื่นแทน

LivingSocial บอกว่าปรับธุรกิจจากการเป็นเว็บดีลที่มีกิจการในหลายประเทศ มาเป็นการโฟกัสเฉพาะตลาดอเมริกาเหนือ และสินค้าบางประเภทเท่านั้น บริษัทมั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว และการปลดพนักงานรอบนี้ถือเป็นการสิ้นสุดระยะเปลี่ยนผ่านชุดแรก

Ola บริษัทบริการรถแท็กซี่ที่ใหญ่ทีสุดในอินเดีย มีรถในสังกัดกว่า 1 แสนคัน และให้บริการกว่า 67 เมือง เป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองของ Uber

ปีที่แล้ว Ola สร้างความท้าทายต่อ Uber มากขึ้นอีก ด้วยการเปิดบริการ delivery อาหาร และวัตถุดิบต่างๆ ในนาม Ola café และ Ola Store อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทกลับแถลงปิดบริการส่วนนี้ผ่านทางเว็บไซต์แล้ว

วันนี้ไมโครซอฟท์ประเทศไทยประกาศเปิดตัว Microsoft Online Store ประเทศไทย บนเว็บ Lazada ซึ่งถือเป็นประเทศที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับ Lazada หลังจากการเปิดตัวออนไลน์สโตร์ประเทศมาเลเซียในปีที่ผ่านมา

ลูกค้าชาวไทยสามารถเลือกซื้อ Windows 10, Office 365, Surface, Lumia และอุปกรณ์เสริมมากมายจากไมโครซอฟท์ โดยมีโปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดร้านใหม่ดังนี้

ก่อนหน้านี้ Amazon เคยประกาศให้บริการ Amazon Dash Replenishment Service (ข่าวเก่า) หรือพูดง่ายๆ คือให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านสามารถสั่งของจาก Amazon เองได้ เช่นเครื่องจ่ายสบู่เหลวจะสั่งสบู่มาเพิ่มเองเมื่อตรวจพบว่าสบู่ใกล้หมด ขณะนี้อุปกรณ์ใหม่อีกหนึ่งชิ้นในโครงการนี้เริ่มวางจำหน่ายบนร้านค้าของ Amazon แล้ว

อุปกรณ์ที่ว่าคือ "เหยือกน้ำอัจฉริยะ" ยี่ห้อ Brita รุ่น Infinity Pitcher สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ มันจะตรวจจับว่ามีน้ำผ่านไส้กรองไปแล้วกี่แกลลอน โดยเมื่อไส้กรองชุดหนึ่งกรองน้ำไปแล้ว 40 แกลลอน (ราว 151 ลิตร) เหยือกจะสั่งไส้กรองชุดใหม่มาเองเพื่อให้ผู้ใช้เปลี่ยน มันใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ภายในตัวที่มีอายุการใช้งานเกือบ 5 ปี

Mercari แอพซื้อขายของแบบ C2C กลายเป็นสตาร์ตอัพระดับ unicorn (ที่มีมูลค่าจากหุ้นเกิน 1 พันล้านดอลลาร์) รายแรกของญี่ปุ่น หลังระดมทุนเพิ่มอีก 8.4 พันล้านเยน หรือประมาณ 75 ล้านดอลลาร์ จนมูลค่าบริษัทเกิน 1 พันล้านดอลลาร์แล้ว

Mercari บอกว่ามียอดดาวน์โหลดแอพ 32 ล้านครั้ง มีมูลค่าการขายสินค้าในระบบ (gross merchandise value) เกิน 1 หมื่นล้านเยน (88 ล้านดอลลาร์) ต่อเดือน

หนังสือพิมพ์ Spiegel ของเยอรมนี รายงานว่าขณะนี้ร้านค้าออนไลน์ Amazon.de (Amazon ของประเทศเยอรมนี) มีการจำกัดการขายสินค้าบางอย่างให้แก่สมาชิก Amazon Prime เท่านั้น โดยเมื่อเข้าไปหน้าสินค้าจะพบกับข้อความ "Exklusiv für Prime-Mitglieder" หรือ "Exclusive for Prime members"

Whole Foods เครือข่ายห้างค้าของชำรายใหญ่สหรัฐฯ กำลังมีความสนใจลงทุนใน Instacart สตาร์ตอัพแนว Sharing Economy บริการรับซื้อของสดส่งถึงบ้านโดยผู้ใช้บริการผู้ใช้

แหล่งข่าวที่ Re/code อ้างถึงระบุว่า Whole Foods เซ็นสัญญาให้ Instacart เป็นพันธมิตรด้านการส่งสินค้า (exclusive delivery partner)ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งนับเป็นการขยับตัวของยักษ์ใหญ่หลังจากราคาหุ้นของตนตกลงไปกว่า 45% เนื่องจากมีคู่แข่งด้านสินค้าออแกนิคมากขึ้น แต่ในข่าวไม่ได้ระบุตัวเลขใดเพิ่มเติม

Google Express บริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และส่งถึงบ้านภายใน 1 วัน เริ่มเปิดให้ลูกค้าสั่งสินค้าและอาหารสดซึ่งทาง Google Express จะทำหน้าที่เป็นคนกลาง ไปรับสินค้าจากร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นพาร์ทเนอร์ แล้วนำไปส่งให้ลูกค้า โดยจะเริ่มให้บริการในบางพื้นที่ ในลอสแองเจลิสและรัฐแคลิฟอร์เนียก่อน

อย่างไรก็ตามมีรายงานจากผู้ใช้ว่า บริการส่งอาหารสดของ Google Express ล่าช้าจาก 2 ชั่วโมงไปเป็น 4 ชั่วโมง รวมถึงค่าบริการเริ่มต้นเพิ่มขึ้นจาก 15 เหรียญเป็น 35 เหรียญ ไม่รวม 3 เหรียญที่ต้องจ่ายเพิ่มต่อสินค้า 1 ชิ้นที่สั่งสำหรับคนที่เป็นสมาชิก Google Express ด้วย

ที่มา - Engadget